เนื้อหาคือ 【อรุณสวัสดิ์】
หลินซินเหยียนจ้องมองตัวอักษรสองสามตัวนี้ ถ้าบอกว่าข้อความเมื่อคืนมีคนแกล้ง หรืออาจจะส่งมามั่วๆ
อย่างนั้นข้อความเช้าวันนี้หมายความว่าอะไรอีก
จงจิ่งห้าวล้างหน้าให้ลูกสาวเสร็จแล้วเดินออกมา ก็มองเห็นหลินซินเหยียนยืนมองโทรศัพท์อยู่ข้างเตียง ก็เดินมา หลินซินเหยียนกำลังคิดอย่างหมกมุ่นเกินไป ไม่ทันสังเกตว่าจงจิ่งห้าวยืนอยู่ด้านหลังตนเอง ตอนที่จงจิ่งห้าวถามว่าใครส่งข้อความให้เธอ เธอตกใจมาก
“ทำไมคุณเดินมาไม่มีเสียงเลย” หลินซินเหยียนเอามือกุมที่หัวใจ หัวใจยังเต้นตึกตัก
จงจิ่งห้าวมองเธอ “ไม่ใช่ว่าผมเดินไม่มีเสียง แต่คุณหมกมุ่นเกินไป ใครส่งข้อความมาให้คุณ”
อรุณสวัสดิ์เหรอ
ใคร
ไป๋ยิ่นหนิงเหรอ
ตอนนี้ยังไม่เลิกความคิดชั่วกับหลินซินเหยียนอีกเหรอ
หลินซินเหยียนนั่งข้างเตียง แหงนหน้ามองเขา
จงจิ่งห้าวมองเธอกลับ “ทำไมไม่พูด”
หลินซินเหยียนเปิดกลับมาที่ข้อความก่อนหน้า เม้มปาก “แปลกมาก ตั้งแต่เมื่อคืนก็ส่งข้อความแปลกๆมา คนนี้หมายความว่าอะไร คิดจะทำอะไร”
จงจิ่งห้าวหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอไป เปิดอ่านดู จากนั้นขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนจะแปลกใจเช่นกัน
“คุณไปหว่านเสน่ห์ให้ผู้หญิงข้างนอกมาเหรอ” หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว ไม่ได้ตั้งใจที่จะสงสัยเขา แต่ว่าคิดไม่ออกจริงๆว่าใครจะทำเรื่องแบบนี้ หาเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้
จงจิ่งห้าวเหล่มองเธอ ไม่ได้พูดอะไร เอาหมายเลขบนโทรศัพท์เธอกดลงไปบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง “ผมจะทำให้เรื่องมันกระจ่าง คุณอย่าคิดฟุ้งซ่าน”
หลินซินเหยียนก้มหน้า “ฉันไม่ได้คิดฟุ้งซ่านนะ ก็แค่รู้สึกไม่สบายใจ ใครจะทำเรื่องแบบนี้”
“ผมจะสืบให้กระจ่าง” เสียงจงจิ่งห้าวเยือกเย็น แฝงด้วยความโกรธที่ยากจะสัมผัสได้
ตอนแรกในตอนเช้าอารมณ์ดีมาก ถูกเรื่องนี้ทำให้ เธอยากจะสงบจิตใจได้
เธอกลัว กลัวจริงๆว่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้น ครั้งนี้เรื่องเสิ่นเผยซวน ทำให้ตื่นตกใจแต่ไม่มีอันตราย ครั้งต่อไปล่ะ
“กู้เป่ยเป็นยังไงบ้าง” หลินซินเหยียนถาม
ครั้งก่อนเป็นเขา
“ตัดสินโทษแล้ว” กู้เป่ยทำตัวเองจบเห่ไปแล้ว ตอนแรกเขามีโอกาสไปต่างประเทศ รอดจากคุก ตอนนี้เขากำลังหาทางตายของตัวเอง ใครก็ช่วยเขาไม่ได้
หลินซินเหยียนก้มหน้า “อย่างนั้นก็ไม่ใช่เขา”
จงจิ่งห้าวบอกให้เธอไม่ต้องคิดแล้ว “ผมจะไปสืบให้กระจ่าง ลูกสาวหิวแล้ว พวกเราลงไปกินข้าวกัน”
หลินซินเหยียนพยักหน้า ยื่นมือมาลูบแก้มลูกสาว “วันนี้ให้เหยียนเฉินกลับมาเถอะค่ะ ยังเป็นเพื่อนเล่นกับเธอได้ ในบ้านไม่มีใครเลย รู้สึกวังเวงอ้างว้างมาก”
ก่อนหน้านี้ยังมีฉินยายังมีจงฉีเฟิงเฉิงยู่เวินพวกเขาอยู่ด้วย ตอนนี้พวกเขาไม่อยู่แล้ว คฤหาสน์ก็กลายเป็นเงียบเหงาขึ้นมาทันที
ตอนแรกจงจิ่งห้าวคิดจะพาจงเหยียนซีไปที่บริษัทด้วย ได้เจอผู้คนเยอะแยะน่าจะมีผลดีต่อการฟื้นฟูของเธอ แต่พอเกิดเรื่องข้อความนี้ เขาก็ทิ้งความคิดที่จะเอาลูกสาวไปที่บริษัทเลย
ตอนนี้ประเด็นสำคัญก็คือทำความจริงให้กระจ่าง ว่าใครเป็นคนส่งข้อความเหลวไหลไร้สาระพวกนั้นมาให้หลินซินเหยียน
“กินข้าวเสร็จผมจะไปรับเขา” จงจิ่งห้าวพูด
หลินซินเหยียนพยักหน้า
ภายในบ้านคุณแม่หยูทำความสะอาดแล้ว แต่ยังมีกลิ่นไวน์อ่อนอยู่ จงจิ่งห้าวให้คุณแม่หยูเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
คุณแม่หยูพูดว่า “หน้าต่างก็เปิดหมดแล้วค่ะ อาจจะยังไม่สามารถกำจัดกลิ่นนั้นได้ทันที”
“ถ้าคุณได้กลิ่นแล้วไม่สบายจมูก ก็ขึ้นไปชั้นบนเถอะ” จงจิ่งห้าวเงยหน้ามองหลินซินเหยียน
เธอไม่มีความอยากอาหารอะไร เคี้ยวอาหารในปากอย่างช้าๆ
อาจจะเป็นเพราะกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ ไม่ทนได้ยินคำพูดของจงจิ่งห้าว
ดังนั้นจึงไม่ได้ตอบอะไรเขา
จงจิ่งห้าวมองเธอ
รู้ดีว่าที่เธอรับปากว่าจะไม่คิดมากอะไร แต่ในใจไม่รู้ว่าคิดไปมากแค่ไหนแล้ว
เขาถอนหายใจ “ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฟังคำพูดผมสักหน่อยนะ”
“อะไรนะ”
หลินซินเหยียนดึงสติกลับมา ได้ยินไม่ชัดว่าเขาพูดว่าอะไร
จงจิ่งห้าวเองก็ไม่อยากอาหาร รอจนจงเหยียนซีกินอิ่มแล้ว เขาก็เอาจงเหยียนซีให้เธอ
เขาออกจากคฤหาสน์ไปรับจงเหยียนเฉินจงเหยียนเฉินแล้ว
พร้อมกับพาจงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินกลับมาคฤหาสน์ด้วยกันเลย ในบ้านมีคนอยู่ จะได้ช่วยหลินซินเหยียนดูแลจงเหยียนซี ตอนนี้แม้แต่คุณแม่หยูจงเหยียนซีก็ไม่เอา ตอนเขาไม่อยู่ ก็มีเพียงหลินซินเหยียนอุ้มอยู่คนเดียว ท้องเธอใหญ่แล้วไม่สะดวก
เวลาเก้าโมงเช้า จงจิ่งห้าวรับพวกเขากลับมา
“หม่ามี๊” จงเหยียนเฉินวิ่งมาหมอบบนขาเธอ มองน้องสาว “ยังไม่หายอีกเหรอ”
หลินซินเหยียนยื่นมือมาลูบหน้าผากเขา “ใช่แล้ว ดังนั้นเลยต้องเรียกลูกกลับมาเล่นกับน้อง”
จงเหยียนเฉินเป็นเด็กที่ฉลาดมาตลอด พยักหน้าแรงๆ จากนั้นก็พูดคุยกับน้องสาวไม่หยุด “เสี่ยวลุ่ยพี่มีของจะให้เธอด้วยนะ เธออยากดูมั้ย”
จงเหยียนซีกะพริบตาปริบๆมองเขา ไม่ได้พูดอะไร
จงเหยียนเฉินก็ไม่ได้โกรธ พูดโน้มน้าวเธอต่อไปว่า “เธอไม่อยากดูจริงเหรอ อย่างนั้นพี่ให้คนอื่นแล้วนะ”
จงเหยียนซีก็ยังไม่พูด
ดูท่าของเล่จะไม่สามารถดึงดูดความสนใจเธอได้ จงเหยียนซีวิ่งไปหอบเอาของเล่นที่เคยเล่นทั้งหมดในบ้านมา
ความจริงแล้วถ้าวันนี้จงจิ่งห้าวไม่ไปรับพวกเขา พวกเขาก็คิดจะกลับมาอยู่แล้ว ของเล่นพวกนี้เป็นของเล่นที่พวกเขาไปซื้อมาเมื่อวานโดยเฉพาะ
จงเหยียนซีอยากเล่นเกมบ้านมาตลอด แต่จงเหยียนเฉินรู้สึกว่ามันปัญญาอ่อน ไม่ยอมเล่นด้วย
ครั้งนี้น้องสาวถูกทำให้ตกใจจนสภาพจิตใจย่ำแย่ เขายอมแล้ว ขอเพียงทำให้น้องสาวดีขึ้นไวๆ อะไรเขาก็ยอมทำ
จงฉีเฟิงเดินมา “เสี่ยวลุ่ยมาให้ปู่อุ้มหน่อย”
จงเหยียนซีมุดเข้าไปในอ้อมอกของหลินซินเหยียน ใช้ท่าทางแสดงความหมายไม่เต็มใจให้เขาอุ้ม
“คุณปู่พวกเรามาเล่นบ้านกันเถอะครับ” จงเหยียนเฉินลากจงฉีเฟิงมานั่งบนพรม เฉิงยู่เวินก็จูงเจ้าขาวเข้ามาร่วมด้วย
จงเหยียนซีกระพริบตาปริบๆมองพวกเขา จงเหยียนเฉินเอาของเล่นพวกนั้นมาเรียงไว้ โดยเฉพาะของเล่นเครื่องครัวในบ้าน ที่มีครบ วัตถุดิบแต่ละอย่าง และยังมีหม้อกระทะด้วย สามารถหั่นผักผัดผัก บ้านเจ้าหญิง ข้างในมีเจ้าหญิงอาศัยอยู่ เธออยากเล่นมาตลอด
ผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็เป็นฝ่ายออกมาจากอ้อมกอดของหลินซินเหยียนเอง ไปเล่นกับพวกเขา
หลินซินเหยียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ยังดีที่ในที่สุดก็มีแนวโน้มที่ดีเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แม้จะยังไม่พูด แต่ก็ยอมเล่นกับคนอื่นแล้ว
อีกด้าน จงจิ่งห้าวมาที่บริษัท หลังจากเข้าไปในห้องทำงานแล้วก็เดินไปหน้าโต๊ะทำงานกดโทรสายภายใน “เรียกกวนจิ้งมาหาผมที่ห้องทำงานหน่อย”
“ค่ะท่านประธานจง”
เขาปลดกระดุมเสื้อสูท นั่งหน้าโต๊ะทำงาน
กวนจิ้งได้รับโทรศัพท์ของเลขา ก็มาที่ห้องทำงานของจงจิ่งห้าว ตอนที่มาถึงประตู ไม่ได้เคาะประตูทันที แต่ยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง แล้วจึงยกมือขึ้นมาเคาะประตู
เสียงของจงจิ่งห้าวดังออกมาอย่างรวดเร็ว
กวนจิ้งผลักประตูเข้ามา
“คุณไปช่วยผมสืบหน่อย หมายเลขนี้”
จงจิ่งห้าวเอาหมายเลขของคนที่ส่งข้อความมาหาหลินซินเหยียนให้กวนจิ้ง
กวนจิ้งรับกระดาษมาก้มศีรษะพลางพูดว่า “ครับ”
“เดี๋ยวก่อน……”
ตอนที่กวนจิ้งกำลังจะเดินไปนั้น จงจิ่งห้าวก็เรียกเขาไว้ “เป็นอะไรช่วงนี้เหนื่อยมากเหรอ”
สภาพดูไม่ดีนัก นี่ไม่เหมือนกวนจิ้งเลย
กวนจิ้งส่ายหน้า “เปล่าครับ”
“วันลาประจำปีนี้ ฉันให้นายหยุดเพิ่มอีกหนึ่งสัปดาห์” จงจิ่งห้าวเปิดเอกสารที่ต้องลงชื่อบนโต๊ะทำงาน
กวนจิ้งคิดจะพูดบางอย่างแต่ลังเลไม่พูด มีบางอย่างจะบอกเขา แต่ไม่รู้จะบอกอย่างไร สุดท้ายก็พูดว่า “ขอบคุณครับท่านประธานจง”