บทที่ 49 เสียงกรีดร้องลึกลับ..
“เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงหวดทวนทั้งคืนเลยล่ะ แถมยังมีเสียงร้องแปลกๆ ด้วย…”
นั่นไงว่าแล้วเชียว จะว่าไปฉันก็พึ่งโดนหลอกมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยนี่น่า แต่ดูเหมือนจะเป็นคนละเรื่องสินะ
แสดงว่าฉันรู้แล้วว่าเจ็ดเรื่องลึกลับมีถึงสองอันที่ฉันรู้จักแล้วอีกห้าอันจะเป็นยังไงนะ เจ็ดเรื่องลึกลับเป็นสิ่งที่อันตรายถึงชีวิตฉันก็ว่าได้
เพราะแม้แต่จอมเวทพาลาดินก็กำจัดมันไม่ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แม้แต่ผู้กล้ากับจอมมารก็ฆ่าไม่ได้
ดังนั้นฉันต้องรู้จักพวกมันเพื่อเตรียมตัวรับมือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จากที่ฉันเคยเจอมาเหมือนถูกเรียกว่า เสียงกรีดร้องของคุณเปียโน
จากคำบอกเล่าเมื่อใครได้ยินเสียงกรีดร้องของเปียโนที่แสบหูมันจะดึงเราไปอยู่ในโลกประหลาด หากไม่รู้สึกตัวก่อนจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น
และตามคำบอกเล่าฉันก็เหมือนจะเจอมาแบบนั้นจริงๆ แต่การรู้สึกตัวในสถานการณ์แบบนั้นคือทำให้เจ็บไม่ก็มีคนสัมผัสร่างกายโดยตรงละมั้ง
อย่างน้อยก็รู้วิธีป้องกันตัวและเรื่องอาจารย์ทวนเหมือนกัน ฉันต้องไปตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ
“แล้วเรื่องเล่าของสิ่งลึกลับนี้ล่ะ เธอพอจะรู้ไหม?”
“อืม.. อาจารย์คนอื่นบอกว่ามันมีชื่อว่า ‘เสียงทวนของผู้อำนวยการณ์’ ถ้าหากได้ยินเสียงทวนแล้วจะทำให้ผู้คนถูกควบคุมสตินึกคิด!”
อันตรายนะแบบนั้น ฉันถึงกับขมวดคิ้วบางทีอาจจะโดนควบคุมจิตใจเหมือนเวทมนตร์ละมั้ง แต่เอฟเฟคมันคงเหมือนพวกคำสาปมากกว่าละมั้ง
“เอ๊ะ แล้วดูเหมือนว่าเธอจะไม่โดนควบคุมนะ?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
เธอส่ายหน้า ฉันพยายามนึกแต่พอนึกไปนึกมาก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าคำสาปของผีสางอาจจะไม่มีผลกับเทพ
ถึงจะไม่สามารถฆ่าได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าอีกฝ่ายสามารถใช้คำสาปใส่ได้เหมือนกัน อย่างน้อยผาก็คิดแบบนั้น
ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้เหลือเวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก่อนจะเริ่มชั้นเรียน ฉันคิดว่าไปตรวจสอบก่อนน่าจะทันอยู่นะ
“งั้นไปดูกันเถอะ”
“อะ อื้อ…”
ว่าแล้วพวกเราก็ไปยังบ้านผู้อำนวยการของวิชาทวน ไม่สิตอนนี้เป็นบ้านของซิลเวียไปแล้ว วิชาแต่ละวิชานั้นจะมีผู้อำนวยการของวิชาอยู่
โดยพวกเขาจะประมาณเป็นคนกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอนโดยเฉพาะ เพราะพวกเขารู้จักวิชาที่ตัวเองสอนดี
แน่นอนว่าไม่ได้กำหนดแค่ว่า อายุเท่านี้ต้องเรียนเท่านี้ พวกเขาจะดูรายบุคคลด้วยว่ามันถนัดแบบไหน มีพรสวรรค์ด้าน จะดึงศักยภาพออกมายังไงอะไรแบบนั้น
ไม่มีแบบว่า สั่งให้ปลาไปบินลู่ลมแข่งกับนกแน่นอน … ดังนั้นถึงได้มีผู้อำนวยการเฉพาะทางขึ้นมาเพื่อกำหนดหลักสูตร
ให้คนที่รู้จักการสอนเด็กดีมากำหนดว่าควรเป็นยังไง ไม่ใช่การที่ให้ใครไม่รู้ไม่เคยแม้แต่สอนมากำหนดมันก็เหมือนกับการแพ้ในการกำหนดหลักสูตรไปแล้วครึ่งตัวนั่นแหละ! (เปล่าแซะ!)
