เมื่อเดินออกจากตระกูลจง ป้าหยูมองหลินซีเฉินที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ “พวกเราไปซูเปอร์มาร์เก็ตกันเถอะ เรื่องที่มาที่นี่ในวันนี้ อย่าบอกแม่และยายของหนูได้ไหม?”
เธอหาข้ออ้างว่าจะไปซูเปอร์มาร์เก็ตถึงออกมา ถ้าไม่ซื้ออะไรกลับไป กลัวว่าจวงจื่อจิ่นจะสงสัย
นอกจากนี้เรื่องนี้ยังไม่มีผลลัพธ์ หากให้หลินเซียนเหยียนและจวงจื่อจิ่นรู้ และขัดขวางการตรวจดีเอ็นเอ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความจริงจะถูกเปิดเผย
แม้ว่าพวกเขาจะปิดบังเรื่องการตรวจดีเอ็นเอ แต่หลินซีเฉินก็สังเกตเห็น ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
เขากัดริมฝีปากแน่น “พวกเขาสงสัยผมเหรอ?”
ป้าหยูรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่”
หลินซีเฉินยิ้ม เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ
ป้าหยูอธิบายว่า “หม่ามี๊ของหนูไม่ได้บอกแด๊ดดี้ของหนูเรื่องชาติกำเนิดของหนู เป็นเพราะโกรธแด๊ดดี้หนูแน่ๆ ดังนั้นพวกเราต้องแสดงหลักฐาน และโน้มน้าวเธอ ใช่ไหม?”
ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลนี้ หลินซีเฉินแหงนหน้ามองท้องฟ้า “ไม่รู้ว่าถ้าหม่ามี๊รู้ จะโกรธไหม”
“แล้วหนูต้องการให้แม่กับพ่อคืนดีกันไหม ครอบครัวสี่คนอาศัยอยู่ด้วยกันไง?” ป้าหยูถามเขา
ต้องการ
หลายวันมานี้รอยยิ้มของน้องสาวมีมากกว่าแต่ก่อน
เขาต้องการครอบครัว ครอบครัวที่มีพ่อกับแม่ ปู่ย่า และเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
ป้าหยูยิ้ม โดยรู้ว่าเขากำลังซึมซับเข้าไปในหัวใจ
อุ้มเขาขึ้นรถแล้วไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นก็กลับไปที่วิลล่า
ในตอนบ่าย ขณะที่หลินเซียนเหยียนและจงจิ่งห้าวยังไม่กลับมา จวงจื่อจิ่นพาเด็กสองคนไปเล่นในห้อง เธอเอาผมของหลินซีเฉินและไปเอาผมของจงจิ่งห้าวในห้องน้ำ และมอบให้ลุงเฟิ๋งพร้อมกัน
“นายท่านสั่งมา ให้คุณดูแลเด็กสองคนนั้นให้ดี” ลุงเฟิ๋งพูดกับป้าหยู
ตอนนี้ผลยังไม่ออกมา ท่านก็ไม่อยากมาโดยพลการ ถ้าไม่ระมัดระวังจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวก่อน รอผลออกมาก่อน ค่อยมา
“ให้นายท่านวางใจเถิด ฉันจะดูแลอย่างดี”
“งั้นก็ดี” ลุงเฟิ๋งเอาเส้นผมแล้วจากไป
ป้าหยูกลับไปที่วิลล่า
การพบกันของพวกเขาดูเหมือนจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าก็เป็นเวลาที่หลินเซียนเหยียนเปิดร้าน LEOภายในประเทศซึ่งออกแบบสำหรับลูกค้าแต่ละคน เปิดอย่างเป็นทางการ
เช้าตรู่ มีรถส่งดอกไม้เข้ามา และขนกระเช้าดอกไม้หลายสิบกระเช้าลงมาเรื่อยๆ วางไว้ที่ทางเข้าประตู
ฉินยาตกตะลึง ใครให้กระเช้าดอกไม้มากมายขนาดนี้?
เธอวิ่งไปถามผู้ที่กำลังขนดอกไม้ “ของพวกนี้ใครเป็นคนส่งมาให้?”
