การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 3 : ถูกปล่อยป่า..ซะแล้ว?

บทที่ 3 : ถูกปล่อยป่า..ซะแล้ว?

 

“งั้นก็คงต้องหวังพึ่งใครสักคนสินะ…”

คนที่อุ้มฉันอยู่พูดขึ้น แน่นอนว่า.. ไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ว่านะไอ้สูตรนี้ฉันต้องเข้าใจภาษาด้วยสกิลพิเศษอย่างเข้าใจทุกภาษางี้ไม่ใช่เหรอ?

แบบนี้มันโหดร้ายเกินไปนะ เทพธิดานั่นกะจะให้ฉันถูกโยนมาโลกที่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจภาษาสื่อสารไม่ได้ แล้วแบบเผลอไปเซ็นสัญญาทาสอะไรทำนองนั้นสินะ

โหดร้ายเกินไปแล้ว!

ฉันคิดแบบนั้นได้จึงได้แต่รู้สังเวชกับตนเองที่เกิดมาซวยขนาดนี้ เหตุผลที่ตอนอยู่โลกเดิมฉันพูดภาษาได้ทุกภาษาทั่วโลก

ก็เพราะกลัวว่าไปเผลอเซ็นต์สัญญาขายบ้านให้พวกโจรโฉดสมัยใหม่นั่นแหละ ไม่ว่าจะโลกใบนี้หรือใบเดิม ก็โหดร้ายกันทั้งคู่จริงๆ นะ

ถึงจะไม่รู้ว่าโลกนี้มีระบบ ทาส เหมือนในนิยายแฟนตาซีหรือเปล่าก็เถอะนะ แต่ตามปกติแล้วมันต้องมีใช่ไหม

เพราะโลกใบนี้มันไม่ได้สวยหรูนี่น่า!?

“ไม่อยากทำแบบนี้เลย.. แต่ว่ามันไม่มีทางเลือกสินะ”

เธอคนที่เหมือนจะคลอดฉันออกมาพูดพึมพำด้วยสีหน้าช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ได้นี่คือ ช่วยไม่ได้ที่จะฆ่าฉันหรือทิ้งฉันใช่ไหม!?

ด้วยความตื่นตัวฉันเลยร้องดังกว่าเดิม ผสมผสานกับความเครียดและไม่รู้ว่าเพราะเป็นเด็กที่พึ่งคลอดด้วยไหม แรงจึงไม่มี

ว่ากันตามตรงหลังจากนั้นฉันก็สลบลงไป…. เพราะร้องหนักเกินไป…

………..

ข้ามีชื่อว่า เอลร่า เนล ฟาร์เนีย เป็นราชินีมารแห่งอาณาจักรมารฟาร์เนีย อาณาจักรนี้ปกครองโดยข้า เลทิเซีย

แต่เพราะข้าเป็นสตรีคนในอาณาจักรจึงได้ต่อต้านข้าและพยายามจะทำให้ข้าสละตำแหน่ง

ในทวีปแห่งนี้ถูกเรียกว่า ทวีปอาเซีย ทวีปนี้กินพื้นที่กว้างไกลอย่างมาก โกยทวีปนี้แบ่งออกเป็นสามดินแดน ซึ่งเรียกว่า ดินแดนมนุษย์

ดินแดนกึ่งมนุษย์ และดินแดนปีศาจของพวกเรา

ดินแดนปีศาจกินพื้นที่กว้างไกลพวกเราแบ่งออกเป็นอาณาจักรมารมากมายนับไม่ถ้วน ถ้าจะพูดให้ถูกคือข้าเป็นหนึ่งในหลายสิบประเทศนั่นเอง

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เป็นกษัตริย์จะเป็นจอมมาร ข้าก็เป็นหนึ่งในจอมมารทั้ง 12 แห่งดินแดนปีศาจ

แต่ด้วยเพราะข้าเป็นผู้หญิงทุกคนถึงได้ไม่ยอมรับข้ากัน จนกระทั่งข้าได้พบรักกับชายคนหนึ่งเข้า ข้าเลยมีลูกกับเขา…

ชายคนนั้นไม่ใช่ปีศาจ.. แต่ว่าข้าก็ได้มีลูกกับเขาทว่าลูกที่คลอดออกมากลายเป็นผู้หญิง ข้าแอบทำนายมาก่อนแล้วว่าลูกคนแรกข้าจะเป็นชายหรือหญิง

การทำนายจะออกผลทำนายตามความปรารถนาของผู้ที่อยากจะทำนาย แต่ทว่าในกรณีที่มีเรื่องรุนแรงกว่ารบกวนการทำนาย ภาพที่เห็นในนิมิตจะบิดเบือนจากสิ่งที่ต้องการ

และสิ่งที่ข้าเห็นในคำทำนายไม่ใช่เพศของลูกข้า แต่เป็นพลังของเธอ … พลังความสามารถที่อยู่ในระดับจอมมารตั้งแต่กำเนิด

ระดับจอมมาร.. ในโลกนี้มีจอมมารได้เพียงสิบสองคน การจะเพิ่มนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ หากไม่จัดการหนึ่งในจอมมารลงและแย่งชิงพลังในฐานะจอมมาร

แต่จอมมารเลยนะ พูดถึงจอมมารที่มีเพียงสิบสองคนในโลกใบนี้ ฟังดูเยอะเกินจริงแต่จอมมารหนึ่งคนก็เพียงพอที่จะทำลายมวลมนุษยชาติไปจนหมดแผ่นดิน

หากไม่มีพันธสัญญาเทพ สำหรับมนุษย์ก็สามารถกวาดล้างได้

ถึงข้าพูดเองมันจะยังไงอยู่ แต่ที่พูดไปพลังจอมมารทมันมีมากกว่าสามัญสำนึกไปไกลโข….

ข้าวางแผนไว้ว่า จะมอบพลังจอมมารให้ลูกชายตัวเอง และเขาขึ้นครองฐานะจอมมารแทนข้า ปกครองอาณาจักรมารนี้

แต่ลูกเป็นจอมมารคนที่ 13 ไม่พอยังเป็นสตรีอีก.. พลังที่ไม่เคยมีมาก่อนปรากฏขึ้น ข่าวนี้จากพวกที่ต่อต้านบัลลังก์ของข้า

พวกมันต้องแพร่กระจายข่าวให้จอมมารคนอื่นรู้ มันก็จะคิดว่าสมดุลพังทลายและจ้องจะสังหารลูกสาวข้า สุดท้ายลูกสาวข้าก็ต้องถูกประหาร

หากเป็นแบบนั้น ‘พ่อ’ ของเธอ คงจะโกรธมากแน่ๆ ข้าจึงมีเพียงแต่ต้องทิ้งลูกสาวข้า… แม้มันจะไม่ยุติธรรมต่อเธอ

แต่หากข้าออกหน้าออกตาเกินไปจอมมารคนอื่นก็คงทำสงครามทันที การจะแอบเลี้ยงลับๆ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ข่าวแบบนี้มันยากที่จะทำให้คนเชื่อคือ

การทำคลอดล้มเหลว ลูกของข้าตาย…

ข้ามองหน้าลูกสาวตนเองพลางรับเอาเธอมาอุ้ม ในขณะที่เธอนอนหลับ.. ข้าถอนหายใจออกมา

“ข้าขอโทษนะ…ลูกสาวข้า เลทิเซีย”

อ้อ.. ชื่อของเธอคือ เลทิเซีย ข้าคิดไวนานแล้วหากเป็นผู้ชายจะใช้ชื่อ แร็กน่า หากเป็นผู้หญิงจะใช้ชื่อ เลทิเซีย

แต่ก็นะสุดท้ายแล้วลูกข้าก็ต้องไม่อยู่กับข้า.. ไม่ได้เห็นการเติบโตของเด็กคนนี้ คนเป็นแม่ก็รู้สึกเหงาขึ้นมา

“เอาล่ะ… ฝากลูกข้าให้เจ้าด้วยนะ”

“รับทราบแล้วค่ะ”

ว่าแล้วข้าก็ลูบหัวของเธอเบาๆ ข้าหยิบเอาจี้ออกมา จี้นี้เป็นหยกสีแดงที่มีเลือดของข้าและพ่อของเธออยู่ในนี้

พร้อมทั้งตราตระกูลฟาร์เนียที่ยิ่งใหญ่ เมื่อไหร่ที่ลูกข้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก (แน่ใจ?)

จี้นี้จะกระตุ้นทำงานทันที ข้าและพ่อของเธอจะรับรู้ทันที พร้อมทั้งประกาศสายเลือดตระกูลฟาร์เนีย หากยังอยู่ในทวีปนี้คงไม่มีใครโล่ไม่รู้จักข้า

ถึงพวกเราสามเผ่าพันธ์ใหญ่แห่งพื้นทวีปจะไม่ได้รักใคร่กลมกลืนกัน แต่ก็ไม่ได้มีอคติต่อกัน กล่าวกันตามตรงก็คือไม่มีการเหยียดเผ่าพันธุ์นั่นเอง

นี่มันยุคไหนกันแล้ว การเหยียดหรืออคติมันล้าสมัยไปแล้ว สมัยนี้เขาหันมาพัฒนาทางด้านเวทมนตร์และวิทยาการแทนที่จะทำสงครามกันแล้ว

และมีสนธิสัญญายุติสงครามระหว่างจอมมารและผู้กล้าด้วย ดังนั้นชื่อเสียงตระกูลฟาร์เนียจึงเป็นที่ยอมรับและรู้จักไปทั่วทวีป

คิดว่านะ… แต่ก็นะใครบังอาจทำร้ายลูกสาวที่น่ารักของข้า ข้าไม่มีวันปล่อยมันไปแน่

“จริงสิ! ถึงข้าจะไม่ได้ดูลูกสาวอยู่ใกล้ๆ แต่แอบดูได้นี่น่า!”

ใช่แล้ว หนึ่งในวิชาต่างทวีปที่ลึกลับ ซึ่งข้าได้เรียนมาจากพ่อของเลทิเซียคือการสร้าง ‘ชิกิงามิ’

ส่าแล้วข้าก็ปล่อยพลังเวทสร้างเป็นผีเสื้อกระดาษแสงขึ้นมา มันกระพือปีกบินไปลอยอยู่เหนือหัวของเลทิเซีย

และหายไป แค่นี้ก็เสร็จตราบใดที่ข้ายังว่าง ข้าก็สามารถดูเลทิเซียได้! แบบนี้ต้องแชร์ผ่านเทเลพาธีให้พ่อเธอดูด้วยสินะ..

“เอาล่ะ ฝากด้วยนะ ลาน่า”

“ค่ะ!”

ว่าแล้วข้าก็ส่งลูกสาวให้ลาน่า ลาน่าคือปีศาจสาว ซัคคิวบัส เป็นทั้งหมอร่างกายและหมอจิตใจ เรื่องลามกเยียวยาได้ทุกอย่างของจิตใจอะไรของ เธอเนี่ยแหละ

“ส่วนสิ่งที่เจ้าจะต้องทำคือ….”

ข้าพูดบรรยายสิ่งที่ลาน่าควรทำไปทั้งหมด และมองลาน่าเดินจากไปจนลับสายตาข้าก็ถอนหายใจออกมา

คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ..

…………

ฉันที่หลับสนิทล่องลอยอยู่ในโลกสีแดงเลือด น่ากลัวไม่น้อย ในตอนนั้นเองก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น

“ฮ่าๆ ในที่ยุดก็เป็นตามแผนแล้ว!”

ภาพของเทพธิดาใจโฉดโผล่ขึ้นมากลางโลกสีแดง น่ากลัวเฟ้ย จะน่ากลัวไปแล้ว ว่าแล้วนี่คือความฝัน

แต่รู้ไหม ฉันเคยได้ยินว่าความฝันน่ะคือสภาวะตื่นรู้ในจินตนาการหรือ ‘Imaginary’ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้คือจินตนาการที่สะท้อนออกมาเป็นความจริงอีกที

เช่น ขนม คำว่าขนมนี่อาจจะเกิดจากมนุษย์สร้างหรืออะไรก็ช่าง ส่วนในจินตนาการหรือความฝันมันมีตัวตนขึ้นมาเพราะว่า ‘เรารู้จักขนม’

แต่ถ้าเกิดว่า จินตนาการทั้งหมดคือ Imaginary Space ล่ะ ว่าง่ายๆ ก็คือทุกๆ คนที่อยู่ในโลกแห่งจินตนาการล้วนเชื่อมต่อกันหมด

และที่เรื่องที่เราไม่รู้ทำไมปรากฏขึ้นในจินตนาการของเรา ก็เพราะว่าในจินตนาการของคนอื่นที่เชื่อมต่อกับเรานั้นทราบ

ทำให้เราฝันถึงเรื่องที่เราไม่รู้ แต่กลับเป็นการรู้จักอย่างอื่นเกี่ยวกับฝันนั่นแทน สรุปง่ายๆ ที่ฉันฝันแบบนั้นเพราะฉันรู้จักเทพธิดา

แล้วเทพธิดาเธอรู้ว่าตัวเองวางแผนอะไรไว้ จินตนาการฉันที่เชื่อมไปยัง Imaginary Space เหมือนกันกับเทพธิดา

ทำให้ฉันฝันเห็นเรื่องที่ฉันไม่รู้! เทพธิดานี่น่ากลัวจริงๆ!

(ตืด…. อนึ่งนี่แค่ความมโนเป็นตุเป็นตะของเธอคนนี้ โปรดอย่าเลียนแบบ)

ฉันก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงหัวเราะอันชั่วร้ายของเทพธิดา.. แสงสาดส่องมาใส่ตาของฉัน

เอ๊ะ.. เขียว.. ตรงหน้าเขียวไปหมด.. เสียงนกเสียงกา เสียงสิงสาราสัตว์…

ธรรมชาติห้อมล้อม.. แม้ฉันจะอยู่ในที่ที่เหมือนตะกร้า แต่ภาพรอบๆ ฉันเห็นชัดเจนมาก.. นี่มันแบบนั้นสินะ!

ตามบทที่ตัวละครหลายตัวพบเจอ.. ซึ่งฉันกำลังเจอ

“ถูกตัดหางปล่อยวัดทิ้งไว้หน้าโบสถ์”

อะไรแบบนั้นนะ . แต่ฉันนี่มันโหดร้ายกว่านั้นอีกนะ.. ฉันไม่ใช่เสือน้อยหรือหมาป่าตัวเล็กนะ.. ฉันไม่ต้องการโดนปล่อยป่าปลุกสัญชาตญาณดิบโว้ย!

ใช่จ้า.. ดูเหมือนฉันจะโดนปล่อยป่าซะแล้ว..

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!
Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset