ตอนที่ 624 ไม่อย่างนั้นหางจะโผล่ออกมาได้อย่างไร
ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ เขามีอะไรน่าผิดหวังอีกล่ะ? การกระทำทุกอย่างของฉู่เจียเสวียน เดิมทีก็ทำให้เผยหนานเจวี๋ยไม่กล้าเชื่อว่าเธอไม่มีใจให้กงจวิ้นฉือ
ฉู่เจียเสวียน ตกลงว่าคุณรักใครกันแน่?
เงาของร่างสูงใหญ่ทอดตัวอยู่บนพื้น มันดูเพรียวบางอย่างเห็นได้ชัดภายใต้แสงอาทิตย์ ทันใดนั้นซูหรานก็ปรากฏตัวขึ้นที่ห้องของเผยหนานเจวี๋ย
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซูหรานนั้น เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเลยแม้แต่แน้อย การที่เขามาที่นี่จะต้องเกี่ยวข้องกับหลี่เซียนเซียนอย่างแน่นอน
“ท่านประธาน หลี่เซียนเซียนจองตั๋วเครื่องบินรอบบ่ายเอาไว้ เธอตัดสินใจจะกลับอเมริกาครับ” น้ำเสียงเสียดายของซูหรานดังขึ้น
“ไปแล้วเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยแปลกใจเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เธอมีความเคลื่อนไหวแล้ว ทำไมถึงออกจากเมือง A กะทันหันในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ล่ะ? ดูเหมือนว่าเรื่องจะยิ่งสนุกขึ้นทุกทีแล้ว
ซูหรานเห็นว่าใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยไม่มีความผิดปกติใด ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยมีหลี่เซียนเซียนอยู่ในหัวใจเลย
จากการสังเกตหลี่เซียนเซียนในช่วงเวลานี้ นอกเหนือจากวันที่เธอหายไปวันนั้นแล้ว เวลาอื่นเธอก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
“จะให้คนตามกลับมาไหมครับ” ซูหรานลองเอ่ยถาม
“ถ้านายทนไม่ไหว จะไปตามกลับมาก็ได้” มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย มองไม่ออกว่าคำพูดประโยคนี้ของเขากำลังล้อเล่นหรือว่าจริงจัง
ซูหรานพยายามดูสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ย เพื่อคาดเดาว่าเขาพูดจริงหรือว่าพูดเล่น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นสัญญาณใดๆ จากแววตาของเผยหนานเจวี๋ยเลย
“ท่านประธาน นี่คือผลลัพธ์ที่คุณอยากได้หรือครับ?” ในความทรงจำของซูหราน เผยหนานเจวี๋ยเป็นคนที่แยกแยะบุญคุณและความแค้นอย่างชัดเจน เขาไม่ได้ทดแทนพระคุณที่หลี่เซียนเซียนที่ช่วยชีวิตเลย มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองว่าเธอไม่ใช่บุคคลสำคัญ
“วางใจเถอะ พอถึงเวลาที่ควรกลับ เธอก็จะกลับมาเอง” เผยหนานเจวี๋ยเชื่อมั่นในการตัดสินของตัวเอง
คราวก่อนพบว่าหลี่เซียนเซียนได้ติดต่อกับชายผู้ลึกลับ น่าเสียดายที่ผู้ชายคนนั้นมีความระแวดระวังสูงเกินไป จึงสวมหน้ากากไว้บนใบหน้า จึงไม่สามารถค้นหาสถานะของเขาได้
แต่ว่าอย่างน้อยก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าหลี่เซียนเซียนมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ และอุบัติเหตุในสหรัฐอเมริกาตอนนั้นก็เป็นความจงใจจากบุคคลหนึ่ง
เมื่อพบข้อมูลนี้เขาก็รู้สึกดีใจมาก เพราะอย่างน้อยก็เป็นที่ชัดเจนว่าหลี่เซียนเซียนไม่ได้เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขา
เขาไม่ต้องการผู้มีพระคุณใดๆ เขายินดีหากนี่จะเป็นเพียงแผนการชั่วร้าย เพราะว่านอกจากฉู่เจียเสวียนแล้ว เขาก็ไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว
ชายลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่?
“ท่านประธานมีความมั่นใจในตัวเองดีนะครับ” ซูหรานเอ่ยปากหยอกเย้า
เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากบางยกยิ้มทำมุมสวยงาม ระหว่างตรุษจีน เขาไม่อยากทำหน้าเย็นชาตลอดเวลา แบบนี้ทำให้ดูมีมนุษยสัมพันธ์ขึ้นเล็กน้อย
“เพราะว่าผู้หญิงคนนั้นมีเสน่ห์เกินไป พวกนายมองเธอสวยงามเกินไปแล้ว สถานะที่แท้จริงของเธอนั้นน่าตกใจมาก” ตอนนี้เรื่องมันก็ชัดเจนมาก เพียงแต่พวกเขาต่างมองไม่เห็น
ซูหรานมองเผยหนานเจวี๋ยอย่างเหลือเชื่อ เขาไม่เห็นจริงๆ ว่าหลี่เซียนเซียนเป็นผู้หญิงที่มีแผนการลึกล้ำ เขารู้สึกครั้งนี้เผยหนานเจวี๋ยระแวงเกินไปแล้ว
“ประธานครับ เรื่องนี้มันหมายความว่าอย่างไรครับ”
“หรือว่านายไม่เห็นว่าเธอคุ้นเคยกับเมือง A เกินไปหน่อยเหรอ เธอโตที่เมืองนอกตั้งแต่เล็ก ไม่เคยกลับเมืองจีนมาก่อน แต่ว่าเธอกลับรู้จักเมือง A ได้ดีกว่าคนพื้นที่เสียอีก นายไม่เคยคิดบ้างหรือว่ามันเป็นเพราะอะไร” สายตาของเผยหนานเจวี๋ยที่มองซูหรานนั้นเหนื่อยหน่ายมาก
“คือว่า ท่านประธาน คุณก็รู้ว่าผมแย่ด้านการดูคนมาก…” ซูหรานเอ่ยปากอย่างกระอักกระอ่วน
“ก็เพราะว่าแบบนี้ ฉันก็เลยให้นายจับตามองเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะโผล่หางออกมาได้ยังไง”
เผยหนานเจวี๋ยค่อนข้างพอใจกับแผนการของตัวเองมาก นอกจากนี้เขายังต้องขอบคุณความซุ่มซ่ามของซูหรานอีกด้วย
ตอนที่ 625 คุณหลอกใช้ผม
“ท่านประธาน คุณหลอกใช้ผม” ซูหรานเอ่ยปากอย่างจนปัญญา การมีอยู่ของเขาก็เพียงเพื่อให้แผนการของเผยหนานเจวี๋ยเป็นไปอย่างราบรื่นเท่านั้น
“น่าเสียดาย หลี่เซียนเซียนไม่ได้ทำให้นายหลงคนเดียว แม้แต่ผู้ช่วยที่ฉลาดเสมอมาของฉันก็ติดกับไปด้วย” เขาให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก ทั้งๆ ที่ผู้ช่วยเป็นคนฉลาดคนหนึ่งแต่กลับทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัยแบบนี้…
“ประธานเผย หรือว่าเธอก็ไม่เคยทำให้คุณหลงบ้างเลย ไม่แม้แต่สักวินาทีเลยหรือครับ?” แม้ว่าเขาจะดูคนไม่เก่งเหมือนเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าเขาก็เข้าใจเผยหนานเจวี๋ยเป็นอย่างดี
“ซูหราน ถ้าหากนายไม่ใช่เพื่อนสมัยมัธยมของฉันละก็ นายเชื่อหรือเปล่าว่าตอนนี้ฉันจะทำให้นายตายอย่างน่าอนาถได้เลย” เผยหนานเจวี๋ยยกยิ้มเย็นชา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเย็นเยือกจนดูน่าหวาดกลัว
ซูหรานหัวเราะออกมาอย่างกระอักกระอ่วน ตยถูกเขาขัดขวางแล้ว เขายังคิดจะฆ่าคนปิดปากอีกหรือ
“ท่านประธาน ผมต้องกลับแล้วครับ” ซูหรานครุ่นคิด ในบรรดายุทธศาสตร์สามสิบหกแผนการ การหลบหนีนั้นนับว่าเป็นแผนการที่ดีที่สุด
“เดี๋ยวก่อน ทางเฉิงเฮ่ามีข่าวอะไรอีกบ้าง” จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็นึกได้ว่าเหมือนกับไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเฉิงเฮ่านานแล้ว
ตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนถูกลักพาตัวไปคราวที่แล้วซึ่งเป็นไปได้มากว่าคนร้ายน่าจะสมคบคิดกับเฉิงเฮ่าและหวังอวิ๋นไฉ่
“ท่านประธาน ผมเป็นเพียงพ่อบ้านตัวเล็กๆ ทำไมถึงให้ผมทำงานของผู้ช่วยล่ะครับ” ซูหรานเอ่ยปากอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ระยะหลังมานี้ดูเหมือนเขาจะใช้งานตนเองมากเกินไปแล้วล่ะมั้ง?
“ไม่ ฉันไม่ได้ให้นายเป็นแค่พ่อบ้านธรรมดาๆ แต่ยังเป็นคนสำคัญของฉันด้วย” เผยหนานเจวี๋ยพูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่ดีเป็นอย่างมาก ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้แกล้งเพื่อนสมัยเรียนแล้ว
ในความเป็นจริงนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้นับว่ารู้จักกัน ในช่วงสมัยมัธยมปลาย เผยหนานเจวี๋ยเป็นคนที่ไม่แสดงตัวตนเลย
ซูหรานในฐานะทายาทเศรษฐีที่วันๆ ไม่ทำอะไรนั้น มักจะหาเรื่องมาให้เผยหนานเจวี๋ยไม่น้อย เผยหนานเจวี๋ยในสมัยมัธยมก็กลายเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวของสาวๆ ทั้งโรงเรียน เพราะอย่างนั้นผู้ชายทั้งโรงเรียนก็มักจะไม่ชอบใจเผยหนานเจวี๋ยเป็นพิเศษ
ต่อมา ซูหรานก็ต้องยอมแพ้ให้เผยหนานเจวี๋ย กลายเป็นน้องชายของเขา หลังจากนั้นครอบครัวของซูหรานก็พบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในฐานะทายาทของตระกูล ซูหรานจำต้องเปลี่ยนอาชีพของเขา
นั่นคือเหตุที่ว่าทำไมซูหรานถึงกลายมาเป็นพ่อบ้านของเผยหนานเจวี๋ย เขาต้องเผชิญกับการพลิกผันหลายรอบ แต่ว่าโชคดีที่ตอนนี้เขาถอนตัวมาได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีหนี้สินใดๆ
“แบบนี้ก็เพิ่มเงินได้สิครับ” ในเวลานี้คุยเรื่องเงินจะเป็นการดีกว่า
“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ขอเพียงนายมีความสามารถก็พอ” เผยหนานเจวี๋ยคิดจะขัดเกลาซูหรานอยู่แล้ว
ซูหรานอดีตทายาทของธุรกิจครอบครัว แน่นอนว่าเขาสามารถสร้างอาชีพในตลาดได้อย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธที่จะยุ่งเกี่ยวกับโลกของธุรกิจเสมอมา เผยหนานเจวี๋ยจึงต้องทำทุกอย่างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ปัจจุบันเขาจึงกำลังชักนำซูหรานไปสู่ถนนของธุรกิจอย่างช้าๆ เชื่อว่าในเวลาไม่นาน เขาก็อาจเป็นมือซ้ายมือขวาของเผยหนานเจวี๋ยได้เลย
“เข้าเรื่องเถอะ นายก็ตรวจสอบที่อยู่ของเฉิงเฮ่าต่อไป” เผยหนานเจวี๋ยมีสีหน้าเย็นชา ไม่เกรงใจซูหรานอีก เขาจะต้องหาเฉิงเฮ่าให้เจอ เขาก็หายตัวนานเกินไปแล้ว
“ตอนนี้ฉันอนุญาตให้พ่อบ้านคนเก่าลาออกแล้ว จากนี้ต่อไปนายก็มาทำงานที่นี่” เผยหนานเจวี๋ยพูดกับเขา
ซูหรานเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ เขารู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เขาปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในแผนการทางธุรกิจเสมอ แต่ตอนนี้กลับถูกเผยหนานเจวี๋ยบีบบังคับจนไร้ทางหลีกเลี่ยง
“ครับ” ซูหรานตอบรับด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบก็หันหลังก้าวเดินจากไป
เผยหนานเจวี๋ยมองดูแผ่นหลังของซูหรานแล้ว ริมฝีปากบางก็ยกยิ้มขึ้น ในโลกธุรกิจไม่มีความรู้สึกส่วนตัวมากนัก ถ้ามีความสามารถแต่ไม่ได้ใช้การ มันก็น่าเสียดายและน่าอับอายเกินไปแล้ว
วันเวลาผ่านไปอย่างไร้เรียบเรื่อย ไม่ทันได้รู้ตัวก็เริ่มมีเสียงนกร้อง แสงแดดที่อยู่นอกหน้าต่างส่องสีเขียวเป็นพิเศษ
วันรุ่งขึ้น ฉู่เจียเสวียนตื่นมาจากความฝัน ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก สีหน้าหวาดกลัวบนใบหน้าไม่ได้จางหายไปเลย
ในความฝัน ฉู่อีอีมองดูเธอด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว บนใบหน้าของฉู่อีอีมีเลือดสดๆ ไหลลงมาเป็นสาย เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาวสะอาดของเธอ ทำไมเธอถึงได้ฝันอะไรแบบนี้นะ?