กวนจิ้งพูดออกไปด้วยความระมัดระวัง“ที่พวกเขามาก็เพราะต้องการจะขู่และบีบบังคับท่านแน่ๆ”
พวกเรายังจับตัวเฉินชือหานไม่ได้ ถ้าไปเจอกับพวกเขา พวกเราจะยังมีทางออกไหม?
จงจิ่งห้าวไม่ได้อธิบายอะไรออกมา ทว่ากลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ไปทำงานเถอะ”
กวนจิ้งหยุดแล้วตรงไปยังพื้นที่สำนักงานทันที เห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องนี้เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้ ดังนั้นเขาควรจะไปทำเรื่องที่ตัวจัดการได้ดีกว่า
จงจิ่งห้าวผลักประตูห้องรับแขกออก และในขณะที่เปิดออกแสงจากหน้าต่างก็สะท้อนเข้ามา เขาในชุดสูทสีดำยืนสง่าอยู่ที่หน้าประตู
เหวินชิงกับเฉินชิงกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โซฟาหนังสีดำพอได้ยินเสียงประตูเปิดจึงหันมามองพร้อมกัน เนื่องจากแสงสะท้อนมาที่จงจิ่งห้าว พวกเขาเลยมองเห็นสีหน้าเขาไม่ชัด แต่พวกเขาก็ดูออกลางๆว่าชายรูปร่างสูงกำยำผู้นี้คือจงจิ่งห้าวแน่นอน
ทั้งสองเงียบลงโดยปริยาย
จงจิ่งห้าวเดินนวยนาดเข้ามา
เหวินชิงเอ่ยพูดขึ้นก่อน“ตัดสินใจได้รึยัง?”
ที่เขาปรากฎตัวขึ้นที่นี่วันนี้นั่นก็เพราะเฉินชิงไปหาเขาและพูดว่าในเมื่อลงมือทำเรื่องนี้แล้วก็ต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด
ที่จริงเขาเป็นคนเสนอให้เฉินชือหานแต่งงานกับจงจิ่งห้าวก่อน
เฉินชิงจึงตอบตกลง ถ้าเกิดเขาพูดแล้วคืนคำ คำว่าเพื่อนก็ระหว่างทั้งสองก็จะไม่มีอีกต่อไป
อีกอย่างก็เหมือนกับที่เฉินชิงเคยพูดไว้ เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาไม่มีทางหนีไปไหนได้หรอก
เฉินชิงได้รับโทรศัพท์รายงานมาว่าจงจิ่งห้าวได้ยื่นฟ้องสื่อทั้งหมดที่เผยแพร่วิดีโอการฆาตกรรมของหลินซินเหยียนแล้ว เขาจึงไม่กล้าเข้าไปแทรกแซง เพราะกลัวว่าเหวินชิงจะระแคะระคาย ดังนั้นจึงทำได้แต่เร่งให้เหวินชิงมาคุยกับจงจิ่งห้าว
ถึงจะพูดว่าให้มาคุย แต่ที่จริงคือให้เหวินชิงมากดดันมากกว่า
จงจิ่งห้าวนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาอยู่ในท่วงท่าที่สง่างาม เขากวาดสายตามองไปที่เหวินชิงอย่างเฉยชา
เมื่อสบตาเข้ากับจงจิ่งห้าว เหวินชิงก็ตะลึงไปพักหนึ่ง สายตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก เขาเอ่ยประโยคที่ฝึกพูดมานับครั้งไม่ถ้วนออกไป“นี่ฉันทำเพื่อแกนะ แกก็รู้ว่าหล่อนกับเฉิงยู่ซิ่วสมคบคิดทำชั่วอะไรกัน?แกเป็นสามีของหล่อนแท้ๆ ถ้าหล่อนนึกถึงแกล่ะก็ หล่อนคงไม่ทำให้แกลำบากใจหรอก ใช่ไหมล่ะ?”
จงจิ่งห้าวนั่งฟังเขาพูดด้วยท่าทางนิ่งสงบ
เหวินชิงนึกว่าพูดจี้ใจเขาได้แล้วจึงพูดด้วยท่าทางจริงจังขึ้นไปอีก“หลายปีมานี้ฉันดีหรือร้ายต่อแก แกก็รู้ เลือดเนื้อเชื้อไขอีกครึ่งหนึ่งของฉันเป็นของตระกูลเหวินนะ ฉันจะทำร้ายแกลงหรอ?เฉินชือหานเด็กกว่าเสี่ยวจี้นิดเดียว แถมทั้งสาวทั้งสวย ส่วนชาติตระกูลของเธอนั้นคงไม่ต้องให้ฉันแนะนำหรอก แกก็รู้อยู่ว่าพวกแกทั้งสองฐานะเท่าเทียมเหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก……”
“หลินซินเหยียน”จู่ๆจงจิ่งห้าวก็พูดขัดเหวิงชิงขึ้น เขาโน้มตัวลงพร้อมกับเอามือวางลงบนเข่า จากนั้นก็มองลึกเข้าไปในตาเหวินชิง“หลินซินเหยียนภรรยาของผม เธอกำลังท้องอยู่ คุณรู้ไหม?”
เหวินชิงพูดไม่ออก แน่นอนว่าเขารู้
วันนั้นหัวหน้าเฉินโทรมารายงานเขาแล้ว
ตอนนั้นเขาก็ประหลาดใจอยู่หรอก เพราะนึกไม่ถึงว่าหลินซินเหยียนจะตั้งท้องในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เดิมทีเขาก็ลังเลใจ เนื่องจากหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ถึงแม้เขากับหลี่จ้านมักจะทะเลาะกันอยู่เสมอ แต่ยังไงในใจเขาก็รักลูก
เฉินชิงเป็นคนเตือนเขาว่าการตั้งท้องของหลินซินเหยียนมันบังเอิญเกินไป ทำไมเธอถึงได้ท้องในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ล่ะ?
หรือนี่จะเป็นข้ออ้างในการหลบหนีการดำเนินการทางกฎหมายของเธอ หรือว่าจะเป็นแผนสมรู้ร่วมคิดระหว่างเธอกับเฉิงยู่ซิ่วที่ทำเพื่อรั้งจงจิ่งห้าวไว้?
เนื่องจากหลินซินเหยียนกับเฉิงยู่ซิ่วสนิทกันมาก เฉินชิงคอยพูดใส่ไฟอยู่ข้างๆ นี่จึงทำให้เขาเชื่อไปถึงแปดสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ เพราะรู้สึกว่าการที่หลินซินเหยียนตั้งท้องในเวลานี้มันต้องเป็นแผนแน่ๆ
เหวินชิงเชิดคอตั้งขึ้น“ฉันรู้ แต่แกไม่คิดว่ามันบังเอิญเกินไปหรอ?พอฉันอยากให้แกแต่งงานกับเฉินชือหาน เธอกลับดันมาท้องในช่วงนี้พอดี”
เฉินชิงไม่ได้ลุกขึ้นยืนพูด เขานั่งอยู่ด้านข้างไม่พูดไม่จาอะไร ได้แต่แอบสังเกตพวกเขาอยู่เงียบๆ
จงจิ่งห้าวมองจ้องเหวินชิงอยู่นาน จากนั้นก็เอนตัวพิงโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลายและทำสีหน้าเหนือกว่า เขาเหลือบมองเฉินชิงแวบหนึ่งแล้วหัวเราะออกมา“นายก็เห็นด้วยว่างั้น”
เฉินชิงไม่อยากเป็นศัตรูกับเขาจึงยิ้มพูดขึ้น“ช่วยไม่ได้ คุณลุงของนายเป็นคนเสนอเอง”
ที่จริงเหวินชิงเป็นคนเสนอออกมาก่อนในตอนแรก
จงจิ่งห้าวได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไรออกมา ถ้าเกิดว่าเขาไม่มีแผนอยู่ในใจ เขาจะยอมโยนลูกสาวตัวเองเข้ามาเกลือกกลั้วกับเรื่องพวกนี้หรอ?
เหวินชิงกลัวว่าจงจิ่งห้าวจะรู้สึกแค้นเฉินชิงจึงพูดอธิบายขึ้น“ฉันเป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเอง เขาเห็นแก่หน้าฉันก็เลยตอบตกลงน่ะ”
จงจิ่งห้าวเงยหน้าขึ้นพิงกับโซฟาพร้อมกับใช้ลิ้นดุนเล่นกับกระพุ้งแก้ม“น้ำใจจากพวกคุณ ผมจะไม่รับไว้ได้ยังไง ใครไม่เอาก็โง่แล้วส่งมาให้ถึงที่ขนาดนี้”
สีหน้าเฉินชิงแย่ลงทันที
สีหน้าของเหวินชิงก็เปลี่ยนนิดหน่อย เห็นได้ชัดเลยว่าที่จงจิ่งห้าวพูดมันไม่น่าฟังเอาซะเลย เขาจงใจพูดแซะเป็นนัยว่าส่งเฉินชือหานมาให้ถึงหน้าบ้าน ถ้าไม่เอาก็คงเสียของ
เหวินชิงพูดเสียงขรึม“เฉินชือหานเป็นคนของตระกูลเฉินฉันเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งการเลี้ยงดูและการอบรมสั่งสอนนั้นแต่งต่างกับผู้หญิงทั่วไปโดยสิ้นเชิง……”
จงจิ่งห้าวไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ เขาทำหน้าขรึม“ผมตกลงแต่งงานกับเฉินชือหาน แต่ว่า……”
เขาทำหน้าจริงจังมากขึ้นอีกแล้วจ้องเขม็งไปที่เหวินชิง จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อและเย็นชา“ผมอยากให้เรื่องนี้มันจบลงแบบใสสะอาดราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
เหวินชิงนึกไม่ถึงเลยว่าจงจิ่งห้าวจะตอบตกลง เขาเอาแต่คิดอยู่ในใจว่าจะพูดให้จงจิ่งห้าวยอมยังไงดี แต่นี่ยังไม่ทันไรมันก็สำเร็จแล้ว เขาจึงยิ้มพูดขึ้น“ขอเพียงแค่แกกับเฉินชือหานแต่งงานกันเสร็จ ทางด้านตำรวจก็จะประกาศเองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลินซินเหยียน และแนบหลักฐานเพื่อพิสูจน์ด้วยว่าเธอไม่ได้เป็นคนฆ่า”