จงจิ่งห้าวยิ้ม และลูบมือขึ้นไป สุดท้ายไปหยุดอยู่ที่ดวงใจของเธอ จากนั้นถาม “จั๊กจี้ตรงนี้เหรอ”
หลินซินเหยียนคว้าจับมือของเขาไว้ ให้เขาเลิกกวน
จงจิ่งห้าวยิ้มเบาๆ “ก็เห็นอยู่ว่าคุณกวนผม”
หลินซินเหยียนขยับตัว หาท่าที่สบายตัวแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ฉันกวนคุณตรงไหน”
จงจิ่งห้าวยกริมฝีปากขึ้น “แล้วคุณว่ากวนตรงไหนล่ะ”
“ฉันไม่รู้ คุณก็บอกฉันสิ” หลินซินเหยียนกล่าวอย่างยียวน
จงจิ่งห้าวยิ้มอย่างจนปัญญา ยื่นมือไปบีบจมูกของเธอ “คุณนะคุณ…… ปีศาจน้อยที่ช่างยียวนกวนประสาทคนจริง ๆ”
หลินซินเหยียนตบที่มือของเขาเบาๆ “บีบเจ็บนะ”
จงจิ่งห้าวจึงปล่อยมือ แล้วเอนตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ ดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด จากนั้นตบเข้าไปที่ก้นของเธอหนึ่งที “คลอดลูกของพวกเราออกมาให้ดี ๆ นะ”
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นไปหอมที่คางของเขาแล้วกล่าว “ลูกของพวกเราต้องคลอดออกมาอย่างปลอดภัย”
ต่อมาเธอก็ไม่มีเสียงอีก จงจิ่งห้าวเองก็เหนื่อยล้าเต็มทน สักพักก็หลับใหลไป
หลินซินเหยียนตื่นขึ้นมาตอนหกโมงเช้าพอดี เธอคว้าโทรศัพท์มา แล้วก็โทรหาเหวินเสี่ยวจี้ อยากจะบอกเขาว่างานแต่งของเขาตัวเองนั้นไม่สามารถไปได้
หลังจากที่งานแต่งผ่านไป เธอก็เริ่มมีการติดต่อกับเหวินเสี่ยวจี้ ทั้งคู่มีการส่งข้อความถามไถ่กันเป็นประจำ
เขาเองสนใจอยากรู้ว่าเมื่อไรหลินซินเหยียนจะถึงกำหนดคลอด
หลินซินเหยียนเองก็ไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงเธอมากกว่านี้ อีกอย่างเขาอยู่ในกองก็ยุ่งมากอยู่แล้ว
น้อยมากที่จะมีเวลากลับมา งานแต่งครั้งนี้ก็ได้รับการอนุมัติวันหยุดก่อนถึงได้มีเวลา
หลินซินเหยียนเองก็อยากจะไปมาก ไม่ใช่ว่าจะอะไรกับเหวินชิง สำหรับเหวินเสี่ยวจี้พวกเขาไม่ควรแบกรับความผิดพลาดของคนรุ่นก่อน
แต่ว่าก็ไม่ควรละเลยสถานการณ์ของตัวเอง
ไม่นานโทรศัพท์ก็ถูกรับสายขึ้น หลินซินเหยียนยังไม่ทันได้พูด เหวินเสี่ยวจี้ก็ได้กล่าวขึ้น “คุณจะมาเมื่อไหร่ จะให้ผมไปคุณหรือเปล่า”
คำพูดที่หลินซินเหยียนอยากจะพูด ได้ติดอยู่ที่ลำคอ และไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับเขาอย่างไรดี
“ทำไมไม่พูด”
เหวินเสี่ยวจี้ได้กลิ่นตุ ๆ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
หลินซินเหยียนรีบกล่าวขึ้น “เปล่า เพียงแต่……เสี่ยวจี้ ฉันคงจะไปร่วมงานแต่งคุณไม่ได้ ฉัน……”
“ทำไม” เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกคำพูดของเหวินเสี่ยวจี้ขัดขึ้น อีกทั้งยังถามด้วยความผิดหวัง “เป็นเพราะคุณพ่อของผมเหรอ”
หลินซินเหยียนก้มหน้า “ไม่ใช่……”
“อย่างนั้นเป็นเพราะอะไร”
“ร่างกายของฉันไม่ค่อยดี……”
“ข้ออ้างหรือเปล่า!” เหวินเสี่ยวจี้ไม่เชื่อในสิ่งที่หลินซินเหยียนอธิบาย ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยพูดถึงว่าร่างกายของเธอไม่ดี มีบางครั้งที่เขาได้ถามไถ่ถึงสถานการณ์ของเธอ เธอก็บอกว่าตัวเองนั้นสบายดีมาก แต่ทำไมเมื่อบอกว่าให้เธอมาร่วมงานแต่ง เธอกลับบอกว่าร่างกายไม่สบาย”
ต้องการหลีกเลี่ยงที่จะเจอพวกเขาใช่ไหม
เขาคิดว่าพวกเขาไม่ได้ไปใส่ใจ ติดใจในเรื่องของคนรุ่นก่อนแล้ว พวกเขาใส่ใจแค่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ เรื่องของคนรุ่นก่อนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอีก
“คุณไม่มา ผมผิดหวังมาก พวกเราไม่เจอกันนานแล้วนะ ผมอยากถือโอกาสนี้เจอคุณ และอยากให้ช่วงเวลาสำคัญของผมนั้นมีคุณอยู่ร่วมด้วย”
หลินซินเหยียนเม้มปาก “ขอโทษ……”
“ผมไม่ได้อยากให้คุณขอโทษ อีกอย่างคุณก็ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อผม กลับเป็นผมต่างหากที่ติดค้างคุณ แต่……ผมอยากให้คุณมาจริง ๆ คุณมีอะไรที่ลำบากใจก็บอกกับผม ผมจะช่วยคุณแก้ไข ถ้าหากว่าคุณไม่อยากเจอหน้าคุณพ่อผม ผมสามารถให้เขาไม่……”
“เสี่ยวจี้……”
หลินซินเหยียนขัดจังหวะเขาขึ้น ไม่ใช่เป็นเพราะเหวินชิง จงจิ่งห้าวนั้นปล่อยวางแล้ว เธอเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีก อีกอย่างเหวินชิงก็ได้รับโทษแล้วด้วย
เธอรู้สึกจนปัญญา
“ผมจะไปรับคุณตอนเก้าโมง” เหวินเสี่ยวจี้กล่าวเสร็จก็วางสายลง
หลินซินเหยียนถอนหายใจ ถือโทรศัพท์ไว้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“ผมจะไปคุยกับเขา” ทันใดนั้นมีเสียงทุ้มต่ำลอยเข้ามาในที่ใบหูชั้นใน หลินซินเหยียนหันหน้าไป ก็เห็นจงจิ่งห้าวกำลังมองมาที่ตัวเอง
“คุณตื่นแล้วเหรอ” หลินซินเหยียนถาม
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นนั่ง สงบอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็หันหน้ามา หลินซินเหยียนเม้มปาก แล้วกล่าว “คุณได้ยินด้วยเหรอ”
เขาพยักหน้า จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียง
หลินซินเหยียนเอนตัวลง ในใจรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ผ่านไปสักพัก จงจิ่งห้าวได้ทำธุระส่วนตัวเสร็จ และออกมาสวมใส่เสื้อผ้า หลินซินเหยียนจ้องมองเขาแล้วกล่าว “วันนี้คุณยุ่งหรือเปล่า”
จงจิ่งห้าวจ้องมองเธอ เหมือนจะรู้ว่าเธอจะพูดอะไรต่อจากนี้ จึงไม่ได้รีบตอบเธอในทันที แต่เป็นแววตาที่จ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา
หลินซินเหยียนกระตุกมุมปากขึ้น “หรือว่าคุณไปกับฉัน”
จงจิ่งห้าวติดกระดุมที่แขนเสื้อ แล้วเดินเข้ามา ในใจนั้นไม่อยากให้เธอไป อีกไม่กี่วันก็จะคลอดแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไร
หลินซินเหยียนเห็นท่าทางที่ไม่พูดของเขา ก็รู้แล้วว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ยื่นมือไปจับมือของเขาแล้วเขย่าไปมา จากนั้นพูดจาออดอ้อนออเซาะ “ฉันก็คิด ๆ ดูแล้ว การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งชีวิตของเขามีเพียงครั้งเดียว อยากจะให้ฉันไปร่วมด้วย หากฉันไม่ไปเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะนะ”
จงจิ่งห้าวหรี่ตามองเธอที่จับมือของตัวเองครู่หนึ่ง ดูเหมือนลูกอ้อนนี้จะใช้ไม่ได้ผล “สถานการณ์ของคุณเป็นอย่างไร ตัวคุณเองไม่รู้เหรอ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “ฉันรู้”
“รู้แล้วยังอยากจะไปอีก” น้ำเสียงของจงจิ่งห้าวเคร่งขรึม
ตั้งครรภ์มาถึงระยะนี้ก็อันตรายมากพอแล้ว เธอยังจะไปอีก ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วจะทำอย่างไร
ถ้าหากว่าแข็งแรงเขาจะไม่ห้ามเลย อีกทั้งยังสามารถไปเป็นเพื่อนเธอ โดยที่เธอต้องมีสุขภาพที่ดี ตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบไหน ไม่เพียงแต่ตัวเธอเอง ยังมีลูกในท้องของพวกเขาอีก
แม้แต่ความเสี่ยงเพียงน้อยนิดเขาก็ไม่อยากจะไปเสี่ยง
หลินซินเหยียนปล่อยมือ รู้ว่าเขาไม่เห็นด้วย