หลินซินเหยียนได้รับซองจดหมายสีน้ำตาลฉบับหนึ่ง คุณนายเวลเลี่ยนไม่ได้ภาษาจีน บนซองจดหมายเป็นอักษรประเทศA แต่หลินซินเหยียนอยู่ที่ประเทศAตั้งหลายปี เลยคุ้นเคยมานานแล้วราวกับภาษาในประเทศ
เธอกลับไม่ได้รีบเปิดอ่านในทันที
แต่เห็นชุดแต่งงาน เพราะมันซ้อนอยู่ในกล่องที่ใช้ใส่ชุดแต่งงานโดยเฉพาะ เลยมองรูปร่างไม่ออก
ฉินยาอยากเห็นชุดแต่งงานของหลินซินเหยียนมาก “เธอลองสวมดูสิว่าพอดีตัวรึเปล่า”
หลินซินเหยียนมองเธอ “น่าจะพอดีนะ”
เธออยู่ELOมาตั้งหลายปี คุณนายเวลเลี่ยนรู้สัดส่วนรูปร่างของเธอเป็นอย่างดี คุ้นเคยกับความชอบของเธอมานานแล้ว
“อ๋า เราอยากเห็นหม่ามี๊สวมชุดแต่งงาน หม่ามี๊ คุณไปลองสวมหน่อยเถอะ” จงเหยียนซีดึงกระโปรงของหลินซินเหยียนงอแง “หม่ามี๊ หม่ามี๊สวมชุดแต่งงานต้องดูดีแน่ๆค่ะ สวมให้เราดูหน่อยเถอะนะคะ”
“หม่ามี๊ ลองสวมดูหน่อยเถอะครับ” จงเหยียนเฉินก็ตั้งตารอเช่นกัน
“พี่สาวคุณลองเถอะค่ะ ฉันก็อยากเห็นเหมือนกัน” โจวฉุนฉุนพูด
หลินซินเหยียนจนใจ ถ้าตัวเองยังไม่ไปลองสวมสักหน่อย จะทำให้พวกเขาผิดหวังเอา ได้แต่พยักหน้า พูดว่า “ก็ได้”
ฉินยารับกล่องมาแล้วพูดว่า “ฉันช่วย”
หลินซินเหยียนไปที่ห้องของฉินยา ไปลองสวมชุดแต่งงาน ดึงม่านขึ้น ฉินยาพูด “ถอดเสื้อบนตัวเธอออกเถอะ”
เมื่อก่อนก็อยู่ด้วยกัน อีกอย่างก็สนิทกันหลินซินเหยียนไม่ได้รู้สึกอาย นอกจากชุดชั้นในบนตัวก็มีเพียงกระโปรงยาว ถอดออกสบายๆ
ฉินยาหยิบชุดแต่งงานหันกลับมา เห็นเธอเหลือเพียงชุดชั้นใน เธอขาวมาก ขาวแบบเปล่งประกายภายใต้แสงไฟ นอกจากหน้าท้องที่ป่องแล้ว แขนและต้นขาไม่มีไขมันส่วนเกินเลยสักนิด เพรียวบาง หน้าอกราวกับหมั่นโถวขาวกลม ถูกชุดชั้นในปกปิดยังสามารถส่องเห็นโครงร่างที่เย้ายวน ก้นงอนกลมสวย ร่องก้นเชื่อมต่อกับสันหลัง ไหล่ก็ประณีตราวกับวาดออกมาสวยงามไร้ที่ติ แม้แต่เอวขนาดตั้งครรภ์ยังไม่มีเนื้อส่วนเกินออกมา เธอเข้ามาหยิบชุดแต่งงาน “มิน่าล่ะสามีเธอถึงชอบเธอขนาดนี้”
หลินซินเหยียนมองเธออย่างพูดไม่ออก “เธอว่าอะไรนะ?”
ฉินยาเข้าไปใกล้ข้างหูของเธอ “ฉันบอกว่ารูปร่างเธอดีมาก ขนาดท้อง ยังทำให้คนที่เห็นมีอารมณ์เลย ฉันเป็นผู้หญิงยังชอบเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชาย”
หลินซินเหยียน “……”
ชุดแต่งงานเป็นแบบปิดไหล่ กระโปรงใหญ่มาก พอกางออกกินพื้นที่เต็มทั่วทั้งห้อง เพราะว่าเธอกำลังท้อง เลยไม่ได้ออกแบบสไตล์ที่โชว์สัดส่วน แต่จะเน้นไปที่ความงดงามแทน
ด้านล่างเอวลงมาเป็นผ้าลูกไม้ระบายเป็นชั้นๆ ปกปิดหน้าท้องที่นูนออกมา ขอบๆตกแต่งให้งดงามด้วยลวดลายดอกไม้ที่ซับซ้อนทำมาจากผ้าซาติน ไม่ได้ตกแต่งอะไรอย่างอื่น ประณีตและราบเรียบ แวววาวหรูหราทั้งสง่างามและมีรสนิยม
“ดูดี สีขาวเหมาะกับเธอมากจริงๆ อีกอย่างยังพอดีตัวด้วย” ฉินยามองดูท่าทางของเธอ นัยน์ตามีประกาย “รีบออกไปให้ลูกชายและลูกสาวเธอดูเถอะ”
หลินซินเหยียนก้มลงมองชุดแต่งงานบนตัวเธอ จู่ๆความรู้สึกซับซ้อนที่จะต้องแต่งงานก็พรั่งพรูออกมา
เคยนึกว่า ทั้งชีวิตนี้เธอคงไม่ได้สวมชุดแต่งงานแล้ว
แต่กลับกลายเป็นว่า กับคนที่ตนเองเคยคิดว่าจะไม่มีวันอยู่ด้วยกันได้ อยู่ด้วยกันแล้ว
แถมยังให้กำเนิดลูกๆ
นี่เพราะคำตกลงประโยคนั้น คำพูดของเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้
ฉินยาเดินไปข้างหน้าเปิดประตูออก จากนั้นก็กลับไปช่วยเธอจับชายกระโปรง ชายกระโปรงใหญ่เกินไป ออกนอกประตูไม่ค่อยได้
ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก สายตาของทุกคนก็หันไปมอง อยากจะมองความงดงามของเธอ
อย่างไรก็ตาม หลินซินเหยียนตอนสวมชุดแต่งงาน กลับไม่ทำให้ใครผิดหวัง ราวกับคนที่เดินออกมาจากเทพนิยาย
นิ่งสวยสง่า อ่อนหวานงดงาม
ไป๋ยิ่นหนิงมองเธอเดินออกมาจากในห้อง ราวกับจินตนาการว่าเธอกำลังเดินมาหาตนเอง นัยน์ตาไม่สามารถปกปิดความตกตะลึงและมีความสุขไว้ได้
สายตาของโจวฉุนฉุนไม่ได้สังเกตเห็นเขา มองจดจ่ออยู่ที่หลินซินเหยียน เพราะว่าดูดีมากๆ ถึงขนาดลืมผู้คนกับเรื่องราวรอบตัวไปหมด
ตอนนั้นเฉิงยู่เวินกลับเห็นสายตาแปลกๆของเขา พึ่งรู้ว่าหลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าวจะจัดงานแต่งงาน เขาใจลอยอย่างไม่มีเหตุผล ก็พอจะเดาได้ คิดไม่ถึงเลย ว่าเขาจะชอบหลินซินเหยียนจริงๆ
ไม่อย่างนั้นจะมีสีหน้าแบบนี้ได้ยังไง?
“หม่ามี๊สวยมากเลยค่ะ” จงเหยียนซีวิ่งเข้ามา ลูบๆชุดแต่งงาน “เมื่อไหร่หนูจะสวมได้คะ”
ประโยคเดียวขบขันจนทุกคนหัวเราะยกใหญ่
เพราะว่าชุดแต่งงานพอดีตัวพอดี ชุดเดรสอีกสองชุดยังไม่ได้ลองสวม
ขนาดกะได้แม่นยำมาก
หลินซินเหยียนเปลี่ยนชุดแต่งงานออกพับเก็บลงในกล่อง
ของวางไว้ชั่วคราวในห้องหนังสือ ห้องด้านล่างคนอยู่จนเต็มหมดแล้ว เอาขึ้นมาข้างบนก็ลำบากเกินไป
ฉินยาไปส่งพวกคนที่เอาของมาส่งออกไป พูดกับคนของELOสองสามประโยค
ถือโอกาสช่องว่างตอนที่จงเหยียนซีลากโจวฉุนฉุนไปพูดคุย เฉิงยู่เวินเรียกไป๋ยิ่นหนิงไปอีกฝั่ง “นายชอบเหยียนเหยียน?”
ไป๋ยิ่นหนิงปฏิเสธ “ผมมีภรรยาครับ”
เขาไม่อยากสร้างปัญหาให้คนอื่น ในเมื่อไม่มีพรหมลิขิต ก็ไม่คิดคาดหวังแล้ว
เฉิงยู่เวินมองเขาครู่หนึ่ง ราวกับกำลังพิจารณาคำพูดของเขาว่าจริงหรือหลอก
“หวังว่าคุณจะจำคำพูดตัวเองไว้นะ คุณมีภรรยาแล้ว” เฉิงยู่เวินไม่อยากให้เขาอยากได้ภรรยาของหลานชาย
อีกอย่างหลินซินเหยียนยังเป็นศิษย์ของเขา
จงเหยียนเฉินจูงมือหลินซินเหยียนไว้ตลอด เหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยแล้วเธอจะหนีไป และยังถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “สามีหม่ามี๊ไม่ได้เห็นตอนสวมชุดแต่งงาน น่าเสียดายจัง”
หลินซินเหยียนเคาะกะโหลกเขา “พูดอะไรน่ะ?”
“เขาไม่ใช่สามีหม่ามี๊หรือไง?” พูดจบจงเหยียนเฉินกลัวเธอจะตีตนเอง ก้าวขาวิ่งออกไป
เธอถอนหายใจ เด็กคนนี้ยิ่งโตยิ่งพูดจาไม่เคารพผู้ใหญ่
เพราะว่าไป๋ยิ่นหนิงตัดสินใจจะเข้าร่วมงานแต่งงานของหลินซินเหยียน กลับไป๋เฉิงช้าไปสองสามคืน ตอนบ่ายนั่งเล่นที่วิลล่าสักพักแล้วก็ไป
คนเยอะเกินไป เขาเลยไม่มีโอกาสได้คุยกับหลินซินเหยียนตามลำพัง
หลินซินเหยียนก็จงใจหลบหลีก ไม่เข้าใกล้เขา
เธอแสร้งทำเป็นสับสนทั้งที่เข้าใจไม่ได้ ทั้งที่รู้ความในใจของเขา ยังเข้าใกล้เขา
ยังไงทุกคนต่างก็มีครอบครัวเป็นของตนเองแล้ว ห่างๆกันไว้จะดีกว่า
อีกอย่างโจวฉุนฉุนเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง เธอไม่อยากให้ไป๋ยิ่นหนิงทำร้ายเธอ
วันนี้ทั้งวันจงจิ่งห้าวไม่ได้กลับมา ตอนกลางคนที่เงียบสงบก็คิดถึงเขามาก หลินซินเหยียนเอนตัวลงบนเตียง คิดถึงจดหมายที่คุณนายเวลเลี่ยนส่งให้ตนเอง เธอหยิบขึ้นมา เปิดซองจดหมายออก
เธอคุ้นเคยกับลายมือของคุณนายเวลเลี่ยน เปิดจดหมายออก ลายมือภายในเข้าสู่สายตาทันที
เธอพิงตัวอยู่บนหัวเตียง
อ่านเนื้อหาด้านใน