โจวฉุนฉุนยืนอยู่หน้าประตู หลินซินเหยียนตะลึงไปพักหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าโจวฉุนฉุนจะมาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่
“สวัสดีค่ะพี่สาว” โจวฉุนฉุนทักทายเธอ
หลินซินเหยียนตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “มีเรื่องอะไรรึเปล่า? มาแต่เช้าขนาดนี้”
โจวฉุนฉุนพยักหน้าอย่างจริงใจ “ยิ่นหนิงโทรหาคุณแต่ว่าโทรไม่ติด ฉันเลยต้องมาถึงที่นี่”
หลินซินเหยียนคิดถึงโทรศัพท์เมื่อตอนเช้า รู้ในใจชัดเจน เธอเอียงตัวให้โจวฉุนฉุนเข้ามา “เข้ามาก่อนค่อยคุยกันเถอะ”
โจวฉุนฉุนส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ ฉันเข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ” เธอชี้ไปที่รถสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่นอกประตู บนกระจกติดฟิล์มซุปเปอร์แบล็ค มองไม่เห็นด้านในเลย ประมาณสี่โมงกว่ากู้เป่ยก็ให้คนไปส่งพี่สี่ที่พี่สี่ตระกูลโจวแล้ว ไป๋ยิ่นหนิงเลยเตรียมการไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ให้เกาหยวนเตรียมรถไว้หนึ่งคัน เพื่อใช้เคลื่อนย้ายพี่สี่
พอรับคนมาแล้ว เขาไม่ได้นำตัวคนไปส่งที่ไป๋เฉิงในทันที แต่โทรมาหาหลินซินเหยียน กลายเป็นว่าหลินซินเหยียนไม่ได้รับสาย เลยให้โจวฉุนฉุนมาหา
นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้พบกับหลินซินเหยียน แต่ว่าหลังจากที่พูดคุยกับโจวฉุนฉุนแล้ว เขาก็พยายามควบคุมความคิดตัวเองที่อยากเจอเธอ
“ข้างในนั้นมีคนอยู่คนหนึ่ง ยิ่นหนิงให้ฉันนำมาให้คุณ” โจวฉุนฉุนกล่าว
หลินซินเหยียนนึกว่าตัวเองฟังผิดไป “ในรถมีคน?”
โจวฉุนฉุนตอบอย่างมั่นใจ “ใช่ค่ะ คนในนั้นยิ่นหนิงบอกว่าจะต้องมีประโยชน์ต่อคุณแน่นอน”
หลินซินเหยียนเหมือนพอจะเดาได้สักหน่อยและพูดว่า “พาฉันไปดูหน่อย”
โจวฉุนฉุนตอบว่า “ได้ค่ะ” จากนั้นก็พาหลินซินเหยียนเดินไปทางรถที่กำลังจอดอยู่ เกาหยวนอยู่ในรถเห็นพวกเธอเดินเข้ามา ก็ลงมาจากรถ
“ให้พี่สาวดูตัวคนหน่อย” โจวฉุนฉุนพูดกับเกาหยวน
เกาหยวนเข้าใจและเปิดประตูหลังรถ พี่สี่ที่สวมชุดผู้ป่วยสลบอยู่ตรงเบาะหลัง
หลังจากที่ไป๋ยิ่นหนิงได้ตัวพี่สี่มาแล้วก็ฉีดยาสลบให้เขาเข็มหนึ่ง ดังนั้นพี่สี่ตอนนี้ก็เลยยังคงสลบอยู่
พอเห็นหน้าของพี่สี่หลินซินเหยียนก็จำเขาได้ทันที ข่าวที่เกี่ยวกับวัดหน้าของพี่สี่ไม่ได้ถูกเบลอไว้ พอคิดว่าคนคนนี้อาจจะรังแกข่มเหงฉินยา หลินซินเหยียนก็สั่นไปทั้งตัว อดไม่ได้ที่จะตบเขาสักสองสามที แต่ว่าเธอรู้ดี ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาใช้อารมณ์
จงจิ่งห้าวตามหาเบาะแสของเขามาตลอด ปรากฏว่าอยู่ในมือของไป๋ยิ่นหนิง เธออยากจะถามว่าพี่สี่ทำไมถึงถูกไป๋ยิ่นหนิงจับตัวไว้ได้ เลยถามขึ้นมา “ไป๋ยิ่นหนิงล่ะ?”
“ยิ่นหนิงบอกว่าคุณคงไม่อยากเจอเขาแน่ๆ ก็เลยไม่มาปรากฏต่อหน้าคุณให้คุณรังเกียจ ดังนั้นเลยไม่ได้มา” โจวฉุนฉุนกล่าว
คำพูดนี้ไป๋ยิ่นหนิงเป็นคนบอกให้โจวฉุนฉุนพูดแบบนี้
หลินซินเหยียนแค่เห็นว่าไป๋ยิ่นหนิงคงจะคิดได้แล้ว คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว หวังว่าเขาจะปฏิบัติกับโจวฉุนฉุนดีๆ “ช่วยบอกเขาแทนฉันทีนะคะว่าขอบคุณ”
โจวฉุนฉุนกล่าว “ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ยิ่นหนิงบอกว่าเรื่องพวกนี้เขาเต็มใจทำเอง”
หลินซินเหยียนไม่ตอบรับคำพูดนี้ ทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง “พวกคุณให้เวลาฉันแปปนึง ฉันขอเข้าไปสักพักก่อน”
คนคนนี้จะให้เข้ามาในบ้านไม่ได้ ต้องบอกจงจิ่งห้าวให้เขาเตรียมการจัดการ
โจวฉุนฉุนตอบว่าได้
ในวิลล่าจงจิ่งห้าวแต่งตัวเรียบร้อยเดินลงมาจากข้างบน ไม่เห็นหลินซินเหยียนเลยถามป้าหยู “เธอล่ะ?”
“เมื่อกี้มีคนกดกริ่ง หน้าประตูไม่มีคนหรอคะ?” ป้าหยูพูด
จงจิ่งห้าวกำลังจะออกไป ขณะนั้นหลินซินเหยียนก็เดินเข้ามาพอดี
“ไป๋ยิ่นหนิงส่งคนมาคนหนึ่ง” พอเห็นเขาหลินซินเหยียนก็รีบพูดขึ้นมาทันที “ตอนนี้อยู่ด้านนอก”
จงจิ่งห้าวก้าวเดินเข้ามา “คุณอยู่ในบ้านอย่าออกไป ผมจะไปจัดการ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
จงจิ่งห้าวออกมาเดินตามที่เกาหยวนนำทาง เห็นพี่สี่ที่สลบอยู่ เขาโทรหาเสิ่นเผยซวน ให้เขาส่งคนมานำตัวพี่สี่ไป
ซูจ้านสองวันนี้ก็อยู่กับเสิ่นเผยซวนตลอดตามหาเบาะแสของพี่สี่ ในใจคิดแค่อยากจะจับคนที่มันรังแกฉินยาให้ได้ รู้ว่าจับพี่สี่ได้แล้ว เลยตามเสิ่นเผยซวนมาที่วิลล่าด้วยกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้พี่สี่ตื่นขึ้นมาแล้วคิดหนี เสิ่นเผยซวนให้คนมัดเขาไว้แล้วยัดลงในกระสอบ โยนเข้าไปที่ท้ายรถ ถ้าไม่ใช่เพราะเสิ่นเผยซวนขวางเอาไว้ ซูจ้านก็คงจะกระทืบพี่สี่ให้ตายตรงนั้นเลย เขานั่งลงในรถด้วยความโมโห รอเอาตัวพี่สี่ไปในที่ที่ไม่มีใครเห็นถึงจะกระทืบเขาให้ตาย
จงจิ่งห้าวให้เกาหยวนไปบอกไป๋ยิ่นหนิงประโยคหนึ่งว่า “ประธานไป๋น้ำใจในครั้งนี้ผมรับเอาไว้แล้ว”
ไม่ว่าจะไม่ชอบไป๋ยิ่นหนิงมากแค่ไหน แต่ครั้งนี้เขานำตัวพี่สี่มาส่งให้ น้ำใจครั้งนี้เขาต้องรับเอาไว้
เกาหยวนกล่าว “คำพูดนี้ฉันจะนำไปบอกให้แน่นอน” พูดจบเขาก็เปิดประตูให้โจวฉุนฉุนขึ้นรถ “เราไปกันเถอะ”
โจวฉุนฉุนขึ้นรถไปกับเกาหยวนและจากไป
หลินซินเหยียนเปลี่ยนชุดนอนออก สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยเดินออกจากวิลล่าเห็นรถของเกาหยวนจากไป ก็รู้ว่าโจวฉุนฉุนไปแล้ว
“คุณจะไปด้วยกันกับผมงั้นหรอ?” จงจิ่งห้าวมองเธอที่เปลี่ยนชุดแล้วถามขึ้น
“อืม ฉันอยากรู้ว่าตกลงว่าเขาทำอะไรกับฉินยา” หลินซินเหยียนน้ำเสียงเย็นชา
จงจิ่งห้าวไม่ได้ห้ามอะไรเธอ ยังไงก็มีเขาไปเป็นเพื่อน “คุณนั่งรถของผมนะ”
เสิ่นเผยซวนกับซูจ้านขับรถที่ใส่พี่สี่เอาไว้ขับอยู่ด้านหน้า เขาขับรถอีกคันตามมาข้างหลัง
สถานที่ขังพี่สี่เสิ่นเผยซวนเป็นคนเลือก ไม่ได้อยู่ในเขตชานเมืองแต่อยู่ที่ห้องสอบสวนในกรมตำรวจ
ตอนนี้เสิ่นเผยซวนเป็นรองผู้กำกับมีอำนาจมากกว่าเมื่อก่อน อยากจะทำเรื่องอะไรสักอย่างก็ไม่ต้องเสียแรงมากเหมือนแต่ก่อน
อีกอย่างเขามีคนใกล้ชิดที่ไว้ใจได้ และก็ไม่กลัวคนเอาไปพูดมั่วๆ
ไม่รู้ว่าไป๋ยิ่นหนิงฉีดยาสลบแรงขนาดไหนให้พี่สี่ ถูกคนโยนลงพื้นก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา เสิ่นเผยซวนให้คนใช้น้ำสาดหนึ่งกะละมังถึงจะฟื้น
พี่สี่ที่ร่างกายยังมีบาดแผลสาหัสอยู่ถูกคนสาดน้ำปลุกอย่างรุนแรงเลยมึนงงนิดหน่อย ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขามองไปรอบๆอยากจะถามว่าถึงไป๋เฉิงรึยัง ก่อนหน้านี้กู้เป่ยบอกกับเขาว่าจะซ่อนเขาที่นอกเมืองที่ชื่อว่าไป๋เฉิง บอกว่ากลัวจงจิ่งห้าวหาเขาเจอ สุดท้ายก็เห็นชายสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เขาเบิกตาโตอย่างไม่ตั้งใจ เขาไม่ใช่ขึ้นรถไปไป๋เฉิงแล้วหรอ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?
