กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 526 คุณรู้ได้ยังไง / ตอนที่ 527 กลับประเทศ

ตอนที่ 526 คุณรู้ได้ยังไง  

 

 

           “นั่นสิจวิ้นฉือ เธอไปทำงานก่อนเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว” ซูซานเห็นด้วยทันที ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนก็ตื่นแล้ว ไข้ก็ลดแล้ว ก็คงไม่เป็นไรแล้ว  

 

 

           สุดท้าย กงจวิ้นฉือก็กลับไปที่บริษัทเพราะงาน ซูซานไปเอาน้ำให้ฉู่เจียเสวียน เพียงครู่เดียวห้องคนไข้ก็เหลือเพียงฉู่เจียเสวียนตามลำพัง  

 

 

           ฉู่เจียเสวียนหันมองนอกหน้าต่าง อากาศนอกหน้าต่างสดใสมาก แสงแดดกำลังส่องสว่าง ทั้งๆ ที่ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ว่าความอบอุ่นของกลางวันไม่ลดน้อยลงไปเลย  

 

 

           ความคิดค่อยๆ ล่องลอยไปไกล สายตามองไปนอกหน้าต่างไม่กระพริบ  

 

 

           “กริ๊งๆ…” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดึงฉู่เจียเสวียนออกมาจากภวังค์  

 

 

           หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ฉู่เจียเสวียนมองดูหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย อีกทั้งยังเป็นหมายเลขต่างประเทศ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ต่างประเทศ? เบอร์ใครกันนะ  

 

 

           “ฮัลโหล” เสียงที่ชัดเจนของฉู่เจียเสวียนดังขึ้น  

 

 

           “ฮัลโหล?” ที่ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะพูดคำว่า ‘ฮัลโหล’ สองรอบ ขณะที่เธอคิดว่าคนอื่นโทรผิด กำลังจะวางสาย เสียงของผู้ชายที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “ผมเอง”  

 

 

           เผยหนานเจวี๋ย? ในใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเผยหนานเจวี๋ย  

 

 

           “อ่อ” ตอบรับเสียงเบา ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร ตอนนี้พวกเขาสองคนไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  

 

 

           “คุณไม่เป็นไรนะ?” เผยหนานเจวี๋ยพูด วันนี้เขาได้ยินว่าผู้ช่วยที่บริษัทต้องไปส่งเอกสารที่บริษัทกง และบังเอิญได้ยินว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้ไปทำงานที่นั่น ดังนั้นเขาจึงโทรมาถามและเพื่อให้ได้ยินเสียงของเธอ เขาไม่ได้ยินเสียงของเธอนานแล้ว   

 

 

           “ไม่เป็นไรแล้ว คุณรู้ได้ยังไง” หลังจากฉู่เจียเสวียนตอบแล้ว ก็ถามกลับด้วยความประหลาดใจ เขารู้ว่าเธอมีไข้? เขาสะกดรอยเธอ?  

 

 

           “วันนี้ผู้ช่วยผมส่งเอกสารไปที่บริษัทกง บอกว่าคุณไม่มาทำงาน ผมก็เลยถามดู” ราวกับรู้ถึงความคิดของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยรีบเอ่ย  

 

 

           “อ่อ” ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็ตอบเบาๆ เธอนึกว่าเผยหนานเจวี๋ยสะกดรอยตามเธอเสียอีก  

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนตอบแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เผยหนานเจวี๋ยที่อยู่แดนไกลอึดอัดมาก มีคำพูดมากมายที่ติดอยู่ในลำคอแต่พูดไม่ออก  

 

 

           “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณที่เป็นห่วง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากอย่างห่างเหิน ความขมขื่นและความสับสนแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจ  

 

 

           “คุณพักผ่อนเยอะๆ เถอะ บาย” ท้ายที่สุดคำพูดทั้งหมดก็กลายเป็นคำพูดที่เบาบาง แล้ววางหูไปอย่างรวดเร็ว  

 

 

           เนื่องด้วยเวลาที่ต่างกัน ทางเผยหนานเจวี๋ยตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว  

 

 

           หลังจากวางหู เผยหนานเจวี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น ทั้งๆ ที่คิดถึงเธอขนาดนั้น แต่เมื่อได้ยินเสียงของเธอ เขากลับถามอะไรไม่ออกเลย  

 

 

           ในใจมักจะเป็นห่วงฉู่เจียเสวียนอยู่เสมอ เผยหนานเจวี๋ยนอนไม่หลับทั้งคืน ทนรอไม่ไหวที่จะบินกลับไปหาเธอ  

 

 

           เวลากลางดึก เผยหนานเจวี๋ยลุกขึ้นมาจากเตียง อ่านแผนงานที่ทำเสร็จแล้วใหม่อีกรอบ ต้องการต่อสู้ให้ผ่านภายในครั้งเดียวในวันพรุ่งนี้ แบบนี้เขาก็จะสามารถกลับประเทศได้เร็วขึ้น ได้เจอเธอเร็วขึ้น ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง  

 

 

           เช้าวันต่อมา เผยหนานเจวี๋ยมาถึงตึกสตาร์ทาวเวอร์ตั้งแต่เช้า เขารอคุณโจนอย่างเงียบๆ เขาได้ทำการแก้ไขแผนงานครั้งนี้หลายรอบแล้ว เขาเชื่อว่ามันจะต้องผ่านอย่างแน่นอน  

 

 

           โจนอ่านแผนงานที่อยู่ในมือ พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขายินดีมากที่เผยหนานเจวี๋ยสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานได้มากมายภายในระยะเวลาเพียงสามวัน สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนอื่นปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โชคดีที่เผยหนานเจวี๋ยไม่ทำให้เขาผิดหวัง  

 

 

 

 

 

        ตอนที่ 527 กลับประเทศ  

 

 

           “คุณเผย ครั้งนี้ผมพอใจกับแผนงานมาก คุณยอดเยี่ยมและซื่อสัตย์มาก ผมชื่มชมคุณมาก” โจนมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ย แววตาเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม  

 

 

           “ชมเกินไปแล้วครับ ต้องขอบคุณคำชี้แนะของคุณโจนเมื่อสามวันก่อน ผมได้รับประโยชน์มากเลย” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวด้วยน้ำเสียงถ่อมตัว  

 

 

           “เที่ยงนี้ไปกินข้าวกัน” โจนพูดขึ้น เขาจำได้ว่าหลังจากชาวจีนคุยธุรกิจสำเร็จแล้ว จะต้องกินข้าวสักมื้อเพื่อฉลอง  

 

 

           “ไม่ล่ะครับ ที่เมืองจีนยังมีเรื่องด่วนที่ผมต้องกลับไปจัดการนิดหน่อย ผมอยากรีบกลับไป ต้องขอโทษจริงๆ มีโอกาสผมจะเลี้ยงคุณนะครับ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ปฏิเสธความหวังดีของโจน ไม่ว่าที่อเมริกาจะยังมีเรื่องอะไร เขาก็ไม่สามารถอยู่ต่อได้อีกแม้แต่นาทีเดียว เขาแทบทนไม่ไหวที่จะกลับไปหาฉู่เจียเสวียน  

 

 

           โจนประหลาดใจ คาดไม่ถึงกับคำตอบของเผยหนานเจวี๋ย ไม่เคยมีใครปฏิเสธคำเชิญของเขา นี่ทำให้โจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจในเผยหนานเจวี๋ยยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย  

 

 

           “โอเค เดินทางปลอดภัย” โจนกล่าวพร้อมมองเผยหนานเจวี๋ย เขาจะไม่ฝืนให้อยู่ต่อ  

 

 

           เขาก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ เขาอยากจะขอบคุณเผยหนานเจวี๋ยที่ช่วยประหยัดเวลาของเขามากกว่า  

 

 

           หลังจากเผยหนานเจวี๋ยออกจากสตาร์ทาวเวอร์แล้ว เขาก็ไปที่สนามบินโดยตรง เขาได้ขอให้ผู้ช่วยจองเที่ยวบินแล้ว และยังทิ้งปัญหาทั้งหมดที่เหลืออยู่ในอเมริกาให้ผู้ช่วยจัดการ  

 

 

           ใช้เวลาประมาณครึ่งวันในการบินจากอเมริกาไปยังเมือง A เผยหนานเจวี๋ยนั่งบนเครื่องบินพร้อมกับหลับตา ไม่รู้ว่าหลังจากกลับไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเขาควรจะเผชิญหน้ากับฉู่เจียเสวียนอย่างไร  

 

 

           เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เครื่องบินก็กำลังเข้าจอดที่สนามบินเมือง A อย่างช้าๆ เผยหนานเจวี๋ยเดินออกมาจากตัวเครื่องโดยไม่รีรอ เขากังวลเรื่องฉู่เจียเสวียนตลอดเวลา ไม่ต้องการจะล่าช้าแม้แต่นาทีเดียว  

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยที่รีบขึ้นรถสั่งคนขับรถที่อยู่ด้านหน้า “ไป…วิลล่าซิงอวิ๋น” เขามองดูเวลา ถ้าไปที่บ้านเธอในตอนนี้ก็น่าจะได้เจอเธอ  

 

 

           มีคนเดินบนถนนน้อยมาก และรถยนต์ก็มีไม่เยอะ ราบรื่นตลอดทาง ไม่ช้าก็มาถึงในเขตวิลล่าของฉู่เจียเสวียน  

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองดูเวลา ยังเช้าอยู่ ประตูวิลล่ายังคงปิดอยู่  

 

 

           เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็เลือกที่จะรอเธอออกจากบ้านอย่างเงียบๆ อยู่ในรถ ตอนนี้เขาไม่มีความกล้าแม้แต่จะกดกริ่งประตู เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับตัวเอง  

 

 

           ตอนนี้เขาไม่เจอเธอมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ที่เธอไปคุยงานกับเขาที่บริษัทของเขาเมื่อเดือนก่อน ก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย  

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเป็นกังวลมาก มีความรู้สึกขัดแย้งกับฉู่เจียเสวียนทีละน้อยๆ เมื่อไรระหว่างพวกเขาจะพบแสงสว่างเสียที  

 

 

           เวลาที่รอคอยดูเหมือนว่ายาวนานเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ หลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิ เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เพิ่งจะผ่านไปแค่สิบนาทีเท่านั้น  

 

 

           คนขับรถมองใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเผยหนานเจวี๋ยผ่านกระจกมองหลัง แล้วเอ่ยปากกับเผยหนานเจวี๋ย “ประธานครับ คุณพักสายตาก่อนเถอะ เดี๋ยวคุณหนูฉู่ออกมา ผมจะเรียกคุณ”  

 

 

           “อืม” เผยหนานเจวี๋ยไม่คิดที่จะฟังคำพูดของคนขับรถ เพียงแต่ตอบเบาๆ  

 

 

           การที่ได้อยู่หน้าบ้านฉู่เจียเสวียนมันรู้สึกดีมาก ทำให้เขาไม่สามารถหลับลงได้ เพราะว่าคนที่เขารอคือฉู่เจียเสวียน ดังนั้นเขาจึงเต็มใจรอ นานแค่ไหนก็คุ้มค่า  

 

 

           ตอนเช้าเวลาแปดโมงยี่สิบนาที ฉู่เจียเสวียนออกมาจากประตูใหญ่ เธอขับรถเฟอร์รารี่สีดำ สวมสูทแฟชั่น ผมหยิกยาวปล่อยสยายอยู่ข้างหลัง เธอดูมีเสน่ห์จนไม่สามารถละสายตาได้  

 

 

           ‘ปิ๊นๆ’ เสียงแตรดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนหันไปมอง เธอเห็นรถหรูคันหนึ่งจอดอยู่นอกวิลล่า เมื่อมองให้ชัดก็พบว่าเป็นรถของเผยหนานเจวี๋ย  

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset