https://ufanance.com ufafat Lockdown168 hydra888 lotto432 KINGDOM66 panama888 sexygame1688 1688sagame Casino ออนไลน์ Casino ออนไลน์ Casino ออนไลน์ Casino ออนไลน์ Casino ออนไลน์ lotto77 SAGAME1688 SEXYGAME1688 Casino ออนไลน์ Casino ออนไลน์ สล็อต เกมสล็อต slot game

ตอนที่ 132

ufac4

 ศิษย์ชุยฉาน
โดย

ยามฟ้าสาง รถม้าคันหนึ่งจอดอยู่นอกบ้านเก่าแก่ของสกุลหยวน อวี๋ลู่เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่และเซี่ยเซี่ยเด็กสาวผิวดำต่างก็สะพายสัมภาระยืนรออยู่ข้างรถม้า เด็กหนุ่มชุยฉานเดินหาวออกมาจากบ้าน เขาสวมชุดคลุมสีขาวงาช้างที่เนื้อผ้าถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ฝีมือตัดเย็บประณีตเป็นหนึ่ง ด้านหลังเขามีเด็กหนุ่มหน้าตางดงามดุจกระเบื้องเคลือบชั้นดีเดินตามออกมาด้วยความอาลัยอาวรณ์

อวี๋ลู่อดถามไม่ได้ว่า “คุณชาย พวกเราจะไปที่ไหนกันหรือ?”

ชุยฉานตอบอย่างเกียจคร้าน “พาพวกเจ้าออกเดินทางไกลหาความรู้ ไปเดินเล่นที่ต้าสุยกัน เดิมทีพวกเจ้าสองคนก็เป็นนักเรียนของสำนักศึกษาซานหยาอยู่แล้ว”

นักโทษลี้ภัยของราชวงศ์สกุลหลูสองคนอย่างอวี๋ลู่และเซี่ยเซี่ยหันมามองหน้ากัน

สารถีคือสายลับใหญ่ของต้าหลีที่ลงหลักปักฐานอยู่ในอำเภอหลงเฉวียน กำลังยืนก้มหน้าก้มตาใช้ตามองจมูก จมูกมองใจ นั่งนิ่งอยู่บนตำแหน่งคนขับไม่ขยับเขยื้อน ชุยฉานขึ้นรถค้อมตัวลงเลิกผ้าม่านแล้ว แต่จู่ๆ กลับหันหน้ามาพูดว่า “ไปเรียกหวังอี้ฝู่ให้มาทำหน้าที่เป็นสารถี เจ้าอยู่ต่อในเมือง รับผิดชอบจับตามองความเคลื่อนไหวของตรอกฉีหลงและตรอกซิ่งฮวาให้ดี”

สายลับผู้นั้นพยักหน้ารับ ลงรถแล้วเดินจากไปไม่พูดไม่จา

ผ่านไปประมาณหนึ่งถ้วยชา ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งก็ก้าวพรวดๆ มาถึง สายตาของเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่มองตรงไปข้างหน้า สีหน้าเรียบเฉย ทว่าสายตาของเด็กสาวกลับเย็นชาคล้ายไม่ค่อยชอบชายที่ชื่อหวังอี้ฝู่ผู้นี้เท่าใดนัก

หวังอี้ฝู่ก็คือชายที่ได้รับคำสั่งให้ปลิดหัวซ่งอวี้จางด้วยตัวเองผู้นั้น ในอดีตคือแม่ทัพผู้กล้าแห่งสมรภูมิรบของราชวงศ์สกุลหลู เขาทั้งไม่ได้กลายมาเป็นนักโทษชั้นต่ำของต้าหลี แล้วก็ไม่ได้นั่งในตำแหน่งแขกผู้ทรงเกียรติของราชวงศ์ใหม่ อีกทั้งยังไม่ได้กุมอำนาจสำคัญทางการทหาร แต่ลายมาเป็นสุนัขรับใช้เหนียงเนียงผู้นั้น เมื่อนางถูก “เนรเทศ” ให้ไปฝึกตนอย่างสงบอยู่ที่ตำหนัฉางชุน เจ้านายของหวังอี้ฝู่จึงเปลี่ยนจากเหนียงเนียงต้าหลีมาเป็นราชครูหนุ่มตรงหน้าผู้นี้

