หลินซินเหยียนพูดจบก็ได้หันหลังเตรียมจากไป
“ลูกชายคุณชื่ออะไร?”ขณะที่หลินซินเหยียนเดินมาถึงหน้าห้องนอน ด้านหลังมีเสียงกวนประสาทของผู้ชายดังขึ้น “หลินซีเฉิน หลินลุ่ยซี?”
เขามาถึงประเทศA ก็ได้รับข้อมูลการดำรงชีวิตหลายปีนี้ของหลินซินเหยียนอย่างละเอียดยิบจากกวนจิ้งแล้ว
ที่ทำให้เขาเหนือความคาดหมายคือ ผู้หญิงคนนี้ได้คลอดแฝดชายหญิงคู่นึง
แถมหน้าตายังดูดีมาก
ฝีเท้าของหลินซินเหยียนหยุดชะงักไว้ จากนั้นได้หันมาจ้องหน้าเขา พร้อมกุมมือทั้งสองไว้แน่น ตอนที่เจอกวนจิ้งเธอก็รู้เลยว่ากวนจิ้งกำลังตรวจสอบเธออยู่
คิดไม่ถึงว่าความเคลื่อนไหวของกวนจิ้งจะไวขนาดนี้
“ถ้าคุณต้องการให้ฉันกลับไปหย่ากับคุณ คุณพูดตรงๆก็ได้ ฉันย่อมเต็มใจและไม่ขัดขวางความสุขของคุณอยู่แล้ว แต่คุณขู่ฉันแบบนี้ ไม่รู้สึกว่ารังแกคนเกินไปเหรอคะ?” หลินซินเหยียนโมโหจนตัวสั่น
จงจิ่งห้าวนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ แขนวางพาดอยู่บนหน้าผากและหลับตาไว้
ไม่พูดไม่จาสักคำ
ดูเหมือนเหนื่อยล้าสุดๆ
หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าห้องก็ไม่กล้าจากไป ใครจะไปรู้ว่าคนๆนี้จะทำเรื่องเสียสติอะไรมาทำร้ายลูกของเธอหรือเปล่า
เพราะตอนนี้เขารู้ทุกอย่างของเธออย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
“ผมหิวน้ำ”
ผ่านไปสักพัก จงจิ่งห้าวเปิดปากพูดอย่างช้าๆ แต่ยังคงหลับตาอยู่อีกเช่นเคย
หลินซินเหยียนมองเขาทีนึง เธอโกรธและคิดอยู่ในใจว่าสู้ให้หิวน้ำตายไปเลยดีกว่า
จงจิ่งห้าวพลิกตัวหันหลังให้กับหลินซินเหยียน หนังตาที่เดิมทีหนักหน่วงได้ค่อยๆลืมตาขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า“คุณอยากให้ผมหิวน้ำตาย ปองร้ายสามีเหรอ?”
“……”
หลินซินเหยียนอัดอั้นตั้นใจ
เธอหันไปรินน้ำ และยกเข้ามายื่นไปให้เขา“น้ำมาแล้ว”
“คุณป้อนผม”จงจิ่งห้าวพลิกตัวมามองผู้หญิงที่ยืนอยู่หัวเตียงพร้อมยับยั้งความโกรธไว้
เพราะเธอโกรธ แก้มจึงแดงก่ำ แก้มทั้งสองข้างป่องขึ้นมา เหมือนหนูแฮมสเตอร์ที่กำลังโกรธอยู่ ดูแล้วช่างน่ารักสุดๆ
จงจิ่งห้าวอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ แต่เสียงหัวเราะนี้ฟังอยู่ในหูของหลินซินเหยียนได้กลายเป็นความกวนประสาท
“จงจิ่งห้าว คุณไปตายเถอะ!”หลินซินเหยียนโยนแก้วน้ำไปที่ตัวเขา น้ำอุ่นที่อยู่ในแก้วโอนเอนอยู่กลางอากาศแล้วสาดออกมาใส่ตัวเขา น้ำยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่หนักหนาสาหัสคือตำแหน่งที่แก้วเขวี้ยงลงมาโดนแผลที่ทรวงอกเขาพอดี
นาทีที่แก้วน้ำเขวี้ยงลงมา เขาได้ร้องซี๊ดทีนึง
เสื้อเชิ้ตที่ถูกสาดจนเปียก สามารถมองทะลุเข้าไปเห็นรอยแดงด้านใน
หลินซินเหยียนอึ้งอยู่ครู่นึง เขาเป็นคนที่ทนเจ็บได้มากเลยไม่ใช่เหรอ แก้วน้ำใบเดียวจะเจ็บแค่ไหนเชียว แต่เมื่อครู่หน้าตาเขาเหมือนเจ็บมากเลย
“คุณอย่ามาเสแสร้งหน่อยเลย”หลินซินเหยียนแกล้งทำตัวสงบ
จงจิ่งห้าวนอนอ้าซ่า ไม่ขยับและไม่พูดจา
สายตาของหลินซินเหยียนค่อยๆมองมา เห็นรอยสีแดงที่สามารถมองทะลุจากเสื้อเชิ้ตขาวสะอาดของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอขมวดคิ้ว ทำไมหน้าอกถึงมีรอยสีแดง?
