การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 24

บทที่ 24 โจรอับโชค

 

ข้ามีชื่อ เซเรส ข้าเป็นโจร ข้าอยู่วงการนี้มาตั้งนานแล้วสืบทอดกิจการจากพ่อแม่ของข้า ถึงแม้คำว่า ‘โจร’ เหมือนจะเป็นเรื่องง่าย

แต่ทว่ามันกลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อย่างแรกเลย การที่เราจะปล้น เราต้องเลือกปล้นรถม้าที่ดูมีราคา ไม่ใช่รถม้าพุพัง

และข้อห้ามสำหรับวงการนี้คือการปล้นพ่อค้า พ่อค้าแม้ดูเหมือนตัวเงินตัวทองสำหรับโจร แต่พวกมันนั้นปากมากยิ่งกว่าอะไร

ครั้งหนึ่งเคยมีโจรปล้นพ่อค้า พอพ่อค้ามันรอดชีวิตกลับไปได้ก็กระจายข่าวจนข่าวใหญ่โต และสุดท้ายกองทัพของอาณาจักรต้องลงมือล่าโจรผู้นั้นเอง!

การจะฆ่าพ่อค้านี่เป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการปล้นซะอีก มันมีของป้องกันตัวเยอะมากจริงๆ ก็มันเป็นพ่อค้านี่

แต่ถ้าโจรคนไหนโชคร้ายหน่อยเจอพ่อค้าที่มีของวิเศษสายโจมตีละก็ ไม่รอดก่อนโดนทหารของอาณาจักรไล่ล่าด้วยซ้ำ

นอกจากนี้บางทีปล้นก็ปล้นถูกคนจน ไม่มีเงินให้อีก อีกอย่างข้าเซเรสถึงจะเป็นโจร แต่ไม่ไร้ศีลธรรม

(ช่างกล้าพูด)

พอเห็นแม้แต่คนไม่มีอันจะกิน ข้าจะไปปล้นได้ลงคอยังไง แต่เพราะปล้นคนจนไม่ได้ทุกครั้ง เลยโดนท่านพ่อตบหัวมาหลายรอบแล้ว

แม้ตอนนี้ข้าจะสวมชุดสีดำ … และใส่ผ้าปิดปาก ด้วยเพราะผมสีฟ้าของข้ายาวมันเลยเด่นชัดเป็นพิเศษ ถึงข้าจะเป็นผู้หญิงแต่โดยรวมภายนอกข้าเหมือนผู้ชาย

และด้วยความที่เป็นผู้ชายในสายตาคนอื่นพอไว้ผมสีฟ้ามันเลยดูแปลกๆ ข้าค่อยๆ ดึงผ้าปิดปากและผ้าปกหัวออก พลางถอนหายใจ

ข้าพยายามจะตัดมันทิ้งหลายรอบเพราะเคยถูกพ่อค้าที่เคยปล้นพลาดจำได้ แต่พ่อค้าคนนั้นบอก “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องตัดหรอกเสียดาย”

ข้าเลยจำใจไม่ตัดมัน ก่อนจะจากลากับพ่อค้าคนนั้น แต่เดี๋ยวนะข้าต้องปล้นไม่ใช่เหรอ อ๊ากกก สุดท้ายก็ไม่ได้ปล้น

ใช่.. ข้าเป็นโจรมานานแล้วแต่ว่า เงินสักบาทก็ไม่เคยได้ใส่กระเป๋าจากงานนี้เลย ข้าเลยต้องไปทำงานพิเศษเป็นคนเสิร์ฟอาหารในเมือง

เฮ้อ.. นี่เป็นโจรนะเนี่ย อาชีพที่ง่ายในการหากินที่สุดยังยากขนาดนี้เลย เป้าหมายที่ห้ามปล้นของข้าคือ คนจน, พ่อค้า, คนรวยที่มีทหาร, คนธรรมดารายได้น้อย

(สรุปคือ ปล้นไม่ได้สักคน…)

