หลินซินเหยียนขมวดคิ้วขึ้น เขาจะรับสายไป๋จวู่เวยแล้วจะรั้งเธอไว้ทำไม?หรือว่าอยากจะให้เธอเป็นพยานความรักของพวกเขา?
เธอแอบคิดเงียบๆอยู่ในใจพลางทำท่าขัดขืน ทว่ายิ่งเธอขัดขืนมากเท่าไหร่จงจิ่งห้าวก็ยิ่งกอดเธอแน่นมากขึ้นเท่านั้น เขาพูดออกมาเสียงขรึม “อย่าดิ้น”
หลินซินเหยียนที่กำลังพยายามจะขัดขืนต่อกลับถูกจงจิ่งห้าวโน้มตัวเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเพื่อเป็นการเตือน “อยู่นิ่งๆ ผมขอรับโทรศัพท์แปบนึง?”
หลินซินเหยียนไม่กล้าขัดขืน เธอนิ่งลงเพราะเสียงอันสุขุมของเขา
จงจิ่งห้าวยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังพอใจที่หลินซินเหยียนไม่ทำท่าขัดขืน นิ้วหัวแม่มือของเขาเสียดสีไปมากับเนื้อผ้าบางตรงบริเวณเอวของเธอ
ทันทีที่กดรับสาย ชายคนหนึ่งก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรีบร้อน “ประธานจงครับ คุณไป๋ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลครับ”
อะไรนะ?
ไป๋จวู่เวยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์งั้นหรอ?
เนื่องจากอยู่ใกล้มาก หลินซินเหยียนจึงได้ยินทั้งหมด
เธอหันหน้ามองจงจิ่งห้าว ในขณะเดียวกันเขาก็หันมามองเธอด้วยความรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์นี้ “เกิดเรื่องขึ้นเมื่อไหร่?”
“หนึ่งชั่วโมงก่อนครับ”
จงจิ่งห้าวผละจากหลินซินเหยียน แล้วลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมไป แต่พอเดินออกไปได้สองสามเก้าก็นึกขึ้นได้ว่า หลินซินเหยียนยังอยู่ เขามองไปที่เธอ “ผมไปดูแปบนึงนะ”
หลินซินเหยียนก็กำลังมองไปที่เขาเหมือนกัน “ไปเถอะค่ะ”
นั่นคือแฟนของเขา คือผู้หญิงที่เขาชอบ อีกทั้งตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย เขาไปน่ะถูกแล้ว
เขาเม้นริมฝีปากลง ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูดออกมา จากนั้นก็สวมเสื้อคลุมแล้วรีบจ้ำอ้าวออกไปพลางโทรศัพท์ไปด้วย “จองตั๋วไปประเทศAโดยเร็วที่สุดให้ฉัน”
หลินซินเหยียนมองแผ่นหลังของเขาที่ค่อยๆหายลับไปจากประตู จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
นี่ก็คงกลับมาอีหรอบเดิบสินะ เธอก็คือเธอ ส่วน‘พวกเขา’ก็คือ‘พวกเขา’
เธอเป็นส่วนที่เกินออกมา ส่วนพวกเขาเป็นคนรักกันแต่กลับถูกเธอทำลายลง
“คุณผู้ชายรีบไปไหนหรอคะ?”ป้าหยูเดินเข้ามาถาม
น้อยครั้งที่จะได้กลับบ้านเร็ว ทั้งสองควรอยู่สานสัมพันธ์กันให้นานกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?งานยุ่งขนาดนั้นเลยเชียว?
ป้าหยูไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
แถมยังไม่พอใจมากๆด้วย
เงินที่มีอยู่ยังไม่มากพออีกหรอ?
หรือว่าเรื่องคู่ชีวิตมันยังไม่สำคัญพอ?
หลินซินเหยียนเม้มปากแน่นแล้วหัวเราะออกมา“คุณไป๋ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะ เขาก็เลยไปดู”
ป้าหยูสีหน้าเปลี่ยนทันที พึ่งจะสงบลงได้ไม่กี่วัน ผู้หญิงคนนี้ก็ออกมาทำมารยาอีกแล้วหรอ?
“หล่อนประสบอุบัติเหตุก็ต้องไปหาหมอสิถึงจะถูก คุณผู้ชายไม่ใช่หมอสักหน่อย จะรักษาหล่อนได้ยังไง? ”ป้าหยูรู้สึกไม่พอใจมาก บนหน้านี่แทบจะมีคำว่าไม่พอใจติดอยู่เลย
หลินซินเหยียนเดินเข้าไปหยิบใบไม้ที่ติดอยู่บนบ่าของเธอออก แล้วมองดูคนงานที่กำลังตัดแต่งกิ่งต้นไม้อยู่ไกลๆ “ป้าหยูดูไม่ออกหรอว่าฉันน่ะเป็นส่วนที่เกินออกมา?พวกเขาต่างหากที่เป็นคนรักกัน”
คุณผู้ชายกับยัยเมียน้อยนั่นรักกัน
ป้าหยูรู้สึกไม่พอใจเอามากๆ พูดว่าสามีของตัวเองไปรักคนอื่นได้ยังไง นี่เธอบ้าไปแล้วหรอ?
“คุณหนูเป็นภรรยาที่คุณนายเลือกให้เขา เป็นคนที่พ่อกับแม่หมั้นหมายไว้ หล่อนต่างหากเป็นส่วนเกิน? ”ป้าหยูเบิกตาโพลงใส่หลินซินเหยียนด้วยความโมโห “เขาจะ ไปคุณหนูก็ปล่อยเขาไปง่ายๆเลยหรอ ทำไมไม่รั้งไว้หน่อยล่ะคะ?”
หลินซินเหยียนได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นอยู่ในใจ เธอยื่นมือไปโอบจับหญิงชราที่น่ารักคนนี้ไว้ หลินซินเหยียนรู้ว่าว่าหล่อนหวังดีกับเธอ หล่อนอยากให้เธอกับจงจิ่งห้าวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
แต่ทว่าหล่อนไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจงจิ่งห้าว
“ป้าหยู ป้าดีกับหนูขนาดนี้ ถ้าหนูไม่อยากไปไหนแล้วจะทำไงดี?”
ป้าหยูเงยหน้ามองหลินซินเหยียน“คุณหนูจะไปไหนคะ?”
โบราณกล่าวไว้ว่าหลังจากที่ผู้หญิงแต่งงานแล้วไม่ว่าสามีจะดีหรือร้าย ผู้หญิงก็จะต้องอยู่กับเขา เธอแต่งกับจงจิ่งห้าวก็ถือเป็นคนของตระกูลจง แล้วเธอจะไปไหนล่ะ?
ในสายตาของป้าหยู ลูกสะใภ้ที่คุณนายเลือกถึงจะถือว่าเป็นภรรยาที่แท้จริงของจงจิ่งห้าว คนอื่นๆเธอไม่นับหรอก
เหลืออีกสิบวันก็จะครบรอบวันแต่งงานหนึ่งเดือนของเธอกับจงจิ่งห้าวแล้ว ถึงตอนนั้นเธอก็คงจะต้องไปแล้ว
หลินซินเหยียนเกาะป้าหยูไว้ “หนูอยากออกไปเดินข้างนอก”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าไปเป็นเพื่อนเอง” ป้าหยูคุ้นเคยกับที่นี่ ดีซะอีกจะได้ถือโอกาสนี้คุยกับเธอไปด้วย
หลินซินเหยียนทานข้าวเย็นเสร็จก็ขึ้นไปนอนที่ห้อง แต่ทว่ากลับนอนไม่หลับเธอนอนพลิกตัวไปมาอยู่สักพักจนดึก จากนั้นก็ค่อยๆผล็อยหลับไปในที่สุด
ณ ประเทศA
ทันทีที่จงจิ่งห้าวลงเครื่อง เฉินห้าวลูกน้องที่ตามไป๋จวู่เวยก็ได้ยืนรออยู่ที่ประตูทางออกสนามบินแล้ว เมื่อเห็นจงจิ่งห้าวเดินออกมาจึงรีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไป
“ประธานจงครับ”
“เธออาการเป็นยังไงบ้าง?” จงจิ่งห้าวเดินไปด้วยถามไปด้วย
“พ้นขีดอันตรายแล้วครับ ตอนนี้พักอยู่ในห้องพักฟื้น แต่ว่า——”เฉินห้าวหยุดไปครู่หนึ่ง ทำท่าอึกอักเหมือนไม่รู้จะพูดยังไงดี
จงจิ่งห้าวพูดอย่างเย็นชา“มีอะไรก็พูดมาตรงๆเลิกอ้ำอึ้งได้แล้ว”
เฉินห้าวเงยหน้ามองจงจิ่งห้าวแวบหนึ่ง จากนั้นก็รีบหลบสายตา “คุณไป๋แท้งแล้วครับ——”
จงจิ่งห้าวหยุดกึกพร้อมกับหรี่ตาลง “นายว่าอะไรนะ?”
เขาแผ่อำนาจความน่าเกรงขามออกมา มันอึดอันจนแทบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
เฉินห้าวกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง “คุณ คุณไป๋แท้งแล้วครับ คุณหมอบอกว่าเธอท้องได้เกือบสามเดือนแล้ว แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เธอเลยแท้ง”
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางอกจงจิ่งห้าว
เขากำมัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ไม่รู้ว่าโกรธอะไร
เขาสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เฉินห้าวต้องวิ่งตามถึงจะทัน
หลังจากที่ขึ้นรถไป เฉินห้าวก็ขับรถไปอย่างเงียบๆ เงียบซะจนแม้แต่หายใจยังไม่กล้าหายใจแรงเลย เพราะกลัวว่ามันจะทำให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังโมโห
ไม่นานรถก็หยุดลงที่หน้าโรงพยาบาล
เมื่อรถหยุดเฉินห้าวก็รีบวิ่งไปที่ประตูหลังแล้วยื่นมือไปเปิดประตู ทว่าจงจิ่งห้าวกลับเปิดประตูรถออกมาก่อนแล้ว เขาเลยรีบถอยมาอยู่ด้านข้าง
จงจิ่งห้าวก้าวลงจากรถพร้อมกับก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ เวลานี้ที่นี่เป็นช่วงกลางวัน แต่ที่จีนเป็นเวลาดึกแล้ว
เขาละสายตาออกแล้วหันไปหาเฉินห้าว “นำไปสิ”
เฉินห้าวรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อนำทางทันที “ทางนี้ครับประธานจง”
เดินผ่านระเบียงนี้ไปก็เป็นห้องที่ไป๋จวู่เวยพักฟื้นอยู่ “คุณไป๋อยู่ข้างในครับ”
จงจิ่งห้าวยืนนิ่งอยู่หน้าห้องสักพักถึงได้เปิดประตูเข้าไป
กลิ่นยาฆ่าเชื้อจางๆลอยอบอวลอยู่ในห้อง ไป๋จวู่เวยนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าที่อ่อนโรยรา แต่เมื่อเห็นจงจิ่งห้าวเธอจึงพยายามลุกขึ้นนั่ง “อะห้าว คุณ คุณมาได้ยังไง?”
จงจิ่งห้าวรีบเดินเข้าไปพยุงเธอ“คุณยังไม่หายดี อย่าพึ่งขยับ”
ไป๋จวู่เวยซบลงในอกเขา“คุณรู้ได้ไงว่าฉันได้รับบาดเจ็บ?”
เฉินห้าวที่ยืนอยู่หน้าประตูก้มหน้าลง ดูเหมือนว่าไป๋จวู่เวยจะรู้แล้ว เธอชี้ไปที่เฉินห้าว “นายเองหรอที่ไปบอกอะห้าว?”
“คุณหมอบอกว่าคุณอยู่ในอันตราย ผม ผมก็เลยถือวิสาสะโทรไปแจ้งประธานจง——”
“ใครใช้ให้นายมายุ่งมิทราบ?!”ไป๋จวู่เวยหยิบหมอนขึ้นมาแล้วเขวี้ยงไปที่เขาด้วยความโมโห
“เฉินห้าวนายออกไปก่อน”จงจิ่งห้าวกอดไป๋จวู่เวยที่กำลังอารมณ์เดือดดาลไว้ แล้วลูบหลังปลอบเธออย่างอ่อนโยน “ทำไมถึงปิดบังผม?”
จงจิ่งห้าวรู้สึกสับสนมาก
ไป๋จวู่เวยมุดหน้าลง น้ำตาเริ่มไหลลงมาทีละเม็ด “ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ?ตอนที่ฉันรู้ตัวฉันก็ท้องได้สองเดือนแล้ว แล้วตอนนั้นคุณก็แต่งงานกับคุณหลินไปแล้วด้วย ตอนแรกฉันคิดว่าจะรอให้คุณกับคุณหลินจบความสัมพันธ์กันก่อน แล้วฉันค่อยเซอร์ไพรส์คุณเรื่องนี้ แต่ไม่นึกเลย——”
ไป๋จวู่เวยพูดไปพลางร้องห่มร้องไห้ไป เธอกอดจงจิ่งห้าวไว้แน่น “อะห้าว ลูกเราไม่อยู่แล้ว”
เธอร้องไห้ปานจะขาดใจตาย “อะห้าว ฉันผิดเอง ฉันขอโทษที่รักษาลูกของเราไว้ไม่ได้——”
จงจิ่งห้าวสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขารู้สึกพูดไม่ออกอธิบายไม่ถูกว่าความรู้สึกตอนนี้คืออะไร
พอรู้ว่าตัวเองเคยมีลูก เขาก็รู้สึกสะเทือนใจ
ผู้ชายทุกคนล้วนปรารถนาที่จะได้เป็นพ่อคน
ผู้หญิงคนนี้ตั้งท้องลูกของเขา แต่เขากลับพาเธอมาอยู่ที่นี่
ถ้าเกิดว่าเขาไม่พาเธอมา มันก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเธอ ลูกก็คงยังอยู่
เขาหลับตาลง “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก”
มันเป็นความผิดของเขา เขามันบ้าไปแล้วที่อยากจะตามหาความรู้สึกที่คุ้นเคยในตัวหลินซินเหยียน——