“พวก พวกคุณ…” เขาตกใจจนพูดติดขัด
เขายังไม่ได้สติว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกซูจ้านถีบจนล้มลงกับพื้น เขากุมหน้าท้องที่ถูกถีบ เจ็บมาครึ่งวันไม่ได้ตื่นขึ้นมา ราวกับลำไส้จะแตก
ซูจ้านกระชากคอเสื้อของเขาไว้แน่น นัยน์ตาแดงเถือกถามว่า “แกทำอะไรกับฉินยา?”
พี่สี่มองดูสายตาที่ดุร้ายราวกับอสูรกายที่กำลังจ้องตนเองอยู่ ตัวสั่นโดยสัญชาตญาณ “ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร”
ตอนนี้เขาได้สติชัดเจนขึ้นมาแล้ว รู้ว่าซูจ้านพูดถึงใคร แต่ว่าเขาไม่กล้ายอมรับ มันชัดเจนว่าถ้าเขาพูดออกไปก็อาจจะถูกพวกเขากระทืบจนตาย ต่อให้ไม่กระทืบจนตายก็คงจะทำให้พิการ
ซูจ้านยิ้มเยือกเย็น “ไม่รู้ใช่มั้ย?”
วินาทีต่อมาหมัดของเขาก็ต่อยเข้าที่หน้าของพี่สี่ อั่ก พี่สี่กระอักเลือดสดๆออกมาจากมุมปาก สีหน้าหวาดกลัวเขาถามอย่างตื่นกลัวว่า “พวกคุณหาฉันเจอได้ยังไง?”
ตอนนี้ซูจ้านอยากรู้เพียงแค่ว่าเขาทำอะไรกับฉินยาลงไปแล้วบ้าง จะมีกะจิตกะใจมาตอบคำถามเขาที่ไหน หัวเราะอย่างเย็นชาเล็กน้อย “อย่ามาพูดจาไร้สาระ ฉันถามแก แกทำอะไรกับฉินยา?!”
หลินซินเหยียนถูกจัดให้ไปอยู่ในห้องอีกห้องหนึ่ง จอแสดงภาพในห้องนั้นมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนี้ได้ทั้งหมด
จงจิ่งห้าวและเสิ่นเผยซวนกลายเป็นผู้ชมอยู่ด้านข้าง
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” พี่สี่ยังคงดื้อไม่ยอมรับ ซูจ้านถูกทำให้ประสาทเสีย เห็นชัดๆว่าถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว ฉินยาเองก็เสื้อผ้าหลุดลุ่ย เขายังกล้าบอกว่าไม่ได้ทำ?
“ไม่เป็นไร ไม่ว่าแกจะทำอะไรมา วันนี้ตกอยู่ในกำมือฉันแล้ว ฉันไม่ปล่อยให้แกมีชีวิตรอดออกไปแน่” ซูจ้านที่โกรธจัดกลับสงบลง เขามองพี่สี่อย่างอยู่เหนือกว่า ใช้มือข้างเดียวปลดกระดุมถอดเสื้อสูทออกแล้วโยนลงกับพื้น
พี่สี่กลัวแล้ว ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ “คุณ คุณอย่าเข้ามานะ!”
ซูจ้านหัวเราะเหอะออกมา “ไอ้ของไม่มีประโยชน์ กล้าทำไม่กล้ารับ? แกคิดว่าถึงตายแกก็ไม่ยอมรับ แล้วฉันจะทำอะไรแกไม่ได้งั้นหรอ? ไม่กระทืบแกต่อไปอย่ามาเรียกฉันว่าซูจ้าน เรียกฉันว่าไอ้ขี้ขลาดซู”
พี่สี่มองไปทางจงจิ่งห้าวและเสิ่นเผยซวนขอร้องให้ช่วย “พวกคุณรีบไปหยุดเขาเร็ว กระทืบฉันจนตายเขาก็ผิดกฎหมายนะ”