กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 266 คำขอโทษครั้งแรกของเผยหนานเจวี๋ย / ตอนที่ 267 คำใบ้

    ตอนที่ 266 คำขอโทษครั้งแรกของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           “เดี๋ยวก่อน…” เผยหนานเจวี๋ยเจ็บปวดใจ มือที่ถือเครื่องเล่นวีดีโอนั้นกำแน่นไม่หยุด เงยหน้ามองฉู่เจียเสวียนดวงตาเผยความเจ็บปวด 

 

 

           เมื่อได้ยินว่าพวกเขาไม่ติดค้างกันอีก หัวใจของเขาเหมือนกับว่างเปล่า ทรมานปางตาย 

 

 

           และสาเหตุที่ทำให้เขาทรมานขนาดนั้นก็เป็นเพราะฉู่เจียเสวียน เมื่อเห็นคลิปในเครื่องเล่นวีดีโอแล้ว นึกถึงน้ำเสียงที่ถามฉู่เจียเสวียนเมื่อคืน เขาหายใจไม่ออก มันเป็นความผิดของเขา เขาไม่เชื่อเธอ 

 

 

           เขาไม่ควรเชื่อคำพูดของฉู่อีอีเพียงฝ่ายเดียว ตอนนี้คลิปได้อธิบายทุกอย่างแล้ว เพราะเขาผิดเอง เขามองเธอผิดไปแล้ว 

 

 

           หากกล่าวขอโทษตอนนี้ เธอจะยอมรับหรือเปล่า คำที่ต้องการจะพูดติดอยู่ในลำคอ ลูกกระเดือกเกลือกกลิ้งไปมา พูดอะไรไม่ออก 

 

 

           หันหลับมามองใบหน้าที่หล่อเหลาของเผยหนานเจวี๋ย รอเนิ่นนานก็ไม่ได้ยินเผยหนานเจวี๋ยพูดอะไร ริมฝีปากแดงยกยิ้ม “หรือว่าคุณเผยอยากเลี้ยงน้ำชาฉัน หรือคิดว่าคลิปนี้เป็นของปลอม” 

 

 

           เอ่ยปากเย็นชา น้ำเสียงมีความเฉียบคม 

 

 

           เพิ่งพูดจบ คำที่หลุดออกมาจากปากของเผยหนานเจวี๋ยกลับทำให้เธอตื่นตกใจ 

 

 

           “ขอโทษ เพราะผมไม่ถามสาเหตุให้ชัดเอง” สีหน้ารู้สึกผิด ดวงตาที่มองฉู่เจียเสวียนเผยให้เห็นความเจ็บปวด แววตานั้นทำให้ฉู่เจียเสวียนอึ้งไปครู่หนึ่ง 

 

 

           ตั้งแต่ที่กงจวิ้นฉือเข้าห้องผู้ป่วยมา ก็ยืนอยู่ข้างๆ โดยตลอด ปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนจัดการเรื่องนี้ คอยเป็นองครักษ์ของเธอ 

 

 

           ได้ยินคำขอโทษของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือตกใจไปครู่หนึ่ง ราวกับว่าฟังอะไรผิดไป คิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยผู้สูงส่งก็เอ่ยปากขอโทษเป็นเหมือนกัน 

 

 

           เพียงแต่ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการคำขอโทษของเขา 

 

 

           ระหว่างที่กำลังเหม่อลอยนั้น ริมฝีปากแดงยกขึ้น “ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก คุณเผย ตอนนี้เรื่องก็ชัดเจนแล้ว ปีนี้ฉันไม่ติดค้างอะไรคุณแล้ว รักษาตัวด้วย” 

 

 

           ครั้งนี้พอพูดจบ ฉู่เจียเสวียนไม่รอให้เผยหนานเจวี๋ยตอบก็เดินออกไปจากห้องผู้ป่วยโดยไม่หันกลับมามอง ส่วนกงจวิ้นฉือที่ยืนอยู่ข้างๆ ชำเลืองมองเผยหนานเจวี๋ยอย่างล้ำลึก จากนั้นก็เดินออกจากห้องผู้ป่วยไปแล้ว 

 

 

           ยังเดินไม่ทันเท่าไร เสียงของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น “ทำไมคุณถึงเชื่อเขาโดยไม่ได้คิดอะไรเลย” 

 

 

           นึกถึงเมื่อคืนภายใต้สถานการณ์ที่กงจวิ้นฉือยังไม่รู้สาเหตุก็เลือกที่จะเชื่อเธอโดยไม่มีเงื่อนไข เขาประหลาดใจจริงๆ ถ้าหากในคลิปฉู่เจียเสวียนเป็นคนขโมยสร้อยจริงๆ จะทำอย่างไร เขายังจะเชื่อเธออยู่ไหม 

 

 

           คำถามต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวใจนับไม่ถ้วน แต่กงจวิ้นฉือกลับช่วยแก้ปัญหาคาใจของเขา 

 

 

           “เพราะว่าเขาคือผู้หญิงที่ผมรัก ผมรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง รักเขาก็ควรจะเชื่อเขา แต่ว่า ผมคิดว่าคุณเผยคงไม่เข้าใจว่าอะไรคือความรัก” ถ้าหากเข้าใจตอนนั้นเขาก็คงไม่ทำร้ายหัวใจฉู่เจียเสวียนขนาดนั้น 

 

 

           ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนรอยยิ้ม พยักหน้าให้เผยหนานเจวี๋ยตามมารยาท จากนั้นก็หันหลังออกไปจากห้องผู้ป่วยแล้วตามฉู่เจียเสวียนไป 

 

 

           “เพราะว่าเขาคือผู้หญิงที่ผมรัก ผมรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง รักเขาก็ควรจะเชื่อเขา” คำพูดของกงจวิ้นฉือก่อนที่จะจากไปดังอยู่ในหัวไม่ขาดสาย 

 

 

           มือที่ถือเครื่องเล่นวีดีโอกำแน่นไม่หยุด ข้อมือกลายเป็นสีขาว ดวงตาเผยความเยือกเย็น 

 

 

           ทำไม ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าดวงตาทั้งคู่ของเขาถูกอะไรบดบังอยู่ตลอดเวลา 

 

 

           รู้สึกโมโหในใจ ฉู่อีอี ทำไมคุณต้องหลอกผม พร่ำบอกว่าผมคือคนที่คุณรัก แต่ว่าคุณรักผมแบบนี้เหรอ 

 

 

           ที่ทางเดินของโรงพยาบาล ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือเดินคู่กัน เงยหน้าขึ้นเห็นเงาของฉู่อีอีเดินตรงมา ทั้งสองคนมองหน้ากัน มองตาของกันและกันก็เข้าใจ 

 

 

           ถ้าปล่อยให้เธอรู้ว่าตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยได้ดูคลิปแล้ว เธอจะคิดอย่างไร ยังจะแสร้งทำเป็นน่าสงสารอยู่อีกไหม หึหึ ฉู่เจียเสวียนยิ้มเยาะอยู่ในใจ 

 

 

 

 

 

      ตอนที่ 267 คำใบ้ 

 

 

           ฉู่อีอีถือกล่องข้าวอยู่ในมือ ขณะที่เห็นฉู่เจียเสวียน จู่ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เปลือกตากระตุก 

 

 

           ขณะที่ทั้งสองคนเจอหน้ากัน ฉู่อีอีสังเกตเห็นรอยยิ้มในแววตาของฉู่เจียเสวียน ไฟประหลาดก่อตัวขึ้นภายในใจ แต่ว่าเมื่อกวาดตาเห็นกงจวิ้นฉือข้างกายเธอ ก็กลืนคำที่ต้องการดูถูกเหยียดหยามเธอกลับเข้าไปแล้ว 

 

 

           “คุณหนูฉู่ บังเอิญจังเลย” ไม่รอให่ฉู่อีอีเอ่ยปาก ฉู่เจียเสวียนชิงพูดก่อน 

 

 

           ไม่รู้ว่าทำไม พอฉู่อีอีได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว รู้สึกว่าในคำพูดของเธอแม้เปื้อนด้วยรอยยิ้มแต่กลับทำให้เธอรู้สึกถึงความเยือกเย็น 

 

 

           ริมฝีปากแดงเม้มกัน ฉู่อีอีเหลือบมองกงจวินฉือ พบว่าใบหน้าของเขามีรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม จากนั้นก็มองไปยังฉู่เจียเสวียน “เธอคิดจะทำอะไร” 

 

 

           “คุณหนูฉู่ถามอะไรตลกจังเลย ก็แค่ทักทายกันเท่านั้น อ้อ จริงสิ ในเมื่อพวกเราเจอกันแล้ว ฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องแนะนำคุณสักหน่อย เมืองจีนมีคำพูดโบราณที่ว่า ‘ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ จงอย่าทำเสียดีกว่า’ คุณก็ทำตัวให้ดีๆ เถอะ” 

 

 

           “จวิ้นฉือ พวกเรากลับ” ไม่ชักช้า ดึงมือของกงจวิ้นฉือ ก้าวเท้ายาวๆ เดินออกไป 

 

 

           คำพูดของฉู่เจียเสวียนทำให้หัวใจของฉู่อีอีเต้นระรัว เธอพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร ตื่นตระหนกในใจ ยื่นมือรั้งฉู่เจียเสวียน ปากแดงๆ อ้าออกเล็กน้อย แววตาเผยความว้าวุ่นใจ “เธอหมายความว่าอะไร พูดให้ชัด” 

 

 

           ดวงตาที่เย็นชากวาดมองฉู่อีอี มองดูเธอที่ในขณะนี้เหมือนมีท่าทางกระวนกระวายเล็กน้อย ความเยือกเย็นในใจของเธอยิ่งล้ำลึก 

 

 

           “เปล่า ก็แค่เป็นคำใบ้เท่านั้น” พูดจบ รอยยิ้มบนใบหน้าสดใสขึ้นมา ครั้งนี้เธอไม่ใส่ใจฉู่อีอีจริงๆ แล้วเดินออกไปจากโรงพยาบาลพร้อมกับกงจวิ้นฉือทันที 

 

 

           เธอทำอะไรก็รู้ดีอยู่แก่ใจเธอเอง ทำไมต้องพูดให้ชัดเจนด้วย ประเดี๋ยวตอนที่เธอเจอกับเผยหนานเจวี๋ยก็จะรู้เองว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่เหรอ เพียงแต่เผยหนานเจวี๋ยจะทำกับเธออย่างไรกันนะ เชื่อว่าเขาจะต้องด่าเธอไม่ลงแน่นอน 

 

 

           มองเงาของฉู่เจียเสวียนที่ไกลออกไป นึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของเธอ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด มือที่ถือกระเป๋ากำแน่น จนกระทั่งเบื้องหลังของฉู่เจียเสวียนและกงจวิ้นฉือลับสายตาไปแล้ว เธอจึงหันหลังเดินไปยังห้องของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           ในหัวคิดถึงคำที่ฉู่เจียเสวียนพูดกับเธอเมื่อครู่ไม่หยุด เธอพูดแบบนั้นหมายความว่าอะไร คิดไปคิดมาก็มาถึงหน้าห้องของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว 

 

 

           ทั้งๆ ที่เป็นเพียงประตูบานเดียว แต่ว่าในเวลานี้ฉู่อีอียืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีความกล้าผลักประตูบานนั้น ราวกับว่าถูกกั้นกลางด้วยภูเขาและแม่น้ำอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           ในที่สุดก็สูดหายใจลึก บนใบหน้าของฉู่อีอีมีรอยยิ้มที่ตัวเองคิดว่ามีเสน่ห์ที่สุด ผลักประตูเข้าไปทำทีเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร 

 

 

           เมื่อเข้าห้องผู้ป่วยไป เงยหน้าขึ้น เห็นเผยหนานเจวี๋ยกึ่งนั่งอยู่บนเตียง สีหน้าดูไม่ได้เป็นอย่างมาก ในวินาทีที่เห็นเธอเข้ามา เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าฉู่อีอีเหมือนคนแปลกหน้า 

 

 

           ในใจเต้นระรัว คาดเดาไม่หยุดว่าเขาเป็นอะไรไป ฉู่อีอีข่มอารมณ์ไว้ ท้ายที่สุดแล้วก็ยังเดินเข้าไปหาเขา 

 

 

           “หนานเจวี๋ย ฉันซื้อโจ๊กเบาๆ มาให้คุณ คุณกินหน่อยเถอะ” ฉู่อีอีแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง วางโจ๊กลงบนโต๊ะ ทำทีเอ่ยปากอย่างสบายๆ พลางยื่นมือหยิบโจ๊กในถุงออกมา 

 

 

           “อีอี คุณไม่ได้โกหกผมจริงๆ เหรอ” เผยหนานเจวี๋ยตอบไม่ตรงคำถาม แววตาเยือกเย็นจับจ้องฉู่อีอี แววตาเผยให้เห็นความผิดหวัง 

 

 

           ทำไมถึงพร่ำบอกว่ารักเขาแต่กลับทำเรื่องเช่นนี้ลับหลังเขา เป้าหมายที่เธอทำแบบนี้คืออะไร เผยหนานเจวี๋ยคาดเดาอยู่ในใจ 

 

 

           บรรยากาศภายในห้องผู้ป่วยลดลงถึงจุดเยือกแข็งภายในพริบตา หัวใจของฉู่อีอีเต้นโครมคราม 

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset