บทที่ 26 เลทิเซียและซิลเวีย
แน่นอนที่ฉันให้ซิลเวียจับมือฉันไว้นั้น ไม่ใช่เพราะอาจจะทำให้ฉันหลงทาง แต่เพราะไม่ให้ซิลเวียทำอะไรแผลงๆ ต่างหาก
พวกเราเดินออกมาจากที่พัก เพราะว่าฉันมีซิลเวียมาด้วยทหารคุ้มกันจึงไม่จำเป็นต้องมาด้วย เพราะซิลเวียเหมือนจะเก่งมาก
จึงทำให้ฉันเหมือนมีบอดี้การ์ดติดตัวอยู่แล้วนั่นเอง ซิลเวียเดินมาเจอฝูงชนพลุกพล่านเต็มไปหมดเหมือนเธอจะตื่นเต้นมาก
“ว้าวววว นี่ๆ เลทิเซีย นั่นมันอะไรเหรอ?”
ซิลเวียเขย่าแขนฉัน เพราะฉันตัวเตี้ยกว่าเลยรู้สึกปวดแขนไม่น้อย แต่เพราะเหมือนว่าซิลเวียจะวางมาดการแสดงที่ห่วยแตกของเธอลง
ฉันเลยถอนหายใจออกมา มองไปตามทางที่ซิลเวียชี้นิ้วไป มันคือร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมถนนเรียงกันเป็นระเบียบค่อนข้างไกล
เพราะเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างดี พอลงมาจึงเจอร้านค้าเหล่านี้ทันที .. อืมไอ้ของพวกนี้เขาเรียกว่า แผงลอยสินะ?
“ดูเหมือนเขาจะเรียกว่า ‘แผงลอย’ ละมั้ง.. เธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันไม่ใช่เหรอ?”
ในโลกเดิมนั้น ฉันอยู่ในยุคที่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าแผงลอยอะไรพวกนี้เลย แม้จะเคยได้ยินมาบ้างแต่ว่าก็ไม่เคยเห็นละนะ
และไม่ต้องสงสัยว่าฉันจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีแผงลอย (?) นั่นเพราะพี่เอามาให้ และพอฉันเริ่มทำงานหลังพี่เสีย ฉันจึงต้องสามารถหาอาหารมาให้น้องสาวได้
ดังนั้นคนที่น่าจะรู้ดีกว่าฉันน่าจะเป็นพวกคนที่อยู่โลกฝั่งนี้อย่างพวกซิลเวียไม่ใช่เหรอ ซิลเวียตอบกลับฉัน
“บนโลกเทพไม่มีแบบนี้นี่น่า—”
พอพูดถึงจุดนี้เธอก็รีบเอามืออุดปากทันที เอ๊ะ มีอะไรหว่า ฉันหันไปมองซิลเวียด้วยความสงสัย พอเธอเห็นสีหน้าสงสัยของฉันก็ถอนหายใจออกมา
(คิดว่า เลทิเซียไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูดเลยทำหน้างงๆ ออกมา)
อ้อ.. จะว่าไปแล้วซิลเวียก็เป็นเทพนี่นะ ลืมไปเลย ในโลกเทพอาจจะไม่มีของแบบนี้จริงๆ ก็ได้นี่นะ
ฉันกับซิลเวียกินเที่ยวกัน โชคดีที่พกเงินมาด้วยเลยซื้อของจากแผงลอยได้ แน่นอนว่าฉันไม่กล้ากินของแบบนี้
คนที่กินคือซิลเวีย ดูเหมือนเธอจะอร่อยมาก พอกัดเนื้อหมึกย่างที่อัดแน่นไปด้วยไข่ข้าในตัวของหมึกกล้วย แล้วก็น้ำซอสสุดพิเศษ
ซิลเวียกัดจนน้ำซอสไหลทะลักออกมา จนทำให้ฉันรู้สึกพลอยหิวไปด้วย.. ไม่ได้ๆ ของตามแผงลอยอันตรายเกินไป อย่างน้อยฉันก็ต้องทำเอง
แต่เหมือนซิลเวียจะเห็นสายตาของฉัน เธอมองมาที่ฉันแล้วก็มองไปยังปลาหมึกย่างยัดไส้ในมือ
“อะไรเล่า?”
“ฉันไม่แบ่งหรอกนะ!”
“ไม่ได้จะกินสักหน่อย!”
เหมือนยัยนี่จะคิดว่าฉันจะแย่งเธอกิน เธอก็ซ่อนหมึกย่างยัดไส้ไว้ข้างหลังพร้อมทั้งถอยหลังออกไป
พอได้ยินฉันพูดซิลเวียเหมือนจะนึกอะไรได้ เธอคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันหน้าไปหาพ่อค้าแผงลอย
“ขอหมึกย่างยัดไส้อีกไม้หน่อยนะ!”
“โอ้!”
พ่อค้าตอบอย่างแข็งขันแล้วก็ยื่นหมึกย่างยัดไส้ให้ เธอปล่อยมือที่จับกับฉันอยู่ไปรับเอาหมึกย่างยัดไส้แล้วยื่นมาให้ฉัน
เอ่อ.. ฉันไม่ค่อยเข้าใจนัก ซิลเวียเลยพูดออกมา
“ฉันให้!”
“….?”
ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ซิลเวียพยายามจะทำอะไรของเธอเนี่ย พอเห็นฉันไม่ตอบเธอก็เหมือนนึกอะไรออก
เธอเอาไม้ที่กัดแล้วมาแทนไม้ที่พึ่งซื้อมายื่นให้ฉัน… อืม.. สรุปคือจะแบ่งให้กินสินะ แถมยังมีหน้ามาเปลี่ยนไม้ซะด้วย
แต่เมื่อกี้ยังหวงอยู่เลย แต่ยังไงก็เถอะฉันไม่กินของแบบนี้อยู่แล้ว
“ไม่กิ— อื้อ?!”
ฉันกำลังจะตอบ ซิลเวียก็ยัดหมึกย่างใส่ปากฉันอย่างรวดเร็ว ดวงตาฉันเบิกกว้าง กำลังจะตอบโต้
แต่เพราะว่าเป็นหมึกย่างอันที่กัดแล้วซอสและหมึกทั้งยังมีไข่อยู่ข้างในหยกใส่ปากฉัน.. ฉันที่กำลังจะต่อต้านก็หยุดชะงัก
อืม.. อร่อยดีเหมือนกันแฮะ ฉันกัดปลาหมึกย่างก่อนจะยื่นมือไปจับไม้ของปลาหมึกย่างเงียบๆ
“อร่อยใช่ไหมล่ะ?”
“….”
ฉันไม่ได้ตอบซิลเวียก็ยื่นมือมาจะกับมือฉันและเดินไปทั่วเมืองอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ฉันกินอาหารตามริมถนนที่ทำจากฝีมือคนอื่น
โดยไม่ตรวจสอบว่ามีพิษก่อนไหม.. แต่ว่ามันก็ไม่เลวนะ
ฉันกับซิลเวียเดินไปทั่วเมือง มีร้านอาหารมากมายในเมือง เห็นชัดว่าเป็นเมืองที่คึกคักมาก ไม่รู้ว่าเมืองหลวงอาณาจักรอาเดฟเป็นแบบนี้หรือเปล่า
ส่วนซิลเวียก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร ตรงกันข้ามเธอกลับดูสนุกมาก ปกติไม่ค่อยเป็นแบบนี้เลย มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร ในขณะที่เดินๆ กันอยู่ ซิลเวียก็ถามขึ้นมาว่า
“จริงสิ เลทิเซียคือผู้กลับชาติมาเกิดใช่ไหม?”
ฉันหยุดชะงักทันที… เรื่องนี้ฉันไม่อยากบอกใครมากที่สุดเพราะหากบอกไปคงโดนจับไปทดลองนั่นทดลองนี่แน่ๆ
อีกอย่างถ้าคนที่โลกนี้รู้ว่าฉันไม่ใช่ฉันจริงๆ หมายถึงว่าฉันเป็นดวงวิญญาณที่มาแทนที่เลทิเซียก่อนที่เธอจะเกิดอะไรแบบนี้
ฉันก็จะกลายเป็นเหมือนศัตรูกับทุกๆ คนเลยใช่ไหมล่ะ ถึงไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนั้นไหม แต่กันไว้ดีกว่าแก้ ดังนั้นฉันจึงปกปิดเรื่องนี้ไว้
แต่ว่า ทำไมซิลเวียถึงรู้ หรือว่าเพราะเป็นเทพจากสวรรค์ เลยรู้จักกับเทพธิดาใจคดคนนั้น?
ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังตกใจแล้วก็ถามด้วยความสงสัยว่า
“เอ่อ หมายถึงอะไรเหรอ?”
“ก็แบบเป็นคนที่.. สามารถจำความทรงจำของชาติก่อนได้ไงล่ะ ก็เห็นเลทิเซียดูเหมือนจะใช้เวทมนตร์ได้เก่งขนาดนั้นทั้งที่ยังไม่เห็นเริ่มศึกษาจากตำราเลย”
ฉันถึงกับเหงื่อตก จะว่าไปมันก็จริงแฮะ ถึงฉันจะแอบใช้เวทคนเดียวแต่คนที่ฉันไม่ระวังมากที่สุดมีแค่ เลวี่และซิลเวีย
เลวี่น่ะ เพราะเป็นน้องสาว แต่ซิลเวียฉันดันเผลอเลินเล่อไปซะได้ ฉันเริ่มรู้สึกลนลานอย่างช่วยไม่ได้
แต่เหมือนซิลเวียจะพูดต่อว่า
“ฉันแค่เดาน่ะ ไม่ใช่ก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกันนะ.. เอ๊ะ เลทิเซียดูนั่นสิ นั่นมันอะไรน่ะ ดูน่าอร่อยจังสีแดงแปร๊ดเลย!”
โชคดีที่ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างบ้าเหมือนเห็นอาหารก็เปลี่ยนอารมณ์ทันที ชี้นิ้วไปยังเนื้อย่างที่มีสีแดง แค่มองก็รู้ว่าเผ็ด
“ขอไม้หนึ่งค่าาาา”
“ได้เลย คุณผู้หญิง!”
ชายคนขายมารยาทงามยื่นเนื้อสีแดงให้ซิลเวีย เธอกัดลงมันไปเต็มคำก่อนที่เหมือนจะโดนอะไรสักอย่างช็อตไปทั่วร่าง
เพราะนิ่งไปในทันที.. แน่นอนคงจะเผ็ดละสิ ถ้าฉันเดาไม่ผิดไอ้นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่า “หม่าล้า” มันคือเครื่องรสชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างเผ็ด
ซิลเวียเริ่มตัวสั่นและหลับตาแน่น ภาพที่คุ้นๆ ลอยขึ้นมาในหัวของฉัน
“อร่อยยยยย!”
ซิลเวียร้องออกมาเธอกัดเนื้อรวดเดียวหมดก่อนจะสั่งอีกรอบ.. และสั่งอีกรอบ เป็นสิบๆ ไม้ เธอกินอย่างเอร็ดอร่อย
ฉันมองซิลเวียภาพในอดีตเหมือนสะท้อนออกมาจากความทรงจำฉัน ทำให้ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ
ทำไม.. เหมือนได้ขนาดนี้กันนะ
…………..