[SC] บทที่ 4 คิดว่าหาเรื่องใครกันอยู่?
ซิงเฉิงไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอะไรก็จริง แต่หานปิงไม่ได้คิดอย่างนั้น
ชายหนุ่มไม่อยากเสียเวลาจะเถียงกับหญิงสาว ตราบใดที่ซิงเฉิงสามารถแก้ไขวิกฤตตรงหน้าได้ หานปิงจะต่อว่าอะไรเขาได้กันละ?
“เธอไปก่อนเลย” ซิงเฉิงพูด ก่อนจะหันกลับมาเตรียมตัวสู้
หลังจากหานปิงกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ ตอนแรกเธอกะจะทุบซิงเฉิงสักทีสองที แต่ทันทีที่หญิงสาวรู้ว่า 2 คนที่อยู่ด้านหน้าของพวกเธอนั้นดูไม่น่าไว้วางใจ ชายตัวสูงทั้งสองคนสวมชุดสีดำ ซึ่งขาดก็แต่แว่นกันแดด ถ้ามีครบ รับรองว่าพวกเขาจะดูเหมือนตัวร้ายในหนังแน่ ๆ
จากที่เห็นแล้ว สองคนนี้ดูไม่เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย …
ไม่ว่าหานปิงจะคิดยังไง แต่อย่างน้อยเธอก็พอมองออกว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก หญิงสาวทำตามที่ซิงเฉิงว่า ก่อนจะรีบหนีเข้าไปในประตูทันที
“สหาย มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?” ซิงเฉิงพูดพร้อมรอยยิ้ม คนแปลกหน้าทุกคนเขาจะนับเป็นแขก เพราะงั้นก็ควรที่จะสุภาพเอาไว้ก่อน การพูดจาข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามเหมือนหมาเหมือนแมวไม่ใช่อะไรที่ควรจะทำถูกไหม?
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก ถ้าไม่อยากตายก็ส่งตัวเธอมาให้พวกเราซะ!” ชายหัวล้านตะโกนใส่เขาอย่างดุเดือด
ซิงเฉิงหัวเราะออกมาเสียงดัง “ให้ตายเถอะ พวกพี่ชายนี่ตาแหลมมากเลยนะ เธอน่ะสวยเอาเรื่องเลยใช่ไหมละ? ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันน่ะนะ แต่พี่ชายไม่เคยได้ยินเหรอว่าใครมาก่อนได้ก่อน!”
“อยากเล่นกับเรารึไง?” ชายคนนั้นแสยะยิ้มออกมา
เมื่อหานปิงได้ยินคำพูดของซิงเฉิง หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกกลัว ตอนนี้เธอทำได้แค่เชื่อใจซิงเฉิงเท่านั้น
“จะบ้าหรอ เล่นเลิ่นอะไรกันไม่ ๆๆ ฉันไม่ได้รสนิยมแบบนั้นซะหน่อย” ซิงเฉิงส่ายหัว
ชายอีกคนพูดอย่างหงุดหงิด “ลูกพี่ทำไมเสียเวลากับมันแบบนี้ล่ะ? ไอ้หมอนี่มันวอนชัด ๆ ฆ่าแx่งเลยดีกว่า!”
“เห้ย ๆ บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะ ถ้าพวกแกฆ่าฉัน พวกแกก็ได้เข้าสังเตนะเห้ย แล้วพวกคนคุกนี่มันก็มีแต่พวกแย่ ๆ พวกแกจะเอาแบบนั้นเหรอ!” ซิงเฉิงยังคงมีท่าทีล้อเล่นอยู่
ชายหนุ่มพยายามที่จะถ่วงเวลาเพื่อให้หานปิงเรียกตำรวจมา แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะสั่นกลัวอย่างมากจนได้แต่ยืนอยู่นิ่ง ๆ อย่างนั้น
“ตายซะ!” ชายทั้งสองโกรธจัด ทั้งคู่ไม่รีรออีกต่อไป พวกเขาพุ่งเข้าใส่ซิงเฉิงในทันที
ชายหนุ่มไม่ได้กลัวทั้งสองคนนี้เลยแม้แต่น้อย ดู ๆ ไปแล้ว เจ้าสองคนนี้ไม่น่าจะใช่ตัวการหลัก ถ้าเกิดว่าพวกเขาต้องการใช้หานปิงเพื่อเอามาต่อรองกับลุงหานจริง ๆ ละก็ พวกเขาคงจะไม่ได้มีเท่านี้อย่างแน่นอน
โชคดีที่ทั้งสองคนนี้ไม่ได้พกอาวุธมาด้วย ไม่อย่างนั้นคงได้มีเลือกตกยางออกกันแน่ ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ถอย แต่กลับตัดสินใจพุ่งเข้าใส่ทั้ง 2 คนในเวลาเดียวกัน ชายหัวล้านปล่อยหมัดเข้าหาตัวเขา ซิงเฉิงที่เห็นแบบนั้นก็เอนตัวหลบออกไปด้านข้าง ก่อนที่เขาจะปล่อยหมัดสวนเข้าไปที่แขนของศัตรู
ในตอนที่ชายหัวล้านงอตัวลงด้วยความเจ็บปวด ซิงเฉิงก็อาศัยจังหวะนั้นแทงเข่าเข้ากระแทกที่คาง ก่อนจะตามด้วยฟันศอกเข้าทางด้านหลัง อวัยวะที่เขาใช้โจมตีทั้ง 2 อย่างนั้น ถือได้ว่าส่วนที่ทรงพลังที่สุดของร่างกายมนุษย์ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีชายหนุ่มก็สามารถคว่ำผู้บุกรุกไปได้คนนึงแล้ว
ชายข้างหลังที่กำลังจะตามเข้ามา เมื่อเห็นภาพที่เกินขึ้นก็พลันเปลี่ยนท่าทีเป็นสั่นกลัวในทันที
“ลูกพี่ฉันผิดไปแล้ว!” ชายคนนั้นรีบคุกเข่ายอมแพ้ให้ซิงเฉิงก่อนที่ตัวเองจะโดนอัดไปอีกคน
ซิงเฉิงเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ชายคนนั้นก็ถอยไปหลังไปอย่างช้า ๆ ด้วยเช่นกัน ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะชนะได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดผิดเสียแล้ว
“ร้องเพลงแกะของชาวนาให้ฟังหน่อยสิ” ซิงเฉิงขู่
“พี่ชาย ฉันจะไปร้องเป็นได้ไง!”
“จะทำไหม?” ซิงเฉิงกำหมัดขึ้นมา
“ยอมแล้ว ๆ แกะของชาวนา เจ้าแกะน้อย เจ้าแกะเกียจคร้าน … ” คนโดนขู่เริ่มร้องเพลงออกมาอย่างเชื่องช้า
ชายหนุ่มจงใจหันมามองหานปิงที่หลุดขำออกมาไม่หยุด เมื่อเห็นท่าทีของซิงเฉิงผ่อนคลายลง ชายคนนั้นก็แอบหยิบมีดออกมาจากกระเป๋าเพื่อหวังจะลอบโจมตี
ซิงเฉิงเตรียมรับมือไว้แล้ว เขาเคยเจอคนแบบนี้มาเยอะ แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ลงมือให้เด็ดขาด แต่มันก็ใช่ว่าเขาจะประมาทเสียหน่อย
จังหวะเดียวกับที่ชายคนนั้นพุ่งเข้ามา ซิงเฉิงก็พลันหันกลับมา ชายหนุ่มเหวี่ยงขาเตะเข้าไปที่หน้าของคนที่พุ่งเข้ามา ชายผู้นั้นฟุบลงหมดสติไปกับพื้นด้วยการโจมตีครั้งเดียวของซิงเฉิง
“เสียงร้องโคตรจะกากเลย”
การต่อสู้เริ่มขึ้นและจบลงภายในเวลาไม่นาน
หานปิงที่เฝ้ามองอยู่ไม่ไกลที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันเมื่อครู่ เธอก็ถึงกับตกใจ หญิงสาวไม่ได้เคยคิดเลยว่าคนขับรถคนใหม่ของเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ตอนนี้หานปิงเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อของเธอถึงได้ไว้ใจเขานักหนา
“ออกมาได้แล้วครับ” ซิงเฉิงโบกมือให้หานปิงที่หลบอยู่หลังประตู
หานปิงจ้องไปทางซิงเฉิงราวกับว่ากำลังมองสัตว์ประหลาด “นายเคยฝึกวิชาหมัดมวยมาก่อนเหรอ?”
“ผมอาศัยอยู่ในเขาซงนานที่มีพวกปรมาจารย์อยู่เยอะ เพราะงั้นเลยได้เรียนวิชามาบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ” ซิงเฉิงอธิบายอย่างง่าย ๆ
ตั้งแต่ที่เขายังเด็ก ชายหนุ่มก็อาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับสำนักเหลากวนที่ตีนเขาซงนาน ซึ่งสำนักเหลากวนนี่เองก็เป็นที่ ๆ มียอดปรมาจารย์คอยสอนเรื่องวิธีแห่งเต๋าตี๋ฉิง แต่ที่สำนักแห่งนี้ไม่ได้กลายเป็นวิหารศักด์สิทธิ์เหมือนกับเขาหลงฮู๋และเขาอู่ตัง นั่นก็เพราะลัทธิเต๋าในปัจจุบันอ่อนแอลงมาก ผนวกกับมีสำนักเต๋าอื่น ๆ อีกมากมายทั่วประเทศจีน นั่นจึงทำให้เป็นเรื่องยากที่สำนักของเขาจะโดดเด่นขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าของสำนักเหลากวนก็เป็นถึงประธานของสมาคมลัทธิเต๋าแห่งประเทศจีนมากกว่า 10 ปีแล้ว ก่อนที่ท่านผู้เฒ่าจะเกษียณตัวเองไปเมื่อปีที่แล้ว
เวลาที่ปู่ของเขาไม่มีอะไรทำ ปู่ก็มักจะเข้าไปพูดคุยกับพวกยอดปรมาจารย์ทั้งหลายเกี่ยวกับ หลักฮวงจุ้ย วิชาฝ่ามือแปดทิศ โฉวยี่ และวิชาอื่นๆ อีกมากมาย และเพราะแบบนี้เอง นี่จึงทำให้ชีวิตวัยเด็กบนเขาซงนานของซิงเฉิงกลายเป็นเรื่องราวที่เขาคงไม่มีวันลืม
วิชาส่วนใหญ่ที่ชายหนุ่มใช้เป็นก็ได้ปู่ของเขาเองนี่แหละที่เป็นคนสอนให้ แต่วิชาทั้งหมดนั่นก็ได้มาจากพวกยอดปรมาจารย์ที่เขาซงนานอีกที ดังนั้นตัวซิงเฉิงเองก็นับได้ว่าเป็นลูกศิษย์ที่อาศัยการครูพักลักจำซะมากกว่า
“เขาซงนาน ฉันว่าฉันเคยได้ยินมาก่อน” หานปิงพูดด้วยท่าทางครุ่นคิด
“ไปกันเถอะครับ จะได้กลับบ้านกัน” ซิงเฉิงส่ายหัว คนอย่างหานปิงคงจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก
อย่างไรก็ตามหานปิงจ้องมาที่ซิงเฉิงพร้อมเท้าสะโพกแล้วพูดต่อ “เจ้าคนใช้ นายเดือดร้อนแน่ บอกมาซะว่าจับหน้าอกฉันทำไม ไม่งั้นพ่อฉันต้องรู้เรื่องนี้แน่”
“มันเป็นแค่อุบัติเหตุ จะเอาอะไรอีกล่ะ หรือจะให้ผมตัดมือให้คุณเลยไหม?” ซิงเฉิงอธิบายอย่างเกียจคร้าน
หานปิงก้าวออกมาข้างหน้าแล้วสวนกลับ “เอา ทำเดี๋ยวนี้เลย!”
“ทำก็บ้าแล้ว!” ซิงเฉินพูดสวนกลับไป
หานปิงที่ได้ยินก็สวนกลับอย่างแรงไปอีกว่า “ซิงเฉิงนายนี่มัน!”
“จะกลับได้รึยังครับ? ถ้าไม่ไป ผมไปก่อนนะ ถ้าพวกเขาส่งคนมาเพิ่มคงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ซิงเฉิงพูดไปวิ่งไป
หลังจากหานปิงได้ยิน เธอก็สะดุ้งสุดตัว ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบล็อคประตูให้เสร็จก่อนที่จะวิ่งตามซิงเฉิงไป
มันคงดูเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับผู้ชายอย่างซิงเฉิงที่เขาจะมาขับมาเซอราตี้แกรนธูริสโม่ แต่ก็นั่นแหละ ยังไงหมอนี่ก็เป็นได้แค่คนขับและผู้ช่วยเท่านั้น
“เจ้าคนใช้ เห็นแก่เรื่องที่นายปกป้องฉันก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้ามีครั้งหน้าละก็ฉันจะตัดมือของนานแน่” หานปิงพูดอย่างดุดัน
“ต่อให้ขอก็ไม่จับหรอก ใครมันจะไปอยากจับ…?” ซิงเฉิงบ่นพึมพำ
หานปิงที่ได้ยินก็ตะโกนออกมาทันที “เมื่อกี๊แกพูดอะไรนะ?”
“ผมแค่บอกว่ารถคันนี้โคตรเจ๋งเลย!” ซิงเฉิงพูดออกมา
หานปิงไม่เข้าใจความหมายของเขา แต่ทันทีที่เห็นซิงเฉิง รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “มันเป็นยังไงล่ะ?”
“นั่งแล้วรู้สึกสบายตัวมากเลยครับ!” ซิงเฉิงตอบอย่างจริงใจ
แต่เมื่อชายหนุ่มได้สติกลับมา มือของหานปิงก็มาอยู่ในที่ ๆ ไม่ควรอยู่บนตัวเขาเสียแล้ว โชคดีที่ซิงเฉิงคว้ามือของหานปิงเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นมันได้เป็นเรื่องแน่ ๆ
“ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย? อยากตายเหรอทำแบบนั้น!” ซิงเฉิงตกใจกับสิ่งที่หานปิงทำ
หานปิงพูดอย่างขบเขี้ยวเตี้ยวฟัน “อย่ามาทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน อย่าคิดว่าแค่จัดการนักเลงสองตัวนั่นได้แล้วจะทำให้ฉันพอใจนะ แล้วก็อย่ามาห้าวให้มาก!”
ซิงเฉิงแกล้งทำเป็นหูหนวกในทันที คนรวยนี่เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วอย่างกับกิ้งก่าเปลี่ยนสีเลยแฮะ …
เมื่อซิงเฉิงไปส่งหานปิงที่เคหะฮัวหลุน 9 ไมล์เสร็จ ก่อนจากกัน หานปิงงก็บอกว่าให้มารับตอน 7 โมงเช้า เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้านของตัวเองแล้ว ซิงเฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การทำงานวันแรกของเขาจบลงเสียที
จังหวะนั้นเองชายหนุ่มก็เหมือนพึ่งจะรู้ตัวว่าทั้งเขาและหานปิงยังไม่ได้กินข้าวเลย ตอนแรกซิงเฉิงอยากที่จะไปซื้ออาหารให้เธอด้วย แต่ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ เพราะถ้าโดนเอาไปโยนทิ้งแบบครั้งก่อนอื่น แบบนั้นเขาคงได้เสียหน้าอีกแน่
ดังนั้นซิงเฉิงก็เลยตัดสินใจแวะร้านอาหารริมถนนกินคนเดียว เขาสั่งก๋วยเตี๋ยวกินชามหนึ่ง สภาพของมันดูไม่ค่อยดีนัก แต่ก็พอกินได้
ก่อนกลับไปพัก ชายหนุ่มเลือกที่จะไปพบกับลุงหานอีกครั้งเพื่อจะหาว่าใครกันที่ต้องการตัวลูกสาวของเขากันแน่ ซิงเฉิงอยากที่จะรู้ว่าตัวเขานั้นต้องปกป้องหานปิงจากใคร
ที่ทอมสันกอล์ฟวิลล่า หาน เกาผิงยืนอยู่บนระเบียง ชายวัยกลางคนกำลังมองออกไปที่สนามกอล์ฟด้านนอก แม้ตอนนี้จะเย็นแล้ว แต่มันก็ยังมีคนตีกอล์ฟอยู่บ้าง ถ้าตามปกติ ป่านี้เขาเองก็คงจะออกรอบประมาณสองถึงสามรอบแล้ว แต่วันนี้หาน เกาผิงไม่มีอารมณ์จะมาเล่น
“นายท่านหาน คุณซิงเฉิงอยากพบท่านครับ” พ่อบ้านเข้ามารายงาน
หาน เกาผิงขมวดคิ้วก่อนจะพยักหน้าเพื่อให้ให้ซิงเฉิงเข้ามา สำหรับชายหนุ่มคนนี้แล้ว หาน เกาผิงสนใจในตัวของเด็กคนนี้มาก ตอนที่หาน เกาผิงเรียกให้อีกฝ่ายมาที่เซี่ยงไฮ้นั้น อันที่จริงเขาแค่พูดล้อเล่น ด้วยความที่ซิงเฉิงมีปูมหลังที่ไม่ชัดเจน นั่นจึงทำให้หาน เกาผิงต้องระวังชายหนุ่มผู้นี้เอาไว้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หาน เกาผิงก็เชื่อใจว่าซิงเฉิงจะไม่กลายเป็นศัตรูแน่นอน นอกจากนี้ ความสามารถของไอ้หนุ่มนี่เองก็ไม่เลวเลย ตอนนี้ปล่อยให้เขาปกป้องหานปิงไปก่อน พอจบเรื่องจบราวแล้วค่อยจัดการให้เรียบร้อยก็ยังไม่สาย
“ซิงเฉิงเป็นยังไงบ้าง?” เมื่อซิงเฉิงเดินเข้ามาหาน เกาผิงก็กลับไปมีสิ่งหน้าตามปกติในทันที “ปิงปิงไม่ได้รังแกนายใช่ไหม?”
“ลุงหานตอนนี้ไม่มีปัญหาครับ ปิงปิงเป็นเด็กที่ว่าง่ายมาก เสียก็แต่เธอเจ้าอารมณ์มากไปหน่อย” ซิงเฉิงตอบด้วยรอยยิ้ม
หาน เกาผิงพาซิงเฉิงให้นั่งลงก่อนจะถามไถ่ต่อ “อยากได้อะไรจากฉันหรือเปล่า?”
“ลุงหาน มีคนไล่ล่าปิงปิงวันนี้ครับ แต่เหมือนว่าคนพวกนั้นจะส่งลิ่วล้อมาแค่สองคน ถึงจะรับมือไม่ยากเท่าไร แต่ผมก็กลัวถึงเรื่องในอนาคตมากกว่า ผมอยากที่จะถามอะไรลุงก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวปิงปิงเอง” ซิงเฉิงพูดไปตามตรง
เมื่อรู้ว่ามีคนเข้าจู่โจมลูกสาวของเขา หาน เกาผิงก็แสดงความกังวลออกมา “แล้วปิงปิงปลอดภัยรึเปล่า?”
“เธอปลอดภัยครับ ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่” ซิงเฉิงส่ายหัวของเขา
หาน เกาผิงถอนหายใจ “อยากรู้อะไรล่ะ?”
ซิงเฉิงจ้องไปที่หาน เกาผิงก่อนจะถามออกมาว่า “นี่คุณกำลังมีเรื่องกับใครอยู่กันแน่?”