ตอนที่ 558 รู้ว่าเป็นยาพิษ
ส่ายหน้า เธอมองหน้าถังถังพร้อมเอ่ย “ถังถัง ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากแต่งงานกับกงจวิ้นฉือ แต่ว่า…ฉันแค่รู้สึกว่า ฉันยังไม่พร้อม”
“คุณย่าเขาบังคับฉันกับจวิ้นฉือทุกวัน…ฉัน ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำยังไง” ยกมือขึ้นม้วนผม ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนเป็นกังวล
“ทุกครั้งเธอก็บอกว่ายังไม่พร้อม แล้วเธอเคยคิดถึงจวิ้นฉือบ้างหรือเปล่า เธอเคยคิดแทนเข้าบ้างหรือเปล่า” ถังถังราวกับเป็นผู้อาวุโส มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยถาม
“ฉัน…” ขณะที่มองดูถังถังผู้ก้าวร้าว จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็ไม่รู้ว่าต้องเอ่ยปากอย่างไร
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดเพื่อเขา เพียงแต่เธอไม่เคยคิดจะแต่งงานกับกงจวิ้นฉือมาก่อน
ยกมือขึ้นนวดคลึงขมับ จู่ๆ ในใจของฉู่เจียเสวียนก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาที่มีกับกงจวิ้นฉือ
กงจวิ้นฉือไปต่างประเทศเดือนกว่าแล้วยังไม่กลับมา และเธอก็ไม่เคยคิดถึงเขาเลย แต่กลับคิดถึงเผยหนานเจวี๋ยเสียมากกว่า
ทุกคืนอันเงียบสงัด เธอก็จะมักจะคิดถึงเผยหนานเจวี๋ยอย่างแปลกประหลาด ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกทรมานมาก
ทั้งๆ ที่กงจวิ้นฉือต่างหากคือแฟนของเธอ แต่ว่าเธอกลับคิดถึงคนอื่น
ถังถังเห็นว่าฉู่เจียเสวียนไม่ตอบ ถอนหายใจในใจเบาๆ “ที่รัก มีบางสิ่งเธอหนีไม่พ้นหรอกนะ จงซื่อสัตย์กับหัวใจของเธอซะ”
ในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าใจของฉู่เจียเสวียนกำลังคิดอะไรอยู่
ฉู่เจียเสวียนฝืนยิ้ม พยักหน้า “เอาเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว อีกไม่กี่วันจวิ้นฉือก็น่าจะกลับมาแล้ว ถึงตอนนั้นถ้ามีเวลาก็ไปกินข้าวกัน”
ถังถังพยักหน้า เดินไปที่โต๊ะทำงาน
ท้องถนนในฤดูหนาวมีผู้สัญจรอยู่ทั่วทุกแห่ง บรรยากาศของต้นฤดูหนาวล้อมรอบเมือง A อย่างแน่นหนา แม้แต่อากาศก็เปลี่ยนเป็นแห้งแล้ง
ตอนกลางคืน ฉู่เจียเสวียนเดินเตร็ดเตร่อยู่คนเดียวบนถนน เสื้อโค้ทตัวยาวทำให้ร่างกายของเธอสูงโปร่งอย่างเห็นได้ชัด เส้นผมกำลังเต้นระบำอยู่ในสายลม
เธอมีเรื่องอยู่ในใจเต็มไปหมด เธอเดินอย่างไร้จุดหมาย มองดูคู่รักที่เดินผ่านเธอไป ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความอิจฉา
ระยะหลังมานี้ เธอดูกลายเป็นคนจิตใจล่องลอย กลายเป็นคนอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้กระทั่งรอยยิ้มก็น้อยลงกว่าปกติ
เธอกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่เผยหนานเจวี๋ยไม่ปรากฏต่อหน้าเธออีกหรือตั้งแต่กงจวิ้นฉือจากไปกันนะ
ไม่ช้า หัวใจก็ปฏิเสธคนสุดท้ายอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะกงจวิ้นฉือ แต่เป็นเพราะเผยหนานเจวี๋ย
ลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้า ฉู่เจียเสวียนกระชับเสื้อผ้าบนตัวให้แน่น ลมหนาวนั้นดูเหมือนจะแทงเข้าไปในหัวใจอย่างไรอย่างนั้น
ฉู่เจียเสวียนเดินมาถึงห้องอาหารเก๋อหลินโดยไม่รู้ตัวแล้ว เงยหน้าขึ้นมองห้องอาหารแห่งนั้น จำได้ว่าในวันวาเลนไทน์เผยหนานเจวี๋ยนัดเธอมาทานอาหารค่ำที่นี่ ทำให้เธอประหลาดใจและมอบของขวัญให้เธอ
เธอยังคงวางของขวัญไว้ในลิ้นชัก ริมฝีปากแดงยกยิ้ม
ฉู่เจียเสวียนเอ๋ยฉู่เจียเสวียน ผลที่ตกค้างจากความเจ็บปวดยังไม่หายไปอีกหรือ เธออยากโดนพิษอีกรอบหรือไง
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นยาพิษ เธอก็ยังกล้าเข้าไปใกล้
ฉู่เจียเสวียนสลัดเผยหนานเจวี๋ยไปจากก้นบึ้งของหัวใจอีกครั้ง พรุ่งนี้กงจวิ้นฉือก็กลับมาแล้ว เธอจะต้องเผชิญกับปัญหาอีกมากมาย
“เฮ้อ…” ถอนหายใจแผ่วเบา ก้าวเท้าเดินไปที่รถ
ได้เวลากลับบ้านแล้ว ไม่เช่นนั้นซูซานจะเป็นห่วง
สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นลง ฤดูหนาวเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลมที่พัดในตอนกลางวันนั้นเย็นจัด อากาศแห้งในฤดูหนาวไม่เป็นที่น่าชอบใจสักเท่าไรนัก ยามหลับไหลขาทั้งสองข้างก็ยังเหนาวเย็น ราตรีแสนเดียวดายนั้นช่างหนาวเหลือเกิน
ตอนที่ 559 เห็นคู่รักแล้วรู้สึกอิจฉา
กงจวิ้นฉือสวมเสื้อโค้ทตัวยาวสีดำ ปรากฏตัวอยู่หน้าร้านชุดแต่งงาน ริมฝีปากบางยกยิ้ม ก้าวเท้าเข้าไป
“ก๊อกๆ…” กงจวิ้นฉือยืนอยู่หน้าประตู เคาะประตูออฟฟิศของฉู่เจียเสวียน
ภายในออฟฟิศ ฉู่เจียเสวียนกับถังถังเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน เห็นกงจวิ้นฉือที่ไม่เห็นหน้านานแล้วยืนอยู่หน้าประตู ถังถังมีปฏิกิริยาตอบสนองก่อน “จวิ้นฉือ นายกลับมาแล้วเหรอ”
เสียงที่อบอุ่นของเขาดังขึ้น มองตรงไปที่ฉู่เจียเสวียน “ใช่แล้ว พวกคุณสบายดีไหม”
ถังถังเห็นกงจวิ้นฉือเดินตรงไปหาฉู่เจียเสวียน ยิ้ม ก้มหน้าทำงานในมือต่อ
มองดูกงจวิ้นฉือที่ไม่เจอหน้ามานาน ฉู่เจียเสวียนพบกว่าเขาผอมลงแล้ว ลุกขึ้นยืนมองกงจวิ้นฉือพร้อมกับยิ้ม “คุณมาได้ยังไง”
เขากลับมาถึงวันนี้ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เร็วแบบนี้ล่ะ
“คิดถึงคุณ ผมก็เลยกลับมาแล้ว” จ้องมองไปที่ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของฉู่เจียเสวียน ไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือน เธอคิดถึงเขาหรือเปล่า
“แหม ที่นี่ยังมีฉันนะ พวกเธออยากให้ฉันอิจฉาหรือไง” มองดูสองคนที่รักกันลึกซึ้ง ถังถังไม่สามารถทำเป็นไม่เห็นได้จริงๆ
กงจวิ้นฉือหันมา ยิ้มให้ถังถัง “แล้วเมื่อไรคุณจะทำให้พวกเราอิจฉาบ้าง”
“งั้นพวกเธอต้องรอนานหน่อยนะ อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่เร็วขนาดนั้น” ถังถังหัวเราะ ในที่สุดเธอก็ออกจากออฟฟิศอย่างเข้าใจเหตุผล ให้พื้นที่กับทั้งสองที่ไม่ได้เห็นกันมานาน
มองดูเงาของถังถังที่ไกลออกไป ฉู่เจียเสวียนละสายตา มองกงจวิ้นฉือแล้วยิ้ม “นั่งสิ”
พูดจบ เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะ กงจวิ้นฉือลากเก้าอี้นั่งลงข้างฉู่เจียเสวียน
“เจียเสวียน ช่วงนี้คุณเป็นไงบ้าง” มองดูฉู่เจียเสวียน กงจวิ้นฉือต้องการพูดเป็นพันเป็นหมื่นคำ แต่พบว่าในที่สุดไม่มีอะไรที่จะพูดได้เลย
“ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ ดูคุณซูบไปเยอะเลย” มองดูใบหน้าที่ซูบตอบของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนพูดไม่ถูกว่าในใจรู้สึกอย่างไร
เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย
“ขอแค่ได้เห็นคุณ ผมก็ไม่เป็นไรแล้ว จริงสิ คุณย่าอยากให้เรากลับบ้านไปกินข้าว คุณมีเวลาหรือเปล่า” เขารับปากคุณย่าว่าคืนนี้จะกลับบ้านไปกินข้าว
ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนได้ยิน รอยยิ้มก็แข็งทื่ออยู่บนใบหน้า กลับไปกินข้าวที่บ้านกงงั้นเหรอ “จวิ้นฉือ ฉันกลัวว่าคุณย่าเห็นฉันแล้วจะไม่พอใจ”
“ไม่หรอก ย่าของผมแค่อยากให้เราแต่งงานกันก็เท่านั้น เจียเสวียน เดือนพฤษภาคมปีหน้าพวกเราแต่งงานกันดีไหม คุณไม่ต้องกังวบอะไรทั้งนั้น ยกให้ผมจัดการก็พอ”
“ตอนนี้เดือนพฤศจิกายน ยังเหลืออีกครึ่งปีกว่าจะถึงพฤษภาคมปีหน้า ครึ่งปีนี้ คุณค่อยๆ คิดดีหรือเปล่า ตอนนี้พวกเราแค่ตามใจคุณย่าผม ดีไหม” กุมมือของฉู่เจียเสวียน กงจวิ้นฉือพูดด้วยสีหน้าลึกซึ้ง แววตามีความตื่นเต้น
แต่งงานพฤษภาคมปีหน้า? ฉู่เจียเสวียนทบทวนคำพูดของกงจวิ้นฉืออยู๋ในใจ ดวงตาดำสนิทมองไปยังสีหน้าลึกซึ้งของกงจวิ้นฉือ ไม่สามารถกล่าวคำปฏิเสธได้
“จวิ้นฉือ เรื่องไว้ค่อยคุยกันได้ไหม ตอนนี้ฉันยังไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้จริงๆ” ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว มองกงจวิ้นฉือด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ผมรู้ ผมแค่อยากให้คุณย่าผมสบายใจ ได้หรือเปล่า พวกเราเป็นแฟนกัน เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องช้าเร็วเท่านั้น” เอ่ยปากอีกครั้ง แววตาที่กงจวิ้นฉือมองเธอเปลี่ยนเป็นการพินิจพิจารณา
ไม่ทันรอให้ฉู่เจียเสวียนตอบ เขาพูดต่อ “คุณยังรักเขาอยู่ใช่หรือเปล่า”
คำว่า “เขา” ฉู่เจียเสวียนรู้โดยธรรมชาติว่าเขาพูดถึงใคร เธอตื่นตกใจ เงยหน้ามองกงจวิ้นฉือเงียบๆ
นั่นสิ ทำไมเธอถึงไม่รับปากกงจวิ้นฉือ หรือว่าเธออยากอยู่ด้วยกันกับเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ? ไม่ เธอจะอยู่กับเขาไม่ได้