เธอก้มลงไปมอง พยายามที่จะมองให้ชัดเจนว่าคราบสีแดงที่เห็นนั้นคืออะไร
อยู่ใกล้เขา บวกกับเสื้อเชิ้ตของเขาเปียกน้ำ หลินซินเหยียนเห็นผ้าพันแผลของเขาอย่างชัดเจน
“ทำไม——คุณได้บาดเจ็บ?”หลินซินเหยียนถามอย่างค่อนข้างรับมือไม่ถูก
จงจิ่งห้าวลืมตาขึ้น จ้องโคมคริสตัลที่ระยิบระยับอยู่บนฝ้าเพดานด้วยสายตาเปล่งประกาย
นิ้วมือขยี้ผ้าห่มไว้
เขาแค่ไม่อยากติดค้างเหอรุ่ยหลินมากเท่านั้นเอง
ท้ายที่สุดก็เขาผิดต่อเธอ
ถึงเธอจะมีข้อเสียเป็นพันเป็นหมื่น แต่ก็มีความดีอยู่อย่างนึง
ยังไงซะก็นานหลายปีแล้ว
ยังไงก็มีจิตไมตรีไม่มากก็น้อยอยู่
จิตไมตรีนี้ไม่เกี่ยวกับความรัก แต่คือศีลธรรม คือความรับผิดชอบ
ก็เหมือนคำพูดที่เหอรุ่ยหลินเค้นถามเขาคำนั้น
วัยสาววัยใสหลายปีขนาดนั้น จะสามารถซื้อคืนกลับมาด้วยเงินเหรอ?
ขนตาดกดำของเขาสั่นเล็กน้อย เขาจ้องมองเธอ แววตามีความจริงจังแว๊บผ่าน“ถ้าผมบอกว่า ผมทำเพื่อคุณ คุณเชื่อหรือเปล่า?”
หลินซินเหยียนเม้มปากไว้แน่น เมื่อครู่เธอเหมือนเห็นความจริงจังจากแววตาเขา
แต่พอมาคิดๆดูแล้ว ไม่ใช่สิ เขาจะจริงจังกับเธอได้ยังไง?
ชอบผู้หญิงที่มีลูกมีเต้าแล้ว?
ตาฝาด จะต้องตาฝาดแน่ๆเลย
อีกอย่างเขาได้รับบาดเจ็บแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?
ยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังจะหมั้นกับเหอรุ่ยหลินอยู่แล้ว เห็นเธอเป็นคนโง่หรือไง?
เห็นได้ชัดว่าสีหน้าเธอไม่เชื่อ จงจิ่งห้าวหัวเราะเบาๆ
คงจะกำลังหัวเราะตัวเอง ความรู้สึกที่มีต่อเธอ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ถูก
หลินซินเหยียนโน้มตัวเก็บแก้วน้ำขึ้นมา ไม่รู้เพราะเมื่อครู่ได้เอาแก้วน้ำไปเขวี้ยงปาใส่เขาแล้วรู้สึกละอายใจหรือเปล่า เธอถามเสียงเบา “ฉันส่งคุณไปโรงพยาบาลเถอะ”
“ไม่ไป”
จงจิ่งห้าวปฏิเสธอย่างเฉียบขาด
หลินซินเหยียนหมดหนทาง“แล้วแผลของคุณจะทำยังไง?”
“ช่วยผมถอดเสื้อผ้าเปียกชื้นออก”ใส่เสื้อที่เปียกชุ่มมันทรมานเกิน
หลินซินเหยียนครุ่นคิดอยู่ครู่นึง ก็ได้โน้มตัวลงมาช่วยเขาปลดกระดุมเสื้อ“ฉันช่วยคุณก็ได้ แต่ทำเสร็จคุณจะต้องให้ฉันกลับ”
ปกติเธอพาลูกๆสองคนเข้านอนทุกวัน ถ้าเธอไม่อยู่ เธอกลัวพวกเขาจะหลับไม่สนิท
นาทีที่เธอโน้มตัวลงมา ผมของเธอได้ทิ้งตัวลงมาและปัดโดนแก้มของเขาอยู่เป็นพักๆ รู้สึกคันยุบยิบ เหมือนกระแสไฟที่มีชีวิตพยายามแทรกเข้าไปจุดเซินซิทีฟที่สุดของเขา เสียงของเขาแหบพร่า “ต้องดูความประพฤติของคุณก่อน”
หลินซินเหยียนยกมุมปากอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ติดค้างคุณนะ”
ขณะที่เขาพูด ลมหายใจของเขาได้พัดโชยผมของเธออย่างแผ่วเบา เหมือนกวนประสาท “คุณไม่เอาแก้วมาเขวี้ยงผม ผมจะบาดเจ็บครั้งที่สองมั้ย? ผมไม่ฟ้องคุณโทษฐานที่ทำร้ายคน คุณก็ควรจะขอบคุณผมแล้ว”
“……”
มือที่หลินซินเหยียนกำลังปลดกระดุมอยู่ ได้แกล้งใช้แรงทิ่มแผลของเขาทีนึง
จงจิ่งห้าวเจ็บจนร้องซี๊ด ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ใจร้ายแบบนี้?
เขาได้รับบาดเจ็บ เธออ่อนโยนหน่อยไม่ได้เลยรึไง?
เขาถอนหายใจ“ในที่สุดผมก็รู้สักทีว่าทำไมหลายปีนี้ข้างกายคุณถึงไม่มีผู้ชายเลย ไม่มีผู้ชายคนไหนทนผู้หญิงหยาบคายอย่างคุณได้หรอก”
“ยกแขนขึ้น”หลินซินเหยียนดึงเสื้อเชิ้ตไว้ มองเขาด้วยหางตาพร้อมหัวเราะทีนึง “ผู้ชายที่มาจีบฉันมีเยอะแยะ”
“อ้อเหรอ?”
“แน่นอน——อ๊า!”
เธอยังพูดไม่จบ ก็ถูกจงจิ่งห้าวพลิกตัวเป็นฝ่ายทับเธอไว้ เสื้อเชิ้ตที่ถูกน้ำสาดจนเปียกชื้น ใส่อยู่ตัวเขาอย่างหละหลวม หน้าตาตลกมาก แต่กลับบดบังสายตาดุร้ายของเขาไว้ไม่อยู่
“ไหนลองบอกซิว่ามีใครบ้าง?”
หลินซินเหยียนหันหน้าไปอีกทาง ไม่ไปมองเขาที่เปลือยกายอยู่“คุณถอยไปก่อน”
จงจิ่งห้าวหันหน้าเธอมา ให้เธอมองหน้าตัวเองพร้อมพูดทีละถ้อยคำ“คุณเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว”
“ขาดแค่ใบหย่าอย่างเดียว เราก็หย่ากันแล้ว!”หลินซินเหยียนอยากตะคอกใส่เขาจังเลย ด้านนึงคือมีว่าที่ภรรยาแล้ว อีกด้านนึงยังมาพูดแบบนี้กับภรรยาเก่าอีก
เขายืดหางตาให้ยาว หรี่ตาไว้และโน้มตัวลงไป ริมฝีปากเข้าใกล้มาก น้ำเสียงกุ๊กกิ๊กคลุมเครือ“อย่าลืมสิ ไม่มีใบหย่า คุณก็ยังเป็นภรรยาของผมอยู่ คุณว่า——”
ปลายนิ้วของเขาลูบผ่านแก้มของเธอ นิ้วมือแตะอยู่บนริมฝีปากของเธอ “เราจะใช้ค่ำคืนที่เจอกันหลังจากที่จากกันมานานนี้ยังไง?”
หลินซินเหยียนเบิกตากว้าง กุมมือทั้งสองข้างไว้แน่นพร้อมกลั้นลมหายใจไว้
“เคยได้ยินคำๆนึงหรือเปล่า?”ปลายนิ้วมือของเขากดทับผ่านริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอ
เขาไม่ได้ใช้แรงมาก หลินซินเหยียนไม่รู้สึกเจ็บ แค่รู้สึกถูกเหยียดหยาม
“คำพูดอะไร?”หลินซินเหยียนแอบยกขาขึ้น เตรียมพร้อมกับการต่อต้านทุกเมื่อ
จงจิ่งห้าวสังเกตเห็นท่าทางของเธอ เห็นทะลุปรุโปร่งแต่ก็ไม่ได้เปิดโปง แต่ได้เอาหน้าผากชนกับเธอ “เคยได้ยินจากกันช่วงนึง หวานยิ่งกว่าตอนแต่งงานใหม่ๆหรือเปล่า? เราจากกันหกปีแล้ว——”
เขายังพูดไม่จบ หลินซินเหยียนก็ได้ทำการต่อต้านแล้ว แต่ถูกจงจิ่งห้าวที่เตรียมพร้อมแต่แรกหนีบขาเอาไว้เสียก่อน เธออยากถีบขาทั้งสองข้างของเขาออก
ใบหน้าเขาแฝงด้วยรอยยิ้มที่ได้ใจ“อดใจรอไม่ไหวขนาดนี้เลย?”
หลินซินเหยียนหน้าแดงก่ำ เขาเป็นอันธพาลเหรอเนี่ย?
ทำไมถึงได้ไร้ยางอายถึงขั้นนี้!
ครั้งนี้หลินซินเหยียนชักจะโกรธจริงๆแล้ว เธอจ้องเขาอย่างโหด น้ำตาคลอเบ้า กลับฝืนลืมตาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา
จงจิ่งห้าวอึ้งเล็กน้อย——