จงเหยียนซีถูกเถียนฉีเฟิงหยอกให้หัวเราะขบขัน
เถียนฉีเฟิงก็หัวเราะตาม แต่ในใจกลับคิด จะขัดใจใครก็ได้ แต่จะขัดใจผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ หากใจร้ายขึ้นมา ก็จะไม่ไว้หน้าไหนใครก็ตาม
ณ โรงพยาบาล
เจียงโม่หานฟื้นตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายของวันถัดไป
หนานเฉิงเฝ้าอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลา
แต่แล้วเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา การกระทำแรกคือกวาดตามองไปทั่วห้อง ไม่เห็นจงเหยียนซีจิตใจก็รู้สึกเศร้าห่อเหี่ยว “เธอไม่มาเหรอ”
หนานเฉิงตกใจ สักพักก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงใคร
“เธอไม่ได้มาเลย”
เจียงโม่หานลุกขึ้นนั่ง หันหน้าไปมองนองหน้าต่าง แล้วกล่าวเบาๆ “ช่วยผมไปจัดการทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลหน่อย”
หนานเฉิงลังเลแล้วกล่าว “ก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล ท่านดูข่าวก่อน”
เจียงโม่หานหันไปมองเขา พอจะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร จึงรับโทรศัพท์ของเขามา ด้านบนเป็นข่าวเรื่องที่เขาอยู่ที่โรงแรม
พาดหัวข่าวว่า (ประธานแห่งเหิงคังกรุ๊ปพา’หญิงสาวสองคน’ขึ้นโรงแรม) พร้อมภาพประกอบของหญิงสาวสองคนที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ยืนอยู่ที่หน้าประตู
เพียงแค่หัวข้อข่าวนี้ก็ดึงดูดให้สนใจแล้ว
บวกกับคำอธิบายในเนื้อหา ทำให้คนคิดไปถึงไหนต่อไหน
ด้านล่างมีความคิดเห็นมากมายที่ต่างว่ากันว่า คนเราจะดูเพียงภายนอกไม่ได้
ก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ที่ทุกคนมองเจียงโม่หานคือ เป็นผู้ชายสูงใหญ่ ตรงไปตรงมา เย็นชา ที่นี้ได้ถูกข่าวนี้ทำให้เสียๆหายๆ
แต่นี่ยังไมใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือเพราะข่าวนี้ของเขาทำให้หุ้นบริษัทเกิดการผันผวนและมีแนวโน้มลงดิ่ง
ใบหน้าของเจียงโม่หานไม่มีความรู้สึกใด ๆ นี่น่าจะเป็นเป้าหมายของเธอ
“วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณหลิน เธอบอกว่า ยังมีเงินทุนก้อนสุดท้ายที่ใช้ลงทุนในการซื้อกิจการ” หนานเฉิงจ้องมองเขา ครั้งนี้พวกเราเสียหายอย่างใหญ่หลวง”
เจียงโม่หานเลิกผ้าห่มออก ไม่ได้เสียใจเพราะเงินที่ขาดทุน แล้วกล่าว “ผมติดค้างเขา”
หนานเฉิงอ้าปาก เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่กลับไม่สามารถพูดออกมาได้”
“เรื่องที่ผมให้นายไปสืบไปถึงไหนแล้ว” เววตาลุ่มลึกของเขาจ้องมองออกไปไกล ๆ ผ่านกระจกไปที่ไหนสักแห่งหนึ่งโดยที่ไม่ได้โฟกัส
หนานเฉิงเม้มปากไม่บอกตรง ๆ อันที่จริงสืบมาได้พอประมาณแล้ว เรื่องที่ผ่านมานานขนาดนี้ ความจริงแล้วไม่ได้สิบง่ายขนาดนั้น แต่ด้วยการติดตามกวนจิ้งอย่างลับๆ ภายใต้การนำทางของ
เขาทำให้ได้เบาะแสมา
เขาจงใจปรากฏตัวให้เจียงโม่หานเห็น ก็เพื่อต้องการให้เขารู้สาเหตุที่แท้จริงของอุบัติทางรถยนต์
ไม่ต้องการให้เขาเกลียดผิดคน
เขาคิดว่าเป็นความผิดของคนตระกูลจง เขาคิดว่าเงินก้อนนั้น คือเงินที่ซื้อชีวิตคน แต่ความจริงแล้วเป็นแค่เงินชดเชยสำหรับพวกเขา คนที่อยู่ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้นล้วนเดียงสาไม่รู้อี
โหน่อีเหนทั้งนั้น
เขาไม่ควรไปเกลียดคนที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้น
กวนจิ้งต้องการให้เขารู้ความจริง
ถึงได้วางแผนนี้ขึ้น
ดังนั้นหนานเฉิงจึงสืบหาข้อมูลได้มาไม่ยาก
แต่ว่าตอนนี้เขายังคิดไม่ได้ว่าจะบอกเจียงโม่หานอย่างไรดี
“เรื่องเกิดขึ้นนานเกินไป ดังนั้นการสีบหาจึงค่อนข้างยาก” หนานเฉิงกล่าวโกหก
เจียงโม่หานไม่ได้สงสัยอะไร อย่างไรก็ตาม มันนานมากแล้วและเขารู้ว่าต้องใช้เวลาในการค้นหา
เขากล่าวขึ้นอีกครั้งว่า “ช่วยผมทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล และเตรียมชุดสะอาดให้ผมหนึ่งชุด”
หนานเฉิงตอบครับ จากนั้นก็ออกจากห้องไป
หลังจากเจียงม่หานออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาไม่ได้ไปที่บริษัทเพื่อจัดการกับงานที่สะสมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่กลับไปหาจงเหยียนซี
ในเมื่อชัดเจนแล้ว เขาจึงอยากจะคุยกับเธอดี ๆ
แต่แล้วจงเหยียนซีกลับไม่ได้อยู่โรงแรม
โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง เจียงโม่หานหาคนไม่เจอ สุดท้ายจึงได้แต่กลับไปจัดการงานที่บริษัท
เถียนฉีเฟิงไปที่เหิงคังกรุ๊ป
เพื่อไปพบเขา เจียงโม่หานรู้ว่าเขาเป็นคนของจงเหยียนซี
“ผมมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของคุณหลิน” เถียนฉีเฟิงลากเก้าอี้มานั่งที่ด้านหน้าโต๊ะ
“เธอล่ะ”
เจียงโม่หานถามเรื่องที่ตัวเองอยากรู้ที่สุด
“คุณหลินกลับบริษัทใหญ่ไปแล้ว งานในฝั่งนี้คุณคุยกับผมก็พอ”
เจียงโม่หานเอนตัวไปด้านหลัง แล้วมองเขาเบาๆ “แผนนี้ตั้งแต่เริ่มเป็นเธอที่เข้ามาคุยกับผม ตอนนี้มาเปลี่ยนคน มันเหมือนไม่ให้เกียรติผม”
“ประธานเจียงกล่าวเกินไปแล้ว” เถียนฉีเฟิงยิ้ม
เจียงโม่หานท่าทางจริงจัง “ไม่ผ่านการยินยอมจากผมแล้วเปลี่ยนคน เงินที่เหลือผมจะไมลงทุนอีกแม้แต่แดงเดียว อีกทั้งเงินที่ผมลงทุนไปก่อนหน้านี้ก็จะเรียกความเสียหายจากบริษัทพวก
คุณ”
ตอนนั้นเถียนฉีเฟิงกล่าวออกมาด้วยความโมโห “สัญญาได้เซ็นแล้ว คุณไม่มีเหตุผลที่……
“เปลี่ยนคนกลางคัน ก็คือการผิดสัญญา” เจียงโม่หานจ้องมองเขา “ผมไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ”
“คุณอยากเจอคุณหลินใช่ไหม” เถียนฉีเฟิงเดาออกถึงความคิดเขา”
เจียงโม่หานไม่ปฏิเสธ
ตัวตนถูกเปิดเผย เธอแค่หลบตัวเอง จุดนี้ทำให้เขาไม่ชอบ
ความผิดพลาดที่เขาเคยทำ เขาไม่ปฏิเสธ แต่ว่าอย่างน้อยก็ขอให้ฟังคำอธิบายจากเขา
หลบหน้าไม่เจอแบบนี้ เขายอมรับไม่ได้
“คุณรู้ว่าเป็นเพราะเธอ ข่าวเรื่องนั้นของผมได้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของบริษัทผม ผมคิดว่าคุณก็น่าจะเห็น”
เถียนฉีเฟิงไม่พูด เขาย่อมรู้ เขาคอยสังเกตดูอยู่ตลอดเวลา จากนั้นรายงานให้จงเหยียนซีทราบ
เพราะว่าข่าวนั้นทำให้หุ้นของเหิงคังกรุ๊ปได้ร่วงตกระนาว ทำให้ตอนนี้ขาดทุนไปหลายร้อยล้านแล้ว
“สำหรับเรื่องที่เปลี่ยนคนนี้ ผมจำเป็นต้องขออธิบายกับคุณ สาเหตุที่คุณหลินมอบหมายงานให้ผม เพราะว่าร่างกายเธอไม่สบาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจากไปเพื่อทำการรักษา…..
“เธอเป็นอะไร” เถียนฉีเฟิงยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกเจียงโมหานขัดจังหวะขึ้น
เขาถามด้วยความเป็นห่วง
สุขภาพของจงเหยียนซีนั้นสบายดี เพียงแค่กลับไปทำหน้าให้กลับมาเหมือนเดิม ตอนนี้เจียงม่หานรู้ตัวตนของเธอแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป เพราะเมื่อเธอจบเรื่องราวทางนี้แล้ว
เธอก็จะไปประเทศไทยทันที งนั้นเธอจำเป็นต้องทำหน้าให้กลับมาเหมือนเดิมถึงจะไปพบพ่อแม่ได้
ร่างกายพ่อแม่เป็นผู้มอบให้ เธอจะไปเปลี่ยนง่ายๆได้อย่างไร
แต่ว่าเถียนฉีเฟิงกลับไม่ได้บอก กลับโกหกขึ้น “สุขภาพของเธอไม่ดี เป็นผลข้างเคียงจากไฟไหมัครั้งนั้น เธอไม่ได้ต้องการจะหลบหน้าคุณ เพียงแต่ร่างกายไมเอื้ออำนวย จึงต้องทำการรักษา
เมื่อรอเธอหายดีแล้วก็จะกลับมา เธอบอกว่ายังมีเรื่องที่ยังไม่ได้สะสางกับประธานเจียง ไม่มีทางหลบหน้าคุณอย่างแน่นอน”
เจียงโม่หานหัวใจยิ่งบีบรัดแน่น
ผลข้างเคียงที่เกิดจากไฟไหม้ครั้งนั้น นั่นก็หมายความว่า ไฟไหมัครั้งนั้นเธอได้รับบาดเจ็บ
“เธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน” เจียงโม่หานกล่าวถาม
เถียนฉีเฟิงได้ยินคำพูดของเขา คือต้องการอยากไปเยี่ยมเธอ?
เขารับปากกับจงเหยียนซีว่าจะไม่ให้เจียงโม่หานไปรบกวนเธอ
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก อย่างมากก็แค่หนึ่งเดือนก็สามารถกลับมาได้แล้ว อประธานเจียงอย่าได้เป็นห่วง……
“ผมจะถามคุณอีกครั้ง เธออยู่โรงพยาบาลได้!” การแสดงออกของเจียงโม่หานชัดเจน เขาต้องการเจอคน!
เถียนฉีเฟิงสมองหมุนอย่างเร็ว “ประธานเจียง คุณหลินบอกไว้ไม่อยากถูกรบกวน ผมคิดว่าคุณควรจะรอเธอ แล้วทั้งคู่ค่อยมานั่งลงคุยกันดี ๆ ตอนนี้ผมเป็นแค่ตัวแทนเธอ ถ้าหากว่าคุณคิดว่า
รู้สึกผิดต่อเธอ ติดค้างเธอ ก็ควรจะคืนเธอให้หมด ๆไป”
เจียงโม่หานหรี่ตาลง “ในเมื่อผมติดค้างเธอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”
เขาดึงดันดื้อรั้นไม่ต้องการจะคุยกันเถียนฉีเฟิง ต้องการเจอจงเหยียนซีเท่านั้น ต้องการรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง
เถียนฉีเฟิงขมวดคิ้วเบาๆ “คุณไปเจอเขา รังแต่จะทำให้เธอทำการรักษาอย่างไมสบายใจ หรือว่าคุณไม่อยากให้เธอดีขึ้นเร็วๆ
เจียงโม่หานกำมือแน่น ไม่ใช่ เขาแค่เป็นห่วงเธอ
“ให้เวลาผม แล้วนานแค่ไหน” สุดท้ายเจียงโม่หานก็ยอมจำนนให้ในที่สุด
ประโยคที่บอกว่ามีแต่จะทำให้เธอไม่สบายใจในการรักษาของเถียนฉีเฟิง เขาฟังเข้าไปในหัวใจ
“เขาไม่ต้องที่จะทำในสิ่งต่าง ๆ ที่ทำร้ายเธอ
“หนึ่งเดือน”
เถียนฉีเฟิงกล่าว
นี่เป็นเวลาที่จงเหยียนซีบอกกับเขา
เธอบอกว่าจากไปนานที่สุดก็ประมาณหนึ่งเดือนก็จะกลับมา