เมื่อคิดแบบนี้ซูจ้านเองก็ทำแบบนั้น “กู้เป่ยเขามีอะไรเหรอ?ไม่ใช่ว่ามีพ่อที่มีสิทธิ์เหรอ?ถ้าเขาไม่ใช่คนใหญ่ที่สุด แล้วจะให้เขาเป็นคนที่เท่าไหร่ล่ะ?คนที่เอาแต่กวนประสาททั้งวัน แค่เห็นก็โมโห เลยอยากจะตบเขาเข้าสักที”
เสิ่นเผยซวนที่เศร้าใจในตอนแรก เมื่อเห็นท่าทีเด็กๆ ของซูจ้าน ก็คิดว่ามันตลกดี
จงจิ่งห้าวให้พวกเขากลับไปก่อน ก็ไม่มีที่ไป เสิ่นเผยซวนยุ่งมาตลอด ตอนนี้ไม่ต้องไปทำงาน พบว่าตัวเองไม่มีที่ให้ไปด้วยซ้ำ
ซูจ้านโอบคอของเขา “ไปที่บ้านพักกับฉันสิ?”
เสิ่นเผยซวนพูด “ไม่ไป”
เขาจะไปตามภรรยา แล้วตัวเองจะไปทำไม?
“วันๆ เอาแต่คิดถึงผู้หญิง คุณคิดเรื่องอื่นบ้างไม่ได้หรือไง?พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่ยังไม่กลัวจะเป็นง่อย” เสิ่นเผยซวนพูดอย่างไร้อารมณ์
ซูจ้านพึมพำ “ฉันก็ไม่ได้หาได้น้อยกว่าคุณเท่าไหร่หรอก ทำไมฉันถึงเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อไปซะล่ะ?ฉันแค่มองเห็นชัดกว่าคุณเท่านั้นเอง”
“คุณมองได้ชัดกว่าฉันงั้นเหรอ?” เสิ่นเผยซวนถาม
“คุณว่าเราทำธุรกิจไปเพื่ออะไรเหรอ?”
เสิ่นเผยซวนตอบ “ก็ต้องเพื่อมีชีวิตอยู่อย่างไรล่ะ”
“แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคืออะไรเหรอ?” ซูจ้านถามอีก
“น้ำ ไฟ……”
“พรวด……” ซูจ้านเพิ่งจะดื่มน้ำเข้าไป ก็เกือบจะสำลักออกมา พลางมองเสิ่นเผยซวนด้วยแววตารังเกียจ “ฉันอยากจะเปิดสมองคุณออกมาจริงๆ แล้วดูว่าข้างในนั้นมีอะไร น้ำไฟ นั่นเป็นของจำเป็นในการดำรงชีวิต แต่มันไม่ใช่ชีวิต ชีวิตที่ดีก็ต้องเป็น การมีงานที่ดีทำ แล้วก็มีคนรักที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยโดยไม่ทิ้งกัน เรามีสิ่งแรกแล้ว แต่กลับไม่มีสิ่งหลัง ตอนนี้ฉันเลยไล่ตามหาสิ่งหลังอย่างไรล่ะ”
เสิ่นเผยซวนมองเขาเบาๆ “ฉันในตอนนี้ ไม่มีอะไรเลย แค่มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว”
พูดไปเขาก็ลุกออกจากห้องทำงานไป
จงจิ่งห้าวออกไปตั้งนานแล้ว พวกเขาทั้งสองพูดพร่ำอยู่นาน จากนั้นก็ไป
ซูจ้านตามเขาไป “เอาแบบนี้ ฉันไปที่มหาวิทยาลัยกับคุณ ไปหาแฟนของคุณ ได้ไหม?”
เสิ่นเผยซวนได้ยินเขาพูดดังนั้นก็ปวดหัว
“คุณอย่าตามฉันมา ฉันอยากอยู่คนเดียว”
ซูจ้านตามเขา “ไม่ได้ ฉันต้องไปกับคุณ ถ้าคุณคิดสั้นแล้วฉันจะทำอย่างไร?วันนี้คุณให้เวลากับฉันเถอะ ฉันจะสละสักหน่อย แล้วมาอยู่กับคุณ”
“คุณสิถึงจะคิดสั้น!” เสิ่นเผยซวนเดินเบี่ยงไปด้านข้างอย่างรังเกียจ เพื่อตีตัวออกหากจากเขา ซูจ้านก็เข้ามาใกล้ “คุณเป็นอะไรไป?ทำเหมือนอกหักเสียอย่างนั้น อารมณ์เศร้าโศกมาก”
เสิ่นเผยซวนมองเขาเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะโบกรถแท็กซี่ข้างถนน
“คุณจะไปไหน?” ซูจ้านรู้สึกว่าเขาแปลกๆ “จิ่งห้าวไม่ใช่ว่ามีการรับมือแล้วเหรอ ทำไมคุณยังหดหู่แบบนี้อีก?”
เสิ่นเผยซวนก้มหน้าลง “ซางหยูเธอไปแล้ว”
ซูจ้านมืดมนไปหมด ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำไปแล้วเหรอ จะไปไหนได้นะ?
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เสิ่นเผยซวนพูด
ซูจ้านยิ่งทำตัวไม่ถูก “มีเรื่องอะไร ที่สามารถทำให้เธอยอมไม่เอาใบปริญญาได้?”
เสิ่นเผยซวนบอกเรื่องของแม่ของซางหยูให้ซูจ้านฟัง บางทีถ้าพูดออกมา อารมณ์อาจจะดีขึ้นสักหน่อย
ซูจ้านมองเขาอย่างระวัง “งั้นที่คุณอารมณ์ไม่ดี ก็เพราะเธอไปแล้วงั้นเหรอ?”
ตอนนี้รถหยุดลงแล้ว เสิ่นเผยซวนโบกมือ เพียงไม่นานรถก็จอดอยู่ข้างถนน ซูจ้านเองก็เดินตามขึ้นไปนั่ง “ฉันถามคุณอยู่นะ?”
“ฉันไม่รู้” เสิ่นเผยซวนตอบอย่างไม่สบอารมณ์
เขาไม่รู้จริงๆ เพียงแต่เมื่อเห็นข้อความของเธอที่บอกชอบตัวเอง อารมณ์ก็กลายเป็นแบบนี้ไปเสียอย่างนั้น
ส่วนจะชอบหรือไม่ชอบนั้น เขาก็ไม่รู้
ซูจ้านเงียบลง ในที่สุดก็รู้ว่าทำไมเขาถึงได้หดหู่ขนาดนี้
คนขับรถแท็กซี่ถาม “พวกคุณไปที่ไหนเหรอ?”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้พูดอะไร ซูจ้านมองเขาก่อนจะบอกคนขับรถว่าจะไปที่ไหน
ก่อนหน้านี้หลายวันเขาได้ยินจากทนายคนหนึ่งบอกว่า วันนี้ที่เมืองจะมีการจัดชมรม บอกว่าจะมีการจัดการนัดบอดทางอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ มีหญิงโสดมากมาย พอดีว่าเสิ่นเผยซวนก็เหมาะที่จะไป
ชมรมนี้เหมือนจะโฆษณาไปไกลมาก ขนาดคนขับแท็กซี่ยังรู้เลย “พวกคุณเองก็โสดเหรอ?”
ซูจ้านชี้ไปหาเสิ่นเผยซวน “เขาโสด”
เสิ่นเผยซวนไม่สนใจเขาอย่างไม่มีชีวิตชีวา
คนขับแท็กซี่หัวเราะ “พวกคุณเป็นคนที่ห้าของวันนี้แล้วนะที่จะไปที่นั่น”
ซูจ้านตกใจ “มีคนไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?เป็นชายหรือหญิงมากกว่ากัน?”
“มีทั้งชายหญิงเลยล่ะ” คนขับแท็กซี่พูด “แต่ผู้ชายมากกว่าหน่อย ได้ยินว่าตอนนี้ชายหญิงมีมากพอๆ กัน หญิงที่แต่งงานครั้งที่สองนั้นแย่งกันมากมาย ลูกพี่ลูกน้องผู้ชายของฉัน ก่อนหน้านี้ไปเป็นทหาร พอออกจากกรมมาก็อายุมากแล้ว นัดบอดมากมายแต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นเลยไปได้คนที่แต่งงานรอบที่สามน่ะ”
ซูจ้านกะพริบตาปริบๆ “ลูกพี่ลูกน้องผู้ชายของคุณหน้าตาน่าเกลียดมากเลยใช่ไหม?”