“พวกเราก็แค่คนรับจ้าง ใครเป็นคนส่งพวกเราไม่รู้ คุณดูบนการ์ดสิว่ามีเขียนชื่อไว้ไหม”
ก็เพราะว่าฉินยาไม่เห็น ดังนั้นจึงมาถามพวกเขา “ช่างมันเถอะ”
เธอสวมชุดเดรสสีม่วง และเดินเข้าไปในร้าน เดี๋ยวจะมีแขกมาหาคุณนายเวลเลี่ยนเธอต้องดูว่ายังมีอะไรบ้างที่ยังไม่ได้เตรียม จากนั้น เธอพึ่งเดินได้เพียงสองก้าว ก็มีรถอีกคันหยุดที่หน้าประตู จากนั้นก็ลงมาขนดอกไม้
ครั้งนี้ก็ไม่น้อย ยังคงเป็นกระเช้าดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งสีแดงและสีเหลือง สีชมพูและสีม่วง แข่งความงดงาม ละเอียดอ่อนและสดใส
ไม่นานหน้าประตูก็ไม่มีที่วาง และวางไปถึงบนถนน
ฉินยาเดินไป ครั้งนี้บนกระเช้าดอกไม้มีลงนามไว้ ชื่อเสิ่นเผยซวน
เสิ่นเผยซวนไม่เจ้าเล่ห์เหมือนซูจ้านคนขายดอกไม้ถามชื่อผู้ให้ดอกไม้ เขาก็พูดออกมาทันที
ฐานะของหลินเซียนเหยียนก็ปรากฏอยู่แล้ว พวกเขาเป็นเพื่อนซี้ของจงจิ่งห้าว จึงต้องมาอุดหนุน ทำให้ร้านมีชีวิตชีวา เพื่อให้ผู้คนรู้ว่า เจ้าของร้านนี้มีผู้สนับสนุน
ฉินยาเข้าใจแล้วว่าทั้งหมดนี้ใครเป็นคนส่งมา เธอเหลือบมองกระเช้าดอกไม้ที่เรียงรายไปถึงถนน และถอนหายใจ “มันช่างงดงามจริงๆ”
นี่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ มันก็ ครึกครื้น แล้ว
คุณนายเวลเลี่ยนวันนี้ก็สวมชุดหรูหราเป็นทางการมาก สูทสีน้ำเงินเข้ม มัดผม คราวนี้ใส่เครื่องประดับเพชรมรกตชุดหนึ่ง ซึ่งดูสง่างาม หรูหราและสูงส่ง
ในมือไอรอนถือถุงเสื้อผ้า แล้วเดินตามเธอไปที่ห้องโถง หลินเซียนเหยียนกำลังตรวจสอบแผนผังในห้องโถง เพื่อดูว่ามีที่ใดบ้างที่ไม่เข้าที่ ห้องโถงต้อนรับขนาดใหญ่ ทางด้านขวามือมีของว่างและเครื่องดื่ม ซ้ายมือเป็นโซนของเสื้อผ้าที่จะจัดแสดงโชว์ในครั้งนี้ ตรงกลางมีเวที ถึงเวลาจะมีแฟชั่นโชว์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ LEO
แม้ว่าหลินเซียนเหยียนอยู่ในประเทศไม่ได้กว้างขวาง แต่อยู่ในวงการนี้เธอก็มีชื่อเสียง ประกอบกับความกว้างขวางของคุณนายเวลเลี่ยนชื่อเสียงของLEO ในวันนี้คงจะมีคนจำนวนมากมาที่นี่
“หลิน” ไอรอนเรียกเธอ
หลินเซียนเหยียนจัดเสื้อผ้าให้ โมเดล หันหัวกลับมามองไอรอนและถามว่า “มีเรื่องอะไร?”
เธอยื่นกระเป๋าในมือให้เธอ “ให้เธอ”
หลินเซียนเหยียนไม่ได้รับมาแต่ถามว่า “นี่คืออะไร?”
“คุณดูแล้วจะรู้เอง” นี่คือคำพูดของคุณนายเวลเลี่ยน มุมปากของเธอโค้งขึ้นอย่างสง่างาม
หลินเซียนเหยียนไม่สงสัยเลยเขา จึงยื่นมือไปรับมา วางบนโต๊ะแล้วเปิดออก ข้างในเป็นชุดเดรส และมันก็คุ้นตามาก เพราะเธอเป็นคนออกแบบเอง
นอกจากนี้ยังเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลของเธอ “ครั้งแรก”
ตอนนั้นเหอรุ่ยหลินและจงจิ่งห้าวกำลังจะหมั้นกัน พวกเขาได้ซื้อชุดนี้ไปแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
เธอมองคุณหญิงคุณนายเวลเลี่ยนอย่างสับสน “นี่คือ?”
