“บัดซบ! มันกลับตายไปก่อนที่ข้าจะได้ข้อมูลมาเสียอีก!” หยูเฟิงซูโกรธมากเเละใช้มือทุบโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างคับเเค้นใจ จนหนังสือหล่นกระจัดกระจายลงบนพื้น
ลูกน้องของเขาต่างรีบก้มหน้าลงทันที พวกเขายังคงสับสนและสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของผู้หญิงที่หยูเฟิงซูเอ่ยถึง พวกเขายังคงอยากจะรู้สาเหตุ แต่เวลานี้คงไม่สามารถถามได้ เพราะกลัวว่าความโกรธของหยูเฟิงซูจะพาลไปถึงพวกเขา
หยูเฟิงซู องค์ชายสี่แห่งอาณาจักรเซิง นับว่ามีชื่อเสียงที่ดีที่สุดในบรรดาเหล่าองค์ชายคนอื่นๆ เขาไม่เพียงแต่มีจิตใจที่เฉียบแหลมเท่านั้น แต่เขายังมีกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนติดตามเขาด้วยความเต็มใจ
อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา จนทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจนถึงกระดูก ซึ่งพวกเขาไม่ก็กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
หยูเฟิงซูรู้สึกเจ็บใจอย่างมาก ผู้หญิงที่ทำให้เขาโกรธก็ถูกโยนไปที่หลุมศพไร้ชื่อ เเต่อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะโยนศพของเธอออกไป เขาสั่งให้คนของเขาทุบตีศพเพื่อที่จะทำให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้จะอยู่ในโลกหลังความตายก็ตาม เขาหวังว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว เธอจะได้เห็นว่าร่างกายของเธอยังคงถูกทรมานอยู่
หลังจากทุบตีไปหลายกี่ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็บอกให้คนของเขาโยนเธอทิ้งไป โดยไม่จำเป็นที่จะต้องห่อเธอด้วยผ้า ในเมื่อเธอไม่ยอมปริปากบอกที่ซ่อนกล่องนั้น หยูเฟิงซูก็จะโยนศพของเธอออกไปโดยที่ไม่ใช้ผ้าหรือสิ่งใดห่อหุ้มตัวเธอ
วิธีการทำของเขาช่างโหดเหี้ยม จนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นองค์ชายสี่ที่ทุกต่างพากันชื่นชมและเคารพนับถือ เเท้จริงเเล้วจะกลายเป็นคนที่มีจิตใจอำมหิตเช่นนี้ และหากผู้คนได้รับรู้การกระทำเหล่านี้ของเขา พวกเขาจะต้องรู้สึกหวาดกลัวเเละไม่อยากเเม้เเต่จะเอ่ยชื่อของเขาแน่นอน
เขากำหมัดแน่นและควันแห่งความโกรธก็พุ่งออกจากจมูกของเขา เพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อดี
เขามองลงมาและเห็นกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะจากนั้นจึงหยิบพู่กันขึ้นมา และได้เขียนคำสองสามคำลงในกระดาษม้วนนั้น เเละมอบกระดาษม้วนนั้นให้กับลูกน้องที่อยู่ข้างๆเขา และกล่าวว่า “เอาไปให้ปู่ของข้าแล้วบอกท่านว่า ข้าต้องการคำตอบโดยเร็วที่สุด”
ทหารก้มศีรษะและรีบเก็บจดหมายแล้วออกไปทันที
หยูเฟิงจู กัดฟันแน่นดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
…
ในตอนนี้ไป่ลู่ สาวใช้ที่กำลังวางถ่านหินในเตาอั้งโล่ได้ยินคุณหนูของเธอเหมือนกำลังพูดพึมพำอะไรบางอย่างในขณะที่เธอมองออกไปข้างนอก สาวใช้จึงกล่าวขึ้นทันที “คุณหนูพูดอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ”
เสี่ยวเฟยซึ่งตอนนี้กลายเป็นหลินเสี่ยวเฟยส่ายหัวปฏิเสธและยืนขึ้นก่อนจะพูดว่า “ข้าต้องไปยังที่แห่งหนึ่ง เเละข้าต้องการชุดสำหรับใส่ออกไปข้างนอก”
ไป่ลู่สาวใช้ที่อยู่ข้างๆเธอ ดูตกตะลึงและถามว่า “คุณหนูจะออกไปข้างนอกหรือเจ้าคะ”
“ใช่.”
“แต่ท่านผู้อาวุโสสั่งไว้ ว่าห้ามให้คุณหนูออกไปไหนในสภาพอากาศเช่นนี้” ซู่ถังที่อยู่ในห้องก็รีบวางผ้าที่กำลังใช้เช็ดโต๊ะลงแล้วรีบกล่าว
หลินเซี่ยวเหมิงสั่งพวกเขาอย่างเคร่งครัด ว่าไม่ให้หลินเสี่ยวเฟยออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้น พวกเขายังสงสัยว่าทำไมหลินเซี่ยวเฟยถึงอยากจะออกไปข้างนอก ในเมื่อเเต่ก่อนเธอไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เอาเเต่ขังตัวเองไว้ในคฤหาสน์ตระกลูหลิน
นี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนในตระกูลหลินรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อสามปีที่แล้วหลินเสี่ยวเฟย เธอกลับมาหลังจากสวดมนต์ในวัดวู่หลง เธอก็ไม่ยอมออกไปไหนอีกเลยแม้ว่าแม่ทัพหลินจะพยายามเกลี้ยกล่อมเธอหรือบังคับให้เธอออกไปงานเลี้ยงหรืองานรื่นเริงต่างๆ เธอก็เอาเเต่บ่นและขู่ว่าเธอจะฆ่าตัวตาย หากเขาบังคับให้เธอก้าวออกนอกประตูคฤหาสน์อีก
แต่กลับกัน ตอนนี้เธอต้องการที่จะออกไปข้างนอก?
หลินเสี่ยวเฟยกะพริบตาจากนั้นเธอก็กล่าวว่า “ บอกท่านตาว่าข้าจะออกไปข้างนอก ข้าถูกขังอยู่ในสถานที่นี้มา 3 ปีแล้ว และถ้าข้าต้องออกไปข้างนอกเเค่วันเดียว ก็คงไม่ทำให้อาการของข้าแย่ลง”
เธอก้าวเข้าไปในห้องนอนและหยุด “เดี๋ยว ข้าจะไปหาท่านตาเอง พวกเจ้าไปเตรียมชุดมาให้ข้า”
ไป่ลู่และซู่ถังมองหน้ากัน สาวใช้ทั้งสองก็ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอสั่ง เเต่พวกนางก็มีความสุขที่ได้เห็นว่าคุณหนูของพวกนางต้องการที่จะออกไปข้างนอก ทันใดนั้น พวกนางจึงรีบไปหยิบชุดฮันฟูสีชมพูสดใส (ชุดจีนดั้งเดิม) ที่เย็บด้วยดอกไม้บีโกเนียที่สวยงาม เเละยังมีเสื้อคลุมตัวนอกที่บางเล็กน้อยแต่ให้ความรู้สึกที่สง่างามเเต่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่ดูมีชีวิตชีวา
หลินเสี่ยวเฟยเพียงชำเลืองมองและกล่าวว่า “ไม่ใช่ชุดนี้ ข้าต้องการชุดที่ธรรมดา”
“แต่ชุดนี้เป็นชุดที่คุณหนูโปรดปราณมากที่สุด เสื้อผ้าเหล่านี้เพิ่งถูกส่งมาจากเรือนหลัก คุณหนูยังเคยบ่นกับท่านผู้อาวุโสเพื่อจะซื้อชุดนี้ในร้านตัดเสื้อไป๋ชาง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเสี่ยวเฟยก็หยุดชะงัก ก่อนจะพูดว่า “เเต่ตอนนี้ข้าไม่ชอบมันแล้ว”
ถ้าในชีวิตก่อนหน้านี้ของหลินเสี่ยวเฟย คงจะมีความสุขมากที่ได้เห็นชุดที่สวยงามเช่นนี้ ในฐานะนางสนมที่องค์ชายสี่โปรดปราน หลินเสี่ยวเฟยเป็นเจ้าของหีบสองชุด ที่มีทั้งชุดทั้งสีและการออกแบบที่แตกต่างกัน เเละยังเป็นของขวัญที่เธอได้จากหยูเฟิงซู แต่ละชุดถูกซื้อด้วยเงินจำนวนที่มหาศาล
แต่เมื่อเปรียบเทียบเสื้อผ้าของเธอในชาติที่แล้วกับชุดปัจจุบันนี้ หลินเสี่ยวเฟยรู้สึกเหมือนถูกหยูเฟิงซู หลอกลวงมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอไม่ชอบมัน
ในชีวิตก่อนหน้านี้ เธอชอบแต่งตัวให้สวยงามต่อหน้าหยูเฟิงซู ตั้งแต่สิ่งที่เธอสวมใส่ภายนอกและภายใน รวมไปถึงทรงผมและเครื่องประดับที่เธอสวม ทุกอย่างทำด้วยความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน
แต่ ณ ตอนนี้ เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องแต่งตัวให้หรูหรา เพราะเธอไม่ใช่นางสนมของใครอีกต่อไปและเธอก็ไม่ใช่หญิงสาววัยแรกรุ่นที่ยังคงใส่ใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ
เธออยู่ในคุกใต้ดินเป็นเวลา 7 เดือนมีอาหารให้กินเพียงเล็กน้อยพร้อมน้ำสกปรกให้ดื่มเท่านั้น แขนขาของเธอถูกตัดขาดและร่างกายของเธอถูกทุบตี แล้วพอจะมีใครบอกเธอได้ไหม ว่าทำไมเธอถึงต้องใส่เสื้อผ้าที่สวยงามอยู่อีก?
ไป่หลู่พยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าชุดจะสวย แต่สีสันของมันนั้นมากเกินไป ก่อนหน้านี้คุณหนูของเธอชอบสีสันสดใสและชอบที่จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาด จนอาจทำให้ใครที่ได้พบเห็นเธอสามารถตาบอดชั่วคราวได้เลยทีเดียว
คุณหนูของเธอนางช่างสวยงามจริงๆ แต่เพราะว่าเธอมีนิสัยหยาบคาย เมื่อเธอสวมเสื้อผ้าเหล่านี้ เธอจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาผู้อื่น และได้รับการดูหมิ่นจากพวกเขาเท่านั้น
“แล้วคุณหนูอยากใส่ชุดไหนเจ้าคะ” ไป่ลู่ถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“งั้นก็หาชุดดำให้ข้า”