ข้าหาคนปล้นไม่ได้สักที ทำไมกันนะ ทำไมข้าถึงปล้นไม่ได้สักทีกันแน่ ข้าเดินในป่าขณะคิดแบบนั้น

หรือว่าข้าจำกัดคนที่จะปล้นมากเกินไป ข้าควรลดข้อจำกัด แต่จะปล้นคนจนเขาก็ไม่มีตังให้

ปล้นคนธรรมดาเขาก็ไม่มีอะไรจะให้นอกจากขนมปังแห้ง จะว่าไปข้าเคยปล้นได้อยู่นี่ พวกขนมปังแห้ง เนย อะไรแบบนั้น

อืมม หรือข้าควรปล้นคนรวยดี? ใช่ คนรวยถึงจะมีคนคุ้มกันแต่พิจารณาว่ามันได้รับผลกระทบน้อยที่สุดถ้าหากข้าปล้น

ว่าแล้วข้าก็ตบขาฉาดใหญ่ ใช่แล้ว! แบบนี้ก็จะ Win-Win ข้าปล้นได้ คนรวยก็ไม่ได้รับผลกระทบ อืมมม ข้านี่มันเก่งจริงๆ

(ปัญหามันอยู่ที่เอ็งจะปล้นได้ไหม?)

พอคิดแบบนั้นข้าก็เดินไปชนกับคนที่อยู่หลังต้นไม้ เพราะข้ามัวแต่คิดแถมคนที่ถูกเดินชนก็เตี้ยเกินไป

“โอ๊ย!”

ข้าร้องออกมาก่อนจะเห็นเด็กผู้หญิงสวมชุดเดรสหรูอยู่ อืม ดูท่าน่าจะเป็นลูกคนรวยแถมน่ารักมากๆ ด้วย

ถึงข้าจะไม่ใช่พวกชอบเด็กแต่เห็นแบบนี้ก็ปล้นไม่ลงหรอกนะ น่ารักเกินไป ข้าย่อตัวลงแล้วลูบหัวเด็กผู้หญิงคนนั้น

“ขอโทษนะจ๊ะ”

ด้วยท่าทางที่เป็นมิตร ทั้งผมสีฟ้าและใบหน้าอ่อนโยนของข้า ข้าคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คงรู้สึกอุ่นใจไม่น้อย

มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น

“โจร!?”

เด็กผู้หญิงคนนั้นเหมือนกับนกที่พูดออกมาแล้วดีดตัวถอยหลังเหมือนบินได้ ข้าตกใจ.. เอ๋.. นี่ข้าเหมือนโจรตรงไหน

เอ่อ.. ถึงข้าจะเป็นโจรจริงๆ ก็เถอะนะ แต่ปกติพอข้าถอดผ้าปิดปากและผ้าโพกหัวออกข้านับเป็นคนธรรมดานะ แล้วรู้ได้ไงว่าข้าเป็นโจร.. เอ๋?

………

ฉัน เลทิเซียหลังจากเดินทางมาเกือบจะเดือนกว่าๆ แล้ว อีกครึ่งทางก็ถึงโรงเรียน แต่ว่าข้าไม่คิดว่ามันจะสะดวกสบายแบบนี้

อย่างน้อยก็น่าจะมีโจรแอบซุ่มเตรียมโจมตีเป็นแน่ ข้าคิดแบบนั้นเลยเริ่มที่จะตรวจสอบรอบนอกของป่าที่พวกเราเดินทาง

และน่าตกใจที่มีคนเดินชนกับฉันในป่า ที่ไม่ควรจะมีใคร พร้อมกับท่าทางน่าสงสัยที่ตีสนิทฉันด้วยสีหน้าอ่อนโยนทั้งที่ไม่สนิท

นี่คือการตีสนิทเพื่อปล้นอย่างแน่นอน ฉันไม่คิดว่าจะเจอโจรทันทีแบบนี้ ฉันเบิกตากว้างและตั้งหลัก

โจรสมัยนี้น่ากลัวจริงๆ แม้ฉันจะเชี่ยวชาญทักษะการแสดงและมองว่า ซิลเวียโกหกออก แต่หมอนี่ฉันกลับมองไม่ออกเลยว่าเป็นการแสดง!

ทักษะเหนือล้ำยิ่งกว่าของฉันอีก ดูท่าจะเจอศึกหนักตั้งแต่วันแรกเลยสินะ … การลักพาตัวหรือปล้นเด็กมีสองวิธีคือการทำอย่างรุนแรง

แต่อีกวิธีคือการหลอกล้อให้ตายใจ หึ โจรชั่ว! ฉันดูแล นายออกหมดแล้วล่ะน่า (เข้าใจว่าเป็นผู้ชาย)

โจรชั่วเหมือนจะทำท่าทางตกใจและประหลาดใจด้วยทักษะจิตวิทยาฉันคิดว่าโจรกำลังจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แน่ๆ และก็ตามคาด

“หนูน้อยหมายความว่าไง?”

นั่นไง แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง! (จริงๆ เซเรสแค่เริ่มสงสัยว่าอาจจะเพราะสีฉันตัวเองเลยโดนจับได้จริง)

แน่นอนว่าในสถานการณ์นี้ฉันควรบลัฟใส่อีกฝ่าย อีกฝ่ายในตอนนี้กำลังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องฉันจึงตอบกลับไปว่า

“ฉันรู้มาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะ ไม่ต้องมาโกหก!”

นี่เจอฉันบลัฟไป แค่นี้โจรก็จะคิดว่าแผนตัวเองถูกมองออกและเผยธาตุแท้ออกมา หลังจากนั้นฉันก็จะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ

เพราะไม่กล้าต่อยอีกแล้ว ดูจากทรงแล้วโจรคงเป็นพวกไม่มีพลังป้องกันเลย ถ้าฉันต่อยคงแหลกเหลวแน่.. เฮ้อ.. มนุษย์ในโลกนี้ไม่รู้จักออกกำลังซะมั้ง

ขนาดโจรยังไม่ออกเลย.. แล้วพอโจรได้ยินที่ฉันพูดมันก็ชะงักอย่างตกใจ นั่นไงเอาล่ะ เผยธาตุแท้ออกมาเลย

ที่ทำแบบนี้เพราะต้องให้โจรถอดหน้ากากความชั่วก่อน ถึงจะจับกุมได้ ฉันไม่มีทางให้ทหารมาจับกุมทั้งที่ไม่มีหลักฐานแน่นหรอกนะ แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!

“ทำไมถึงรู้…”

(เซเรสในตอนนี้คิดแล้วว่าเป็นเพราะสีฉันแน่ๆ หลบหนีจากนี้ได้เขาจะโกนฉัน! เอ๊ะ ว่าแต่ทำไมต้องหลบหนี?)

ฉันยิ้มออกมานี่แหละเตรียมตัวเผยธาตุแท้ได้แล้ว พูดแบบนี้ก็เหมือนกับบอกว่าตัวเองเป็นโจรแล้วครึ่งหนึ่ง

โจรเอื้อมมือไปด้านหลัง คงไปจับมีดละสิ แต่ฉันก็เสริมพลังให้ป้องกันมีดแบบมีดแทงไม่เข้ารอ..

แต่ว่าเพื่อที่จะให้มันเปิดเผยธาตุแท้ ฉันต้องบลัฟต่อไปแต่จะตอบส่งๆ ก็ไม่ได้.. ฉันเหงื่อตก.. บ้าเอ๊ย.. ลืมคิดถึงเรื่องนี้เลย

ทำไงดี ทำไงดี.. ถ้าพูดออกไปแล้วฟังไม่ขึ้นนี่มันจะดูแย่มากๆ บลัฟก็จะไร้ผล บ้าเอ๊ย.. ใช่ เราไม่ต้องพูดก็ได้นี่ แค่ทำให้ลึกลับ ยากจะเข้าใจ

ฉันลังเลแต่ก็กัดฟันยกนิ้วขึ้นชี้ไปที่หน้าอีกฝ่าย นี่แบบนี้อีกฝ่ายก็จะเดาไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่ในขณะเดียวกันก็ดูลึกลับ!

