ท่านย่านอนหลับอยู่ในห้อง ปกติตอนที่ซูจ้านไม่อยู่ล้วนมีเฉินเสว่คอยตามดูแล เมื่อได้ยินซูจ้านถามก็เล่าเรื่องที่ท่านย่าเชิญซินแสมาทำพิธีที่บ้านในเขาฟัง
“อาจารย์ท่านนั้นยังพูดว่าจำเป็นต้องให้พี่สาวนอนในห้องนอน”
ซูจ้านรู้ว่าท่านย่ามีความปรารถนาที่จะได้หลานชายมาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะทำเรื่องไสยศาสตร์พวกนี้ด้วย
เขาเดินไปถึงห้องนอนของเขากับฉินยา ผลักประตูเข้าไปก็เห็นธูปกำยานวางอยู่ใกล้กับหน้าบานหน้าต่าง ด้านบนมีการบูชากวนอิมประทานบุตร ภายในกระถางธูปยังมีธูปเผาไหม้อยู่ ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นควันธูปหอม
เขาไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเองจริงๆ ถ้าหากว่าให้ฉินยาเห็นจะไม่เป็นการทรมานคนจนเป็นบ้าไปหรือ?
เขาใกล้จะเป็นบ้าแล้ว!
โชคดีที่ไม่ได้รับฉินยากลับมา เขารู้สึกยินดีในใจ เมื่อเดินเข้าไปก็เปิดประตูตู้หยิบกระเป๋าเดินทางออกมา เริ่มเก็บเสื้อผ้าของทั้งสองคน
ตอนที่เขาเก็บเรียบร้อยเตรียมจะออกจากบ้าน ท่านย่าก็ตื่นแล้ว เมื่อเห็นเขาลากกระเป๋าเดินทางก็ถามว่า “หลานจะไปไหน ฉินยาล่ะ วันนี้ควรจะกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ”
“ผมส่งเธอไปที่เมืองC แล้ว ทางด้านนั้นมีเรื่อง…..”
“เรื่องใหญ่อะไรที่จะสำคัญไปกว่าการมีลูก? ครั้งนี้ไม่สำเร็จก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ ในบ้านมีสิ่งสกปรก พวกเราเชิญซินแสมาทำพิธีให้แล้ว ครั้งหน้าจะต้องสำเร็จแน่นอน หลานรีบไปรับคนกลับมาเร็วเข้า”
“คุณย่า เธอเป็นคนนะครับ คุณย่าไม่สามารถเห็นเธอเป็นเครื่องมือในการผลิตลูกได้……”
“หลานพูดอะไรของหลานน่ะ?! เธอก็เป็นภรรยาของหลานเช่นกันนะ ภรรยาของหลานคลอดลูกให้ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัยไม่ใช่หรือ” ท่านย่าร้อนใจแล้ว “หลานรีบรับคนกลับมาเร็วเข้า”
“รับกลับมาไม่ได้แล้วครับ เดินทางไปแล้ว”
ท่านย่าโมโหจนทุบเขาไปหลายที “รีบไปรับคนกลับมาให้ย่าเดี๋ยวนี้!”
“รับไม่ได้ครับ” ท่าทีของซูจ้านแน่วแน่เป็นพิเศษ
ท่านย่าโมโหมาก นี่ต้องการจะทำให้เธอโมโหตายชัดๆ “หลานอยากจะให้ย่าตายสินะ ดี วันนี้ย่าจะตายให้หลานดู”
ท่านย่าหมุนล้อเก้าอี้รถเข็น คิดจะพุ่งไปชนกำแพง
ซูจ้านยืนนิ่งโดยไม่ขยับเขยื้อน พลางเอ่ยว่า “คุณย่ายังไม่ได้กอดหลานชายเลยนะครับ คุณย่าตายแล้ว จะอธิบายกับคนที่อยู่ข้างล่างว่าอย่างไร? ตอนนี้คุณย่ายังตายไม่ได้”
เอ่ยจบแล้วก็ลากกระเป๋าเดินทางจากไป
ท่านย่าโมโหหนักมาก หยิบถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะเขวี้ยงไปทางซูจ้าน
“พี่ชาย……”
เฉินเสว่รีบเอ่ยเตือน ซูจ้านหันกลับมามองท่านย่า เอนกายหลบ แก้วที่ถูกเขวี้ยงมาจึงกระแทกเข้ากับกำแพง
ซูจ้านสั่งเฉินเสว่ด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ดูแลคุณย่าให้ดี ให้เธออารมณ์ดีแล้ว ฉันจะเพิ่มเงินเดือนให้เธอ”
“ซูจ้าน!”
“คุณย่า ผมจะไปเมืองC ช่วงหนึ่งเช่นกัน รอจนร่างกายของฉินยาดีขึ้นบ้างแล้ว พวกเราค่อยกลับมานะครับ” ซูจ้านเอ่ยจบแล้วก็เดินออกจากบ้านไปโดยไม่หันหน้ากลับมา
ท่านย่าโมโหจนทุบลงบนที่วางแขนที่อยู่เหนือล้อ “ซูจ้าน หลานจะให้ย่าตายสินะ”
ไม่ว่าท่านย่าจะร้องไห้โวยวายอย่างไร ซูจ้านก็ไม่หันกลับมา
เขารู้ว่าท่านย่าอาลัยอาวรณ์ไม่อาจตายได้ ยังอยากจะได้หลานชายอยู่
บ้านที่ซูจ้านเช่าก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องรับแขก หนึ่งห้องครัว และหนึ่งห้องน้ำ อยู่สองคนกำลังพอดี ข้างในของอะไรล้วนมีหมด แค่หิ้วกระเป๋ามาก็สามารถเข้าพักได้เลย
ชุมชนนี้อยู่ใกล้กับสำนักงานของเขาเช่นกัน
ตอนที่ซูจ้านกลับมา ฉินยาก็พักผ่อนอยู่บนเตียง เพราะว่าหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องรับแขก ห้องนอนและห้องรับแขกล้วนกว้างมาก ห้องนอนไม่ได้มีของตกแต่งมากมาย กำแพงใช้สีชมพูเข้มทา เตียงสีขาว ตกแต่งด้วยโคมไฟเรียบง่าย ริมระเบียงมีเก้าอี้แขวนวางอยู่ เบาะรองนั่งขนสีขาวนุ่มฟู หมอนอิงสี่เหลี่ยมสีชมพู ตรงข้ามเก้าอี้แขวนมีชั้นวางดอกไม้สี่ชั้น เลี้ยงพืชสีเขียวเอาไว้เยอะมาก พืชอวบน้ำที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต และยังมีอ่างแก้วรูปวงรีใบหนึ่ง ด้านในนั้นมีสาหร่าย หินหลากสี เลี้ยงปลาหลายตัวที่ไม่ได้แปลกประหลาดอะไรเอาไว้ ปลาตัวน้อยว่ายไปมาอย่างเริงร่า เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตชีวามาก
ทั้งหมดในห้องนี้มีบรรยากาศมหัศจรรย์มาก ทำให้ผู้คนอารมณ์เบิกบานมีความสุข
ฉินยาเห็นซูจ้านแขวนเสื้อผ้าในตู้แล้ว ในใจก็มีความรู้สึกกังวลหลายส่วน “พวกเราออกมาแบบนี้ คุณย่าจะโกรธหรือเปล่าคะ”
ซูจ้านเอ่ยโดยไม่ได้หันหน้ากลับมา “ไม่ใช่ว่าเธอก็อารมณ์ไม่ดีตลอดหรือ โกรธแล้วก็เท่ากับว่าเธอหาเรื่องใส่ตัวเอง”
เขาแขวนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็วางกระเป๋าเดินทางเข้าไปในชั้นวางที่ถูกกั้นไว้ในตู้ และเดินมานั่งลงที่ข้างเตียง “ผมรู้ว่าคุณใช้ชีวิตในบ้านด้วยความกดดัน ผมก็เหมือนกัน ผมไม่อยากเห็นคุณเจ็บปวด……”
เธอเม้มริมฝีปาก
ซูจ้านยื่นมือปัดผมเธอไปด้านหลัง กระซิบเสียงเบาว่า “ฉินยาครับ…..”
ฉินยาเอ่ยว่าคะ
ซูจ้านเอ่ยว่า “คุณอยากกินอะไร ผมจะเข้าครัวทำให้คุณ”
ความจริงแล้วซูจ้านอยากจะบอกว่า คุณไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น บำรุงรักษาสุขภาพให้ดีก็พอ
แต่กลัวว่าเธอได้ยินคำพูดของเขาแล้วจะคิดมากยิ่งกว่าเดิม จึงไม่ได้พูด
“คุณทำอาหารเป็นหรือคะ”
ฉินยาไม่รู้ว่าเขามีความสามารถนี้ด้วย
ซูจ้านยิ้ม ห่มผ้าห่มให้เธอ “พวกเราสามารถมีความสุขได้วันหนึ่งก็มีความสุขกันวันหนึ่ง”
ฉินยามองเขา พลางเอ่ยว่าค่ะ
“คุณพักสักครู่หนึ่ง เสร็จแล้วผมจะเรียกคุณ”
ฉินยาตอบว่าค่ะ
ซูจ้านลุกขึ้น เดินออกจากห้องนอนแล้วปิดประตูลง
ฉินยาเอียงตัวนอน มองสภาพแวดล้อมแปลกตา ในใจก็ผ่อนคลายลงมาก
ตอนนี้เธอหวาดกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับท่านย่ามาก ประสบผลสำเร็จแล้วอะไรก็พูดได้ง่าย แต่ว่าล้มเหลวแล้ว
ไม่รู้ว่าท่านย่าจะพูดว่าอะไร
เกรงว่าคงจะเป็นคำพูดที่ไม่น่าฟังเช่นกัน
เธอสะบัดศีรษะทิ้งความคิดวุ่นวายเหล่านั้นไป โชคดีที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้าน แม้ว่ามีคำพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง เธอก็ไม่ได้ยิน เรียกว่าตาไม่เห็น ใจก็ไม่หงุดหงิด
เธอนอนไม่หลับ ลุกขึ้นมาสวมเสื้อนั่งอยู่ในเก้าอี้แขวนบริเวณริมระเบียง ยื่นมือลงไปในอ่างเลี้ยงปลาหยอกปลาในน้ำเล่น