หลินซินเหยียนเคยดูประวัติการมีชื่อเสียงของหลี่จ้าน สามารถพูดชื่อละครที่เขาแสดงออกมาเลยก็ได้ แต่ตามจริงแล้ว เธอไม่เคยดูเลย จะให้เธอตอบยังไง?
“ตื่นเต้นจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้วหรอครับ?” พิธีกรเพื่อให้งานมีชีวิตชีวา
หลินซินเหยียนยิ้ม “ฉันตื่นเต้นจริงๆ ที่สามารถมายื่นเคียงข้างไอดอลของตัวเอง ฉันเองก็ประหลาดใจมากค่ะ”
หลี่จ้านยื่นอยู่ข้างๆ เงยหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ พอใจกับคำตอบนี้เป็นอย่างมาก
“แล้วคุณชอบตัวละครตัวไหนของเขาครับ?” พิธีกรก็ได้ถามอีกครั้ง
หลินซินเหยียนตอบอย่างราบรื่น “ฉันชอบทุกตัวละครที่เขาแสดงค่ะ”
เสียงปรบมือด้านล่างดังขึ้น
“ยื่นมือขวาออกมาครับ” พิธีกรพูดกับหลินซินเหยียน
เธอมองไปทางพิธีกร ยังมีของขวัญอะไรที่จะให้เธอหรอ?เธอไม่ต้องการ “สามารถเข้าใกล้และใกล้ชิดกับไอดอลของฉันได้ขนาดนี้ ฉันก็มีความสุขมากแล้วค่ะ สำหรับของขวัญ ฉันขอไม่รับนะคะ เอาให้แฟนคลับคนอื่นๆ เถอะค่ะ”
ไหวพริบของพิธีกรนั้นแกร่งจริงๆ “ของขวัญนี้ให้คุณได้คนเดียวเท่านั้นครับ ยื่นมือออกมาเถอะครับ”
หลินซินเหยียนกำลังจะเปิดปากพูด แต่เห็นว่าตัวเองไม่ดีที่จะปฏิเสธ ก็เลยยื่นแขนออกไปข้างหนึ่ง
เธอยังไม่ทันเห็นของบนมือที่พิธีกรจับไว้คืออะไร ได้ยินแค่เสียงแกร๊กทีหนึ่ง มือของเธอกุญแจมือ
หลินซินเหยียนงงไปหมด
เวลานี้เองเสียงของพิธีกรก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เพื่อพิสูจน์ว่าของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่ของปลอม ผมจะเอากุญแจมือล็อกมือของหลี่จ้านและแฟนคลับท่านนี้ไว้ด้วยกัน หลังจาก 24 ชั่วโมงมาที่นี่แล้วค่อยให้กุญแจมือ ทุกคนว่าดีไหมครับ?”
“ดี!”
ข้างล่างแทบตอบกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
หลี่จ้านเองก็ถูกคนที่คนที่สนับสนุนขอให้ยื่นมือออกมา หลี่จ้านเองก็งงไปหมด ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกเขานี่ ว่าจะเอามือใส่กุญแจมือด้วยกัน
ตอนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะเสียใจทีหลังก็ไม่ได้แล้ว
เขาได้แต่ยื่นมือออกไปแล้วให้พิธีกรใส่กุญแจมือให้เขา
“เริ่มนับถอยหลัง!”
ก็หมายความว่า ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป หลังจาก 2 ชั่วโมงมาที่นี่เอากุญแจเปิดกุญแจมือเพื่อจบเกมส์ครั้งนี้
หลินซินเหยียนคิดแค่ว่านี่ทำให้ผู้ชมดูเท่านั้น เดี๋ยวลงไปน่าจะเปิดให้ ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ทำทุกอย่างตามขั้นตอนต่อไป ยังมีแฟนคลับคอยตะโกนจากด้านหลังอย่างต่อเนื่อง บางคนถึงกับขอให้หลินซินเหยียนช่วยพวกเธอจูบหลี่จ้าน
หลี่จ้านเองก็คิดว่าหลังจากนี้ก็จะทำการปลดกุญแจมือออกได้ ทันทีที่ละจากสายตาของผู้ชมแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้ปลดล็อกให้พวกเราได้หรือยัง?”
พิธีกรส่ายหัวแล้วพูดว่า “บอกแล้วนะครับ หลังจาก 24 ชั่วโมง”
หลินซินเหยียน “……….”
“ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกผมว่ามีรายนี้มาก่อนเลย” หลี่จ้านโกรธแล้ว ไม่ได้โกรธเพราะมัดเขาไว้กับหลินซินเหยียน แต่ที่โกรธเพราะว่าไม่ได้แจ้งเขาไว้ก่อน
“บนใบสัญญาเขียนไว้อยู่นะครับ คุณไม่ได้ดูให้ละเอียดหรอ?”
หลี่จ้าน “………..”
ประหม่าแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจอ่านอย่างละเอียดจริงๆ
ปกติไม่ว่าจะรับงานโฆษณาอะไร ก็จะตั้งใจอ่านข้อสัญญาก่อน ครั้งนี้เพราะว่าไม่ใช่การโปรโหมดที่เป็นทางการอะไรมากก็เลยไม่ได้ตั้งใจอ่านใบสัญญาดีๆ
เขากัดฟัน ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่คนนอก เขารับได้ เอางี้ก็ได้
แต่หลินซินเหยียนไม่อยากถูกใส่ไว้แบบนี้ตลอด ยังถูกล็อกไว้กับผู้ชายอีก 24 ชั่วโมง เธอจะกลับบ้านยังไง เอาตัวเขากลับบ้านด้วยหรอ?
ถ้าจงจิ่งห้าวรู้ ต้องโกรธแน่ๆ
เขาเป็นคนที่มีความเป็นเจ้าของหนักมาก
“ไม่ได้ พวกคุณต้องปลดล็อกให้ฉัน” หลินซินเหยียนไม่สามารถยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ 24ชั่วโมง เธอจะเข้าห้องน้ำยังไง?จะออกไปเจอคนยังไง?
คนที่ไม่รู้ต้องคิดว่าเธอทำอะไรผิดแน่นอน
ใส่อันนี้ไว้แบบนี้ เธอยอมรับไม่ได้
“ต้องขออภัยนะครับ ผมช่วยอะไรไม่ได้ ค่อยเจอกันหลังจาก 24 ชั่วโมงนะครับ” พูดจบพิธีกรก็ไปแล้ว ทิ้งหลินซินเหยียนกับหลี่จ้านและผู้จัดการส่วนตัวของหลี่จ้าน คุณไจแอ้นที่ตามหลังมา
เพราะว่าเขาอ้วนมาก หลี่จ้านก็เลยเรียกเขาแบบนั้น
สำหรับเรื่องนี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน “พวกเราประหม่าเกินไป ที่ให้โอกาสพวกเขาได้ขุดหลุมพรางไว้บนใบสัญญา”
หลินซินเหยียนรู้สึกว่าตัวเองบริสุทธิ์มาก ทำไมถึงถูกล็อกไว้นะ?
“เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว ยังดีที่เวลาไม่นานมาก ดื่มชา ดูหนังเรื่องหนึ่งเวลาก็น่าจะหมดแล้ว” คุณไจแอ้นดูออกว่าหลินซินเหยียนไม่พอใจแล้วพูด “นี่เป็นของขวัญที่แฟนคลับคนอื่นๆ อยากได้ยังไม่ได้เลยนะ คุณนี่โชคดีจริงๆ”
หลินซินเหยียนยิ้มเยาะ จริงสิ เธอโชคดีมาก
เธอยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ก็ถูกคนใส่กุญแจมือแล้ว ยังต้องใส่ 24 ชั่วโมงอีก
การที่หลินซินเหยียนต่อต้าน หลี่จ้านรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก แต่พูดอย่างจางๆ ว่า “ไปเถอะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะพูดคุย”
เพื่อไม่ให้ปาปารัสซี่หาตัวพวกเขาเจอ คุณไจแอ้นได้เตรียมรถไว้ให้พวกเขา ออกไปทางที่จอดรถใต้ดิน
หลี่จ้านนั่งอยู่ในรถมองหลินซินเหยียนไว้ “เธอไม่รู้จักฉันจริงๆ หรอ?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า บ่นในใจ พวกเขาไม่รู้จักกันจริงๆ
“คุณอ้วนเอาอุปกรณ์ของฉันมาให้ฉัน” หลี่จ้านยื่นมือไปทางคุณไจแอ้น
คุณไจแอ้นเอารถไปจอดไว้ข้างทาง เอากระเป๋าเดินทางจากหลังรถลงมาให้เขา
หลี่จ้านใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ไม่ถูกล็อกเปิดกระเป๋า เอาหวีออกมาจากข้างในแล้วหวีผมลงมาทั้งหมด ใส่แว่นทรงกลมครอบดำ
“ดูออกหรือยัง?” เขามองหลินซินเหยียนแล้วถาม
หลินซินเหยียนตะลึงจนอ้าปากค้าง นี่ นี่มัน ทำไมถึงเหมือนครูที่ACของหลินซีเฉินจังเลย?