ตอนนี้มีผู้หญิงที่ชอบทหารมากมายเลยนะ
คนขับรถแท็กซี่หัวเราะ “คุณนี่ตรงไปตรงมาจริงๆ เลย ลูกพี่ลูกน้องผู้ชายของฉันไม่มีอะไรดีเลย ไม่ใช่ว่ามีคอนเนคชั่น แต่เป็นทหารยังไม่ได้เลย เตี้ยก็เตี้ย ดำก็ดำ แถมอายุก็มากแล้ว หาภรรยาได้ก็ไม่เลวแล้ว เรามีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ในบ้านมีพี่น้องชายอยู่ เพื่อหาสะใภ้ เลยซื้อห้องเอาไว้ แถมยังซื้อรถส่วนตัวอีกค้นด้วย เพื่อมาโน้มน้าวภรรยา นายคนนี้ รถก็เก่ามากแล้ว หาภรรยาก็ยังไม่ได้ พี่ชายหาภรรยาไม่ได้ พ่อแม่ก็ไม่กล้าหาให้คนรอง เพราะกลัวว่าหลังจากที่คนรองหาภรรยาได้แล้ว จะยิ่งหาให้พี่คนโตยากขึ้น”
ซูจ้านเบิกตาโพลงอย่างควบคุมไม่ได้ พลางหันหน้าไปมองเสิ่นเผยซวน “คุณไม่รักษาเอาไว้ดีๆ ดูสิ มีผู้ชายมากมายขนาดไหนที่หาภรรยาไม่ได้ คุณกลับไม่รักษาเอาไว้ดีๆ ครั้งนี้ได้เจอคนที่เหมาะสม คุณก็คบหากัน อย่ากลายเป็นชายเศษเดนล่ะ”
“คุณไสหัวไปเถอะ!” ถ้าไม่ใช่ว่ารถกำลังเคลื่อนที่ไป เสิ่นเผยซวนคงจะเปิดประตูลงจากรถแล้ว
ซูจ้านเองก็ไม่โกรธ เพราะรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี เลยเอาหน้าเข้าไปใกล้ “ฉันเป็นห่วงคุณไม่ใช่เหรอ อย่าโกรธเลย”
“คนขับรถจอดก่อน” เสิ่นเผยซวนพูดกับคนขับรถ
คนขับรถจอดข้างๆ ตรงด้านหน้าได้ เลยขับรถมาถึงที่ข้างถนนก่อนจะหยุดลง จากนั้นเขาก็หยิบเงินส่งให้คนขับรถ แล้วก็ลงจากรถไป
ซูจ้านเองก็ตามมา “เห้อ คุณจะทำอะไร ไปนัดบอดมันไม่ดีตรงไหนเหรอ?”
“ถ้าจะไปคุณก็ไปเถอะ” เสิ่นเผยซวนเดินข้างถนน
ซูจ้านยืนอยู่ที่เดิม “คุณใจร้ายเกินไปแล้ว”
เสิ่นเผยซวนเดินต่อไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไร ซูจ้านเองก็มีน้ำโหแล้ว “ใครจะอยากสนใจคุณ” พูดจบก็โบกรถแล้วขึ้นไป ตอนแรกว่าจะไปบ้านพักเพื่อหาฉินยา แต่ยังไม่วางใจเสิ่นเผยซวน เลยให้คนขับรถตามจากไกลๆ
เสิ่นเผยซวนหาร้านเล็กๆ ก่อนจะซื้อบุหรี่ ตอนที่จ่ายเงินนั้น ก็มีน้ำขวดหนึ่งมาวางอยู่ตรงเคาน์เตอร์จ่ายเงิน
“เผยซวนงั้นเหรอ?”
เสิ่นเผยซวนหันหัวมามอง
“ฉันก็คิดว่าฉันมองผิดไปเสียอีก คุณจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ซ่งหย่าซินยิ้มพลางถาม
“ฉัน……” เสิ่นเผยซวนเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
“อารมณ์ไม่ดีแน่เลยใช่ไหม?ฉันได้ยินจากพ่อฉันแล้ว ฉันเชื่อคุณ” ซ่งหย่าซินพูด
เสิ่นเผยซวนไม่มีอารมณ์อะไรบนใบหน้า ก่อนจะเอาเงินส่งให้เจ้านาย “จ่ายค่าน้ำพร้อมกันเลย”
เมื่อจ่ายเงินเสร็จทั้งสองคนก็ออกไปจากร้าน เสิ่นเผยซวนถาม “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”