กู้หุ้ยหยวนไม่ได้แสดงออกถึงอาการตกใจหรือกลัวใดๆ แถมยังลุกขึ้นจากโซฟาด้วยท่าทางที่สบายๆ แล้วเดินไปยังตรงหน้าของกวนจิ้ง เธอยื่นมือออกไปจับเนคไทของกวนจิ้ง “แน่นอนว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ว่า ฉันมีคุณไม่ใช่เหรอ? คุณเป็นคนข้างตัวของเขาไม่ใช่เหรอ?”
กวนจิ้งก้มหน้าลงมองมือของเธอ แล้วแสยะยิ้ม “คุณแน่ใจขนาดนั้นเลยว่าผมจะช่วยคุณ?”
กู้หุ้ยหยวนเข้าไปใกล้ใต้คางของเขา แล้วเป่าลมอุ่นๆใส่เขา “ถ้าคุณไม่ช่วยผู้หญิงของคุณ แล้วคุณอยากจะช่วยใครล่ะ?”
“ฮ่าๆ!”กวนจิ้งบีบไปที่คางของเธอ “คุณน่ะ อย่างมากก็ได้แค่คนที่ถวายตัวถึงเตียงเท่านั้น ผู้หญิงของผมงั้นเหรอ? คุณไม่เหมาะ!”
กู้หุ้ยหยวนไม่ได้โกรธ แต่ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ว่าฉันจะถวายตัวกับคุณถึงเตียง หรือคุณเข้าหาฉันเอง มันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเราสองคนได้กันแล้ว ทำไม อยากจะปัดความรับผิดชอบเหรอ? งั้นฉันก็จะไปแจ้งความว่าคุณข่มขืนฉัน?”
กวนจิ้งหรี่ตาลง
“อย่าจ้องฉันตาแข็งแบบนั้นสิ”กู้หุ้ยหยวนยกขาขึ้นแล้วถูข้างตัวของเขา “ฉันชอบให้คุณอ่อนโยนกับฉันหน่อย”
กวนจิ้ง “…………..”
“คุณละอายใจตัวเองหน่อยได้ไหม? อย่าทำตัวต่ำแบบนี้?”กวนจิ้งผลักเธอออก
กู้หุ้ยหยวนไปชนกับขอบโต๊ะ เธอจับขาของตัวเองไว้ “กวนจิ้ง มันจะมากเกินไปแล้วนะ”
“คนที่เกินไปคือคุณ คุณคิดว่าผมนอนกับคุณแล้ว จะฟังคำพูดของคุณทุกอย่างเหรอ? แค่รูปไม่กี่รูป คุณอยากให้ใครก็ให้ไป หรือแม้กระทั่งคลิป คุณอยากส่งให้สำนักข่าวไหนก็ส่งไป คนอย่างกวนจิ้งจะไม่มีทางยอมโดนผู้หญิงข่มขู่หรอก”
พูดจบเขาก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
กู้หุ้ยหยวนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ มองดูประตูที่ปิดสนิท แล้วกำมือแน่น
เธอรู้สึกไม่พอใจ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาเขา
กวนจิ้งที่กำลังขับรถก็ได้ยินเสียงสายเข้า จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากเธอ ก็เลยไม่ได้กดรับ จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น
ถึงไม่มีคนรับกู้หุ้ยหยวนก็ไม่ยอมแพ้ เธอเปลี่ยนไปเป็นส่งข้อความแทน
ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดับลง แต่เสียงข้อความดังขึ้น กวนจิ้งยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์มาดู เนื้อความคือ【ไม่อยากมีอนาคตแล้ว?】
กวนจิ้งแวะจอดรถข้างทาง แล้วพิมพ์ตอบกลับไป【การได้พบคุณ ผมยังมีอนาคตอะไรอีก?】
กู้หุ้ยหยวนยังคงไม่ยอมแพ้【คุณจะยอมเสียหน้าเพื่อเจ้านายของคุณจริงๆเหรอ?】
【กู้หุ้ยหยวน หลังจากที่ได้พบคุณ ผมยังมีหน้าให้เสียอีกเหรอ?】
กู้หุ้ยหยวนกัดริมฝีปาก แล้วกดโทรหาเขาอีกครั้ง ในครั้งนี้กวนจิ้งกดรับสาย “คุณคิดที่จะทำอะไรอีก?”
กู้หุ้ยหยวนถามขึ้น “คุณสามารถทิ้งอนาคตของตัวเองได้จริงๆเหรอ?”
กวนจิ้งตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล “ใช่”
“คุณเป็นสุนัขเหรอ จะภักดีอะไรนักหนา มันมีประโยชน์อะไร? ยังไงก็เป็นลูกน้องของเขาอยู่ดี? ถ้าคุณช่วยฉัน ฉันสามารถทำใหคุณเป็นเจ้านายเองได้ คุณมีอำนาจ ส่วนฉันมี………..”
“กู้หุ้ยหยวน คุณคิดว่าคนทุกคนจะเหมือนกับตระกูลกู้ของคุณเหรอ? คนที่ไม่มีมนุษยธรรมและศีลธรรม ย่อมด้อยกว่าหมูหรือหมาเสียอีก กู้หุ้ยหยวนฉันไม่สามารถควบคุมคุณได้ แต่ว่า คุณก็อย่าคิดที่จะมายุ่งกับผม”
“กู้หุ้ยหยวน”กู้หุ้ยหยวนจับโทรศัพท์ไว้ ไม่พูดอะไรออกมาเป็นเวลานาน
กวนจิ้งจึงถามขึ้น “ทำไมคุณถึงเงียบ?”
