“ไสหัวออกไป!” ฉินยาไม่สนใจสถานที่แล้ว แต่ทนเขาไม่ไหวอีกต่อไป
ซูจ้านไม่ขยับ พลางมองเธอ “เสี่ยวยา……”
“ฉันต้องตายต่อหน้าคุณ ถึงจะยอมใช่ไหม?!” เธอจับหน้าอกของตัวเองเพราะเจ็บใจจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
มันเจ็บปวดมาก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย
ซูจ้านไม่กล้าบังคับเธอมากเกินไป เลยค่อยๆ ลุกขึ้นมา “ฉันจะให้เวลาคุณ”
เมื่อพูดจบเขาก็ออกจากห้องมา หลังจากปิดประตู ฉินยาที่อยู่ในห้องก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม เพราะไม่มีใครเลยปลดปล่อยได้ ที่ชั่นสองหลินซินเหยียนยืนอยู่ตรงตีนบันได เมื่อเห็นซูจ้านเดินออกมาก็ถอนหายใจเบาๆ
ท่าทีของพวกเขาเมื่อครู่มันดังมาก ทุกคนเลยรู้หมด เพรยงแค่ไม่มีใครกล้าออกมาเท่านั้นเอง
จงจิ่งห้าวโอบเธอ “ไม่ต้องมองแล้ว”
หลินซินเหยียนตามเขากลับห้องไป “ฉันอยากถามคุณสักหน่อย คุณต้องตอบฉันตามความจริงนะ”
“อือ คุณพูดมาเถอะ”
“ถ้าเกิดฉันมีลูกไม่ได้ คุณยังจะดีกับฉันแบบนี้หรือเปล่า?” หลินซินเหยียนเงยหน้ามองเขา
จงจิ่งห้าวมองเธอ “คุณพูดอะไรออกมา?”
ลูกโตขนาดนี้แล้ว คำถามสมมุติแบบนี้ มันไม่มีอะไรให้ตอบไม่ใช่เหรอ?
ทำไมวันนี้เธอแปลกจริงๆ ถึงได้ถามคำถามเด็กน้อยแบบนี้ออกมาได้?
คำถามเด็กมาก เหมือนกับผู้หญิงมากมายที่ถามแฟนของตัวเอง ถ้าแม่ของเขากับเธอตกลงไปในน้ำพร้อมกันจะช่วยใครก่อน
“ฉันกำลังถามคุณ คุณต้องตอบฉันจริงๆ นะ” หลินซินเหยียนโอบคอเสื้อของเขาอย่างไม่อ้อมค้อม เพราะอยากให้เขาตอบตัวเองจริงๆ
จงจิ่งห้าวก้มมองมือที่จับคอเสื้อของเขาอยู่ พลางพูด “ไม่หรอก คุณไม่มีลูกฉันก็ยังชอบคุณ แต่แค่เสียดายเท่านั้นเอง”
ถ้าเกิดคนสองคนรักกัน ไม่มีลูกเลย ก็เสียดาย แค่คิดว่าถ้าชีวิตเขาไม่มีจงเหยียนซีกับจงเหยียนเฉิน เขาคงจะรับไม่ได้
หลินซินเหยียนค่อยๆ ปล่อยมือออก จริงสิ สามารถรักกันต่อได้ แต่จะต้องเสียดายแน่ๆ การมีลูก คู่รักไหนก็ต้องทำ และการเป็นแม่คนผู้หญิงคนไหนก็ต้องเป็น และผู้ชายก็จะได้สัมผัสความตื่นเต้นที่จะเป็นพ่อคนด้วย
เธอผลุบตาลง จากนี้ฉินยาจะทำอย่างไรนะ?
จงจิ่งห้าวพบว่าอารมณ์ของเธอนั้นไม่ปกติเท่าไหร่ “คุณเป็นอะไรเหรอ?”
เธอส่ายหัว “ไม่มีอะไร”
แต่ว่าท่าทีของเธอไม่เหมือนไม่เป็นอะไร จงจิ่งห้าวเลยก้มมาจูบปากเธอ หลินซินเหยียนขมวดคิ้วจ้องเขา
เขายิ้ม “คุณเหมือนมีเรื่องอะไรในใจ น่าเกลียดมาก อย่าขมวดคิ้วเลย”
หลินซินเหยียนทุบอกเขา “คุณสิน่าเกลียด!”
“ฉันน่าเกลียดตรงไหน?” เขาเลิกคิ้ว
หลินซินเหยียนพูด “คุณน่าเกลียดไปหมด”
เมื่อพูดจบก็รีบเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะปิดประตู แล้วให้เขาอยู่ด้านนอก แต่จงจิ่งห้าวนั้นไวกว่าเลยเข้ามาผลักประตู โดยที่ไม่กล้าออกแรงมาก เพราะกลัวว่าจะโดนลูกในท้องของเธอ เขาเอามือจับที่ขอบประตู หลินซินเหยียนเองก็ไม่กล้าปิด เพราะกลัวจะหนีบมือของเขา
“ออกไป” หลินซินเหยียนทำเป็นโกรธ
“ไม่ออก” ท่าทีของจงจิ่งห้าวเองก็แน่วแน่ไม่น้อย “อย่าวุ่นวายนะ”
“ใครให้คุณมาบอกว่าฉันน่าเกลียดล่ะ?” หลินซินเหยียนทำเหมือนโกรธต่อ “ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะขีดเส้นแบ่งระหว่างเรา นี่คือห้องของฉัน ไม่ให้คุณเข้ามา”
จงจิ่งห้าว “……”
เขายอมรับทันที “คุณไม่น่าเกลียด ฉันน่าเกลียดเองๆ”
หลินซินเหยียนรู้สึกขำเพราะท่าทีของเขา ก่อนจะไม่ได้ออกแรงที่มือ จากนั้นจงจิ่งห้าวเลยใช้จังหวะนั้นเข้ามา แล้วกอดเธอนอนลงที่เตียง จากนั้นจึงจับหัวของเธอ ให้หันมามองตัวเอง แล้วยังไม่พอใจที่เธอบอกว่าตัวเองอัปลักษณ์ “ฉันน่าเกลียดจริงๆ เหรอ?”
หลินซินเหยียนคิดว่ามันตลกดี เขาไม่พอใจเพราะเรื่องนี้ได้ แล้วก็ยิ้มพลางพูด “คุณน่าเกลียด ฉันก็ไม่รังเกียจคุณหรอก”
จงจิ่งห้าว “……”
“คุณคิดว่าฉันน่าเกลียดจริงๆ สินะ?”
หลินซินเหยียนพูดด้วยความร้ายกาจ “อือ”
“เพราะคิดว่ามีคนมากมายชอบคุณ คุณเลยคิดว่าหล่อใช่ไหม?อันที่จริงไม่ใช่เลย เพราะคุณมีเงินมากเท่านั้นเลย ตอนนี้ผู้หญิงที่ไหนก็รักเงินทั้งนั้น ฉันเองก็เหมือนกัน ชอบที่คุณมีเงิน”
จงจิ่งห้าวโกรธจนหัวเราะออกมา “คุณให้ค่าสามีคุณต่ำขนาดนั้นเลย ไม่เจ็บใจเหรอ?”
หลินซินเหยียนยิ้มพลางถาม “หัวใจคืออะไรเหรอ?ฉันอาจจะไม่มี”
จงจิ่งห้าวบีบแก้มของเธอ ก่อนจะโอบเข้ามาในอ้อมกอดแล้วยิ้ม “ดื้อ”
ใบหน้าของหลินซินเหยียนชิดกับหัวใจของเขา เลยพูดเสียงเบา “ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันหัวเราะได้”
จงจิ่งห้าวถอนหายใจยาว แต่ก็ยังทำให้เธอวางเรื่องในใจลงไม่ได้ เลยพูด “บอกมาเถอะ มีเรื่องอะไรกันแน่ ที่ทำให้คุณหนักใจขนาดนี้?”
หลินซินเหยียนจับคอเสื้อของเขาอย่างไม่สบายใจ เธอคิดออกว่าถ้าเกิดตัวเองไม่สามารถมีลูกให้จงจิ่งห้าวได้ เธอจะรู้สึกยาขนาดไหน
เธอเป็นผู้หญิงเข้าในความรู้สึกของฉินยาได้ ฉินยาไม่อยากจะเผชิญสิ่งที่ขาดไปของตัวเอง และก็ไม่อยากเผชิญหน้าซูจ้าน
จงจิ่งห้าวผลุบตามองมือของเธอที่ดึงคอเสื้อของตัวเอง ก่อนจะตบตูดของเธอ “คุณนี่มันปีศาจร้าย”
หลินซินเหยียนจ้องเขา “ฉันเป็นปีศาจร้ายแล้วคุณเป็นอะไรล่ะ?”
เขาพูดอย่างไม่คิด “คุณเป็นปีศาจ ฉันเป็นชายที่ถูกปีศาจทำให้หลงรักไงล่ะ” พูดพลางจับเส้นผมของเธอทัดหู เหมือนกับรู้ว่าอารมณ์ของเธอนั้นไม่ดีเพราะอะไร เลยถาม “เพราะฉินยาเหรอ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
ตอนนี้จงจิ่งห้าวเข้าใจทุกอย่างแล้ว แล้วเข้าใจด้วยว่าทำไมเธอถึงถามคำถามแบบนั้นขึ้นมา
เขาปลอบภรรยา “ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องกังวลหรอก”
หลินซินเหยียนจะไม่รู้ได้อย่างไร นี่ไม่ใช่เรื่องของการคืนดี สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือการยอมรับ แต่ก็อดจะเจ็บปวดไม่ได้
เจ็บแทนฉินยา
ก๊อกๆ ……
ในตอนนั้นป้าหยูมาเคาะประตู “อาหารเย็นเสร็จแล้ว”
เสียงของป้าหยูดังผ่านประตูอีกฟาก
หลินซินเหยียนไม่อยากลุกขึ้นมา
“หรือไม่ให้ฉันยกข้าวมาให้คุณไหม?” จงจิ่งห้าวมองเธอที่ดูเหนื่อย
หลินซินเหยียนยิ้ม ในบ้านมีแขกเธอจะให้เขายกข้าวเข้ามาให้ตัวเองได้อย่างไร “ถ้าครั้งหน้าไม่มีใคร ค่อยทำข้าวให้ฉันกินนะ”
“ได้ เดี๋ยวฉันจะล้างมือแล้วทำต้มจืดให้คุณกิน” จงจิ่งห้าวยิ้มเบาๆ พลางเอ็นดูด้วยความทำอะไรเธอไม่ได้
ใครใช้ให้เป็นภรรยาของตัวเองล่ะ?ใครใช้ให้เธอมีลูกเลวๆ ของตัวเองในท้องล่ะ?ใครใช้ให้ตัวเองชอบเธอล่ะ?
ดังนั้น ยอมแพ้เถอะ
น่าจะเป็นเพราะป้าหยูเรียกแล้ว เสิ่นเผยซวนพาเด็กสองคนออกมา เขามองรอยนิ้วทั้งห้าบนหน้าของซูจ้าน พลางลูบจมูก แล้วนึกในใจ ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?ใบหน้ามีรอยชัดขนาดนี้ แต่ทำไมยังไม่ไปอีก ไม่กลัวทำให้คนอื่นลำบากใจเลยเหรอ
ซูจ้านมองท่าทีที่ไม่ปกติของเขา จากนั้นก็ลูบหน้าของตัวเอง พลางยิ้มอย่างใจกว้าง “ฉันยังมีคนตบ คุณไม่มีใครตบด้วยซ้ำ คนที่ควรลำบากใจคือคุณ”
เมื่อพูดจบก็จูงมือจงเหยียนซีเดินไป “ไป เราไปล้างมือแล้วกินข้าวเถอะ”
เสิ่นเผยซวน “……”
จงจิ่งห้าวตบไหล่ของเขา “คิดอย่างไร วันนี้ถึงได้มา”
เสิ่นเผยซวนมองเขาด้วยความแปลก “ไม่ใช่คุณเรียกฉันกับซูจ้านมากินข้าวเหรอ?”
จงจิ่งห้าวมีอารมณ์ที่ว่าฉันไม่ได้เรียกมาสักหน่อยอย่างชัดเจน
เสิ่นเผยซวนมีสติกลับมาทันที จากนั้นก็ยิ้มพลางพูด “นายคนนั้นหลอกฉัน”
เพื่อจีบฉินยามันก็เสียแรงไม่น้อยเลย
คุณน้าหวางเริ่มเสิร์ฟอาหาร ทุกคนเองก็นั่งหน้าโต๊ะอาหาร หลินซินเหยียนลังเลว่าจะไปหาฉินยาที่ห้องดีไหม ซูจ้านก็เปิดปากพูดขึ้น “พี่สะใภ้”
หลินซินเหยียนถามกลับหลังจากมีสติ “มีอะไรหรือเปล่า?”
“เสี่ยวยาไม่อยากออกมากินข้าวแน่นอน คุณช่วยฉันเตรียมอาหาร แล้วฉันจะเอาเข้าไปให้เธอ”
หลินซินเหยียนมองเขาสักพักก่อนจะพูด “ตามฉันเข้ามาเถอะ”
ซูจ้านตามเธอเข้าไปในห้องครัว
หลินซินเหยียนให้คุณน้าหวางออกไปก่อน เธอกับซูจ้านมีเรื่องจะคุย
คุณน้าหวางล้างมือก่อนจะออกจากห้องครัวไป เมื่อไม่มีใครแล้ว เธอเลยเปิดปาก “ซูจ้าน”
“อือ พี่สะใภ้” ท่าทีของซูจ้านนั้นดี ในใจเองก็พอเดาได้ว่าทำไมเธอถึงเรียกตัวเองเข้ามา “คุณอยากถามเรื่องของฉันกับฉินยาใช่ไหม”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “ซูจ้าน” เธอหยุดพูด ในใจก็ลังเลว่าจะพูดอย่างไรกับเขา
ซูจ้านพูด “คุณกับเสี่ยวยานั้นเหมือนเป็นญาติกัน ฉันเรียกคุณว่าพี่สะใภ้ ฉันเองก็ไม่ได้เห็นคุณเป็นคนนอก ดังนั้น มีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย”