การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 10: ท่านพี่..ของข้า

บทที่ 10 ท่านพี่..ของข้า

 

ข้ามีชื่อว่า เลวิเนีย ทีน อาเดฟ ข้าเป็นองค์หญิงของอาณาจักรอาเดฟ ตั้งแต่ตอนแรกที่ข้าลืมตาดูโลก

ข้าก็เข้าใจทุกอย่างเลยว่า ข้าได้แตกต่างจากคนอื่น เพราะข้าสามารถพูดได้และนึกคิดได้ทันทีต่างจากทารกคนอื่น

ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เพียงแต่ข้ารู้สึกคุ้นเคยกับโลกใบนี้มาก แต่จะว่าก็ว่าเถอะนะข้าสามารถที่จะปลดปล่อยพลังเวทระดับสูงออกมาได้เลยล่ะ

แน่นอนว่าข้าไม่เคยลอง แต่ข้ารู้สึกแบบนั้น นอกจากนี้ข้ายังรู้สึกถึงพลังอีกสองอย่างในตัวข้า หนึ่งเป็นพลังที่แข็งแกร่งราวกับไม่มีอยู่

อีกหนึ่งเป็นพลังแห่งแสงสว่างในความมืดราวกับมันปัดเป่าความมืดในตัว บางที นี่อาจจะเป็นพลังที่สืบทอดมาจากสายเลือด

อย่างน้อยข้าก็คิดแบบนั้น เพราะถึงแม้ท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่เคยบอก แต่ข้าก็แอบไปอ่านหนังสือมาทำให้รู้ว่าท่านพ่อเป็นผู้กล้าหรือวีรบุรุษ

ส่วนท่านแม่คือเทพที่เกิดอยู่บนโลกนี้ เรื่องราวของทั้งสองค่อนข้างที่จะโด่งดัง ไม่แปลกที่จะมีหนังสืออธิบายซะละเอียด

ซึ่งข้าก็คิดว่าพลังสองอย่างนี่คงจะเป็นพลังของพ่อและแม่ นอกจากนี้ข้ายังสามารถติดต่อกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘ภูต’ ได้

ข้าไม่รู้ว่าภูตเหล่านั้นคือใครมาจากที่ไหน แต่ข้าสามารถติดต่อกับพวกเขาได้ผ่านทางความคิด อารมณ์ประมาณเทเลพาธี

นอกจากนี้ข้ายังสามารถหยิบยืมพลังพวกเขาได้อีกด้วย ซึ่งพลังนั้นมากพอจะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบเลยทีเดียว

ข้ายังจำวันที่ข้าเกิดได้ ข้าเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างๆ ข้า เธออายุแค่สองขวบแต่พูดได้คล่องมาก

เธอเป็นคนตั้งชื่อให้ข้าว่า เลวิเนีย ข้าคิดว่ามันเป็นชื่อที่วิเศษที่สุดตั้งแต่ที่ข้าได้รับชื่อนี้มา

เธอคนนี้เหมือนจะเป็นพี่สาวแท้ๆ ของข้า หลังจากที่ท่านพ่อท่านแม่ส่งพวกเราเข้านอนแล้ว ข้ามักจะเห็นท่านพี่ออกจากห้องไปเงียบๆ

เพราะว่ามีคุณภูตช่วยเป็นตาให้ ข้าเลยรู้ทุกอย่างที่ท่านพี่ทำแม้ข้าจะหลับก็ตาม ตอนดึกท่านพี่มักจะมุดเข้าไปใต้เตียงไม่ก็ไปห้องสมุด

แม้เธอจะไม่พูดอะไร แต่ท่านพี่ก็ศึกษาอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวันหนึ่งท่านพี่แอบออกจากบ้านตอนอายุ 4 ขวบ

ตอนนั้นข้าอายุ 3 ขวบเท่านั้น แต่ก็พูดได้เดินได้ไม่เป็นปัญหาอะไร ข้าแอบตามท่านพี่ออกไป

ก่อนที่จะได้รู้ว่าท่านพี่ออกไปสู้กับมอนสเตอร์ตั้งแต่เด็ก เธอใช้เวทอย่างเชี่ยวชาญ ท่วงท่าของเธอมันตราตรึงอยู่ในใจข้าตลอดมา

หลังจากนั้นข้าก็รู้สึก ว่า การมองท่านพี่เป็นเรื่องที่ทำให้ข้าสบายใจ ไม่ใช่ให้คุณภูตช่วยมอง

แต่มองด้วยตาตัวเอง หลังจากนั้นทุกๆ วันข้าจะอยู่ใกล้ๆ ท่านพี่ตลอด เวลาท่านพี่จะไปไหนข้าก็ไปด้วย

แม้แต่ตอนนอนข้าก็ยังนอนด้วย เอ่อ.. ถึงท่านพี่กับท่านพ่อท่านแม่ จะไม่รู้ก็เถอะ เพราะข้าแอบไปนอนกับท่านพี่

เพราะหากขาดท่านพี่ไปข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถใช้ชีวิตได้ ความรู้สึกแบบนี้มันรุนแรงขึ้นทุกวัน

จนข้าอดไม่ไหวเปิดประตูบานใหม่เข้าสู่โลกใบใหม่ที่เรียกว่า การคลอเคลียกับท่านพี่ ถึงท่านพี่จะเป็นคนเอาจริงเอาจัง

ชอบฝึกอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ตอนนอนก็ยังน่ารักมากทุกๆ คืนข้าอดไม่ได้ที่จะนัวเนียตัวเธอ ก็แหมมันเพลินจริงๆ นี่น่า

และหลายวันมานี่ความรู้สึกนี้มันรุนแรงมาก ข้าไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่พออยู่ใกล้ท่านพี่ร่างกายข้าจะรู้สึกร้อนไปทั่วทั้งตัว (จิตแน่นอน)

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็มีความสุขมาก ดังนั้นข้าจึงไม่แปลกใจเลย.. ในตอนนี้ข้ากำลังนั่งบนพรมที่เกิดจากพลังของท่านพี่

แค่คิดเท่านี้ก็ทำเอาร่างของข้าสั่นสะท้านแล้ว จนทนไม่ไหวเผลอไปกอดท่านพี่สนองตัณหาตัวเองซะได้

ไม่ได้ๆ .. แบบนี้ไม่ได้ ท่านพี่คือวีรสตรีผู้สุดยอดขยันหมั่นเพียรตั้งใจฝึก ไม่เหมือนคนอย่างข้า ข้าจะทำได้แค่ตอนท่านพี่นอนเท่านั้น

แต่ว่าฉากตรงหน้ามันคือป่าเขาลำเนาไพรที่มีหอคอยอะไรสักอย่าง อืม.. ที่นี่ถ้าจำไม่ผิดคือหอคอยเทพเจ้า

หอคอยแห่งนี้มี เจ็ดแห่งทั่วทวีป จากที่ข้าอ่านมามันคือหอคอยที่เชื่อมต่อโลกและโลกเทพเข้าด้วยกัน

ว่าง่ายๆ ก็คือเป็นประตูเชื่อมไปยังโลกของเทพนั่นแหละ ประตูนี้ถูกสร้างขึ้นมาไม่นาน เพราะหอคอยนี้ทำให้เทพลงมายังโลกมนุษย์ได้

อย่างไรก็ตามมันก็จะผนึกพลังของเทพเอาไว้ ทำให้เทพไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงได้

แต่ของแบบนี้มันทำไม ท่านพี่มาที่นี่ทำไม?

แต่ว่าในตอนนั้นเอง ท่านพี่ก็ยกมือขึ้นและยิงพลังงานบางอย่างออกไป.. ก่อนจะตู้มม หอคอยเทพเจ้าพังลง

ข้างงมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พยายามนึกย้อนกลับไปมีอะไรที่มองข้ามไหม.. จริงสิ!

ท่านแม่บอกว่า ท่านต้องกลับไปโลกเทพเพื่อที่จะหาคู่ครอง ท่านแม่เล่าให้ฟัง เอ่อ.. ไม่ได้เล่าให้ข้าฟังนะ แต่เล่าให้ท่านพ่อฟัง แค่ข้าไปได้ยินมาเฉยๆ

เทพมองว่ามนุษย์เป็นเหมือนตัวหมากในกระดานเท่านั้น เทพจะเป็นตัวแทนของ ‘King’ ในกระดาน

และสำหรับท่านแม่ ท่านพ่อคือ ‘Queen’ ในกระดานหมากรุก ถึงแม้จะมีลูกด้วยกันแต่ก็ไม่ใช่คู่ครอง

ถ้าอธิบายให้เห็นภาพ ท่านพ่อก็จะกลายเป็นมือที่สาม.. ท่านแม่กำลังกลุ้มใจเรื่องนี้แน่ๆ ท่านพี่ก็เลย…

ข้าเงยหน้าขึ้นมามองท่านพี่ที่มองไปยังผลลัพธ์ตรงหน้า… อ๊าาาา ท่านพี่ของข้า.. ทำไมท่าน…ทำไมท่านถึงได้งดงามเช่นนี้

ข้าแทบจะทนไม่ไหว ดูเหมือนท่านพี่จะพูดไม่ค่อยเก่งก็จริง แต่ทว่าก็ทำเพื่อครอบครัวสินะ.. ท่านพี่ ข้า..รักท่านจังเลย..

ไม่ๆ ข้าต้องคอยควบคุมตัวข้าเอง ไม่งั้น ภาพพจน์ของข้าที่ท่านพี่มองเห็นจะแย่เอา แต่เวทที่รุนแรงแบบนั้นมันอะไรกันนะ

เวทระดับนั้นเหมือนกับเวทมนตร์ของคุณภูตเลยนี่น่า

“ท่านพี่สุดยอดไปเลยค่ะ นั่นมันอะไรเหรอคะ?”

ข้าถามด้วยความสงสัย ดูไม่น่าจะใช่พลังของพ่อแม่ หรือพลังแบบเดียวที่สร้างพรมเลย.. ใช่มันให้อารมณ์เหมือน เวทมนตร์ธรรมชาติ

แต่ประสิทธิภาพเวทมนตร์ธรรมชาติมีมากขนาดนั้นเลยเหรอ? พอถามไปแบบนั้นท่านพี่ก็ตอบข้า

ข้าใช้เวทมนตร์ของคุณภูตแล้วรอพี่สาวพูด นี่เป็นเวทมนตร์ที่ใช้บันทึก ก็แหมถ้าท่านพี่หลับข้านัวเนียท่านพี่ก็สนองความสุขได้ก็จริง

แต่เปิดเสียงด้วยมันเหมือนกินข้าวครบห้าหมู่พอดี ไรแบบนี้… (?)

“มันคือเวทมนตร์ระเบิดที่จะไปทำลายโครงสร้างของมิติโดยตรงน่ะ”

ท่านพี่พูดแบบนั้นข้าก็รู้สึกงงงวย มิติ คืออะไร ถึงเห็นแบบนี้ข้าก็ศึกษามาเยอะเพื่อที่จะคุยกับท่านพี่ได้หลายๆ เรื่องนะ

แต่คำว่ามิติคืออะไร.. ข้าขมวดคิ้วแต่สายตาที่ท่านพี่จ้องมาเหมือนกับเวลาถูกเร่งขึ้น ถ้าหากข้าตอบช้า ท่านพี่ก็อาจจะหมดอารมณ์

เป็นแบบนี้ไม่ได้!!

“คุณภูตเวลา!”

ข้าร้องในใจว่าแบบนั้นเวลาก็หยุดเดินลง ทุกอย่างถูกแช่แข็งแม้แต่ท่านพี่.. เวลาหยุดเดิน… อืม ก็หยุดเดินจริงๆ นะ

“คุณภูต มิติคืออะไรเหรอ?”

ข้าถามขึ้น ในตอนนั้นเองก็มีภูตโผล่ออกมา คุณภูตตนนี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแฮะ ตัวของคุณภูตเป็นเหมือนท้องฟ้าตอนกลางคืนที่มีดาวส่องแสง

“ข้าคือภูตแห่งมิติ… มิติคือ…”

ว่าแล้วคุณภูตก็อธิบาย ข้าพยักหน้าแบบนี้นี่เอง.. สรุปสั้นๆ มิติคือโครงสร้างของทุกอย่างนั่นเอง

สมกับเป็นท่านพี่จริงๆ เลยนะ เรื่องแบบนี้ท่านพ่อเองก็ยังไม่รู้เลยนะ คุณภูตเองก็บอกว่าในโลกนี้ไม่มีคนเจาะลึกเข้าเรื่องโครงสร้างมิติได้เลย

อย่างมากก็แค่เวลา แต่ในโลกใบนี้ไม่มีคำว่า ‘มิติ’ อยู่.. แต่ท่านพี่รู้จักเนี่ย..

ดูเท่สุดๆ

สมกับเป็นท่านพี่จริงๆ

พอได้คำตอบข้าเลยทำให้เวลากลับมาเดินต่อแล้วก็ตอบท่านพี่ไปว่า

“แบบนี้นี่เอง หนูจะทำได้บ้างไหมนะ?”

ข้าถามท่านพี่ด้วยความสงสัย อันที่จริงข้าก็ไม่มั่นใจถ้าไม่ยืมพลังของคุณภูตมิติมา ท่านพี่ยื่นมือมาลูบหัวข้าแล้วบอก

“เลวี่ต้องทำได้แน่นอน”

อ่าาาา.. ท่านพี่ใจดีจัง ทั้งเท่ ทั้งสวย.. ทั้งใจดี จะทนไม่ไหวแล้วค่าาาาา…

ข้ารู้สึกร้อนไปทั้งตัวจนภาพเบื้องหน้าเริ่มพร่ามัวก่อนจะดับวูบไป…

ให้ตายสิ ทนความใจดีและความสวยของท่านพี่ไม่ได้เลยสักนิด

………

โดยไม่รู้เลยว่าข่าวลือแพร่กระจายออกไปทั่วแล้วว่าหอคอยเทพถูกใครสักคนทำลาย อย่างน้อยใช้เวลาหลายปีถึงจะกลับมาซ่อมแซมได้

และเวลาถูกหยุดลงโดยภูตแห่งเวลา ภูตตนอื่นสามารถหยุดเวลาได้เช่นกัน แต่ไม่เหมือนกับภูตเวลาที่ควบคุมกฎเกณฑ์แห่งเวลา

แม้แต่ผู้กล้าหรือจอมมารก็ถูกหยุด มีเพียงเทพที่ลงมายังโลกมนุษย์เท่านั้นที่ไม่ถูกหยุดด้วย.. และภัยพิบัติครั้งนี้สร้างความหวาดผวาให้กับทั้งทวีป

เพราะความหนาแน่นของพลังไปรวมอยู่ตรงจุดที่หอคอยเทพเจ้า ในอาณาจักรอาเดฟ.. เหมือนกับการควบคุมเวลาและระเบิดรุนแรงเมื่อหกปีก่อน

ซึ่งเกิดอยู่ในอาณาจักรอาเดฟเช่นกัน… ชื่อจึงถูกเรียกภายหลังว่าเป็นภัยพิบัติครั้งที่สอง..

ซึ่งมันเกิดจากสองพี่น้องอายุ 5-6 ขวบเท่านั้น..

 

………………

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!
Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset