กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 256-257

   ตอนที่ 256 ทำของที่สำคัญที่สุดหล่นหาย

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณอย่าขมวดคิ้วตลอดเวลาสิ แบบนี้ไม่ดีเลย” ฉู่อีอีกล่าว แววตาที่มอง

 

 

เผยหนานเจวี๋ยเปี่ยมด้วยความรักลึกซึ้ง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยต้องการหลบการสัมผัสของเธอ แต่ว่าด้านหลังก็เป็นเตียง เขากึ่งนั่งอยู่บนเตียง แม้แต่จะถอยหลังเขาก็ถอยไม่ได้แล้ว จะหลบได้อย่างไรกัน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองดูท่าทางของทั้งสองที่รักกันด้วยสายตาเย็นชา ริมฝีปากแดงยกยิ้ม ราวกับไม่ใส่ใจ ทำตัวเหมือนมนุษย์ล่องหน

 

 

           มองดูฉู่อีอีที่ประเดี๋ยวส่งน้ำ ประเดี๋ยวยื่นมือตรวจดูอุณหภูมิ บางคราวก็กระซิบกระซาบกับเผยหนานเจวี๋ย เธอดูถูกอยู่ในใจ เธอกล้าฟันธงว่าฉู่อีอีจงใจ จงใจแสดงความรักกับเผยหนานเจวี๋ยต่อหน้าเธอ

 

 

           ช่างอ่อนเดียงสาจริงๆ นึกว่าละครแบบนี้จะทำให้เธอโกรธได้งั้นเหรอ ช่างตื้นเขินจริงๆ

 

 

           คิดอย่างเหยียดหยาม ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนเอื้อนเอ่ย “คุณเผยคุณพักผ่อนเถอะค่ะ ในเมื่อภรรยาของคุณมาแล้ว งั้นฉันก็ไม่รับกวนแล้ว พวกคุณตามสบายเถอะ”

 

 

           พูดจบ ฉู่เจียเสวียนหันหลังอย่างสง่างาม ออกไปจากห้องผู้ป่วยโดยไม่หันกลับมามอง

 

 

           ออกจากห้องผู้ป่วย ฉู่เจียเสวียนถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็จากไปโดยไม่หันกลับมามองแล้ว

 

 

           ในห้องผู้ป่วย เหลือเพียงฉู่อีอีกับเผยหนานเจวี๋ย ใบหน้าที่งดงามของฉู่อีอีมองเผยหนานเจวี๋ยไม่

 

 

กระพริบ

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณไม่เจ็บจริงเหรอ” ฉู่อีอีเอ่ยปาก น้ำเสียงจือปนความเจ็บปวด

 

 

           เธอทั้งโกรธทั้งเกลียด เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ เขาบอกว่าไม่รักฉู่เจียเสวียนไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงช่วยเธอ แถมยังรับมีดแทนเธอ บาดแผลจะต้องลึกมากสินะ

 

 

           “ผมไม่เป็นไร อีอี คุณอย่าเสียใจเลย” ยื่นมือลูบหัวของฉู่อีอี กล่าวกับเธอน้ำเสียงอ่อนโยน

 

 

           พยักหน้า น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตาของฉู่อีอี

 

 

           ราวกับว่านึกอะไรบางอย่างออก ฉู่อีอียกมือขึ้นกุมคอ สีหน้าตื่นตระหนก

 

 

           “เป็นอะไรไป” เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฉู่อีอีแปลกไป เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถาม

 

 

           “หนานเจวี๋ย สร้อยคอฉันหายไปแล้ว” ฉู่อีอีใบหน้าซีดขาว เงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ยด้วยความตื่นตกใจ

 

 

           “สร้อยคออะไร”

 

 

           “สร้อยคอที่แม่คุณให้ว่าที่สะใภ้ของตระกูลเผย สร้อยคอเส้นนั้นมันก็สำคัญกับคุณมากด้วย” ฉู่อีอีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

 

           น้ำตาในดวงตายิ่งท้วมท้นขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็ร่วงลงมา

 

 

           เดิมทีสร้อยคอเส้นนั้นคือของขวัญของลูกสะใภ้บ้านเผยจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับเผยหนานเจวี๋ยแล้วยิ่งมีความหมายมากและสำคัญอย่างยิ่งยวดเช่นกัน

 

 

           “คุณทำสร้อยเส้นนั้นหายได้ยังไง วันนี้คุณไปที่ไหนมาบ้าง” พูดเสียงดัง ความโกรธเป็นประกายอยู่ในดวงตาของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           ทำของสำคัญขนาดนั้นหายได้อย่างไรกัน

 

 

           “วันนี้ฉันไม่ได้ไปไหนนะ วันนี้ก็แค่ไปเจอพี่สาวแป๊บเดียว ฉันไม่ได้ไปที่อื่นเลย หลังจากเจอกับพี่สาวแล้ว ฉันก็กลับบ้านเลย”

 

 

           ฉู่อีอีเอ่ยปาก จงใจพูดถึงฉู่เจียเสวียนสองครั้ง เชื่อว่าเมื่อพูดเช่นนี้ เผยหนานเจวี๋ยจะต้องสงสัยสินะ?

 

 

           “งั้นคุณจำได้ไหมว่าทำหายตอนไหน”

 

 

           ฉู่อีอีทำเป็นครุ่นคิด หลังจากคิดวนเวียนอยู่ในหัวแล้ว ฉู่อีอีจึงเอ่ยปากอย่างลังเล “วันนี้ตอนที่ออกจากบ้านยังอยู่เลย พอหลังจากเจอพี่สาวแล้ว…”

 

 

           “หนานเจวี๋ย วันนี้ฉันแค่ไปหาพี่สาว ฉันไม่ได้ไปที่อื่นเลย สร้อยคออาจจะหายไปตอนนั้นก็ได้นะ” ฉู่อีอีกล่าว ทำท่าเหมือนพยายามคิดทบทวน

 

 

           เมื่อวาน ฉู่อีอีเตรียมการไว้สองอย่าง จัดให้คนซุ่มปล้นฆ่าฉู่เจียเสวียนระหว่างทางกลับบ้าน อีกแผนหนึ่งคือเวลาที่นัดฉู่เจียเสวียนเอาสร้อยคอใส่ไว้ในกระเป๋าของฉู่เจียเสวียนตอนที่เธอเผลอ

 

 

           ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าคนพวกนั้นจะฆ่าฉู่เจียเสวียนไม่สำเร็จ เธอก็ยังมีแผนสำรอง ทำให้เผยหนานเจวี๋ยเข้าใจฉู่เจียเสวียนผิดและเกลียดชังเธอ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยพอจะเข้าใจคำพูดของฉู่อีอี วันนี้ฉู่อีอีเจอเพียงแค่ฉู่เจียเสวียน และฉู่เจียเสวียนน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่สร้อยคอของฉู่อีอีหายไป

 

 

           จะเป็นเธอเหรอ เผยหนานเจวี๋ยคิดในใจ ในใจไม่เชื่อว่าฉู่เจียเสวียนจะทำเรื่องแบบนี้ได้ แต่ว่าฉู่อีอีเจอแค่เธอจริงหรือเปล่า

 

 

 

 

      ตอนที่ 257 ใครขโมยไป

 

 

           “คุณพูดเรื่องจริงเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก สายตาเย็นชามองเธอไม่กระพริบ

 

 

           “อะไรคือจริงเหรอ หนานเจวี๋ย? ฉันแค่บอกว่าวันนี้ฉันเจอพี่สาวเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าเขาเอาสร้อยคอไป” ฉู่อีอีมองเผยหนานเจวี๋ยด้วยดวงตารื้นน้ำตา แกล้งทำหน้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย

 

 

           งั้นฉู่เจียเสวียนก็น่าสงสัยที่สุด ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ เขาก็อยากถามเธอสักหน่อย แม้ในใจจะเชื่อว่าเธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนออกจากห้องของเผยหนานเจวี๋ย ก็แวะไปเยี่ยมคุณย่าของกงจวิ้นฉือ เพราะว่าคุณย่าของเขาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้พอดี เข้าไปอย่างแผ่วเบา มองดูหญิงชราที่หลับใหลอยู่บนเตียง ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนยกยิ้ม ช่วยเอาแขนของเธอกลับเข้าไปใต้ผ้าห่ม ยืนอยู่สักพัก เธอจึงหันหลังออกจากห้องผู้ป่วยไป

 

 

           เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าดังขึ้น

 

 

หยิบขึ้นมาดู เห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ “เผยหนานเจวี๋ย” สามคำกระพริบอยู่บนหน้าจอ ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

           ฉู่อีอีอยู่กับเขาไม่ใช่เหรอ จะโทรมาหาเธอเพื่ออะไร สงสัยในใจแต่เธอก็ยังกดรับสายแล้ว “คุณมานี่หน่อย ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณ คุณคงยังไม่กลับนะ?”

 

 

           เสียงทุ้มต่ำมืดมนดังขึ้น ถ้าหากฟังอย่างระมัดระวังแล้ว ที่จริงก็จะพบว่าน้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยระคนความอ่อนแอ

 

 

           “มีเรื่องอะไร”

 

 

           ดึกป่านนี้แล้ว ยังจะหาเธอทำไม

 

 

           “มีเรื่องอยากจะถามคุณสักหน่อย คุณคงยังไม่กลับนะ” คาดว่าฉู่เจียเสวียนน่าจะยังไปไม่ไกล ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่ม เรียกเธอกลับมาเพียงเพื่อต้องการถามเธอเท่านั้น ไม่น่าจะรบกวนเวลาของเธอ

 

 

           จะว่าไปสร้อยคอเส้นนั้นมีความสำคัญกับเขามากจริงๆ

 

 

           ฉู่อีอีนั่งอยู่บนเตียง แววตามองเผยหนานเจวี๋ยอย่างละเอียด กลั้นหายใจ สามารถได้ยินเสียงของ

 

 

ฉู่เจียเสวียนชัดเจน เพียงแต่การเข้าใกล้ของฉู่อีอี ทำให้เขาขมวดคิ้วเข้าด้วยกันเล็กน้อย

 

 

           จู่ๆ บทสนทนาเข้าสู่ความเงียบ เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ยินคำตอบของฉู่เจียเสวียน คิ้วขมวดกัน เมื่อเขากำลังจะเอ่ยปากอีกครั้ง เสียงเบาๆ ของฉู่เจียเสวียนลอยมาเข้าหูของเขา “ได้” พูดจบ เธอวางสายทันที หันหลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาล

 

 

           ที่ไม่ไกลนัก รถคันหนึ่งเข้ามาจอดพอดี เมื่อเห็นเงาที่ผอมเพรียวคนนั้น คิ้วของเขาผูกเข้าด้วยกัน ความสับสนก่อขึ้นในใจ

 

 

           เจียเสวียนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คนที่เพิ่งมาคือกงจวิ้นฉือ คุณย่าของเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้พอดี หรือว่าเธอมาเยี่ยมคุณย่างั้นเหรอ คิดสงสัยในใจ

 

 

           หลังจากลงรถ ก็เดินเข้าไปในโรงพยาบาลทันที

 

 

           นอกห้องผู้ป่วย ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ข้างนอก สูดหายใจลึก ยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วเธอจึงผลักประตูเข้าไป

 

 

           ฉู่อีอีกับเผยหนานเจวี๋ยเงยหน้ามองไปยังประตูพร้อมกัน เป็นไปตามคาดว่าคนที่เข้ามาคือฉู่เจียเสวียน พวกเขาสองคนคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะกลับเข้ามาเร็วเพียงนี้ หรือว่าเธอยังไม่ได้ไปไหน

 

 

           เห็นแววตาประหลาดใจของทั้งคู่ ฉู่เจียเสวียนเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าทั้งสองด้วยท่วงท่าที่สง่างามและสงบนิ่ง แววตาเผยให้เห็นความเฉยเมย มองดูทั้งสองคนอมยิ้มมุมปาก

 

 

           เห็นฉู่เจียเสวียนที่กลับมาอีกครั้ง เผยหนานเจวี๋ยบอกไม่ได้ว่าในใจรู้สึกอย่างไร

 

 

           ฉู่อีอีมองฉู่เจียเสวียน ใบหน้าสงบนิ่ง เผยท่าทางลึกลับเล็กน้อย มองเธอด้วยดวงตาที่เป็นประกายจางๆ

 

 

           เมื่อเห็นสีหน้าที่แตกต่างกันของทั้งสองคน ฉู่เจียเสวียนเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกยิ้ม “ไม่ทราบว่าคุณเผยเรียกฉันกลับมามีอะไรเหรอคะ”

 

 

           เสียงที่คมชัดดังสะท้อนอยู่ในห้องผู้ป่วย

 

 

           เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีอะไรที่ไม่สามารถคุยกับทางโทรศัพท์ได้ จะต้องเรียกเธอกลับมา?

 

 

           “พี่คะ พวกเราแค่มีเรื่องอยากถามพี่นิดหน่อย” ฉู่อีอีตอบ มีนัยยะลึกซึ้งแฝงอยู่ในคำพูด

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset