ตอนที่ 636 ไม่มีอะไรปิดบังคุณ
ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้าแล้วยิ้มตอบ “ฉันไม่กลัว อนาคตต่อให้เส้นทางจะเต็มไปด้วยพายุฝน ฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณ คุณเชื่อในตัวฉันก็พอ” เธอตัดสินใจที่จะอยู่กับเขาแล้ว เธอก็จะไม่กลัวความทุกข์เล็กน้อยพวกนี้ เรื่องเหล่านี้ไม่อาจข่มขู่เธอได้ เธอเชื่อมั่นในความสามารถของเผยหนานเจวี๋ย เขาจะต้องสามารถผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเธอที่คอยช่วยเขา
“วางใจเถอะ ตอนนี้ผมมีแผนแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานมือมืดที่อยู่เบื้องหลังจะเปิดเผยหางของตัวเองออกมา” เผยหนานเจวี๋ยไม่ใช่ลูกพลับอ่อนที่ให้ใครก็ได้มาบีบเล่น คนอื่นทำกับเขาอย่างไร เขาจะต้องเอาคืนเป็นพันเป็นหมื่นเท่า
เขาไม่ใช่คนที่จิตใจดีอยู่แล้ว เอาคืนพวกนั้นด้วยวิธีของพวกเขาเองเป็นวิธีที่เขาใช้อยู่บ่อยๆ
“หนานเจวี๋ย ดูแลตัวเองให้ดี ไว้เรื่องคราวนี้ผ่านไปแล้ว พวกเราออกไปเที่ยวกันดีไหม” จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็เอ่ยสิ่งที่ไม่คาดคิดออกมา เธออยากไปเที่ยวกับเผยหนานเจวี๋ยสักครั้ง
ในอดีตพวกเขาพลาดหลายอย่างมามากเกินไป ตอนนี้เธอแค่ต้องการรักษาความสุขที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้
เผยหนานเจวี๋ยนึกว่าฉู่เจียเสวียนจะขอร้องอะไรเสียอีก ที่แท้เธอก็อยากไปเที่ยว สำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องที่ง่ายจนไม่อาจง่ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว
มองดูรอยยิ้มดุจดอกไม้ของฉู่เจียเสวียน อารมณ์ของเผยหนานเจวี๋ยก็ดีขึ้นตามไปด้วย ดูเหมือนว่าฉู่เจียเสวียนจะมีความเชื่อมั่นในตัวเขามาก
การที่คนรักเชื่อใจเป็นเรื่องที่สวยงามจริงๆ
“รอจนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คุณอยากจะไปไหนก็ได้ ผมจะไปกับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยก็ต้องการพาฉู่เจียเสวียนท่องไปยังประเทศต่างๆ อย่างอิสระและดูความเจริญรุ่งเรืองของโลกใบนี้
“เรื่องแบบนี้ทำไมคุณถึงไม่รีบบอกฉัน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ ในตอนนี้เธอไม่ใช่ฉู่เจียเสวียนในอดีตอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เธอมีความสามารถในการช่วยเหลือและยืนเคียงข้างเขา
“ผมก็แค่หาโอกาสบอกคุณไม่ได้น่ะ อีกอย่างทางคุณเองก็มีเรื่องที่ต้องกังวลใจ แล้วผมจะให้คุณเป็นกังวลอีกได้ยังไงกัน” ถ้าไม่ใช่เพราะอธิบายเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลี่เซียนเซียน เขาก็คงจะไม่บอกเรื่องพวกนี้กับเธอ เขาไม่อยากดึงเธอเข้ามาพัวพันด้วย
“ฉันหวังว่าพวกเราจะซื่อสัตย์ต่อกันในอนาคต” ฉู่เจียเสวียนไม่ชอบถูกคนปิดหูปิดตาเป็นที่สุด
เธอยิ่งเกลียดการหลอกลวง ในอดีตหากไม่ใช่เพราะการโกหก เธอกับเผยหนานเจวี๋ยก็คงไม่เดินมาถึงขั้นนี้ นับจากนี้ไป ฉู่เจียเสวียนหวังว่าพวกเขาจะสามารถซื่อสัตย์ต่อกัน และมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นระหว่างพวกเขา
“ตอนนี้ผมไม่มีอะไรปิดบังคุณแล้ว แล้วคุณล่ะมีหรือเปล่า?” เผยหนานเจวี๋ยถามกลับ
“ฉันไม่มี” ฉู่เจียเสวียนมองตาของเผยหนานเจวี๋ยตรงๆ เธอไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังเขาอยู่แล้ว
เผยหนานเจวี๋ยมองตรงไปที่ฉู่เจียเสวียน ดวงตาคมอยากจะมองเห็นบางสิ่งบางอย่างจากใบหน้าของเธอ แต่ว่าเธอดูสงบนิ่งมาก
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยหัวเราะเสียงเบา ทันใดนั้นแววตาก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้น
เขาหวังว่าจากนี้ไปพวกเขาจะไปด้วยกันได้ดี อย่าได้มีสิ่งอื่นใดส่งผลกระทบต่อพวกเขาสองคนอีก
ทั้งสองคนพูดคุยกันในห้องโถงอยู่เนิ่นนาน มองดูท้องฟ้าแจ่มใสนอกหน้าต่าง บรรยากาศของทั้งสองคนนั้นอบอุ่นมาก
ฉู่เจียเสวียนไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอกับเผยหนานเจวี๋ยจะมีวันนี้ได้
“นี่ก็สายแล้ว คุณกลับไปเร็วหน่อยเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปงานประมูลอีกนะ” ฉู่เจียเสวียนเตือนสติเผยหนานเจวี๋ย เธอไม่ได้มีความสนใจอะไรในงานประมูลเลย
แต่ว่าครั้งนี้เผยหนานเจวี๋ยตั้งใจเชื้อเชิญ แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปงานประมูลแบบไหน เขาถึงได้ใส่ใจขนาดนี้
“อืม ผมเตรียมเงินไว้แล้ว” พรุ่งนี้เขาตั้งใจจะซื้อของที่ฉู่เจียเสวียนชอบสักสองสามอย่าง เพื่อเป็นของขวัญให้เธอ
มองดูท่าทางของเผยหนานเจวี๋ยที่ดูเหมือนจะทำการใหญ่ เธอก็หัวเราะออกมาแผ่วเบา “ท่าทางของคุณแบบนี้คิดจะซื้อของรักของคนอื่นหมดเลยหรือไง”
“เรื่องนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณก็รู้แล้ว” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างมีลับลมคมใน
ตอนที่ 637 งานประมูลการกุศล
งานประมูลการกุศลจะมีอะไรได้ โดยทั่วไปก็ไม่ได้มีสิ่งของที่มีค่ามากนัก
อยู่เมือง A มาตั้งนาน ฉู่เจียเสวียนไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไร มักจะได้ยินมาเสมอว่าการประมูลในเมือง A เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก พรุ่งนี้เธอคงต้องไปดูสักหน่อย
เมื่อส่งเผยหนานเจวี๋ยกลับแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็นั่งอยู่บนโซฟาอย่างอารมณ์ดี เพราะว่าซูซานอยู่ข้างบน เช่นนั้นตอนนี้เธอจึงอยู่ในห้องโถงตามลำพัง
ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ในใจคิดถึงเผยหนานเจวี๋ย นึกถึงสัมผัสอันใกล้ชิดของเขา ความรู้สึกนี้ทำให้เธอรู้สึกสบายทั้งกายใจ เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนแบบนี้มาก่อน
ฉู่เจียเสวียนโตมาจนป่านนี้แล้ว เธอเพิ่งจะรู้ว่าอะไรคือรสชาติของความรักที่แท้จริง เมื่อก่อนเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับเขา ตอนนี้อยากอยู่กับเขาด้วยตัวเอง ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว
ในที่สุดเธอกับเผยหนานเจวี๋ยก็มีความรักต่อกัน ความรู้สึกนี้แตกต่างจากตอนที่เธอแอบรักเผยหนานเจวี๋ยเมื่อครั้นยังเด็กอย่างสิ้นเชิง
ไม่ใช่ความรักซาบซึ้ง และก็ไม่ได้ถูกบังคับให้อยู่ด้วยกัน แต่เป็นการเต็มใจอยู่ด้วยกันของทั้งสองฝ่าย ความรู้สึกนี้มันยอดเยี่ยมจริงๆ
จู่ๆ เธอก็ตั้งตาคอยวันพรุ่งนี้อยู่บ้าง รอคอยที่จะได้เจอกับเขาในวันพรุ่งนี้ เมื่อก่อนเธอทนไม่ได้ที่จะได้เห็นหน้าเขา แต่ตอนนี้เธอกลับกระตือรือร้นที่จะพบเขา
เมื่อหลับตาลงเบาๆ ในสมองมีแต่เงาของเผยหนานเจวี๋ย ใบหน้าที่เย็นชาของเขา ความนุ่มนวลบนใบหน้าของเขา แม้กระทั่งรสนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ในร่างกายของเขาก็ทำให้ฉู่เจียเสวียนหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น
วันรุ่งขึ้น แสงยามเช้าโผล่ออกมาให้เห็น ใบไม้ปกคลุมไปด้วยน้ำค้าง น้ำค้างบนกิ่งไม้และใบไม้ค่อยๆ ละเหือดหายไปตามแสงแดดที่สาดส่อง เมือง A ที่เดิมทียังมีหมอกปกคลุมอยู่ในอากาศ ในเวลานี้ค่อยๆ โผล่ออกมาให้เห็นอย่างช้าๆ แล้ว
กลิ่นอายของต้นฤดูใบไม้ผลิมาถึงอย่างเงียบๆ และอากาศก็เต็มไปด้วยความสดชื่น
ฉู่เจียเสวียนลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา และเตรียมลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้นล่าง
ที่ชั้นล่างนั้น ซูซานได้เตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะแล้ว ในเวลานี้เธอกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะกินข้าว เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนลงมา เธอก็แย้มยิ้ม “อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่” ลากเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามซูซาน
เมื่อเห็นอาหารเช้าเต็มโต๊ะ สีหน้าของฉู่เจียเสวียนก็ฉายประกายความสุข
เธอรู้สึกมีความสุขจริงที่มีแม่ที่รักเธอและยังมีผู้ชายที่รักเธอ ถ้าหากชีวิตของเธอสามารถมีความสุขแบบนี้ได้ตลอดไป มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย
“ยิ้มอะไรตั้งแต่เช้า ลูกเก็บเงินได้เหรอไงกัน” มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียน ซูซานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปด้วย
“แม่คะ เดี๋ยวตอนบ่ายหนูจะออกไปข้างนอกสักหน่อยนะคะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม วันนี้เธอจะออกไปข้างนอกกับเผยหนานเจวี๋ยเพื่อเข้าร่วมการประมูล
“ได้สิ” ซูซานได้ยินแล้วก็พยักหน้า ในใจรู้ว่าฉู่เจียเสวียนจะต้องไปหาเผยหนานเจวี๋ยอย่างแน่นอน
ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนตัดสินใจที่จะอยู่กับเผยหนานเจวี๋ยแล้ว เช่นนั้นเธอก็จะไม่ห้ามอะไร
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็ล้วนอยากเห็นลูกสาวมีความสุขทั้งนั้น
“แม่จะไม่ถามหน่อยหรือคะว่าหนูออกไปทำอะไร” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองซูซาน พร้อมถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ลูกจะออกไปกับเขาไม่ใช่เหรอ?” ซูซานถามกลับ มองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
ฉู่เจียเสวียนหัวเราะ จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่ค่ะ”
ผู้เป็นแม่ย่อมรู้ใจลูก เธอออกไปกับเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ ด้วย
เมื่อมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าที่สดใสของฉู่เจียเสวียนแล้ว ซูซานก็ยิ้มออกมาด้วย
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ฉู่เจียเสวียนกับซูซานก็ขึ้นไปตัดแต่งดอกไม้ใบหญ้าที่ระเบียงด้วยกัน
ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาทำให้ฉู่เจียเสวียนวางงานลงโดยสิ้นเชิง เธอต้องการฉลองตรุษจีนอย่างเต็มที่ จากนั้นก็อุทิศตนเพื่องานอีกครั้ง ระยะหลังนี้มีหลายสิ่งเกิดขึ้นและเธอต้องการที่จะผ่อนคลายสักหน่อย