เอาเป็นว่ากลับเข้าเรื่องสิ่งที่ฉันควรจะทำตอนนี้คือไปดูที่เกิดเหตุก่อน เพราะยังไงก็เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆ
ว่าไปตอนไปอยู่นี่ไม่คิดว่าจะโดนผีหลอกเข้าจริงๆ ละสินะ ซิลเวียผู้น่าสงสารซะจริงๆ
ใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงบ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านครูทั่วไปแถมยังใหญ่กว่าห้องในหอพักแบบชัดเจน มีสวนหน้าบ้าน สวนหลังบ้าน
เป็นเหมือนบ้านขุนนางเลยล่ะ สมกับเป็นล้านผู้อำนวยการเก่า แถมยังมีสองชั้นด้วยนะ
“เอ๊ะ แล้วใครทำความสะอาดบ้านให้เธอซิลเวีย?”
“เหมือนจะเป็นแม่บ้านน่ะ”
แม่บ้าน? ในโรงเรียนเนี่ยนะ ถึงจะมีคนคอยทำอาหารแต่มีแม่บ้าน มีเมดส่วนตัวเนี่ยนะ มันไม่ดูแปลกไปหน่อยเหรอ
แต่ยัยซิลเวียก็สบายเลยสิ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากสอนแม้แต่งานบ้าน แต่อยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้น่ากลัวแย่เลยนะเนี่ย
ไม่แปลกใจเลยที่ซิลเวียจะกลัวขนาดนั้นผสมกับบรรยากาศที่วังเวง ด้านหลังเป็นสนามฝึกของโรงเรียน ป่ารกทึบที่ค่อนข้างใหญ่
แถมที่นี่ยังห่างไกลบ้านครูหลังอื่นพอสมควร คงกลัวตัวสั่นไม่กล้าไปไหนทั้งคืนเลยล่ะมั้งเนี่ย ตอนเช้าถึงกล้าลุกจากเตียง
“เธอนอนอยู่ชั้นสองใช่ไหม?”
“อื้อ..”
เพราะแบบนี้ถึงไม่กล้าลงมาชั้นล่างเพราะกลัวมีคนดักรอสินะ กระโดดลงหน้าต่างก็สิ้นเรื่องแล้วแท้ๆ นะ
แต่ก็เอาเถอะ ฉันกับซิลเวียเดินเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว เอาจริงๆ มันเป็นคฤหาสน์เลยแหละ พอเดินเข้ามาจะเจอกับทางเดินซ้ายขวาที่มีห้องเรียงกันอยู่
ตรงหน้าจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้นสอง และด้านข้างบันไดจะมีห้องใต้บันไดอยู่ ซิลเวียเปิดห้องใต้บันไดออกก็เห็นทางเดินลงไปยังห้องใต้ดิน
ด้านข้างผนังมีคริสทัลเรือนแสง เป็นแสงไฟอยู่ เสียงหยดน้ำจากซอกหินก้อนก็หยดลงบนพื้น “ติ๊ง!”
“กรี๊ดดดดด!”
ซิลเวียกรีดแตกวิ่งมาหลบหลังฉันแต่เพราะยืนอยู่หน้าทางลงบันไดก็ดันถูกผลักไปข้างหน้า จนฉันต้องพูดออกมา
“เดี๋ยวสิ อย่าผลักฉันสิ!”
พอพูดแบบนั้นก็ใช้เท้าเหยียบบันไดทรงตัว แต่เพราะมันมีน้ำเปียกอยู่ทำให้ฉันลื่นไปข้างหน้าทันที
ฉันกำลังจะใช้เวทมนตร์ตั้งหลักแต่ซิลเวียดันตกใจกลัว พอเห็นฉันลื่น สมองเธอจึงเหมือนไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากจะคว้ามือฉันไว้ แทนที่จะปล่อยให้ฉันใช้เวทมนตร์
“โครมม!”
และผลที่ตามมาคือลื่นตามฉันและกลิ้งเป็นลูกบอลลงไปตามบันไดจนชุดเปื้อนหมดเลยแหละ พวกเรามากระแทกใส่ประตูจนดังปัก
“โอ้ย เดี๋ยวเถอะซิลเวียทำอะไรของเธอเนี่ย!”
“ฉะ..ฉันขอโทษ”
ผู้หญิงคนนี้มีอายุเยอะแล้วไม่ใช่หรือไงทำไมทำตัวเหมือนเด็กละเนี่ย ฉันรู้สึกปวดหัวไม่น้อย แต่เพราะลื่นล้มทำให้ชุดฉันเปื้อนไปหมดเลย
“ความผิดของเธอเลยนะ ซิลเวีย จะเข้าห้องเรียนยังไงล่ะเนี่ย”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ก็สามารถใช้เวทมนตร์ทำให้สะอาดๆ ได้แหละนะ ฉันใช้เวทมนตร์ทำให้ชุดกลับมาขาวสะอาด
ซิลเวียที่กำลังหงอยก็ชุดเปื้อนเหมือนกันฉันเลยใช้เวทมนตร์ใส่ชุดให้ พอฉันช่วยขจัดคราบสกปรกก็หันหน้าขึ้นมาขอบคุณฉัน
“ขอบคุณนะ เลทิเซีย”
“อะ อืม…”
ฉันตอบกลับไปห้วนๆ ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองประตูไม้ตรงหน้า
“เอาล่ะ ได้เวลาตรวจสอบแล้ว”
ฉันกับซิลเวียมองหน้ากันก่อนที่จะแง้มประตูออกช้าๆ พอแง้มออกก็เห็นห้องลับในนั้น ในห้องนั้นมีกลิ่นที่ค่อนข้างอับชื้น
เพราะมันอยู่ใต้ป่ารกทึบ ดินเลยมีน้ำเยอะมันเลยทำให้ค่อนข้างอับชื้นมาก มีชั้นหนังสือเรียงกันตั้งแต่ทางเข้า
“เอี๊ยดดดดดด…”
เสียงประตูทำเอาซิลเวียสะดุ้ง เธอเกาะหลังฉันซะแน่นเอาจริงๆ ครูกำลังเกาะหลังเด็กนักเรียนมันดูแปลกๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดแบบนั้น
เพราะว่าไม่มีคนเห็นอะนะ.. ฉันกับซิลเวียค่อยๆ เดินเข้าไปเห็นเป็นทางเดินยาวไปประมาณสี่ถึงห้าเมตรโดยที่นี่มีแต่หนังสือกับอุปกรณ์บางอย่างที่ถูกผ้าคลุมเอาไว้
สุดทางเดินมีประตูไม้บานหนึ่งฉันกับซิลเวียค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ … ในตอนที่ผลักประตูออกไปนั้นแทบจะวินาทีเดียวกันก็มีเสียง
“หวี้งงงงง”
มันเป็นเสียงเหมือนกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิงทำเอาฉันขนลุกชัน ซิลเวียแทบน้ำตาเล็ด… นี่ไม่ใช่เสียงทวนนี่น่า.. ..
………..