บทที่ 22 – พี่สาว..?
จริงสิ.. คงคุ้นหูเผ่าปีศาจ เผ่ากึ่งมนุษย์และเผ่ามนุษย์กันดีอยู่แล้ว.. แต่เผ่าอสูรคงยังไม่รู้จักละสินะ..
อืมมม.. จะให้อธิบายมันคือพวกมอนสเตอร์นั่นแหละแต่ไม่จำกัดความแค่ว่าเป็นมอนสเตอร์เท่านั้นแหละนะ
เผ่านี้มีมาตั้งแต่โลกกำเนิด ฉันเลยมีความรู้เกี่ยวกับมัน แต่เทพธิดาคดโกงไม่ให้ข้อมูลส่วนนี้ฉันเนี่ยสิ
เอาเป็นว่าเผ่าอสูรคือเผ่าที่ไม่มีใครเข้าใจมากที่สุดบนโลกใบนี้.. นอกจากเทพหรือฉันน่ะนะ.. เผ่าอสูร
เผ่าอสูรเป็นเผ่าที่เหมือนจะถูกจัดให้เป็นเผ่าที่แข็งแกร่งมาก เรียกได้ว่าหากอสูรทรงพลังอยู่เหนือเทพหว่ามี ซึ่งฉันไม่ค่อยเข้าใจนักไอ้คำว่า ‘เหนือเทพ’ มันคืออะไร
แต่ไม่ใช่ว่าอสูรทุกตัวจะเก่งและมีสมองอะนะ อย่างพวกหมาป่าอสูรมันก็เป็นมอนสเตอร์ดาดๆ ทั่วไป
แต่อสูรที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าปกตินิดหน่อยจะไม่โจมตีมนุษย์หรือเผ่าอื่น พวกเขาปกครองและกินอยู่ในสถานที่เล็กๆ ของตัวเอง
แต่ก็มีบางครั้งที่ออกมาเดินเล่นในเมือง ซึ่งบางประเทศอาจจะปฏิเสธอสูรแต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศนะ อาณาจักรอาเดฟเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ไม่ปฏิเสธอสูร
ที่รู้ก็มีแค่ประมาณนี้แหละ ลึกลับซะจนฉันต้องระวังพวกนี้ให้มากกว่าเผ่าปีศาจซะแล้ว จากคำบอกเล่าของลาน่า
ดูเหมือนว่าอสูรบางตัวมันน่ากลัวมาก ดังนั้นฉันจึงต้องระวัง..ระวังและระวัง
การเดินทางนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานหลายวัน อย่างต่ำเขาบอกว่าใช้เวลาเกือบๆ หนึ่งเดือน แน่นอนว่านั่นในกรณีที่ม้าวิ่งเต็มกำลังตลอด 24 ชั่วโมง
กว่าจะไปถึงคงใช้เวลาสามเดือนเป็นอย่างต่ำ ถึงว่าท่านแม่กับท่านพ่อถึงคะยั้นคะยอให้รีบมาก่อนโรงเรียนเปิดสี่เดือน
แต่ฉันก็สงสัยว่า ใช้เวทมนตร์บินไปเอาไม่ดีกว่าขี่รถม้าเหรอ แต่เหมือนจะไม่มีคนตั้งคำถามนี้เลย
ขนาดเลวี่ที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์พอๆ กับฉัน ยังไม่ถามเลยนี่ทำให้ฉันไม่กล้าถาม ใครจะไปรู้ ถามออกไปอาจโดนปาดคอก็ได้นี่
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ถาม เมื่อตะวันตกดินพวกเราก็พักโดยตั้งที่พักหรู และมียามเฝ้าตลอดตอนนอน
อันที่จริงนอกจากยามแล้ว เลวี่กับซิลเวียยังเฝ้าฉันเหมือนกับฉันเป็นนักโทษ เลวี่ไม่เท่าไหร่แต่ซิลเวียนี่เหมือนจะแผ่นดินมาก
ตัวสั่นทั้งคืน จนฉันอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“นี่เธอกลัวอะไรกันแน่นิ”
ซิลเวียหันมาตอบฉันทันที สีหน้าของเธอดูกลัวไม่น้อย
“นี่เธอไม่รู้เหรอว่า ที่ดินมันมีเทพแห่งพิภพอาศัยอยู่ ไอ้เทพบ้านี่มันชอบผู้หญิงมาก ตกดึกมันจะแอบเข้าไปหาคนที่นอนติดพื้นแล้วก็..”
ที่ไหนได้ก็แค่เรื่องเล่า ฉันไม่คิดว่าเทพธิดาจะกลัวเรื่องเล่าหลอกเด็กแบบนี้ พอคิดได้แบบนั้นฉันก็ถอนหายใจออกมา
แต่พอหลับตาลงฉันก็ต้องเบิกตากว้างทันที!
เดี๋ยวก่อนนะ ที่นี่คือที่ไหน? ที่นี่คือโลกแฟนตาซีที่โหดร้ายและทารุณ หมายความว่าเรื่องบ้าอะไรก็เกิดขึ้นได้!
บางทีเรื่องที่ซิลเวียพูดอาจจะเป็นเรื่องที่มีอยู่จริงในโลกบ้าๆ พรรค์นี้ก็ได้ ฉันถึงกับตัวสั่นทันที
“บัดซบ เกือบเลินเล่อไปแล้ว”
ฉันบ่นออกมาตอนกลางคืน หลังจากทุกคนเงียบไปแล้ว.. ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องเล่าหลอกเด็ก
ไม่สิตำนานเล่าขานส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นจริง จริงอยู่ที่เทพพิภพอะไรนั่นอาจจะไม่มีจริง แต่เรื่องที่เกิดเล่าขานนั่นอาจจะเกิดขึ้นโดยฝีมืออะไรสักอย่าง
ดังนั้นฉันต้องระวังตัว! ใช่ จะเลินเล่อไม่ได้ ฉันใช้ทักษะที่เคยฝึกมาในอดีตชาติ วิชางูอ่อน.. เอ่อคือแค่ทำให้ร่างกายอ่อนแล้วหลบออกมา
ฉันออกจากที่พักและด้านนอกที่พักมีทหารยืนอยู่ พอทหารเห็นฉันก็พูดออกมาทันที
“องค์หญิง ออกมาไม่ได้นะครับ! ตอนนี้เป็นตอนกลางคืนอาจจะมีอสูรหากินยามดึกอยู่ก็ได้”
“เอ่อ…”
ฉันไม่รู้จะทำไงดีก็เลยใช้เวทไปทันที ทำให้ทหารคนนั้นตาค้างสักพักก่อนจะหันไปทำหน้าที่ต่อ
มนต์สะกด เป็นมนต์ที่ทำให้เขามองข้ามฉันไป.. และฉันก็เดินวาดวงเวทล้อมรอบที่พักจนเสร็จ
แต่ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ด้วยความที่แถวนี้มีแต่ทหารเต็มไปหมด ถึงจะโดนมนต์สะกดแต่มาทำเรื่องอย่างว่ากลางที่สาธารณะนี่ก็ไม่ใช่
ฉันเลยเดินหลบเข้าไปในป่าลึก.. แต่ในตอนนั้นเองฉันก็ได้ยินเสียงซอกแซกในป่า พร้อมแสงไฟ ว๊าบๆ
“อ่วยอ้วยยยย”
แสงยุบยี่ถูกส่งออกมาจากทางนั้น แต่เหมือนทหารจะไม่ได้ยิน ฉันเลยสงสัยแอบมองดู
ตรงนั้นเห็นกลุ่มชายสามคนกำลังจับผู้หญิงกดลงกับพื้นอยู่ ผู้หญิงคนนี้เหมือนกำลังเดินทาง แต่ไม่ใช่คนที่มากับพวกเรา
แม้ว่าจะสวมชุดขุนนาง แต่ก็เหมือนขุนนางที่ไม่ได้รวยมากเพราะไม่มีคนติดตาม ชายที่เป็นผู้นำเหมือนจะหัวเราะออกมา
“ฮิๆ .. วันนี้จับลูกขุนนางได้เว้ย”
“เฮ้ๆ ใกล้ๆ นี่มีทหารของอาณาจักรอาเดฟอยู่ เงียบๆ สิวะ”
“อื้อออออ อื้อออ”
ผู้หญิงคนนั้นถูกปิดปาก ก่อนชายที่เป็นหัวหน้าจะเอามีดจ่อคอ แล้วพูด “อยู่นิ่งๆ สิวะ ถ้าไม่อยากตายก็ตามมาเงียบๆ!”
ฉันขมวดคิ้วกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตั้งแต่ชาติก่อนหรือชาตินี้ฉันไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน นั่นคือการลักพาตัว!
นี่มันลักพาตัวกันชัดๆ ฉันควรทำไงดี หลบออกไปและไปบอกทหาร? ไม่สิ ทหารนั่นติดมนต์สะกดอยู่ กว่าจะแก้ได้พวกมันคงหนีไปแล้ว
ฉันควรจะเข้าไปช่วย ไม่ได้ สถานการณ์ที่ศัตรูเยอะกว่าจะประมาทและดูถูกศัตรูไม่ได้ มีความเป็นได้ว่าศัตรูแต่ละคนจะแข็งแกร่งกว่า
และอะไรมายืนยันว่าผู้หญิงที่ฉันช่วยจะเป็นคนดี ไม่ลอบโจมตีฉันหลังจากช่วย มันอาจจะเป็นการแสดง…
ฉันเหงื่อตกเพราะเริ่มรู้สึกเกร็งทำอะไรไม่ถูกในสถานการณ์นี้ มองดูเด็กผู้หญิงอายุเท่าๆ เลวี่ถูกปิดปากเอามีดจ่อคอน้ำตาไหล
“ฉันควรทำยังไงดี! พี่!”
ฉันไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ทุกครั้งที่ฉันไม่รู้จะทำอะไรพี่สาวฉันจะคอยบอก คอยเตือน คอยแนะนำ.. แต่ว่าเธอไม่อยู่แล้ว
ฉันต้อง.. ระวังตัวในโลกที่ไม่มีมิตรสหายแบบนี้.. ใช่.. ฉันไม่ควรช่วยเธอเพราะบางทีนี่อาจเป็นกับดัก
“ฟังนะ ..เรนถึงแม้จะกลัว แต่ก็มีบางครั้งที่แม้จะกลัว คาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ หรืออาจจะต้องแพ้แน่ๆ ก็ตาม ..เรนก็ต้องลุกขึ้นสู้..เพราะมันจะดีกว่าถ้ามารู้สึกเสียในภายหลังว่า เมื่อตอนนั้น ตัวเองทำไม่เต็มที่… พี่รู้ว่าลึกๆ แล้ว..เรนไม่ได้อยากเป็นคนคิดมากแบบนี้..ใช่มั้ย?”
“ฟังนะ ..เรน)ถึงแม้จะกลัว แต่ก็มีบางครั้งที่แม้จะกลัว คาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ หรืออาจจะต้องแพ้แน่ๆ ก็ตาม .เรน)ก็ต้องลุกขึ้นสู้..เพราะมันจะดีกว่าถ้ามารู้สึกเสียในภายหลังว่า เมื่อตอนนั้น ตัวเองทำไม่เต็มที่… พี่รู้ว่าลึกๆ แล้ว.เรน)ไม่ได้อยากเป็นคนคิดมากแบบนี้..ใช่มั้ย?”
การลอบโจมตีเงียบๆ จะส่งผลดีที่สุด! ฉันใช้พลังเวทมนตร์เร่งความเร็วและการรับรู้ก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าจนทะลุพื้นที่และเวลา
มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของชายสามคนนั้น เมื่อฉันปรากฏขึ้น ชายที่ระวังหลังให้ก็เห็นฉันทันที
“อะไร—”
ฉันเลือกโจมตีจุดตายทันทีนั่นคือสมอง ฉันบีบอัดพลังเวทปีศาจไว้บนฝ่ามือทั้งสองข้างเป็นก้อนพลังงานเวทก่อนจะยกมือขึ้นยิงไปซ้ายและขวาใช่สายสองคน
ด้วยจำนวนเวทที่ไม่เยอะฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะตาย.. แต่พอพลังเวทถูกปล่อยออกจากมือมันก็ทะลุหน้าของชายสองคนเหมือนทะลุเต้าหู้
ฉันตกใจเพราะร่างกายมันทำไม.. อ่อนแอแบบนี้ แต่ว่าชายร่างใหญ่คนนั้นก็ตอบสนองเหวี่ยงหมัดกลับหลังมาใส่ฉัน
“ช้ามาก!”
ฉันเผลอพูดออกไป แต่ว่าฉันไม่กล้ายิงพลังเวทอีกแล้ว ภาพสยดสยองของชายสองคนก่อนหน้าทำเอาฉันใจสั่น
ฉันจะทิ้งน้ำหนักไปด้านหลังหลบหมัดที่เหวี่ยงออกมา ใช้มือค้ำพื้นและเหวี่ยงเท้าเตะใส่เอวชายคนนั้น
“กร็อบ!”
ร่างชายคนนั้นเป็นเศษไม้แห้งถูกแท่งเหล็กบน กระดูกทุกส่วนถูกบดด้วยการเตะครั้งเดียวของฉัน..
ห้ะ.. หักเลยเหรอ?
..ไม่คิดว่าเสริมพลังกายแค่หนึ่งครั้งก็มากพอจนบดะดูกคนได้เลย.. ชายคนนั้นปลิวลิ่วอัดต้นไม้ทันที
เอ๋.. ง่ายไปมั้ยเนี่ย?
…….