ตอนที่ 658 ชอบความรู้สึกแบบนี้
ภายในห้องส่วนตัวล้วนเต็มไปด้วยภาพแขวนน่าสนใจ โต๊ะค่อนข้างเตี้ย และยังมีโต๊ะพิเศษสำหรับเด็กสองสามตัวพิงอยู่ด้านข้าง
“นี่เป็นห้องครอบครัวเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถามสงสัย
เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า เมื่อเห็นความสงสัยในแววตาของฉู่เจียเสวียนแล้วก็เอ่ยปากอธิบายขึ้น “ผมหวังว่าต่อไปพวกเราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน”
ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันตลก “คุณนัดฉันออกมา เพื่อจะกินข้าวครอบครัวตามประสาพ่อแม่ลูกอย่างนั้นเหรอ?” ตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่มีลูก แล้วจะกินข้าวพ่อแม่ลูกอะไรกัน? เธอไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ
ลูกเหรอ? ทันใดนั้นฉู่เจียเสวียนรู้สึกอ่อนไหวขึ้นมา พวกเขาเคยมีลูกด้วยกัน ถ้าหากหลังจากนั้นไม่มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนั้น ตอนนี้ลูกของพวกเขาก็คงจะเดินได้แล้ว และคงจะล้อมรอบพวกเขาพร้อมเรียกพวกเขาว่าพ่อแม่
เดิมทีเธอนึกว่าเธอจะโต้ตอบเผยหนานเจวี๋ยด้วยความเกลียดชัง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในท้ายที่สุดเธอก็ยังแก้ปมในใจและอยู่ด้วยกันกับเขา
เธอหวังว่าความเสียใจในอดีตจะไม่เกิดขึ้นกับพวกเขาอีกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยงุนงง หรือว่าเธอไม่พอใจในสิ่งที่เขาจัดการให้?
“เปล่า ฉันชอบมากค่ะ” ฉู่เจียเสวียนเก็บอารมณ์บนใบหน้า แสดงให้เห็นว่าเธอพอใจกับห้องส่วนตัวนี้มาก แม้จะมีเพียงพวกเขาสองคนแต่ไม่มีลูกก็ตาม
“จริงเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยฟังแล้ว ในใจรู้สึกไม่เชื่ออยู่บ้าง
“ถ้าหากคุณไม่ชอบ พวกเราจะเปลี่ยนห้องก็ได้นะ” เผยหนานเจวี๋ยไม่อยากให้เกิดความไม่สมบูรณ์แบบใดๆ ระหว่างเดตของพวกเขา
“ฉันชอบมาก ขอบคุณค่ะ” ฉู่เจียเสวียนตอบกลับอย่างอารมณ์ดี พูดตั้งเยอะขนาดนั้น ทำไมเขาถึงไม่เชื่อล่ะ เธอดูเหมือนคนขี้โกหกมากหรือไง
แสงไฟในห้องส่วนตัวค่อนข้างสลัว ทำให้ดูหลอกตาเล็กน้อย เผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการให้ใครมาขัดจังหวะมื้ออาหารของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้บริกรเข้ามา
เขาจ้องฉู่เจียเสวียนอย่างตั้งใจภายใต้แสงสลัวนั้น ดวงตาของเขาส่องประกายวูบไหว
“ฉันไม่รู้มาก่อนว่าโรงแรมกรีซมีที่แบบนี้ด้วย” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากออกมาแผ่วเบา เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีห้องส่วนตัวแบบนี้อยู่ในโรงแรมสไตล์ตะวันตก ห้องส่วนตัวที่อบอุ่นแบบนี้ดูเหมือนจะไม่เข้ากันกับสภาพแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่ด้านนอก
ระดับแสงไฟในห้องส่วนตัวนั้นแตกต่างกันไป แสงที่อยู่ใกล้ประตูสว่างมาก ส่วนแสงในบริเวณรับประทานอาหารดูสลัวซึ่งเป็นบรรยากาศการรับประทานอาหารที่ตั้งใจสร้างขึ้นเป็นพิเศษ
หลังจากทั้งสองคนนั่งลงไม่นาน บริกรก็ยกอาหารเข้ามาในห้อง ไม่ช้าสเต็กและฟัวกราส์ก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ
ฉู่เจียเสวียนไม่ได้กินอาหารตะวันตกมาสักพักแล้ว เมื่อมองไปที่สเต็กที่ให้กลิ่นหอมเย้ายวนตรงหน้า เธอก็รู้สึกว่าหิวจนท้องร้องแล้ว
กลิ่นหอมกระตุ้นต่อมรับรสของฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าน้ำลายไหลอยู่ในปากของเธอและเธอก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวแล้ว
เผยหนานเจวี๋ยเห็นท่าทีอดใจไม่ไหวของฉู่เจียเสวียน รอยยิ้มก็ปรากฏในแววตา พอใจกับการจัดการของตัวเองในครั้งนี้มาก
