ครั้งนี้เสิ่นเผยชวนไม่ได้ตอบเธอออกมาทันที แต่กลับจ้องเธอเขม็ง
ดูเหมือนว่าเธอจงใจถามเรื่องนี้
แต่ว่าเธอก็รู้อยู่แล้วนี่นา ทำไมถึงถามขึ้นมาล่ะ?
เมื่อไม่ได้ยินเสียงเสิ่นเผยชวน หลินซินเหยียนจึงเงยหน้าขึ้นช้าๆ พอเห็นว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่เธอด้วยความสงสัย เธอก็รู้สึกใจหายวาบขึ้นมาทันที ทว่าเธอก็พยายามแสร้งทำเป็นนิ่งออกไป“ทำไมมองฉันอย่างนั้นล่ะ?”
“ไม่มีอะไร”เสิ่นเผยชวนส่ายหัวไปมา เพราะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบพากล แต่พอคิดดูดีๆอีกทีมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกตรงไหน ที่เธออยากรู้ขนาดนี้อาจเป็นเพราะกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าของเรื่องนี้ ยังไงเฉิงยู่ซิ่วก็ตายเพราะช่วยเธอ ฉะนั้นเธอจะสนใจเป็นพิเศษมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เขาส่ายหัวออกไปด้วยความจริงใจ“จงฉีเฟิงไม่ได้บอกว่าเหวินเสียนมีลูก”
ที่จริงจงฉีเฟิงรู้เรื่องที่เหวินเสียนมีลูกแล้ว ทว่าตอนนั้นสภาพจิตใจของเฉิงยู่ซิ่วกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ดังนั้นเขาเลยไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเฉิงยู่ซิ่ว แต่เขารู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเหวินเสียนมีลูก แถมยังรู้ด้วยว่าลูกของหล่อนก็คือหลินซินเหยียน เพียงแต่เขาไม่พูดเท่านั้นเอง
เพราะยังไงหลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าวก็แต่งงานกันแล้ว แถมยังมีลูกด้วยกันอีกสองคน ฉะนั้นจะพูดให้พวกเขาแตกหักกันได้ยังไง?
ความคับข้องใจของพวกผู้ใหญ่ในอดีตต่างก็สะสางไปหมดแล้ว เขาไม่อยากให้เด็กพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้องอีก
เขาดูออกว่าความสัมพันธ์ของจงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนนั้นดีมากแค่ไหน เพราะงั้นก็เลยจงใจไม่พูดออกไป
เขาหวังว่าทั้งสองจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนเฒ่าจนแก่
เสิ่นเผยชวนมองไปที่เธอพลางเอ่ยถามขึ้น“เหวินเสียนมีลูกด้วยหรอ?”
หลินซินเหยียนที่กำลังตักซุปชะงักไปทันที ทว่าแป๊บเดียวก็กลับมามาสู่ท่วงท่าปกติ แถมยังส่ายหน้าพูดขึ้น“ไม่รู้สิ ฉันแค่ถามเฉยๆ”
เสิ่นเผยชวนพยักหน้ารับโดยไม่สงสัยอะไรอีก
หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เสิ่นเผยชวนกับซูจ้านก็กลับไป หลินซินเหยียนกำลังจะไปอาบน้ำให้เด็กทั้งสองคน ทว่ากลับถูกป้าหยูเรียกไว้ก่อน“เดี๋ยวป้าล้างถ้วยชามเสร็จจะไปอาบให้พวกเขาเองค่ะ ในห้องน้ำมีน้ำป้ากลัวว่าคุณหนูจะลื่นเอา”
“ไม่เป็นไร……”
“ผมอาบให้เอง”จงจิ่งห้าวเดินออกมาจากห้องหนังสือแล้วพูดขัดหลินซินเหยียน เขาอุ้มลูกสาวขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
เมื่อเห็นพวกเขาเข้าห้องไป หลินซีเฉินก็เดินมาดึงชายเสื้อของหลินซินเหยียน“หม่ามี๊ดูแลคุณพ่อให้ดีๆนะครับ”
เธอขมวดคิ้วขึ้นพลางก้มมองลูกชาย
นี่เธอดูแลเขาไม่ดีหรอ?