“คุณ คุณ คุณคือครูของลูกชายฉันใช่ไหมค่ะ?” ไม่ว่ายังไงหลินซินเหยียนก็ไม่สามารถเอาสองคนที่ต่างกันฟ้ากับเหวมาเชื่อมโยงกันได้เลย
“อืม ไม่อย่างนั้นผมจะรู้จักคุณได้ยังไง?” หลี่จ้านจัดผมที่หวีลงมา
หลินซินเหยียนงงสุดๆ
นี่ไม่ใช่โลกเดียวกันเลย ไม่ใช่คนที่นิสัยเหมือนกัน จะเป็นคนเดียวกันได้ยังไงล่ะ?
“บุคลิกของคุณไม่เหมือนกันเลย แต่ที่จริงแล้ว มีแค่ภายนอกเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน” หลี่จ้านใช้น้ำเสียงของครูในการพูดกับเธอ
ครั้งนี้หลินซินเหยียนเชื่อแล้ว
เสียงนี้แหละ ทุกครั้งที่เจอหน้ากับครูคนนี้ เขาก็ใช้น้ำเสียงแบบนี้แหละ ไม่ช้าไม่เร็ว และเป็นประโยคที่มีจังหวะมาก ทำให้คนที่ฟังรู้สึกว่าเป็นคนที่มีความรู้มาก
“เสี่ยวเฉินไม่ได้บอกคุณหรอ?” หลี่จ้านถาม
ก่อนที่เขาจะกลับมาได้คุยโทรศัพท์กับหลินซีเฉิน ถึงได้บอกความลับของตัวเองให้เขา
เขาให้หลินซีเฉินไม่ต้องบอกใครคนอื่น แต่ที่จริงคืออยากจะทดสอบว่าหลินซีเฉินจะเก็บเป็นความลับได้ไหม
“ไม่นะ” หลินซินเหยียนนึกถึงคำพูดครึ่งหนึ่งที่ลูกชายพูดไว้วันนั้น ที่แท้ความลับที่เขาพูดถึงก็คืออันนี้นี่เอง
หลี่จ้านพอใจกับเด็กคนนี้มาก ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าจะไม่พูด
ตอนนี้หลินซินเหยียนตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมหลินซีเฉินถึงได้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขนาดนี้ บางครั้งก็จะทำเรื่องที่ไม่เอาถ่าน
มีครูที่ไม่เอาถ่านแบบนี้ จะมีนักเรียนที่เอาถ่านได้ยังไง?
“ความชอบของคุณคืออะไร?เป็นครู หรือว่าเป็นดารา?” หลินซินเหยียนอยากรู้มาก งานสองงานที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เขาจะชอบอันไหน
หลี่จ้านเงียบไปสักพัก “เป็นดาราเพื่อทำให้พ่อโกรธ เป็นครูเพราะความชอบ”
หลินซินเหยียน “………”
เธอหมดคำพูดกับการอธิบายนี้
เพื่อทำให้พ่อโกรธ ก็เลยไปเป็นดารา?
เหตุผลนี้………..
แต่ต้องยอมรับว่าเขามีความสามารถ ที่มีชื่อเสียงได้นี้ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
คนหล่อๆ ในวงการบันเทิงมีเยอะแยะ จะใช้แค่หน้าตาไม่ได้แน่นอน
หลี่จ้านพิงไว้ที่เก้าอี้ ท่าทางดูขี้เกียจ “ผมเดินมาถึงวันนี้ได้ เพราะว่าผมมีพี่ชายที่มีเงิน”