ในที่สุดเมื่ออาหารทั้งหมดมาครบแล้ว พนักงานก็ถอยออกไป เพียงครู่เดียวก็เหลือเพียงสองคนในห้องส่วนตัว
“หิวไหม” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถามเสียงเบา แววตาเปี่ยมด้วยความเอ็นดู
ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า เธอไม่เคยรู้สึกหิวแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เธอเห็นอาหารมากมายอยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกหิวจริงๆ แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็กินเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยเดิมต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างกับฉู่เจียเสวียน แต่เมื่อเห็นเธอแบบนี้ จึงคิดว่ากินก่อนจะดีกว่า ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนหิวโหยขนาดนี้ ไม่ว่าเขาพูดอะไร เธอก็จะไม่มีทางเข้าใจ
เดตครั้งนี้ไม่ใช่ดินเนอร์ใต้แสงเทียนอะไรทำนองนั้น และยิ่งไม่ใช่นัดเดตแบบโรแมนติก มันเป็นแค่อาหารตะวันตกที่เรียบง่าย ฉู่เจียเสวียนชอบความรู้สึกแบบนี้ ชอบความรู้สึกที่แม้แต่แสงไฟก็ยังเปี่ยมด้วยความอบอุ่น
ตอนที่ 659 กินไม่ลงแล้ว
ตอนที่คบกับกงจวิ้นฉือ พวกเขาต่างคนต่างยุ่งกับงาน ถ้ามีเวลาก็จะออกไปกินข้าวด้วยกันสักครั้ง บางทีเขาก็สร้างความประหลาดใจให้เธอ แต่ว่าเธอไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไรมากมายนัก ยิ่งไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร
ใบหน้าที่ขาวผ่องและละเอียดอ่อนของฉู่เจียเสวียนยิ่งดูสวยงามมากขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ แก้มมีสีแดงระเรื่อ ดวงตาที่ชัดเจนเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม
เผยหนานเจวี๋ยบันทึกช่วงเวลาที่สวยงามในใจของเขาทีละเล็กทีละน้อย เพียงแค่จ้องมองเธออย่างเงียบๆ อย่างนี้เขาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างไร้ที่เปรียบแล้ว
“คุณไม่กินเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเห็นว่ามีดและส้อมของเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ถูกใช้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“ผมไม่หิว” เขามองเธอก็อิ่มแล้ว เรื่องกินข้าวหรือเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ
ฉู่เจียเสวียนเหลือบมองเผยหนานเจวี๋ยอย่างไม่พอใจ ไม่หิวเหรอ เขาลากเธอมาที่ร้านอาหารเพื่อกินอะไรกัน? สิ้นเปลืองจริงๆ
“คุณกินเยอะๆ หน่อยสิ” เผยหนานเจวี๋ยพูดในขณะที่ผลักฟัวกราไปตรงหน้าของฉู่เจียเสวียน เขาหวังว่าเธอจะกินมากขึ้น ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอดูแลกงจวิ้นฉือนั้นเธอก็ผอมเกินไปแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่มีเนื้อหนังกลับมาเลย
“ถ้าคุณไม่กินก็อย่าผลักมาให้ฉันสิ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากปฏิเสธ เธอไม่ใช่คนกินจุขนาดนั้น สามารถกินได้แค่สองส่วนเท่านั้น
เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาที่น่าละอายและสิ้นเปลือง เผยหนานเจวี๋ยถูกเธอจ้องมองจนเขินอาย ทำได้เพียงลงมือหั่นสเต็ก เขาตัดสเต็กตรงหน้าเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างชำนาญ
เมื่อตัดสเต็กบนจานเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว เขาก็ยื่นมือออกไปและเปลี่ยนชิ้นสเต็กกับฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนมองดูสเต็กที่ตัวเองกินแล้วครึ่งหนึ่งถูกย้ายไปที่จานของเขา จากนั้นก็มองดูเขาเอาเนื้อที่เขาหั่นแล้วชิ้นนั้นวางบนจานของเธอ
“รบกวนคุณช่วยใส่ใจเรื่องสุขอนามัยส่วนตัวของคุณได้ไหม” ฉู่เจียเสวียนกล่าวอย่างไม่พอใจ มีใครบ้างที่เอาอาหารที่คนอื่นกินไปแล้วครึ่งหนึ่งไปเป็นของตัวเอง?
“ผมไม่รังเกียจหรอก” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ พวกเขาต่างเคยกินน้ำลายของกันและกันแล้ว จะกลัวเรื่องพวกนี้ไปทำไม
“แต่ฉันรังเกียจ ปกติฉันก็ไม่กินเยอะแบบนั้น” ฉู่เจียเสวียนพูดอย่างเหนื่อยหน่าย เธอก็ไม่ใช่หมูสักหน่อย เขาต้องการขุนเธอให้อ้วนสักแค่ไหนเชียว
“แต่ผมดูคุณแล้วเหมือนคุณหิวมาก” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างเป็นห่วง
“แต่ฉันก็ไม่ได้กินเยอะขนาดนั้นนะ” ฉู่เจียเสวียนมองไปที่กองอาหารเบื้องหน้า จู่ๆ เธอก็รู้สึกอยากกินอาหารเกาหลีซะแล้ว
ปกติแล้วเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้กินอาหารค่ำมากนัก เขามองอาหารชั้นเลิศบนจาน มันไม่ได้ดูน่าดึงดูดเท่าฉู่เจียเสวียนเลย
ฉู่เจียเสวียนมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่ไม่มีท่าทีอยากอาหาร ทำเอาเธอกินไม่อร่อยไปด้วย ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าการที่เผยหนานเจวี๋ยออกมาครั้งนี้ไม่ใช่เพราะอยากกินข้าวกับเธอ เขาเพียงแค่ต้องการอยู่กับเธอตามลำพังเท่านั้น
“คุณมองพอแล้วยัง” ฉู่เจียเสวียนกล่าวอย่างหัวเสีย เขามองสำรวจเธอตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มกินสเต็กแล้ว เขาจะมองนานแค่ไหนกันแน่
เป็นเพราะเธอมีดอกไม้บนใบหน้าของเธอหรือว่าเธอสวยเกินไปจริงๆ? ถ้าเป็นอย่างหลังเธอก็จะมีความสุขมาก
“เปล่า” เผยหนานเจวี๋ยหัวเราะอ่อนๆ เขามองเท่าไรก็ไม่พอ
ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก เขาสามารถมองและชื่นชมความงามของเธออยู่ที่นี่ได้เท่าที่เขาต้องการ
ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าช่วงนี้สติปัญญาของเผยหนานเจวี๋ยไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย เธอมองเขาอย่างเห็นอกเห็นใจโดยไม่สนใจความอ่อนโยนในดวงตาของเขา
“ฉันอิ่มแล้ว” ดวงตาที่กระตือรือร้นของเผยหนานเจวี๋ยทำให้เธอกินไม่ลงจริงๆ
“กินอีกหน่อยสิ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยกับฉู่เจียเสวียน เมื่อเห็นว่ายังมีเนื้อมากมายเหลืออยู่บนจานของเธอ
ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า “กินไม่ลงแล้วจริงๆ” สเต็กและฟัวกราส์หนักท้องเกินไปแล้ว
Related