เฉินชิงรีบลุกขึ้นยืน ตำหนิภรรยา “ผมคุยอยู่กับเหวินชิง ใครอนุญาตให้คุณเข้ามา?”
คุณนายเฉินมองสามี “ฉันแต่งงานกับคุณมาหลายปี ขยันหมั่นเพียร ดูแลคุณทุกอย่าง คุณสั่งอะไรมา ฉันเคยพูดคำว่าไม่สักคำไหม?”
เฉินชิงพูดไม่ออก ภรรยาถือว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมจริง ดูแลบ้านดูแลลูกสาว ดูแลรับใช้เขา
“ผมกำลังพูดอยู่กับเหวินชิง คุณเข้ามาทำอะไร? คุณก็แค่หญิงสูงวัยคนหนึ่งจะรู้อะไร? วางชาลงแล้วออกไปเสีย” ครั้งนี้น้ำเสียงของเฉินชิงไม่ดังมาก อารมณ์ก็ไม่ได้เดือดดาลเหมือนเมื่อกี้ เหวินชิงอยู่ เขาตื่นเต้นมากเกินไปมีแต่จะทำให้เขาดูมีพิรุธ
เพียงแค่จ้องมองภรรยาส่งสายตาเตือน
คุณนายเฉินยืนมองสามีนิ่งๆ ในใจอดรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้ “ชีวิตนี้ของฉันแต่งงานกับคุณ ทุกอย่างก็ทำตามใจคุณเป็นหลัก แต่ว่าครั้งนี้ ฉันไม่อยากฟังคุณ”
เฉินชือหานยืนอยู่อีกข้างมองบิดาทีหนึ่งมองมารดาทีหนึ่ง “แม่จะทำอะไรคะ?”
คุณนายเฉินมองหน้าลูกสาว ดวงตาแดงขึ้นเล็กน้อย “ให้ลูกได้รู้ใจจริงของพ่อลูกไง”
เฉินชิงรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย “คุณออกไปซะ!”
หากเป็นเมื่อก่อนเมื่อเผชิญกับสามีที่กำลังโมโห เธอจะต้องรีบออกไปทันทีแน่นอน แต่ว่าเธอไม่สามารถทนดูสามีหลงทำผิดและลากลูกสาวเข้าไปเกี่ยวด้วยได้
เธอเดินเข้ามา วางถาดชาลงบนโต๊ะ เดินไปข้างหลังชั้นวางหนังสือ หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมา หนังสือชื่อว่า【หลักกลยุทธ์】
เฉินชิงจ้องเธอด้วยสีหน้าซีดเผือก เหวินชิงกับเฉินชือหานกลับรู้สึกสงสัย เธอจะหยิบอะไรออกมา สายตาจดจ้องไปที่เธอ
คุณนายเฉินอยู่ต่อหน้าสายตาของทุกคน หยิบรูปภาพรูปหนึ่งออกมาจากในหนังสือ
รูปนี้เฉินชือหานไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็นึกไม่ออกว่าเด็กผู้หญิงในรูปคือใคร แต่เหวินชิงกลับรู้จักเป็นอย่างดี นั่นคือรูปน้องสาวของเขาเหวินเสียน
เขาเดินเข้าไป หยิบรูปออกจากมือของคุณนายเฉิน ในรูปเป็นตอนที่เหวินเสียนอายุ15ปี สวมชุดเดรสสีขาว ปล่อยผม ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวน ใบหน้าของเธอยังไม่โตเต็มวัย แต่ก็เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามประณีต โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น เป็นประกายสดใสชัดเจนราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ทำให้ผู้พบเห็นเพียงพริบตาก็ยากที่จะลืมเลือน
พอแสงแดดส่อง เหวินชิงก็พบว่าด้านหลังรูปมีตัวอักษรอยู่ เขาพลิกไปดู บนนั้นเขียนชื่อของเหวินเสียนเอาไว้ และยังเขียนวันที่เอาไว้ด้วย
วันที่ก็คือปีนั้นที่เขาเข้าเป็นทหาร
เขาหันหน้าไปมองเฉินชิง “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เฉินชิงหันหน้าหนี ไม่มองใคร
คุณนายเฉินอยากจะยิ้มออกมา แต่ว่าก็ฉีกยิ้มไม่ออกจริงๆ แม้แต่ร่างกายก็แข็งทื่อไปด้วย “ฉันรู้มาตลอดว่าเขามีคนอยู่ในใจ ฉันก็ไม่อยากจะซักไซ้เอาความ แต่ว่าตอนนี้เขาบ้าไปแล้ว!”
