ซางหยูพยุงร่างอยากจะลุกขึ้นมา แต่ทันใดนั้นพบว่าตัวเองเปลือยเปล่า เธอจึงดึงผ้าห่มมาปิดหน้าอกด้วยสัญชาตญาณ ไม่ใช่ว่าถือตัว เพียงแต่ยังไม่ชินกับการอยู่กับเขาอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา
เธอกัดริมฝีปากหรี่ตาลงแล้วกล่าวเบาๆ “คุณๆออกไปก่อน ฉันจะใส่เสื้อผ้า”
เสิ่นเผยซวนนั่งอยู่ข้างเตียงไม่ขยับ จ้องมองเธออย่างเงียบๆ
ซางหยูถูกเขามองจนรู้สึกอึดอัด คิ้วขมวดขึ้น “คุณ คุณมองฉันแบบนี้ทำไม”
เสิ่นเผยซวนเอื้อมมือมาจับที่แขนของเธอแล้วดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ก้มลงจูบที่หน้าผากของเธอ เงียบอยู่สักพัก “มีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดกับคุณ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร”
เขาเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่ง ซางหยูเข้าใจจุดนี้ดี
ซางหยูถูไถอยู่ที่อ้อมกอดของเขาแล้วกล่าว “ฉันรู้”
เธอชอบที่เขาที่เป็นแบบนี้ สุขุม เยือกเย็น หนักแน่น
ไม่รู้เป็นเพราะตั้งแต่เด็กไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่หรือเปล่า เมื่ออยู่ข้างกายเสิ่นเผยซวน ไม่เพียงแต่มีความรัก ยังมีความห่วงหาอาทรที่ได้จากผู้ใหญ่
เธอไม่ต้องการให้เสิ่นเผยซวนห้อยคำรักไว้ที่ริมฝีปาก และเขาเองก็คงไม่สามารถพูดคำรักเหล่านั้นออกมาได้ นิสัยของเขาก็เป็นแบบนี้ ซางหยูชอบเขาที่เป็นแบบนี้
สำหรับคำรักเหล่านั้น ให้เธอเป็นคนพูด ให้เธอเป็นคนทำ
“ซางหยู” เสิ่นเผยซวนเอ่ยขึ้นฉับพลัน
ซางหยูเงยหน้าขึ้น จมูกไปโดนคางของเขา เธอเบะปากแสร้งทำเป็นโกรธ “คุณควรจะโกนหนวดได้แล้ว”
เสิ่นเผยซวนยกมือขึ้นจับ สองวันไม่ได้โกนยาวขึ้นมาเล็กน้อย ทิ่มมือนิดหน่อย เขาบอกว่าเดี๋ยวผมจะไปโกน เมื่อพูดจบก็เรียกซางหยูขึ้นอีกครั้ง
ซางหยูลืมตาปริบๆแล้วกล่าว “ฉันฟังอยู่”
เสิ่นเผยซวนหรี่ตาลง รูม่านตาสีดำลุ่มลึก เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแหบแห้ง “ซางหยูขอบคุณนะ”
ซางหยูยิ้ม “ขอบคุณเรื่องอะไร”
เสิ่นเผยซวนเม้มปาก “ขอบคุณที่แต่งงานกับผม”
“อย่างนั้นฉันก็ต้องขอบคุณคุณเช่นกัน” ซางหยูจงใจชิดเข้าไปใกล้ริมฝีปากของเขา ขณะพูดก็จงใจเหมือนจะสัมผัสโดนไม่โดนริมฝีปากของเขา “ขอบคุณที่คุณขอฉันแต่งงาน”
เสิ่นเผยซวนหรี่ตาลง แล้วก็จับศีรษะของเธอขึ้นทันใด จากนั้นประทับลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ
ซางหยูจึงตอบสนองกลับอย่างรวดเร็ว สองมือคล้องที่คอของเขา ลืมไปสิ้นว่าบนเรือนร่างของตัวเองไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น ลืมไปสิ้นว่าถึงเวลาทานข้าวแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลถูกความเร่าร้อนกลืนกินไปหมด
จนไม่เหลือที่ว่าง
“อืม ฉันหิวแล้ว……” ซางหยูกล่าวขึ้นกลางคัน
การเคลื่อนไหวของเสิ่นเผยซวนได้หยุดชะงักฉับพลัน ซางหยูกะพริบตา แววตาใสราวกับน้ำเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ปลายนิ้วมือที่เรียวบางชี้ไปที่จมูกของเขา “คุณทำไมถึงตามมุขไม่ทันเลย”
