ตอนที่ 462 ผมรักคุณ
เผยหนานเจวี๋ยจ้องเธอตาไม่กระพริบ มองเห็นความเย็นชาในดวงตาของเขา เขาเอื้อมมือออกไป จับมือเธอแน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหนีไป
ฉู่เจียเสวียนต้องการชักมือกลับตามสัญชาตญาณ แต่ว่ากลับกลับถูกเขาจับไว้แน่น
“เสวียนเสวียน ผมรักคุณ เมื่อก่อนผมมันไม่ดีเอง ทำร้ายคุณตั้งมากมายขนาดนั้น แต่ว่าจากวันนี้เป็นต้นไป ผมจะจีบคุณใหม่” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว มองเธอด้วยความรักลึกซึ้ง น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความแน่วแน่
เมื่อก่อนนี้เพราะเขาผิดไปแล้ว ช่วงเวลานี้เขาคิดอย่างดีแล้ว เมื่อก่อนเขาไม่กล้ามั่นใจกับความรู้สึกแบบนี้ แต่ว่าหลังจากเกิดเรื่องมากมายแบบนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจหัวใจของตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจจะตามจีบเธอใหม่อีกครั้ง
ฉู่เจียเสวียนมองเขา จู่ๆ หัวใจก็เต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้ยินคำว่าผมรักคุณสามคำนี้ หัวใจของเธอก็สั่นไหว
เมื่อก่อนเธอต้องการได้ยินสิ่งนี้จากปากของเขาเหลือเกิน แต่ว่าตอนนี้…พวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว
“คุณเผยคิดจะล้อเล่นกับฉันเหรอ คุณเก็บคำสารภาพของคุณไปให้คนอื่นเถอะ ฉันไม่ต้องการ” ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉู่เจียเสวียนจึงสงบสติอารมณ์ลง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงเป็นปกติที่สุด
“ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมจริงจังมาก ผมพูดได้ทำได้” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวแต่ละคำแต่ละประโยคกับฉู่เจียเสวียนอย่างชัดถ้อยชัดคำ ความแน่วแน่ในแววตายิ่งทำให้ปฏิเสธไม่ได้
“หึหึ คุณเผย ฉันไม่ชอบคุณ ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว เกรงว่าจะทำให้คุณผิดหวังแล้ว” ฉู่เจียเสวียนกล่าวเย็นชา ประกายความเยือกเย็นผ่านวูบในแววตา
เธอจะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในโลกของเผยหนานเจวี๋ยอีกได้อย่างไร เขาเป็นยาเสพติดเชียวนะ เธอกำจัดพิศออกไปได้อย่างยากลำบาก จะกลับไปติดมันอีกครั้งหรือ
“ผมไม่รังเกียจ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย ผมไม่รังเกียจที่เธอมีแฟนแล้ว เขามีความเชื่อมั่นว่าเธอจะต้องกลับไปอยู่ข้างกายเขาได้แน่
“เผยหนานเจวี๋ย ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับคุณอีก ในอดีตเพราะฉันทะเยอทะยานเกินไป ตอนนี้ฉันแค่อยากมีชีวิตที่มีความสุข ไม่อยากให้คุณมารบกวนอีก” เธอเพียงแค่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องการพัวพันอะไรกับเขาอีก
“คุณยังชอบผมอยู่ใช่หรือเปล่า” น้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยตื่นเต้นเล็กน้อย แววตาที่มองเธอเปี่ยมด้วยความเจ็บปวด
มองเผยหนานเจวี๋ยที่เป็นแบบนี้ หัวใจของฉู่เจียเสวียนไม่รู้สึกผ่อยคลายเลยสักนิด แต่กลับมีความรู้สึกหนักอึ้ง
เธอกลับมา เดิมทีก็เพราะอยากแก้แค้นเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าหลังจากเกิดเรื่องมากมายแล้ว เธอจึงพบว่าวันเวลาที่มีความแค้นมันช่างเหนื่อยมากเหลือเกิน
โดยเฉพาะเมื่อเห็นฉู่อีอีในตอนนี้ เธอยิ่งไม่อยากให้ตัวเองเป็นเหมือนเธอ
“เผยหนานเจวี๋ย ฉันพูดอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันไม่ชอบคุณ ต่อไป นอกจากเรื่องงานแล้วพวกเราก็อย่าเจอหน้ากันเลย” พูดจบก็หยิบกระเป๋าต้องการจะจากไป แต่ว่ากลับถูกเผยหนานเจวี๋ยกอดไว้จากด้านหลัง
“คุณยังโทษผมอยู่ใช่หรือเปล่า เสวียนเสวียน ที่ผ่านมาผมไม่ดีเอง พวกเราเริ่มต้นใหม่ได้หรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยกอดฉู่เจียเสวียนจากด้านหลัง น้ำเสียงเจ็บปวด
ที่ผ่านมาเพราะเขาไม่ดีเอง ทำเรื่องผิดมากมายเกิไป แต่ว่าจากนี้ไป เขาเพียงต้องการจะชดใช้ให้เธอ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอเสียใจอีกต่อไปแล้ว ทำไมเธอถึงไม่เชื่อ
เริ่มต้นใหม่เหรอ หึหึ เผยหนานเจวี๋ย พวกเราจะเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไร ตั้งแต่วินาทีที่ลูกของพวกเราตาย พวกเราก็จบแล้ว จบโดยสิ้นเชิง
“ไม่มีทาง!” กัดฟันพูดคำนี้ออกมา หัวใจของฉู่เจียเสวียนรู้สึกเจ็บปวด ยื่นมือปลดมือของเผยหนานเจวี๋ยที่โอบเอวเธออย่างแรง
แต่ไม่ว่าเธอจะออกแรงอย่างไร เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ยอมปล่อยมือ สุดท้ายฉู่เจียเสวียนโมโห งอข้อศอกแล้วกระทุ้งไปที่หน้าอกของเผยหนานเจวี๋ย
ตอนที่ 463 วิชาป้องกันตัว
เผยหนานเจวี๋ยไม่หลบหลีก รับการจู่โจมของฉู่เจียเสวียนเอาไว้ ฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะไม่หลบ ปล่อยให้เธอโจมตีเขา
เนื่องจากฉู่เจียเสวียนมีวิชาป้องกันตัว ข้อศอกนั้นหนักแค่ไหนมีเพียงเขาที่รู้
ฉู่เจียสวียนรับการจู่โจมของฉู่เจียเสวียนไว้ คนก็ถอยไปข้างหลัง ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เผยหนานเจวี๋ยถอยหลังไปสองก้าว หลังไปชนกับชั้นที่ผนัง ในขณะที่หลังขนเข้ากับชั้นวางของนั้น เขาร้องครวญครางออกมา
ถึงอย่างไรวันนี้เขาก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เพิ่งผ่าตัดหลังเสร็จ ตอนนี้ชนเข้าแบบนี้แล้ว เป็นการตอกย้ำบาดแผลโดยไม่ต้องสงสัย
เมื่อเห็นสีหน้าที่ขาวซีดของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนตื่นตกใจ รีบเดินเข้าไปประคองเขา ขมวดคิ้วเข้าหากัน ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมคุณไม่หลบล่ะ!”
คนนี้นี่จริงๆ เลย เมื่อครู่เธอออกแรงแค่ไหนมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่หลบ
จู่โจมไปแรงแบบนั้น เขาจะต้องเจ็บมากสินะ
“คุณเป็นห่วงผม” แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่สนใจความเจ็บปวดบนตัวเลย เมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นห่วงของฉู่เจียเสวียน แววตาเผยรอยยิ้ม
“จนป่านนี้แล้ว คุณยังจะล้อเล่นอีก ฉันจะส่งคุณกลับบ้าน ดูบาดแผลสักหน่อย” ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้น เอาแขนของเผยหนานเจวี๋ยพาดบนบ่าของตัวเอง หยิบโทรศัพท์มือถือสองเครื่องบนโต๊ะ แล้วประคองเขาออกไป
แทนที่จะประคอง มันเป็นการดีกว่าที่จะบอกให้เผยหนานเจวี๋ยเดินเอง เขาสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบกว่าเซนติเมตร ไม่รู้ว่าสูงกว่าฉู่เจียเสวียนแค่ไหน และแม้ว่าฉู่เจียเสวียนจะสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยรูปร่างสูงใหญ่แบบนี้ เธอจะประคองเขาไหวได้อย่างไร
แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยกลับชอบความรู้สึกนี้มาก แม้ว่าจะเจ็บมาก แต่ก็มีรอยยิ้มอ้อยอิ่งอยู่บนริมฝีปากของเขา
ที่วิลล่าบ้านเผย หลังจากฉู่เจียเสวียนประคองเผยหนานเจวี๋ยลงจากรถแล้ว ก็เดินเข้าบ้านไปทันที
ประคองเผยหนานเจวี๋ยไปนั่งที่โซฟา ฉู่เจียเสวียนรีบสำรวจหลังของเขาด้วยความร้อนใจ
เธอไม่รู้ว่าการกระทำของเธอแบบนี้ ทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยมีความสุขมากเพียงใด เขาอยากจะให้เวลาหยุดอยู่แค่นี้เหลือเกิน
เมื่อเห็นว่าด้านหลังของเผยหนานเจวี๋ยมีเพียงรอยแดง ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไร ฉู่เจียเสวียนจึงถอนหายใจโล่งอก เงยหน้าขึ้นก็พบว่าเผยหนานเจวี๋ยมองเธออยู่ตลอดเวลา
ราวกับเธอเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง หน้าก็แดงโดยไม่รู้ตัวแล้ว
“เอ่อ ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วฉันก็ขอตัวกลับก่อน” ฉู่เจียเสวียนกล่าว พูดจบก็หันหลังจากไป
แต่ว่า มือของเธอกลับถูกเผยหนานเจวี๋ยรั้งไว้ “ดึกมากแล้ว คืนนี้ค้างนี่เถอะ ป่านนี้ไม่มีรถแท็กซี่แถวนี้ด้วย”
“ฉันไม่ค้าง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปฏิเสธทันทีโดยไม่คิด เธอจะค้างคืนที่นี่ได้อย่างไร
มองขึ้นไปยังบ้านที่คุ้นเคยแห่งนี้ ฉู่เจียเสวียนรู้สึกระคายเคืองตาเล็กน้อย เธอเคยอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามปี แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอมีแต่ความทรงจำอันเจ็บปวดไม่รู้จบ
ตอนนี้เมืองมองดูทุกสิ่งที่คุ้นเคยที่นี่ หัวใจของเธอก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก การตกแต่งของที่นี่ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เหมือนกับเมื่อสามปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยน
“แล้วคุณจะกลับไปยังไง ตอนนี้ก็ดึกป่านนี้แล้ว อยู่ที่นี่เถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก” เผยหนานเจวี๋ยพูดกับฉู่เจียเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง
ฉู่เจียเสวียนกัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าที่นี่เรียกรถยากมาก ที่นี่อยู่ไกลจากที่เธออาศัยอยู่มาก กัดฟัน สุดท้ายก็พยักหน้าตอบรับอย่างจนใจแล้ว
เปิดโทรศัพท์มือถือโทรหาซูซาน บอกว่าตัวเองปลอดภัยดีและคืนนี้เธอจะไม่กลับบ้าน จากนั้นก็วางสายแล้ว