เพราะใช้เส้นทางเดินม้าทางหลวง รถม้าขนาดไม่เล็ก มากพอจะรองรับคนทั้งสามได้ ทว่าชุยฉานกลับยังคงให้เด็กหนุ่มและเด็กสาวนั่งอยู่ด้านนอก เขายึดครองห้องโดยสารที่กว้างขวางเพียงลำพัง ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ ในห้องโดยสารก็มีเสียงท่องหนังสือดังกังวานแว่วออกมา ราชครูต้าหลีผู้ยิ่งใหญ่ ยอดฝีมือแห่งวิชาหมากล้อมที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทวีป กลับต้องมาท่องเนื้อหาความรู้ของเด็กประถมอยู่ทุกวัน ช่างน่าขบขันสำหรับผู้คนยิ่งนัก

รถม้าขับออกจากเมืองหลวงผ่านประตูตะวันออก ชุยฉานเลิกผ้าม่านขึ้นมองที่ว่าการอำเภอซึ่งสร้างใหม่อยู่ใกล้กับประตูตะวันออก ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์แบบ เห็นเพียงแค่เค้าโครงเท่านั้น ภายใต้การเร่งรัดจากขุนนางผู้น้อยของที่ว่าการ เหล่าคนหนุ่มแข็งแรงของเมืองเล็กจึงเริ่มง่วนอยู่กับการทำงาน เป็นเหตุให้ตอนนี้ตลอดทั้งประตูฝั่งตะวันออกเต็มไปด้วยฝุ่นคละคลุ้ง ชุยฉานจึงปล่อยผ้าม่านลงด้วยสีหน้ามืดทะมึน

หลังออกจากเมืองเล็กมาแล้ว รถม้าขับมาตามทางเดินม้าได้ประมาณหนึ่งชั่วยาม ชุยฉานก็ให้หวังอี้ฝู่หยุดรถ ตัวเขาเดินไปบนเนินเขาเล็กๆ เพียงลำพัง ชุยหมิงหวง “วิญญูชน” ของสำนักศึกษากวานหูมารออยู่นานแล้ว พอเห็นบรรพบุรุษที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลผู้นี้ก็รีบประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม

ชุยฉานยืนอยู่บนยอดเขา มองไปทางเมืองเล็ก เสียดายก็แต่ตอนนี้ขอบเขตถดถอยลงมาฮวบฮาบ ตบะต่ำต้อยเรี่ยดิน ต่อให้มองไกลสุดสายตาก็ยังไม่อาจมองเห็นทัศนียภาพของที่แห่งนั้นอีกแล้ว “เรื่องที่จะแต่งตั้งเขาพีอวิ๋นขึ้นเป็นขุนเขาเหนือของต้าหลียังต้องใช้เวลา ยากจะสำเร็จได้ในทันที แต่เรื่องการสร้างสำนักศึกษาแห่งใหม่ขึ้นบนภูเขาพีอวิ๋นกลับต้องดำเนินการทันใด อย่างมากสุดครึ่งปีต้องได้เห็นผลลัพธ์ วางใจเถอะ ครั้งนี้เจ้าเสี่ยงอันตรายมากถึงเพียงนี้ เกือบจะต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ ข้าไม่มีทางข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพาน ตำแหน่งรองเจ้าขุนเขาของสำนักศึกษาหนีไม่พ้นแน่ หลังจากนี้ต้าหลียังต้องทุ่มเทพละกำลังแห่งแคว้นสร้างสำนักศึกษาใหม่เอี่ยมแห่งนี้ให้คล้ายคลึงกับหนึ่งในเจ็ดสิบสองสำนักศึกษาของลัทธิขงจื๊อยิ่งกว่าสำนักศึกษาซานหยาเสียอีก”

ชุยหมิงหวงระบายลมหายใจโล่งอกหนึ่งที ครั้นจึงรับปากด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว “ข้าจะไม่มีทางทำให้เหล่าจู่ (คำเรียกขานบรรพจารย์ลัทธิเต๋าอย่างให้ความเคารพ หรือใช้เรียกอริยะปราชญ์ในสมัยโบราณ) ผิดหวังเด็ดขาด!”

ชุยฉานไม่สนใจคำพูดประโยคนี้ของอีกฝ่าย ยังคงพูดกับตัวเองต่อไปว่า “ข้าทิ้งเด็กหนุ่มหุ่นกระเบื้องผู้นั้นไว้ให้เจ้า ถึงเวลาเจ้าก็ยัดเขาเข้าไปในสำนักศึกษาแห่งใหม่ หากไม่ผิดไปจากที่ขาด การฝึกตนของเขาจะราบรื่นอย่างมาก อาจจะใช้ความเร็วที่น่าตกใจกระโดดขึ้นไปยังห้าขอบเขตกลางในทีเดียว เจ้าเตรียมใจรับให้พร้อม แต่ทางที่ดีที่สุดก็ควรจะเก็บซ่อนเขาเอาไว้หน่อย อย่าให้เปิดเผยตัวตนเร็วเกินไป กว่าข้าจะเลือกเศษกระเบื้องจากเศษชิ้นส่วนนับพันนับหมื่นในภูเขากระเบื้องเคลือบมาประกอบเป็นหุ่นกระเบื้องที่มีจิตวิญญาณนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เด็กหนุ่มคนนี้สามารถเปลี่ยนจากกระเบื้องแตกหักกองหนึ่งมามีชีวิตชีวาไม่ต่างจากคนจริงๆ อย่างในตอนนี้ ทั้งมาจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจชั่วชีวิตของข้าชุยฉาน แล้วก็ทั้งมาจากโชคที่ยิ่งใหญ่เป็นส่วนประกอบ ดังนั้นเจ้าต้องระวังให้มากหน่อย หากพูดคำที่ไม่ค่อยเป็นมงคลนัก นี่ก็ถือเป็นบุตรชายกำพร้าที่ข้าฝากฝังไว้กับเจ้าแล้ว”

จิตใจชุยหมิงหวงสะท้านไหว รีบค้อมตัวกุมมือคารวะ “เหล่าจู่โปรดวางใจ ข้าชุยหมิงหวงจะต้องปฏิบัติต่อเขาดุจบุตรชายของตัวเอง!”

สีหน้าชุยฉานดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย “ทางฝั่งของเมืองเล็กแห่งนี้ นอกจากอ๋องเจ้าแคว้นซ่งจ่างจิ้งแล้ว สายลับนักรบเดนตายที่เหลืออีกสองกลุ่ม เจ้าล้วนสามารถเรียกใช้งานได้ตามใจชอบ ข้าไปบอกกล่าวพวกเขาไว้ให้เจ้าก่อนแล้ว อีกอย่างก็คือหากมีเวลาว่างก็ไปพูดคุยกับหยางเหล่าโถวของร้านยาตระกูลหยางให้มากหน่อย ตาแก่หนังเหนียวผู้นี้ทำอะไรด้วยความยุติธรรมมากที่สุด ไม่เคยสนดีหรือเลว ผิดหรือถูก ศัตรูหรือคนกันเอง เจ้าพยายามทำให้ตาเฒ่าผู้นี้รับปากทำการค้ากับเจ้าให้ได้”

“ส่วนหร่วนฉงผู้นั้น ข้าแนะนำเจ้าว่าอย่าไปหาเรื่องน่าเบื่อใส่ตัว สี่แซ่สิบตระกูลใหญ่บนนถนนฝูลวี่และตรอกเถาเย่ ตอนนี้กระจัดกระจายกันไม่เป็นกลุ่มก้อน ใจคนแตกแยกไม่เป็นหนึ่ง เจ้าจับตามองตระกูลหลี่ให้ดี อืม ก็คือตระกูลหลี่ที่มีหลี่ซีเซิ่งนั่นน่ะ ส่วนหลี่เป่าเจินคุณชายรองที่จิตใจทะเยอทะยานสูงยิ่งกว่าแผ่นฟ้าผู้นั้น ตอนนี้ที่พึ่งของเขาล้มลงแล้ว แม้จะไม่ถึงขั้นกลับคืนสภาพเดิมภายในค่ำคืนเดียว แต่ก็ถือว่าได้เรียนรู้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงหลากหลายยากจะคาดเดาของต้าหลีเราแล้ว ระหว่างพี่น้องคู่นี้เจ้าจะเลือกใครก็ได้ แต่เลือกได้แค่คนเดียวเท่านั้น”

“ส่วนอู๋ยวน เจ้าก็จัดการเอาเองแล้วกัน ว่ากันไปตามสถานการณ์ ไม่ต้องมอบใจให้ความสนิทสนมก็พอ”

ชุยหมิงหวงถามหยั่งเชิง “หรือว่าอู๋ยวนศิษย์ของท่านคนนั้นคือ?”

ชุยฉานยักไหล่สองข้าง พยักหน้ารับ เดินลงเนินเขาพลางเอ่ยอย่างมีโทสะแต่ไร้พลังให้เอาคืน “เขาเป็นคนของเหนียงเนียง นางชอบเลือกคนประเภทนี้ที่สุด ชาติกำเนิดไม่ค่อยดีนัก แต่ฉลาด มีความทะเยอทะยาน อดทนได้ เพียงแต่ด้วยข้อบกพร่องถึงแก่ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปจึงง่ายที่นางจะควบคุม”

ชุยหมิงหวงพลันกระจ่างแจ้ง “มิน่าเล่าครั้งนั้นที่ท่านเหล่าจู่เปิดเผยเจตนารมณ์สวรรค์ที่บ้านบรรพบุรุษตระกูลหยวน ข้าก็รู้สึกแล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ตอนหลังถึงได้เข้าใจว่าที่แท้สาเหตุเป็นเพราะอู๋ยวนก็อยู่ที่นั่นด้วย”

ชุยฉานถอนหายใจ แล้วเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาไม่คิดจะปิดบังความจริง “ตอนนั้นที่อยู่ในบ้านเก่าของสกุลหยวน ข้าให้โอกาสเขาหนึ่งครั้ง ก่อนหน้านี้เขาส่งข่าวเรื่องหยุมหยิมยิบย่อบไปหมด ข้าคร้านจะสนใจ แต่หากเดินออกไปจากจวนแล้วยังเลือกที่จะบอกเรื่องนั้นแก่เหนียงเนียงผู้นั้น เขาก็ต้องตายแน่ ศิษย์หลอกลวงลบล้างบรรพจารย์ ถ้าเช่นนั้นหากอาจารย์จะตีศิษย์จนตายก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลนี่นา”

ชุยหมิงหวงพูดไม่ออก

ชุยฉานตบไหล่ของเด็กรุ่นหลังในตระกูล “ข้าฝากความหวังไว้กับเจ้ามากนะ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พูดเรื่องพวกนี้กับเจ้า”

ชุยหมิงหวงยิ้มเจื่อน “มิกล้าๆ”

“เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องส่งข้าแล้ว”

ชุยฉานเพิ่มความเร็วฝีเท้าเดินลงจากเขา เดินไปได้หลายสิบก้าวก็พลันหันกลับมายิ้ม “เจ้าและข้าต่างก็เป็นคนฉลาด เจ้าคงคิดว่าข้าสามารถขุดหลุมฝังอู๋ยวนได้แบบนี้ก็ต้องไม่มีปล่อยเจ้าไปแน่ ในความเป็นจริง…เจ้าก็เดาถูกแล้ว เพราะเป็นอย่างนี้จริง แต่หลุมกับดักนั้นอยู่ที่ไหน และวันไหนที่จะเป็นตัดสินเป็นตาย ต้องให้เจ้าไปใคร่ครวญเอาเอง”

ชุยหมิงหวงไม่ได้ตระหนกลน ยิ่งไม่ได้รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม กลับกันยังเกิดความห้าวเหิม “ตำราที่ต้องเล่าเรียนก็เรียนจบไปได้พอประมาณแล้ว ความบันเทิงในชีวิตหลังจากนี้ก็อยู่ตรงนี้แล้ว”

ชุยฉานหมุนตัวกลับ มองไปยังรถม้าที่จอดอยู่ตรงตีนเขา สอดมือสองข้างไว้ในชายแขนเสื้อ จุ๊ปากพูด “มีลูกศิษย์ครบทั้งสามประเภทจริงๆ ด้วย เจ้าชุยหมิงหวง อู๋ยวน หุ่นกระเบื้อง ครบถ้วนแล้ว วันหน้าก็ต้องดูที่โชควาสนาของพวกเราอาจารย์และศิษย์ทั้งสี่คนแล้ว”

เดินไปเดินมา ชุยฉานก็พลันสะดุ้งโหยง พึมพำกับตัวเองว่า “หากวันใดได้รู้ความจริง ด้วยนิสัยเจ้าเด็กในตรอกหนีผิงคนนั้นต้องซ้อมข้าจนตายแน่ ไม่แน่ว่าอาจถึงขั้นฆ่าคนตาไม่กะพริบเลยก็ได้”

ใบหน้าของเด็กหนุ่มผู้มีใฝแดงกลางหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความร้อนใจและเศร้าหมอง “ประเด็นคืออาจารย์ตีลูกศิษย์ตายยังถูกต้องตามหลักฟ้าดินของมารดามันด้วย ไม่ได้ๆ ข้าชุยฉานจะมีชีวิตอเนจอนาถแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องคิดหาวิธี…”

เด็กหนุ่มพลันหรี่ตาคลี่ยิ้ม ท่าเดินก็เปลี่ยนมาเป็นเดินอาดๆ วางโต กล่าวกลั้วหัวเราะเสียงดัง “งั้นก็สาดน้ำเน่าทั้งหมดนี้ไปให้กับราชครูต้าหลีเสียเลย ข้าคือชุยตงซานนี่นา ไม่ใช่ชุยฉานเสียหน่อย!”

เรือนกายที่จิตของเขามาพึ่งพิงนี้สามารถมองเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากอย่างถึงที่สุดชิ้นหนึ่ง เกิดมาก็ไร้ตำหนิสกปรก แต่สติปัญญากลับทึ่มทื่อมาตั้งแต่เกิด ไม่ถึงหกขวบดวงจิตก็หลุดจากร่างแหลกสลาย ชุยฉานใช้วิชาลับหล่อหลอมอยู่นานหลายปี จนกระทั่งมันกลายเป็นดั่งโรงเตี๊ยมที่ดวงวิญญาณเข้ามาพักอาศัยได้ง่าย ตอนแรกนั้นเป็นเพราะถ้ำสวรรค์หลีจูของต้าหลีสำคัญเกินไป เกี่ยวพันไปถึงโชควาสนาแห่งมหามรรคาของเขา เขาจำเป็นต้องเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงย้ายเอาร่างนี้มา แบ่งดวงจิตใส่เข้าไป เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับว่าบนโลกมีชุยฉานสองคน หนึ่งแก่หนึ่งหนุ่ม ชุยฉานเฒ่าเป็นใต้เท้าราชครูของเขาอยู่ในเมืองหลวงต้าหลี เนื่องด้วยแผนการที่วางไว้เผด็จศึกภายหลังห่างไปไกลพันลี้ ชุยฉานคนหนุ่มจึงปรากฎกายอยู่ที่เมืองเล็ก ซ่อนตัวอยู่ในบ้านบรรพบุรุษตระกูลหยวนเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น แน่นอนว่าลึกๆ ในใจก็ไม่แน่เสมอไปที่ชุยฉานจะไม่คิดอยากส่งฉีจิ้งชุนเดินไปยังปลายทางสุดท้ายแห่งชีวิตกับตาตัวเอง

เขาอยากจะเอาชนะฉีจิ้งชุนอย่างยิ่งใหญ่ตรงไปตรงมาสักครั้ง

น่าเสียดายก็แต่ไม่ว่าอย่างไรชุยฉานก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับฉีจิ้งชุนก่อน ไม่เพียงแต่แพ้อย่างราบคาบ หลังจากนั้นยังอนาถยิ่งกว่า เพราะตาเฒ่าที่เห็นชัดๆ ว่าตายอยู่ในสวนป่ากงเต๋อของสำนักศึกษากลับมาหาเขาด้วยตัวเอง อยู่ดีไม่ว่าดีก็ตัดขาดความเชื่อมโยงระหว่างเขากับร่างจริงของชุยฉาน ยังลงโทษให้เขาต้องท่องตำราเฮงซวยพวกนั้นทุกวัน ที่น่าขันก็คือ ไม่มีตำราเล่มไหนที่เป็นตำราแห่งปราชญ์ที่ตาเฒ่าเป็นคนเขียน สุดท้ายยังกระทำในสิ่งที่เหลวไหลไร้สาระอย่างถึงที่สุด นั่นคือให้เขาชุยฉานกลายไปเป็นลูกศิษย์ของเจ้าเด็กหนุ่มที่แซ่เฉินผู้นั้น!

ข้าชุยฉานจะเรียนรู้อะไรจากเขาเฉินผิงอันได้? เรียนเผาเครื่องปั้น เรียนเผาถ่านงั้นหรือ?

ส่วนตาเฒ่านั่นคิดอะไรอยู่กันแน่?

สวรรค์เท่านั้นที่รู้!

แม้ว่ายศถาบรรดาศักดิ์จากการศึกษาเล่าเรียนที่สูงที่สุดของตาเฒ่าในชีวิตนี้จะเป็นแค่ซิ่วไฉเท่านั้น

แต่ครานั้นเทวรูปของเขาก็เคยตั้งอยู่ในอันดับที่สี่ของศาลเจ้าบุ๋นลัทธิขงจื๊อ ในช่วงเวลานั้นเรียกได้ว่าซิ่วไฉเฒ่าเป็นดั่งดวงตะวันกลางฟากฟ้า หาไม่แล้วในเมื่อตัวตาเฒ่ายังไม่ตาย เทวรูปของเขาจะถูกคนย้ายเข้าไปตั้งข้างในได้หรือ? ต่อให้ซิ่วไฉเฒ่าคิดจะขวางก็ขวางไม่อยู่

แต่ชุยฉานมักจะรู้สึกว่าตาเฒ่าชอบใจที่เป็นเช่นนั้น ไม่คิดจะขัดขวางจริงๆ จังๆ เลยด้วยซ้ำ

สรุปก็คือคดีครั้งนี้ถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องหายไปท่ามกลางหนังสือประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องแท้จริงและเรื่องเล่าในเกร็ดพงศาวดาร อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านพ้นไปก็ยิ่งค่อยๆ หายไปจนไม่เหลือแม้แต่เบาะแสให้สืบสาว

……

เดินทางผ่านเส้นทางที่จำต้องผ่านเพื่อมุ่งหน้าสู่ด่านเหย่ฟูชายแดนใต้ต้าหลี

รถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางนอกทางเดินม้า เด็กหนุ่มชุดขาวหว่างคิ้วมีไฝสีชาดยืนอยู่บนหลังคารถ หันหน้าไปทาง ทิศเหนือ ชะเง้อคอรอคอยอะไรบางอย่าง

หวังอี้ฝู่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งสารถี ยังคงเก็บปากเก็บคำดังเดิม

อวี๋ลู่เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังนับของในห่อสัมภาระ เด็กสาวร่างกายอรชรงดงามแต่ใบหน้ากลับหยาบกระด้างว่างงานมากที่สุด นางนั่งอยู่ข้างกายหวังอี้ฝู่ หันหลังชนกับเด็กหนุ่ม กำลังแกว่งขาสองข้าง ปากก็แทะเม็ดแตงไม่หยุด

เด็กหนุ่มชุยฉานกระทืบเท้า “มาได้สักที!”

หวังอี้ฝู่ไม่ได้หันหลังกลับไป เพียงเอ่ยเบาๆ ว่า “องค์ชาย วันหน้าโปรดรักษาตัวด้วย”

เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เปลี่ยนนามเป็นอวี๋ลู่พยักหน้ารับ ยิ้มตอบ “แม่ทัพหวังเองก็เช่นกัน”

หวังอี้ฝู่อืมหนึ่งที กำลังจะอ้าปากพูดต่อ

เด็กสาวที่แทะเม็ดแตงกองใหญ่หมดปัดมือ เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์ยิ่ง “แม่ทัพใหญ่หวังไม่จำเป็นต้องพูดจามีมารยาทกับนักโทษชั้นต่ำอย่างพวกเราหรอก”

หวังอี้ฝู่ยิ้มขื่น “เป็นพวกเราที่ผิดต่ออาจารย์ของเจ้า”

เด็กสาววางสองมือทับซ้อนกันบนหัวเข่า เงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามสดใส เอ่ยยิ้มๆ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปพูดกับพวกคนตายที่จิตวิญญาณแหลกสลายพวกนั้นสิ ข้าทั้งไม่ได้เข้าร่วมกับศึกใหญ่ครั้งนั้น หลังจบเรื่องก็ไม่ได้ฆ่าตัวตาย กลับยังมีชีวิตอยู่เป็นอย่างดี อีกไม่นานก็จะเป็นนักเรียนของสำนักศึกษาแห่งใหม่แล้ว ดังนั้นแม่ทัพใหญ่หวังมาพูดเรื่องพวกนี้กับข้า ไม่มีความหมายอะไรเลย”

อวี๋ลู่พลันกล่าวว่า “หวังอี้ฝู่ ไม่ต้องสนใจนาง นางก็แค่เด็กที่ยังไม่โตเท่านั้น ในใจมีโทสะ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าควรไประบายเอากับใคร ในเวลาเช่นนี้ใครพูดกับนาง นางก็พร้อมจะทิ่มแทงคนนั้น”

เด็กสาวหัวเราะ “โอ้ ยังนึกว่าตัวเองคือองค์รัชทายาทสกุลหลูที่สูงศักดิ์จนเอื้อมไม่ถึงอีกหรือ ยังมีคุณสมบัติมาสอนข้าว่าควรทำตัวยังไงด้วย?”

อวี๋ลู่ยิ้มบางๆ ไม่ตอบโต้ แล้วจึงก้มหน้าก้มตัวจัดเก็บสัมภาระต่อไป

หวังอี้ฝู่รู้สึกหัวโตขึ้นมาทันตา

หากไม่เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กสองคนนี้ หวังอี้ฝู่จะยอมตอบรับเหนียงเนียงต้าหลี ยอมอุทิศตัวถวายชีวิตให้นางได้อย่างไร

……

กลุ่มของเฉินผิงอันเดินตามขอบทางของเส้นทางเดินม้ามุ่งหน้าลงใต้

จากนั้นก็เห็นเด็กหนุ่มชุดขาวคุ้นหน้าผู้หนึ่งวิ่งตะบึงมาหา ความกระตือรือร้นเช่นนั้น ยิ่งกว่าดุรณีน้อยผู้มีรักได้พบหน้าบุรุษที่อยู่ในหัวใจเสียอีก

เด็กหนุ่มชุดขาวผู้มีไฝสีชาดกลางหว่างคิ้วคลี่ยิ้มกว้างสดใส “เฉินผิงอัน แม้ฟังดูแล้วจะน่าหัวเราะอย่างมาก แต่ข้าอยากบอกกับเจ้าอย่างจริงจังว่า นับแต่วันนี้ไป ข้าก็คือลูกศิษย์ของเจ้าแล้ว! หากเจ้าไม่รับข้าเป็นลูกศิษย์ ข้าก็จะตายให้เจ้าดู! หากข้าตายไปแล้ว เจ้าอย่าลืมทำป้ายหน้าหลุมศพให้ข้า เขียนว่าหลุมศพของลูกศิษย์เฉินผิงอัน!”

เฉินผิงอันอึ้งค้างไปนานกว่าจะคืนสติ ถามว่า “ชื่อจริงๆ ของเจ้าคืออะไร?”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้างอารมณ์ดี “ชุยตงซาน!”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นข้าจะช่วยเพิ่มสามคำนี้ลงไปบนป้ายหน้าหลุมศพของเจ้า”

Sword of Coming กระบี่จงมา

Sword of Coming กระบี่จงมา

อ่านนิยายเรื่อง Sword of Coming กระบี่จงมา ” หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความลี้ลับมหัศจรรย์ ใจกลางฟ้าดิน เคยมีปัญญาชนผู้หนึ่งใช้หนึ่งกระบี่ฟาดฟันให้เกิดน้ำตกธารสวรรค์ คือความภาคภูมิใจสูงสุดของโลกมนุษย์ หน้าผาทะเลบูรพา มีนักพรตไร้นามผู้หนึ่งที่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด หวังเพียงให้ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า แดนสุขาวดีปัจฉิมทิศ มีหลวงจีนเฒ่าที่ชอบเล่าเรื่องราวให้ผู้คนฟัง เลี้ยงมังกรสวรรค์ไว้เก้าตัว พื้นที่กันดารแดนใต้ มีจิตรกรตาบอดควบคุมหุ่นเชิดเกราะทองสูงเท่าเนินเขาให้เคลื่อนย้ายภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูก ปูแผ่เป็นภาพลายปัก เมื่อวันหนึ่งเด็กหนุ่มยากจนที่เติบโตทางทิศเหนือได้พบกับเซียนที่เหนือศีรษะมีกระบี่บินนับพันนับหมื่นประดุจฝูงตั๊กแตน “ เขาจึงอยากจะไปเห็นปัญญาชนคนนั้น เห็นคลื่นยักษ์ที่โถมตัวเทียมฟ้าของทะเลบูรพา เห็นทะเลทรายสีเหลืองทองกว้างไกลนับหมื่นลี้ของแดนประจิม และอยากไปเห็นภูเขาลูกโอฬารของแดนกันดารทางใต้ที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงกับตาตัวเอง ดังนั้น ในที่สุดวันหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงสะพายกระบี่ไม้พาดหลัง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ –ข้ามีนามว่าเฉินผิงอัน ผิงอันที่แปลว่าสงบสุข สันติ ข้าคือมือกระบี่คนหนึ่ง–

Comment

Options

not work with dark mode
Reset