“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไร”กู้หุ้ยหยวนพูดตอบ
เธอไม่สามารถเถียงกวนจิ้งได้เลย พ่อและน้องชายของเธอนั้น ล้วนได้รับผลกรรมจากการกระทำของตัวเอง ทว่า เธอเป็นลูกและเป็นพี่สาว เธอไม่สามารถทำเป็นเฉยเมยได้
“กวนจิ้ง ฉันขอถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะไม่ช่วยฉันจริงๆเหรอ?”กู้หุ้ยหยวนถามขึ้น
กวนจิ้งยังคงยืนยันคำเดิม “ผมจะไม่หักหลังเจ้านาย”
“โอเค แล้วอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน”พูดจบเธอก็กดวางสายไป
กวนจิ้งมองดูโทรศัพท์ บนหน้าจอยังคงปรากฏให้เห็นว่าวางสายแล้ว และมีเสียง ‘ตุ๊ดๆ’ดังอยู่ เขาจึงกดปุ่มสิ้นสุดแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ข้อศอกทั้งสองวางอยู่บนพวงมาลัยรถแล้วใช้มือปิดหน้าไว้
เวลาผ่านไปสักพัก เขาจึงจะเอามือออกจากหน้า ภายในใจคิดอะไรบางอย่างได้ และตัดสินใจแล้ว
เขาสตาร์ทรถอีกครั้ง แล้วขับตรงไปยังบริษัทอย่างรวดเร็ว
เขาจอดรถเสร็จก็เดินตรงไปที่ลิฟต์ เมื่อถึงออฟฟิศลิฟต์ก็หยุดแล้วเขาก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของจงจิ่งห้าว
ในตอนที่เขากำลังจะเคาะประตูนั้น เลขาก็พูดขึ้นว่า “เจ้านายไม่อยู่”
กวนจิ้งหันกลับไปถาม “ท่านไปไหน?”
“ไม่ได้อยู่ในตารางงาน ฉันก็ไม่รู้ว่าท่านไปไหน”เลขาตอบ
เรื่องส่วนตัวที่ไม่มีในตารางงาน เธอไม่รู้
กวนจิ้งขมวดคิ้วแน่น
“คุณมีเรื่องด่วนอะไรจะรายงานเหรอ?”เลขามองดูท่าทางที่ร้อนรนของกวนจิ้ง
กวนจิ้งไม่ได้ตอบอะไร แล้วกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
ห้องทำงานของเขาอยู่ตรงข้ามกับห้องทำงานของจงจิ่งห้าว กว้างขวางและตกแต่งเป็นอย่างดี เขาเดินเข้าไปในห้องแล้วใช้มือจับไว้ที่โต๊ะทำงาน กู้หุ้ยหยวนบอกว่าเขานั้นเป็นลูกน้องของคนอื่น ถูกต้อง เขานั้นเป็นลูกน้องที่ทำงานให้คนอื่น แต่เขาก็รู้สึกว่ามันประสบความสําเร็จ สามารถมีตำแหน่งและหน้าที่การงานเหมือนทุกวันนี้ได้ ได้รับความไว้วางใจและมอบหมายงานสำคัญจากจงจิ่งห้าว ไม่เช่นนั้นเขาจะมีโอกาสมีเหมือนทุกวันนี้ได้ยังไง?
เกิดเป็นคน จะไม่มีจิตใต้สำนึกได้อย่างไร?
เขาไม่สามารถไปช่วยกู้หุ้ยหยวนเพื่อมาทำร้ายจงจิ่งห้าวได้
เขาดูออกว่า จงจิ่งห้าวนั้นแคร์หลินซินเหยียนมาก
เขาจะเนรคุณไปทำร้ายพวกเขาได้อย่างไร?
เขาก้มหน้าลงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา ค้นหาหมายเลขของจงจิ่งห้าวแล้วกดโทรออก
จงจิ่งห้าวมาส่งหลินซินเหยียนหาหมอ ถึงเวลาที่หมอนัดเธอมาตรวจของเดือนนี้แล้ว ตอนนี้กำลังตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ สามารถได้ยินเสียงเต้นของหัวใจทารกผ่านเครื่องอัลตราซาวด์ได้อย่างชัดเจน
เขายืนอยู่ข้างๆหลินซินเหยียนและจับมือของเธอไว้ ภายในใจรู้สึกทั้งซับซ้อนและตื่นเต้น เพียงแค่ได้ยินเสียงนี้ก็รู้สึกว่านี่เป็นเด็กที่มีพลังมาก หัวใจของเขาเต้นแรงมาก จะเห็นได้ว่าพละกำลังของเขาแข็งแกร่งมากขนาดไหน
แม้แต่มือที่จับหลินซินเหยียนก็ยิ่งอยู่ยิ่งจับแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลินซินเหยียนรู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อย และยังมีเหงื่อโชกอีก ทว่า เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากเตือน ตอนที่จงเหยียนเฉินกับจงเหยียนซีอยู่ เขาไม่มีโอกาสได้ยินเสียงหัวใจเต้นของทารกที่อยู่ในครรภ์ตอนนี้มีโอกาสแล้ว การที่เขาตื่นเต้น เป็นเรื่องปกติของคนเป็นพ่อ
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของจงจิ่งห้าวก็ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เป็นสายจากกวนจิ้ง เขาก็กดวางสาย แล้วเข้าไปกระซิบข้างหูของหลินซินเหยียน “ผมขอออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกสักครู่นะ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “คุณไปเถอะ”