หลินซินเหยียนนึกได้ถึงถาม ” สถานะอะไรเหรอ “
” ความลับครับ ” หลินซีเฉินยังให้ปริศนาคำทายกับเธออีก
หลินซินเหยียนก็ไม่วางใจนัก หลินซีเฉินกับครูคนนั้นที่เป็นทั้งครูและเพื่อน ระหว่างสองคนนี้มีความลับต่อกันไม่น้อย ถึงแม้จะมีบางครั้งที่เขาดูไม่เอาถ่านไปบ้าง แต่ความรักและความเอ็นดูที่เขามีต่อหลินซีเฉินนั้นเป็นเรื่องจริง
” หม่ามี๊ คืนนี้ มานอนกับผมได้ไหมครับ ” หลินซีเฉินโอบรอบคอเธอแล้วออดอ้อน
หลินซินเหยียนตอบว่าได้สิ
” แล้วเขาคนนั้นจะไม่หึงเหรอ ” หลินซีเฉินพูดแล้วทำตาปริบๆ
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว ” ใคร “
” พ่อไง “หลินซีเฉินเรียกจงจิ่งห้าว แต่ก็ไม่ได้เรียกอย่างคล่องปากเหมือนหลินลุ่ยซี
ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะเด็กน้อยโตมารู้เรื่องแล้ว จะให้มาเรียกกะทันหัน ก็คงจะไม่ชิน
หลินซินเหยียนใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้ารูปไข่ของลูกชายไว้แน่น แล้วใช้ฝ่ามือบีบใบหน้าเล็กๆ นั่นจนเปลี่ยนรูปไปมาอย่างเบามือ ” ก็ลูกเป็นลูกชายของแม่ แม่จะนอนกับลูกชายของตัวเอง ใครจะกล้ามันมีปัญหาล่ะ “
” คิดคิก…. “
หลินซีเฉินซุกเข้าไปในอ้อมกอดของหลินซินเหยียนแล้วแอบขำ
ตอนกลางคืน เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วหลินลุ่ยซีก็ได้ยินว่าหลินซินเหยียนจะไปนอนกับหลินซีเฉิน เด็กน้อยก็ไม่ยอม จะไปนอนกับพวกเขาด้วย เด็กสาวตัวน้อยกอดขาของหลินซินเหยียนไม่ปล่อย อ้อนเธอไม่หยุดเลย ” หม่ามี๊ หนูไม่สน หนูก็จะนอนด้วยเหมือนกัน อย่าลำเอียงสิคะ ทำไมต้องไปนอนกับพี่ชายคนเดียวด้วยล่ะ “
หลินซินเหยียนคงตัวไปอุ้มลูกสาวขึ้นมา ” ก็ได้จ้ะ วันนี้หม่ามี๊นอนกับพวกลูกสองคนเลยนะ “
เด็กหญิงตัวน้อยดีใจยกใหญ่ แต่ก็มีบ่นออกมาเล็กน้อย ” นานแล้วที่หม่ามี๊ไม่ได้พาหนูเข้านอน พอเล่านิทานให้หนูจบแล้ว ก็ถูกคุณพ่อยึดตัวไปคนเดียวเลย “
เฉิงยู่ซิ่วยกผลไม้ที่ปอกแล้วออกมาจากครัว เมื่อได้ยินเสียงของหลินลุ่ยซี ก็บ่นกับเธอขึ้นมาอย่างน้อยใจ ” อ้าว แล้วฉันไม่ได้เล่านิทานให้เธอฟังหรอกเหรอ “
เด็กน้อยพูดออกมาอย่างชัดเจน ” ก็คุณเล่าก็ส่วนคุณเล่าสิ หม่ามี๊เล่าก็ส่วนหม่ามี๊ ไม่เหมือนกันซะหน่อย “
เฉิงยู่ซิ่วดีกับเธอ เธอก็ยอมอยู่กับเฉิงยู่ซิ่วแต่ว่าความรู้สึกที่มีต่อหลินซินเหยียนมันลึกซึ้งกว่าอยู่แล้ว ตอนเด็กๆ ก็เป็นหลินซินเหยียนที่คอยเล่านิทานให้เธอฟัง
ในกระดูกส่วนลึกนั้นก็ยังคงเป็นหลินซินเหยียนที่สนิทอยู่ดี
” จะไม่เหมือนกันได้ยังไงล่ะ ” เฉิงยู่ซิ่วจงใจแกล้งถามเด็กน้อย
หล่อนรู้ดี ว่าความรักที่ลูกมีต่อแม่นั้น ไม่มีใครสามารถแทนที่ได้
เด็กสาวตัวน้อยทำปากยู่ คิดอยู่นานจึงตอบ ” ก็หนูเป็นคนที่หม่ามี๊คลอดนี่นา คุณไม่ได้คลอดเสียหน่อย “
ขณะนั้นเอง จงจิ่งห้าวก็ฝากประตูเข้ามาพอดี จึงได้ยินเข้ากับสิ่งที่ลูกสาวเพิ่งพูดออกมา ไม่น่าเขาจึงปรากฏรอยยิ้มขึ้น
” คุณพ่อ ” เด็กสาวเกร็งขาสองข้างทำท่าอยากจะลงไป หลินซินเหยียนจึงโค้งตัวลงวางเธอบนพื้น เมื่อเด็กน้อยเท้าแตะลงบนพื้นแล้วก็รีบพุ่งตัวไปหาจงจิ่งห้าวทันที แล้วยังเรียกพ่อยังกระตือรือร้นอีกด้วย
แขนของจงจิ่งห้าวพาดไว้ด้วยสูท หลินซินเหยียนจึงเดินเข้ามา แล้วไปรับเสื้อสูทของเขาไปแขวนไว้ที่ราวแขวนเสื้อผ้า
แล้วเขาก็ก้มตัวลงไปรับลูกสาวที่พุ่งเข้ามา อยากจะลูบหน้าของลูกสาว แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งกลับมาจากข้างนอกยังไม่ทันได้ล้างมือ
” คุณพ่อคะ หม่ามี๊ บอกว่าวันนี้จะมานอนกับหนูแล้วก็พี่ชายค่ะ ” พูดอวดอย่างภูมิใจ
จงจิ่งห้าวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วส่งสายตากลับไป แต่หลินซินเหยียนทำเป็นไม่เห็น จึงเดินไปนั่งตรงโซฟาแล้วหยิบผลไม้ขึ้นมากิน
จงจิ่งห้าววางลูกสาวลงบนโซฟา แล้วเดินไปล้างมือ
เมื่อเขาออกมา เฉิงยู่ซิ่วก็ถามอย่างเป็นห่วงเป็นใหญ่ว่า ” กินข้าวเย็นมาหรือยัง “
เขาไม่ได้หันมามองด้วยซ้ำ เพียงแต่ตอบอืมแบบสั้นๆ
การปฏิสัมพันธ์แค่นี้ เฉิงยู่ซิ่วก็พอใจมากแล้ว การที่หล่อนถาม แล้วเขาตอบ ไม่ใช่การเพิกเฉยต่อการตอบสนองแบบเมื่อก่อน
หล่อนถอดผ้ากันเปื้อนแล้วเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
ปล่อยพื้นที่ว่างให้พวกเขาได้อยู่ร่วมกัน
จงจิ่งห้าวเดินมานั่งลงตรงโซฟา ขออุ้มลูกสาวขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะเอานิ้วมาม้วนผมที่ยุ่งเหยิงอยู่ข้างหูของลูกสาวเล่น ” เมื่อกี้ลูกพูดว่าใครคลอดลูกออกมานะ “
อย่างน้อยตอบยังมั่นใจ ” หม่ามี๊ทำให้หนูเกิดมาน่ะสิ “
” แล้วลูกรู้หรือเปล่า ว่าหม่ามี๊คนเดียวเกิดลูกออกมาไม่ได้หรอกนะ “
หลินลุ่ยซีทำตาปริบๆ เหมือนไม่เข้าใจ เด็กน้อยเอียงหัวไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ก็คิดไม่ออก เธอก็เป็นลูกที่หม่ามี๊ให้กำเนิดออกมาคนเดียวไม่ใช่เหรอ
” หนูก็เกิดมาจากหม่ามี๊ไง ” เรายังพูดย้ำอีก ” หม่ามี๊คลอดออกมาคนเดียว “
” ไม่เชื่อ ลูกก็ลองไปถามหม่ามี๊ด้วยสิ ว่าไม่มีพ่อ เธอก็มีลูกไม่ได้หรอก ” กลางหน้าผากของเขา ปรากฏร่องรอยของการยิ้ม
หลินซินเหยียนที่อยู่ข้างๆ มะเขือเทศราชินีที่อยู่ในปากเธอนั้น แทบจะพุ่งออกมา
เด็กสาวตัวน้อยจะมาเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง ก่อนจะหันไปถามหลินซินเหยียนอย่างไม่รู้ประสีประสา ” หม่ามี๊ คลอดหนูออกมาคนเดียวใช่ไหม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพ่อซะหน่อย ใช่หรือเปล่า “
หลินซินเหยียนถลึงตาใส่จงจิ่งห้าว คนคนนี้นี่นะ…..
เธออุ้มลูกสาวขึ้นมา ” หม่ามี๊ ไปอาบน้ำให้ลูกดีกว่าเนอะ “
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นตาม แล้วเดินตามหลังพวกเธอไป
หลินซินเหยียนหันกลับมามองเขา ” ฉันจะไปอาบน้ำให้ลูกสาว คุณก็จะตามมาอีกเหรอ “
” ผมรอหน้าประตู รอคุณอาบน้ำให้ลูกเสร็จ เดี๋ยวค่อยอาบให้ผมต่อไง “
หลินซินเหยียน” ….. “
คุณนี่ไม่รู้จักอายเลยหรือไง
อีกนิดเดียวเธอเกือบจะหลุดพูดออกไปแล้ว
จงจิ่งห้าวโค้งตัวเข้ามา ก่อนจะจุ๊บลงที่แก้มของเธอ จากนั้นก็หันหลังขึ้นชั้นบนไป
หลินซินเหยียน ” ….. “
หลินลุ่ยซีทำตาปริบๆ ดูท่าไม่ค่อยจะดีใจเท่าไหร่นัก เห็นพ่อหอมหม่ามี๊แล้ว ทำไมไม่หอมเธอบ้าง
ส่วนหลินซีเฉินนั้น กินข้าวเสร็จแล้วก็เข้าห้องไปทันที ตอนนี้ เด็กน้อยอาบน้ำด้วยตัวเอง จากนั้นก็สวมชุดนอนที่ทำจากผ้าไหมสีเทา แล้วนั่งลงบนเตียง เอาขาสองข้างรองแท็บเล็ตเอาไว้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตา วิจัยโจทย์เลขตรงหน้า
พอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างก็เลยไงหน้าขึ้นมาดู ก็พบว่าหลินซินเหยียนกำลังอุ้มน้องสาวอยู่ก่อนเด็กน้อยจะถอนหายใจเบาๆ เหมือนจะคาดเดาได้ว่าน้องสาวตัวเองรู้เรื่องที่หลินซินเหยียนจะมานอนกับเขา ก็เลยจะยัดเยียดตัวเองให้มานอนด้วยแน่ๆ
” พี่เห็นหนูเกะกะตามากเลยหรือไง “หลินลุ่ยซีผงกหัวขึ้นมา
ใบหน้าหลินซีเฉินปรากฏรอยยิ้มกว้างขึ้นมา ” จะเป็นยังไงไม่ได้ยังไงล่ะ คนเป็นพี่จะไม่ต้อนรับน้องได้ยังไงกัน “
เด็กสาวยิ้มตาหยี ก่อนจะโอบหลินซินเหยียน ” หม่ามี๊ เพราะเราไปอาบน้ำกันเถอะ “