เสิ่นเผยซวนหายใจออกแรงๆ “ซางหยู……”
ซางหยูยิ้ม “สิ่งที่ฉันอยากกินก็คือคุณไง”
……
จากนั้นอาหารก็เย็นลง ซางหยูก็ไม่อยากทานแล้ว ลุกไม่ขึ้นจริง ๆ จึงนอนอยู่บนเตียงอย่างนี้จนฟ้ามืด
ผู้ชายที่ว่างเว้นจากกามารมณ์มานานนั้นน่ากลัวมาก ซางหยูเข้าใจจุดนี้ดี วันแรกของการเข้าห้องหอเธอจึงไม่ได้ลงจากเตียง
ฟ้ามืดแล้วเธอถึงลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ ร่างกายส่วนล่างของเธอเหนียวเหนอะหนะมาก ยังไม่ได้ทำความสะอาด ยังมีกลิ่นจางๆของเหงื่อหลงเหลืออยู่ ไม่เพียงแต่เป็นของเธอ ยังมีของเสิ่นเผยซวนที่ติดอยู่บนตัวของเธอ
เธอทำความสะอาดเสร็จก็สวมใส่กระโปรงชุดนอน เธอพลางเช็ดผมพลางเดินออกมา เห็นเสิ่นเผยซวนกำลังคุยโทรศัพท์ จึงเดินมาที่ด้านหน้าโซฟาแล้วนั่งลงอย่างเงียบๆ และทำการเช็ดเส้นผมที่เปียกชื้นให้แห้งต่อ
เสิ่นเผยซวนยังคงคุยเรื่องงานกับเพื่อนร่วมงาน ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็วางสายลง หันหน้ามาแล้วเห็นซางหยู จึงเดินเข้ามาถือผ้าขนหนูที่อยู่ในมือของเธอ “ผมเช็ดให้คุณ”
ซางหยูจึงเอนตัวลงนอนอย่างสบาย หนุนอยู่บนหมอนที่อยู่บนตักของเขา ให้เสิ่นเผยซวนช่วยเธอเช็ดผม
เสิ่นเผยซวนก้มหน้า ท่าทางที่ตั้งอกตั้งใจ
“ฉันหิวแล้ว” ซางหยูกล่าว
เสิ่นเผยซวนจ้องมองเธอ
ซางหยูจึงลุกพรวดขึ้นนั่ง การเคลื่อนไหวที่เร็วเกินไป ส่วนล่างของร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ทัน จึงเกิดรู้สึกบวมเจ็บนิดๆ เป็นครั้งแรกและเขาใช้เวลานานเกินไป หลังๆค่อยรู้สึกผ่อนคลายมีความสุข เพียงแต่ตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกว่า ตอนนั้นพวกเขาร้อนแรงกันมาก
เธอหิวจริง ๆ ไม่ใช่ต้องการจะกินเขา
เสิ่นเผยซวนยิ้ม “ผมไม่แตะคุณหรอก”
ซางหยูถอนหายใจโล่ง กำลังจะบอกว่าฉันอยากทานเกี๊ยว จากนั้นได้ยินเสิ่นเผยซวนกล่าวขึ้น “ให้คุณทานให้อิ่มก่อน”
“หมายความว่าอย่างไร” ซางหยูที่คิดตามไม่ทัน
เสิ่นเผยซวนเป็นคนตรงจริงจัง พูดประโยครักอะไรไม่เป็นหรอก
หรือว่า……
ซางหยูกะพริบตาปริบๆ “คุณ……”
“ผมไปหยิบเสื้อผ้าให้คุณ” เสิ่นเผยซวนลุกขึ้น ก้าวเดินเข้าไปในห้อง
ซางหยูมองแผ่นหลังของเขาแล้วยิ้มขึ้น แล้วลุกขึ้นนั่งรออยู่บนโซฟา
จากนั้นรอแล้วรอเล่าคนก็ไม่ออกมา
ซางหยูรู้สึกแปลกใจ เสื้อผ้าของเธอนั้นแขวนอยู่ในตู้รวมกับเสื้อผ้าของเขา เมื่อเขาเปิดตู้ออกมาก็น่าจะมองเห็น
แต่ทำไมนานขนาดนี้ก็ยังไม่ออกมา
หรือว่ากำเลือกชุดให้กับเธอ
เสื้อผ้าเธอก็มีไม่มาก สไตล์ก็ไม่ได้เยอะ
เธอจึงลุกขึ้นจากโซฟา ถือผ้าขนหนูเดินไปทางห้องนอน ทอดสายตามองเข้าไปในห้อง เห็นเสิ่นเผยซวนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อน
ซางหยูจ้องมองเขา เหมือนกับเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังเดินเข้ามา ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น
เธอรู้สึกแปลกใจ จึงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง ก็ไม่เห็นถึงสิ่งผิดปกติ จึงเรียกเขาขึ้น “คุณกำลังทำอะไร”