“ยานี่หากใช้จะเกิดอะไรขึ้นครับ”
หลิวไห่มองยาในมือของตัวเองทั้งยังกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ในตอนนี้เขาไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ เพื่อรอหลี่เจี่ยซินแบบนี้ได้ แม้ว่าเขาจะให้ดวงตาสวรรค์ค้นหาเธอแต่กลับถูกฝั่งตรงข้ามคอยก่อกวน แฮกเกอร์ระดับโลกสองฝั่งกำลังต่อสู้กันอย่างหนัก ฝีมือของคนพวกนั้นสูสีกับดวงตาสวรรค์มาก ในตอนนี้สองฝ่ายทำได้คือป้องกันโปรแกรมของกันและกันเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหาช่องโจมตีได้
เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป เพียงได้เบาะแสของหลี่เจี่ยซินเล็กน้อยเขาจะลุยไปพาตัวเธอกลับมาเอง ลุงเฉิงเรียกหัวหน้าห้องทดลองเข้ามาเพื่ออธิบายผลของยานี้ให้หลิวไห่ฟัง
“เรายังไม่เคยทดลองในมนุษย์ เพียงแต่ว่าประธานกู้ได้สร้างคนพิเศษพวกนั้นจากยาตัวนี้ มันทำให้คนมีพลังพิเศษและมีความสามารถเกินกว่าที่เราจะคาดคิดครับ”
ลุงเฉิงมองหลิวไห่ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ลุงคิดว่ายาตัวนี้เป็นสูตรสมบูรณ์ที่พ่อของเธอขโมยออกมาจากแล็บของประธานกู้”
“มันใช้ยังไงครับ”
ในที่สุดหลิวไห่ก็ตัดสินใจถามออกไปโดยที่ลุงเฉิงเองกำลังเดาความคิดของเขา
“ยานี่ลุงไม่แน่ใจกับผลข้างเคียงในคน กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนหนูพวกนั้น สมองระเบิด”
ลุงเฉิงส่ายหน้าไม่ยินยอมให้เขาใช้ เห็นหน้าหลิวไห่เขาก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลิวไห่กลับถามย้ำ
“บอกผมเถอะครับ มันใช้ยังไงผมต้องหาเธอให้เจอครับ”
“อาไห่ นายเหมือนลูกชายของฉันคนหนึ่งฉันห่วงนายจริง ๆ”
“ได้โปรดเถอะครับลุงเฉิง ลุงก็รู้ว่าหลี่เจี่ยซินสำคัญกับผมมากแค่ไหน”
หลิวไห่กลับมองลุงเฉิงดวงตาไม่กระพริบ สายตาจริงจังและอ้อนวอนนั้นทำให้คนแก่ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม
ลุงเฉิงรู้ดีว่าหลิวไห่ดื้อรันแค่ไหน ถึงไม่บอกเขาเขาก็ต้องหาทางจนได้ และหากเขาไปหาหลี่เจี่ยซินโดยไม่มียาก็เกรงว่าหากบุกรังของประธานกู้จริง ๆ หลิวไห่จะเอาชีวิตไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ประธานกู้ย่อมต้องสร้างมนุษย์ทดลองมาเพื่อเป็นบอดี้การ์ดของเขา
“บอกเขาไป”
ลุงเฉิงสั่งให้หัวหน้าห้องทดลองเป็นคนบอกหลิวไห่ด้วยตัวเอง
“ฉีดเข้าเส้นเลือดที่ลำคอครับ แต่คุณหลิวเรายังไม่แน่ใจนะครับคุณอย่าเสี่ยงเลยครับ เราต้องการเวลาทดลองจริง ๆ นะครับ ตามที่ท่านประธานบอกมันอันตรายมากคุณอาจเป็นอันตรายได้”
หลิวไห่กลับไม่สะทกสะท้าน
“ความเสี่ยงผมรับเองครับ แม้ว่าผมจะตายผมก็ยอมรับครับ”
หัวหน้าห้องทดลองใบหน้าถอดสี
“หนูพวกนั้นมีชีวิตได้แค่หนึ่งเดือนแล้วพวกมันก็สมองระเบิดนะครับ ผมว่าอาการข้างเคียงในมนุษย์ก็ไม่ต่างกัน ทบทวนสักครั้งได้หรือเปล่าครับ”
หัวหน้าห้องทดลองเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง แต่หลิวไห่กลับไม่สนใจ
“ผมต้องการให้ฉีดให้ผมตอนนี้ครับ”
เลขาคนนั้นลังเล กระทั่งลุงเฉิงถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้น
“ทำตามที่เขาต้องการ”
“ครับ”
เลขาคนนั้นออกไปจัดการอย่างรวดเร็ว หลิวไห่มองลุงเฉิงด้วยสายตาซาบซึ้ง เขาเป็นหนี้บุญคุณลุงเฉิงมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
“ขอบคุณครับ ถ้าผมไม่ตายผมสัญญาว่าผมยกชีวิตของผมให้ลุงครับ”
ลุงเฉิงโบกมือ
“อย่าคิดมากเลย ความเสี่ยงเรื่องนี้นายยอมแลกชีวิตรับเอาไว้เอง ไม่เกี่ยวกับลุงเลยเพียงแต่ลุงก็อดห่วงไม่ได้”
หลิวไห่ยิ้ม
“ถ้าไม่ได้ลุงตอนนี้ผมคงอยู่ในคุกและไม่มีโอกาสออกมาใช้ชีวิตแบบนี้ครับ”
“ลุงก็เหมือนกัน ถ้าไม่ได้นายลุงก็คงตายในคุกเหมือนกัน เราสองคนหายกันแล้วตอนนี้เราคือครอบครัวไม่มีคำว่าบุญคุณอีกเข้าใจหรือเปล่า”
หลิวไห่น้ำตาซึม ผู้ชายคนนี้เป็นทั้งผู้ให้โอกาส และคนที่เขารักเคารพและนับถือที่สุด เขาหวังเพียงแต่ว่าจะมีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณโดยไม่ตายเสียก่อน
เลขานำพยาบาลคนเดิมที่ทำแผลให้หลิวไห่เข้ามาพร้อมกับกล่องเครื่องมือแพทย์
“ฉีดยานี่ให้คุณหลิว”
พยาบาลผู้เชี่ยวชาญพยักหน้า เธอถือเป็นพยาบาลที่เก่งมากอายุเธอนับว่าเข้าสู่วัยกลางคนแล้วและเป็นคนที่ลุงเฉิงรับเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เธอจัดแจงเปิดกล่องเครื่องมือแพทย์ที่บรรจุเข็มฉีดยาอยู่ภายใน หลังจากนั้นใส่ถุงมือทางการแพทบ์และดูดยาออกจากขวดจนเรียบร้อย
หลิวไห่เตรียมใจที่จะลองรับยาตัวนี้ดู เขาไม่รู้ว่าประสิทธิภาพของยาจะเป็นยังไงแต่เขาก็ยอมรับและต้องไปช่วยหลี่เจี่ยซิน ในเมื่อยานี้มีไว้สำหรับทำลองและไม่แน่ว่าจะเป็นยาตัวเดียวกันที่หลี่เจี่ยซินได้รับ ดังนั้นเขาคิดว่าเขาต้องปลอดภัยและยังมีเวลาก่อนที่สมองจะระเบิดไปเหมือนหนูพวกนั้น
พยาบาลเช็ดแอลกอฮอที่ลำคอของเขา เส้นเลือดปูดโปนของหลิวไห่เห็นได้ชัดเจน เธอพูดเบา ๆ
“ฉันจะฉีดแล้วนะคะ”
“ครับ”
หลิวไห่รับคำใบหน้าราบเรียบไม่แสดงอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกเจ็บที่ลำคอเล็กน้อยเมื่อเข็มถูกแทงลงมากระทั้งพยาบาลเดินยาเข้าเส้นเลือดของเขาด้วยความว่องไวและดึงเข็มออก
หลิวไห่สบัดคอเขาลูบที่บริเวณที่ถูกฉีดยาเบา ๆ ในขณะที่ลุงเฉิงเฝ้าดูด้วยความกังวล
“เป็นยังไงบ้าง”
หลิวไห่ส่ายหน้า
“ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ”
ลุงเฉิงทำหน้าประหลาดใจ เขาหันไปหาหัวหน้านักวิจัยคนนั้น
“ผมคิดว่าต้องรอเวลาอีกสักนิดครับ ปกติถ้าฉีดเข้าไปในร่างกายของหนูอุณหภูมิในร่างกายของหนูตัวนั้นจะร้อนขึ้น และหลังจากนั้นมันจะค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ครับ”
หัวหน้านักวิจัยลุ้นระทึก ในฐานะนักวิจัยเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตัวเองนั้นก็แอบดีใจที่มีผู้ทดลองที่เป็นมนุษย์เสียที เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่ายานี่มีการทดลองในมนุษย์และสร้างมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งเหนือคนมานับสิบปีแล้ว แต่เขายังไม่เคยเห็นกับตาตัวเองสักที และผลข้างเคียงของยาก็คือการเสียชีวิตเขาจึงไม่กล้าที่จะใช้ใครมาทดลอง
จนกระทั่งหลิวไห่เสนอตัว เขาเองจึงดีใจเป็นอย่างมาก
สิบห้านาทีต่อมา หลิวไห่กลับรู้สึกว่าร่างกายของเขาร้อนขึ้น หัวหน้านักวิจัยรีบตรวจร่างกายของเขา ยังดูดเลือดของหลิวไห่ไปหนึ่งหลอดเพื่อวิจัยต่อ อุณหภูมิในร่างกายของหลิวไห่สูงขึ้นถึงสี่สิบองศาเหมือนคนที่กำลังเป็นไข้สูงคนหนึ่ง
เขารู้สึกหนาวไปทั้งร่างอยู่ราวครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นอาการของเขาก็เป็นปกติแม้ว่าอุณหภูมิร่างกายของเขาจะยังสูงอยู่ก็ตาม การเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดของเขาในตอนนี้นอกจากจะมีหัวหน้าคณะวิจัยแล้ว นักวิทยาศาสตร์ในทีมยังถูกเรียกมาเพื่อเฝ้าดูอีกด้วย
และหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลิวไห่ก็ได้ยินเสียงผิดปกติ เขาได้ยินเสียงของคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ด้านหน้าบ้านของลุงเฉิง หลิวไห่แปลกใจเป็นอย่างมาก
“ผมคิดว่าผมพร้อมแล้ว”
หนึ่งชั่วโมงผ่านมา ผลเลือดของหลิวไห่ก็ออกมา ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลยแม้แต่น้อย ยาและเลือดของเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดี หลิวไห่ลุกขึ้น เขาลองเดินและวิ่งรู้สึกว่าร่างกายเบาหวิวและเขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
หลิวไห่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“ลุงเฉิงครับ ผมคิดว่าผมพร้อมแล้ว”
ท่ามกลางความตกตะลึงในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับหลิวไห่ทำให้ทุกคนถึงกับนิ่งอึ้ง หลิวไห่กุมศีรษะจู่ ๆ เขาก็สามารถจำเรื่องราวหลายเรื่องได้ เรื่องที่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดกับเขา ความทรงจำปลอม ๆ ที่เขาเคยรู้แท้ที่จริงคือเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นก่อนที่เขาจะมาที่นี่เขาสั่งให้เฉินเฟยอวี๋ไปที่บ้านเด็กกำพร้าเพื่อสืบหาเรื่องราวในอดีตของพวกเขา และในตอนนี้หลิวไห่ก็คิดว่าการสืบหาอดีตไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
เขาหัวเราะเยาะหยันตัวเอง แล้วบอกกับลุงเฉิง
“ลุงเฉิงครับ ผมคิดว่าผมจำเรื่องบางเรื่องที่ผมลืมไปจนหมดได้แล้วครับ”
เขายกมุมปากยิ้มเย็น ลุงเฉิงลุกขึ้นจับตัวที่ร้อนราวกับคนมีไข้สูงของหลิวไห่ด้วยความกังวล
“เกิดอะไรขึ้น เรื่องอะไรที่นายลืมไปอย่างนั้นเหรอ”
หลิวไห่หัวเราะ
“ผมกับน้องชายแท้ที่จริงแล้วก็เป็นเด็กทดลองเหมือนหลี่เจี่ยซิน”