ตอนแรกเธอไม่รู้ว่าเฉินชิงมีคนในใจแล้ว เขาเป็นสามีที่เย็นชามาโดยตลอด เสร็จธุระเรื่องสามีภรรยากับเธอแล้ว ก็จะขังตัวเองอยู่ในห้องหนังสือ
ตอนแรกๆเธอคิดว่าเฉินชิงก็เป็นคนนิสัยแบบนี้ ต่อมาก็ค่อยๆยอมรับเขาได้ มาพบว่าเขาซ่อนรูปเด็กผู้หญิงไว้ก็ตอนพึ่งคลอดเฉินชือหานได้ไม่นาน มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอเข้ามาหาของในห้องหนังสือ ไม่ทันระวังทำหนังสือเล่มนี้ตกลงมา ด้านในมีรูปรูปหนึ่งหลุดออกมา
ตอนนั้นเธออยากจะถามเฉินชิงมากว่าทำไมถึงเก็บรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไว้ แต่ก็คิดๆดูแล้วเราสองคนก็มีลูกด้วยกันแล้ว อีกอย่างเด็กผู้หญิงในรูปก็ดูอายุไม่มาก เธอก็เลยปลอบใจตัวเองว่าคิดมากไป
ต่อมาเฉินชิงเมื่อเสร็จธุระเรื่องสามีภรรยากับเธอก็ยังคงเข้าไปนั่งสักพักในห้องหนังสือเหมือนเดิม ดังนั้นเธอเลยตั้งใจไม่เคาะประตูแล้วก็ผลักประตูออก พบว่าเขากำลังดูรูปใบนั้นอยู่
ตอนนั้นเธอเสียใจมากอยากจะถามให้รู้เรื่อง แต่สุดท้ายเธอก็ยอมถอย เธอห่วงลูก และยังมีความรู้สึกต่อเฉินชิงอีกด้วย
“คุณลงทุนลงแรง ไม่ใช่เพราะอยากให้ชือหานแต่งงานกับลูกชายของผู้หญิงที่คุณแอบรักมาหลายปีรึไง?”
คุณนายเฉินเอามือปิดปาก ความอดทนตลอดไม่กี่ปีมานี้ ระเบิดออกในตอนนี้ ความทุกข์ในใจเธอ ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน
และก็พูดไม่ออกด้วย
ว่าสามีมีคนอื่นอยู่ในใจ? ทำเรื่องสามีภรรยากับเธอ ตอนเกิดอารมณ์จะเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนหนึ่ง?
เธอจะขายหน้าไม่ได้
เฉินชือหานตกใจจนเบิกตากว้าง “พ่อ ที่แม่พูดเป็นความจริงงั้นหรอ?”
เฉินชิงตัวแข็งทื่อ ตัวสั่นเล็กน้อยรางๆ
“พ่อ พูดออกมาสิ?!” เฉินชือหานรับเรื่องแบบนี้ไม่ไหว ปากเขาก็พูดว่าเพื่อครอบครัว
ที่แท้ก็แค่ความรู้สึกส่วนตัวของเขา
เหวินชิงยืนมือไขว้หลัง เขามองเฉินชิง “ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านี่มันเรื่องอะไร”
“ยังจำปีนั้นที่เราเข้าเป็นทหาร แล้วฉันไปบ้านคุณได้ไหม” เฉินชิงไม่ได้หันหน้ามา น้ำเสียงกดดันเล็กน้อย
“แน่นอน” วันนั้นเขาไม่มีวันลืม
“ฉันยืนรอคุณอยู่ในห้องรับแขก…”
วันนั้นอากาศดีมาก แสงแดดต้นฤดูร้อนสว่างจ้าแต่กลับไม่ร้อนแผดเผา ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบาย
เขาใส่เสื้อยืดแขนยาวบางๆ ยืนอยู่ในห้องรับแขก จู่ๆก็มีคนเข้ามาแนบชิดจากด้านหลัง ปิดตาของเขา น้ำเสียงนุ่มนวลและอ่อนหวานมาก “ทายซิว่าใครเอ่ย?”
เด็กสาวประชิดที่ข้างหูของเขา ไอร้อนเวลาพูดโปรยปรายลงบนผิวหนังหลังใบหูของเขา ทำให้รู้สึกชาๆจั๊กจี้ เขาถึงขนาดสามารถได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของเด็กสาว
เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเขาเป็นเด็กผู้หญิง ใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
“เหวินเสียนเธอทำอะไรน่ะ?” เหวินชิงเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าบางๆ ลงมา เห็นเหวินเสียนจับเฉินชิงไว้ เลยถามขึ้นอย่างไม่รู้อะไร
เหวินเสียนมองดูพี่ชายที่ยืนอยู่บนบันได ร่างกายแข็งทื่อเล็กน้อย จากนั้นก็รีบปล่อยคนที่ตนเองจับเอาไว้ออก
เธอนึกว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นเหวินชิง วันนี้เหวินชิงเข้าเป็นทหาร เธอเลยตั้งใจลาโรงเรียนเพื่อกลับมาส่งเขา
เดิมทีคิดจะแกล้งเขาเล่นสักหน่อย คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะจับผิดคน
เธอจับผมตัวเอง “ฉันคิดว่าคุณเป็นพี่ชายของฉัน ขอโทษนะคะ”
ตอนนั้นเหวินเสียนรู้สึกอายมาก ใบหน้าเล็กๆค่อยๆแดงขึ้นมา
เฉินชิงเจอเธอเป็นครั้งแรก เธอมัดผมหางม้า เผยให้เห็นใบหน้าเล็กๆที่ขาวเนียนประณีต
เหวินชิงเดินลงมา “เขาชื่อว่าเฉินชิง เข้าเป็นทหารพร้อมพี่ พี่หล่อกว่าเขาตั้งเยอะ ยังจะจำผิดอีก”
เหวินเสียนมองบน “คนหลงตัวเอง”
อีกอย่างหนึ่ง เธอเห็นเพียงแค่ด้านหลัง ส่วนสูงก็ไม่ต่างกันมาก ในบ้านก็ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย
“เราจะไปกินปิ้งย่างกัน เธอไปไหม?” หลังจากเข้าเป็นทหารคงไม่มีโอกาสแล้ว ทั้งสองคนเลยนัดกันไว้เรียบร้อยว่าจะไปสนุกกันหน่อย
“ไปสิ ทำไมจะไม่ไปล่ะ? ฉันลากลับมาเรียบร้อยแล้วนะ” เหวินเสียนพูด
“งั้นไปกัน” เหวินชิงหยิบกุญแจรถแล้วขับรถของเหวินจิ่น
นั่งลงบนรถ เฉินชิงมองไปทางด้านหลังแวบหนึ่ง “เหวินชิง ยังไง กลัวฉันจะทำน้องสาวคุณเสียคน หรือว่ายังไง ไม่แนะนำกันสักหน่อยรึไง?”
เหวินชิงเหล่ตามองเขา “เมื่อกี้ก็รู้จักแล้วไม่ใช่หรือไง? น้องสาวฉันเหวินเสียน”
เหวินเสียนยิ้ม “ต่อไปอยู่กับพี่ชายของฉัน ต้องดูแลเขาด้วยนะ”
“ฉันต้องการคนดูแล?” เหวินชิงไม่เห็นด้วยกับน้องสาว แบบนี้มันดูถูกเขานี่นา
“พี่อ่ะชอบคิดเอาเอง ถ้าหากไปก่อเรื่องขึ้น จะทำยังไง? ฉันก็ไม่อยู่ข้างพี่ด้วย ใครจะไปขอร้องคุณพ่อแทนพี่กัน?”
เหวินจิ่นรักและเอ็นดูเหวินเสียนมาก ทุกครั้งที่เหวินชิงก่อเรื่องก็จะเป็นเหวินเสียนที่ออกหน้าขอร้องเหวินจิ่น
เหวินชิง “…”
เฉินชิงยิ้ม หันหน้าไปมองเหวินเสียน “วางใจได้ ฉันจะดูแลเขาแทนเธอเอง”