หลินซีเฉินส่ายหัว ในใจก็คิดว่าเจ้าเด็กคนนี้เมื่อไหร่จะโตสักที
หลินซินเหยียนที่เห็นเข้า ก็เลยพูดย้ำว่า ” น้องไปน้องสาวของลูก แล้วก็ยังเป็นเด็กอยู่นะ “
จริงๆ แล้วเป็นเพราะหลินซีเฉินความคิดดูโตเร็วกว่า ไม่ใช่เพราะหลินลุ่ยซีนั้นไร้เดียงสาเกินไปต่างหาก
หลินซินเหยียนอุ้มลูกสาวไปที่ห้องอาบน้ำ แล้วเปิดน้ำร้อนลงในอ่าง เธอลองแช่มือลงไปเพื่อทดสอบอุณหภูมิน้ำ พอรู้สึกว่าได้ที่แล้วก็จะหันไปถอดเสื้อผ้าให้ลูกสาว แต่ปรากฏว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอนั้น นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เล็กๆ และถอดเสื้อผ้าพร้อมเรียบร้อยแล้ว
เด็กน้อยตัวขาวนวลเนียนราวกับตุ๊กตาเคลือบกระเบื้อง หลินซินเหยียนก็อุ้มเธอลงไปในอ่างอาบน้ำ ตอนที่เด็กสาวตัวน้อยอยู่ในน้ำ ก็ทำทีว่ายไปว่ายมา ” หม่ามี๊ หนูว่ายน้ำตรงนี้ได้ด้วย “
หลินซินเหยียนจับลูกสาวเอาไว้ ” อย่าขยับไปมาสิลูก เดี๋ยวแม่จะสระผมให้นะจ๊ะ “
แต่เด็กน้อยก็ยังคงอยู่ไม่นิ่ง ” หม่ามี๊ เล่นกับหนูหน่อยสิ “
เด็กน้อยนั้นชอบเล่นน้ำมาก แล้วยังเป็นน้ำร้อนที่อุ่นกำลังสบาย ทำตัวยุกยิก จนน้ำกระเซ็นไปทั่ว
เมื่ออาบน้ำให้หลินลุ่ยซีเรียบร้อยแล้ว ตัวของหลินซินเหยียนเองก็เปียกชุ่มไปหมด
เมื่อเธอห่อผ้าเช็ดตัวให้ลูกสาวเรียบร้อยแล้ว ก็อุ้มเธอไปไว้ตรงพื้นที่แห้งแล้วใส่ชุดนอนให้ ในห้องอาบน้ำนี้พื้นแห้งและพื้นเปียกแบ่งกันอย่างชัดเจน และมีพื้นที่ที่กว้างขวางและสะดวกสบายต่อการใช้
ชุดนอนของหลินลุ่ยซีและหลินซีเฉินนั้น เป็นฝีมือที่เธอทำให้ลูกๆ ใช้เอง วัสดุผ้านั้นใส่สบาย เพียงแค่สีนั้นต่างกัน ของหลินลุ่ยซีจะเป็นสีเหลืองอ่อนที่เข้ากับสีผิว เวลาที่หลินลุ่ยซีใส่ทำให้ดูน่ารักมาก
เมื่อเธอเป่าผมให้ลูกสาวแห้งแล้ว ก็ใส่รองเท้าสลิปเปอร์ให้เธอ แล้วให้เด็กน้อยออกไปเล่นได้ตามใจ
เพราะเธอก็ต้องอาบน้ำเช่นกัน ร่างกายของเธอนั้นเปียกชุ่มไปหมด บวกกับลูกสาวที่อยู่ไม่นิ่ง ทำให้ตัวเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ถ้าไม่อาบน้ำก็คงไม่สบายตัวเท่าไหร่นัก
เธอถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปในอ่างน้ำ ถึงเพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองมาอาบน้ำที่ชั้นล่าง ซึ่งเธอไม่ได้เอาชุดนอนมาด้วย