“ถึงแม้ก่อนหน้านี้ผมจะเห็นว่าคุณพ่อไม่ค่อยชอบคุณย่า แต่ตอนนี้คุณย่าไม่อยู่แล้ว ผมรู้ว่าคุณพ่อเสียใจมาก”หลินซีเฉินก็รับรู้ได้ถึงความหดหุ่ในใจของจงจิ่งห้าว
หลินซินเหยียนกอดลูกชายไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆ“หม่ามี๊จะดูแลเขาเป็นอย่างดี”
เธออยากจะรักษาบาดแผลในใจของเขาให้กลับมาดีเหมือนเดิม ทว่าเครื่องกระเบื้องเคลือบที่แตกไปแล้ว ไม่ว่าจะซ่อมยังไงมันก็ยังคงมีรอยแตกอยู่ดี และมันก็ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรอก
หลินซีเฉินยื่นมือออกมาลูบที่ท้องของเธอ ทารกตัวน้อยในท้องของเธอเริ่มดิ้นไปมาเล็กน้อย เขาตั้งตารอแล้วว่าเขาจะมีน้องสาวหรือน้องชายเพิ่ม
ทว่าตอนนี้เขามีน้องสาวแล้ว ก็เลยหวังว่าจะได้น้องชายมาเล่นเป็นเพื่อนเขา
“นี่ต้องเป็นน้องชายแน่ๆ” หลินซีเฉินสาบานได้เลย
หลินซินเหยียนเลิกคิ้วขึ้น“ลูกรู้ได้ยังไง?”
ตอนนี้พึ่งท้องได้ไม่กี่เดือนเอง ขนาดไปทำอัลตราซาวด์ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย อย่างน้อยต้องสามเดือนขึ้นไปนู่นถึงจะตรวจเพศได้
เขาเอาความมั่นใจนี้มาจากไหนกัน?
“ความรู้สึก ผมรู้สึกว่าเขาต้องเป็นน้องชายของผม”
หลินซินเหยียนบีบแก้มเขาเบาๆ“ไปอาบน้ำ เข้านอนได้แล้ว”
หลินซีเฉินยิ้มร่าพร้อมกับลูบท้องของหลินซินเหยียนไปมาผ่านเสื้อผ้าของเธอ จากนั้นก็พูดกับทารกน้อยในท้อง“อย่าดื้อนะ เดี๋ยวพอนายคลอดออกมา พี่ชายคนนี้จะเล่นกับนายเอง”
พูดจบเขาก็วิ่งเข้าไปในห้อง
หลินซินเหยียนมองที่ลูกชายแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็ยกมือขึ้นมานวดขมับ ป้าหยูที่พึ่งเก็บกวาดครัวเสร็จเดินออกมาเห็นหลินซินเหยียนที่ดูท่าทางเหนื่อยล้าพอดีจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง“ไม่สบายตรงไหนรึเปล่าคะ?”
“อา”เธอเงยหน้ามองป้าหยู“ไม่ค่ะ อาจจะแค่เหนื่อยนิดหน่อย เดี๋ยวหนูขึ้นไปข้างบนก่อนแล้วกัน”
เธอเดินขึ้นชั้นบนพร้อมกับจับราวบันไดไปอย่างช้าๆ เดิมแค่อยากจะนอนบนเตียงแป๊บเดียว แต่ใครจะรู้แค่หัวถึงหมอนเธอก็หลับสนิทเลย
พอจงจิ่งห้าวอาบน้ำให้เด็กทั้งสองเสร็จก็เดินขึ้นมาชั้นบน แต่พอเปิดประตูออกกลับไม่เห็นไฟเปิดอยู่ซักดวง ผ้าม่านก็ไม่ปิด แสงพระจันทร์จากข้างนอกสาดส่องเข้ามาจนเกิดเป็นภาพสลัวๆ เขามองเห็นผู้หญิงนอนขดตัวอยู่บนเตียง เขาจึงปิดประตูลงเบาๆแล้วเดินเข้ามาที่เตียง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปแตะที่หน้าผากของเธอ ตัวเธอร้อนนิดหน่อย เขาจึงเอาผ้าขนหนูไปแช่น้ำแล้วเอามาวางไว้ที่หน้าผากของเธอ
ทันทีที่ผิวของเธอถูกของเย็นสัมผัส เธอก็ตกใจสะดุ้งขึ้นมาทันที เขารีบเอาผ้าขนหนูออก“มันเย็นเกินไปหรอ?”
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เสียงที่แหบแห้งแต่นุ่มนวลเพราะพึ่งตื่นดังขึ้น“อืม เย็น”
“ตัวคุณร้อนนิดหน่อยจำเป็นต้องประคบเย็นสักครู่หนึ่ง”
หลินซินเหยียนเอามือจับที่หน้าผากของตัวเองดู มันร้อนจริงๆด้วย จากนั้นก็ลดมือลง“ฉันตื่นแล้ว ไม่รู้สึกว่ามันเย็นแล้วล่ะ”
จงจิ่งห้าวเอาผ้าขนหนูไปวางไว้ที่หน้าผากของเธออีกครั้ง ตอนที่เอาผ้าขนหนูไปแช่น้ำเย็นมือของเขาได้จุ่มลงไปในน้ำด้วย เพราะฉะนั้นมือของเขาจึงเย็นมาก เดิมอยากจะสัมผัสใบหน้าของเธอ แต่ก็กลัวว่าเธอจะรู้สึกเย็น เขาจึงเปลี่ยนมากระชับผ้าห่มให้เธอแทนพร้อมกับพับปลายผ้าห่มนิดหน่อย“ง่วงก็นอนเถอะ ผมจะอยู่ดูแลคุณเอง”
หลินซินเหยียนรู้สึกง่วงมากจริงๆจึงหลับตาลง
เธอไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน เพียงแต่รู้สึกลางๆว่ามีคนกอดเธอไว้พร้อมกับมีฝ่ามืออันหนาเตอะลูบไปมาเบาๆที่หน้าท้องของเธอ เธอขยับเปลี่ยนท่าเพื่อจะได้นอนสบายๆในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็หลับต่อ
บางทีอาจเป็นเพราะการที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขามันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
วันรุ่งขึ้น เมื่อหลินซินเหยียนตื่นก็เห็นว่าจงจิ่งห้าวยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่หน้าต่าง เหมือนกับว่ากำลังสั่งงานที่บริษัทให้กวงจิ้งจัดการ เธอขยี้ตาเบาๆพลางบิดขี้เกียจแล้วหันหน้านอนตะแคงเอาหน้าครึ่งหนึ่งซุกหมอนไว้พร้อมกับมองดูเขากำลังคุยโทรศัพท์
ซักพักเขาก็กดวางสาย ทันทีที่เขากดวางสายหลินซินเหยียนก็เอ่ยถามขึ้น“วันนี้ไม่ออกไปทำงานหรอ?”
เขาหันกลับมาหาเธอที่พึ่งตื่น จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์ลงแล้วเดินเข้ามา เขาประคองใบหน้าเธอไว้แล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้“วันนี้ผมจะอยู่กับคุณ”
เธอหรี่ตามองเหมือนกับแมว ร่างบางที่ที่มีกลิ่นหอมอันน่าดึงดูดโน้มตัวเข้าไปใกล้หน้าอกของเขา จากนั้นเธอก็กอดคอเขาไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆอย่างอ่อนโยน“ไม่ว่าฉันจะขออะไร คุณจะทำตามใจฉันหมดเลยใช่ไหม?”
เขาจ้องมาที่เธอพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความเอ็นดู“ครับ ผมจะทำตามที่คุณขอทั้งหมดเลย”
เธอคลี่ยิ้มออกมา ริมฝีปากบางสีชมพูดฉีกยิ้มกว้าง“ถ้างั้นพวกเราไปเปลี่ยนชื่อให้เด็กๆก่อน จากนั้นก็ไปดูหนังสักเรื่อง แล้วคุณก็ซื้อดอกกุหลาบให้ฉันช่อหนึ่งพร้อมกับพาฉันไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดโรแมนติก”
เขาตอบตกลง
หลินซินเหยียนทำท่าอ้อนเขา“คุณอุ้มฉันหน่อยสิ”
เขาเลิกผ้าห่มออก แล้วสอดมือไปที่ใต้เอวของเธอเพื่อประคองเอวที่เรียวบาง จากนั้นก็อุ้มเธอลุกออกจากเตียงไปที่ห้องน้ำ
หัวของหลินซินเหยียนอิงอยู่บนไหล่ของเขา เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย“เมื่อวานฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย คุณช่วยอาบให้ฉันได้ไหม?ฉันอยากให้ตัวฉันหอมๆ อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ ฉันอยากจะเป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับคุณ อย่างน้อยก็มีรูปลักษณ์ที่ดูดีและเหมาะสมกับคุณก็ได้”
เขาก้มมองเธอ“เอาสิ”
เมื่อถึงห้องน้ำจงจิ่งห้าวก็วางเธอลง จากนั้นก็เข้าไปเตรียมน้ำอุ่นในห้องอาบน้ำ หลินซินเหยียนยืนอยู่ข้างหลังประตูกระจก เธอสามารถมองเห็นแผ่นหลังของเขาได้เต็มแผ่น เขาเป็นคนผอมแต่ไหล่กว้าง เอวของเขาค่อนข้างเล็กไม่มีไขมัน ซึ่งมันรับกับเส้นสะโพกของเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้แผ่นหลังของเขาดูตรงและแข็งแรงมาก
จู่ๆก็มีของเหลวอุ่นๆไหลผ่านหน้าลงมา น้ำตาไหลเริ่มไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันไหลออกมาแบบไม่มีสัญญาณอะไรเลย
เธออยากอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต
มีลูกกับเขาเยอะๆ แล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเรียบง่าย
ไม่น่าเชื่อว่าการได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมดาจะกลายเป็นสิ่งที่เธอปรารถนามากที่สุดแต่ก็เอื้อมไม่ถึง
ทันทีที่จงจิ่งห้าวหันมา เธอก็รีบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็วแล้วเอนตัวพิงที่อ่างล้างมือพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองช้าๆ เบาๆราวกับว่ากำลังยั่วยวนและดึงดูดอะไรบางอย่าง เธอยิ้มให้เขาอย่างมีเลศนัย“คุณถอดเสื้อผ้าให้ฉันหน่อยสิ ฉันอยากให้คุณปรนนิบัติฉัน”