“มีคนให้ฉันนำมาให้คุณ” เธอไม่ได้บอกว่าใครให้เธอนำมามอบให้หลินเซียนเหยียน
หลินเซียนเหยียนยังอยากซักถาม ไอรอนรู้ว่าคุณนายเวลเลี่ยนไม่อยากพูด ดังนั้นจึงขัดจังหวะเธอ “รีบไปใส่เถอะ ใกล้จะถึงเวลาแล้ว เดี๋ยวมีคนมาแล้ว คุณจะไม่มีเวลาใส่”
หลินเซียนเหยียนลังเล ไอรอนผลักเธอเข้าไปในห้องรับรอง “เร็วเข้า อย่ารอช้า”
หลินเซียนเหยียนถูกผลักเข้าไปในห้องรับรอง แต่เธอไม่ต้องการสวมใส่ ไอรอนรีบร้อนและถอดเสื้อผ้าของเธอออก “อันที่จริง สวมใส่ชุดที่เป็นผลงานของตัวเอง ถึงจะสามารถสะท้อนถึงคุณค่าได้”
หลินเซียนเหยียนทนไม่ได้กับ “ความรุนแรง” ของไอรอน “ฉันใส่เอง คุณออกไปก่อน”
ไอรอนไม่เชื่อใจ และสั่งว่า “เร็วๆหน่อย เดี๋ยวมีคนมา”
“อืม” หลินเซียนเหยียนตอบรับ
ปิดประตูแล้ว เธอหยิบเสื้อผ้าชุดนั้น รู้สึกใจลอยเล็กน้อย นี่เป็นแค่เสื้อชิ้นหนึ่ง แต่มันแบกรับความฝันของเธอ เมื่อตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่นก็มีความฝัน อยากเป็นดีไซน์เนอร์ที่ยอดเยี่ยม
ต่อมาเธอคิดว่าเธอคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว บางทีพระเจ้าอาจจะไม่ได้โหดร้ายกับเธอเกินไป ให้เธอมีสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ปังปัง
“หลิน คุณเสร็จหรือยัง?” ไอรอนยังรออยู่ที่นอกประตู เมื่อไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างใน เลยเคาะประตูเพื่อเร่งเธอ
หลินเซียนเหยียนพูดให้มันผ่านๆ “ใกล้แล้ว”
“เธอเร็วหน่อย เริ่มมีคนมาแล้ว วันนี้คุณเป็นบุคคลสำคัญ” ต่อไปร้านนี้เธอจะต้องเป็นคนดูแล
วันนี้เธอเป็นนางเอก
แน่นอนควรผูกสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนที่มาที่นี่ในวันนี้
หลินเซียนเหยียนเหลือบมองดูเวลา ไม่มีเวลาไปคิดมาก ถอดเสื้อผ้าในร่างกายแล้วสวมชุดเดรส
เธอไม่ได้แต่งหน้า แต่ผิวดูสวยและละเอียดอ่อน เธอทำผมเป็นมวยแบบสบายๆ และปล่อยผมเล็กน้อยที่ใบหู เพิ่มความเป็นผู้หญิง
สีชมพูเป็นสีที่ไร้เดียงสา อ่อนโยนบริสุทธิ์ เหมือนเด็กทารกที่เพิ่งมาถึงบนโลกนี้ อ่อนต่อโลกอ่อนโยนและน่ารัก และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เธอใช้สีนี้ในการตัดเย็บ “ชุดแรก” เป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป
มันเป็นตัวแทนของวัยหนุ่มสาว
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะสวมชุดนี้
เมื่อมองดูตัวเองในกระจก เธอก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ปังปัง
“หลินรีบออกมาเร็ว มีคนมาแล้ว”
“โอเค” หลินเซียนเหยียนเปิดประตู ไอรอนยืนรออยู่ที่ประตู เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหลินเซียนเหยียน เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ หลิน คุณสวยมาก”
หลินเซียนเหยียนเหลือบมองเธอ “แต่ก่อนฉันเคยน่าเกลียดเหรอ?”
“ไม่นี่” ไอรอนมองเธอตลอดเวลา นัยน์ตาสีฟ้าของเขาซ่อนความน่าทึ่ง
ไอรอนเป็นคนประเทศA แต่ตอนเธอเข้าเรียนก็ได้เรียนรู้ภาษาประเทศ Z นี่ก็คือเหตุผลที่คุณนายเวลเลี่ยนให้เธอมาช่วยเธอที่ประเทศนี้
เธอพูดภาษาในประเทศได้ก็สะดวกในการสื่อสาร
ตอนนี้ในร้านถ้ารวมเธอแล้วก็มีดีไซน์เนอร์ทั้งหมด3 คน ในตอนนี้แม้ว่า ฉินยาจะรับผิดชอบคนเดียวได้ แต่ร้านมีทั้งสามคนก็ยุ่งอยู่นิดหน่อย ได้หาพนักงานเคาน์เตอร์และพนักงานแผนกต้อนรับอย่างละหนึ่งคน และงานช่างเย็บด้วยมือทั้งสองคน ต่อไปคงจะหาคนมาเพิ่ม
หลินเซียนเหยียนย้อนมาคิดถึงงานสำสัญ “ไปกันเถอะ”
“โอเค” ไอรอนเดินตามหลินเซียนเหยียน “เมื่อกี้ฉันเพิ่งเห็นคนที่มาที่นี่ เป็นคนหล่อทั้งหมด”