“ไอ้ผมบ้าเอ๊ย!”

“ห๊ะ..?”

ฉันตกใจทันทีเมื่อฉันชี้นิ้วออกไปโจรก็ร้องออกมาทั้งน้ำตา และดึงมีดออกมา ฉันตกใจมาและสินะแต่ว่าฉันไม่ยอมให้โจมตีฉันหรอก

ก่อนอื่นต้องดักทางก่อน ฉันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและดันมืออีกฝ่ายก่อนที่จะชักมีดเสร็จ และใช้ศอกของแขนอีกข้างเสยเข้าที่คาง

“ปัก!!”

(แค่จะตัดผม…)

ฮึ่ม ไม่ได้กิน ฉันหรอก! ฉันถอยกลับมาเตรียมตัวฟังอีกฝ่ายโกรธและโจมตีมาที่ฉันอย่างดุเดือด มันต้องหมดความอดทนแล้วแน่ๆ

แต่ว่าน่าตกใจที่โจรคนนั้นล้มนอนลงบนพื้น.. เอ๊ะ.. สลบไปแล้วเหรอ.. เมื่อกี้ยังไม่ได้เพิ่มพลังกำลังนอกจากการป้องกันของมีคมเลยนะ

บ้าเอ๊ย.. ไม่เป็นตามแผนอีกแล้ว จะจับเขาก็ไม่ได้เพราะยังไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งฉันและเขา (ซัดเขาจนสลบบอกไม่ผิด)

ฉันทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าโจรฟื้นขึ้นมาต้องแค้นฉันแน่ แต่จะฆ่าทิ้งก็ไม่ได้เพราะว่า ถึงจะเป็นโจรแต่เราก็ไม่ควรฆ่าทิ้งนะ!

สุดท้ายฉันจึงกัดฟันใช้พลังเวทปีศาจในรูปแบบที่ฉันคิดค้นขึ้น นั่นคือการลบความทรงจำ!

ฉันเดินไปนั่งลงข้างๆ โจร แล้วก็ใช้เวทใส่หัว.. สมองคนนั้นแบ่งออกเป็นหลายส่วนใช้ในการบันทึก วิเคราะห์พิจารณา หรืออื่นๆ

ฉันใช้พลังเวทเชื่อมต่อไปยังความทรงจำและลบความทรงจำส่วนนั้น.. แต่เหมือนเวทมนตร์ใหม่นี้ฉันยังไม่ถนัดเลยเผลอลบเกินไปยังสมองส่วนวิเคราะห์

“เอ่อ..”

ฉันพูดไม่ออก.. สมองคนนี้บางไปไหนลบจนทะลุไปสมองส่วนวิเคราะห์ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?! ฉันกัดฟันพยายามใช้เวทมนตร์รักษาให้

แต่เวทรักษาดันไปฟื้นฟูความทรงจำของโจรที่ควรจะลืมไปแล้วกลับมา..เอ๋.. ฉันแค่จะฟื้นฟูสมองส่วนวิเคราะห์นะ

หลังจากพยายามอยู่หลายหนก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายฉันก็ต้องโทษที่พระเจ้าสร้างสมองมนุษย์มาอ่อนแอเกินไป… และฉันก็รีบจากไป…

(หลังจากนั้นเมื่อเซเรสตื่นมาก็กลายเป็นคนหลับทั้งตื่นวันละสองชั่วโมง แต่สายตา การรับรู้ หรือพลังเวทกับเพิ่มมากขึ้นด้วยการรับรู้ที่ผิดแปลก แถมความทรงจำบางอย่างก็ไม่มีทางลืม.. ต้องขอบคุณเลทิเซียที่ทำให้เซเรสได้เข้าโรงเรียนเวทมนตร์เพราะความประหลาดทางสมองของเขา)

 

………

[สงสารน้อน – ผู้เขียน]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!
Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset