“คำพูดของคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน เป็นความจริงและกล่าวออกมาจากใจ จริงหรือ?” ซูหวางจีกล่าวถาม หมัดของเขากำแน่นโดยไม่รู้ตัว และเขาไม่สนใจความคิดเห็นก่อนหน้าของเธอ
เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ซูหวางจีเขากำลังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาควรจะดีใจและปล่อยให้การสนทนานี้จบลง อย่างที่หลินเสี่ยวเฟยกล่าวเป็นการส่วนตัวตามที่ตกลงกันไว้ ว่าจะยกเลิกการหมั้นในครั้งนี้
แต่ทำไม เขากลับรู้สึกว่าเค้าเป็นผู้ที่พ่ายแพ้? ราวกับว่ามันไม่ใช่เขาที่เป็นคนจะที่อยากจะยกเลิกการหมั้น แต่กลับเป็นหลินเสี่ยวเฟย และอีกอย่าง เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่เธอก็ได้กล่าวออกมาว่าเธอก็จะยินยอมที่จะยกเลิกการหมั้นในครั้งนี้ด้วย
สิ่งนี้ทำให้ซูหวางจี ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่เขารอคำตอบของหลินเสี่ยวเฟย ไม่ว่าคำตอบของเธอตอบตกลงหรือไม่ตกลง ซูหวางจีก็คงจะ…
“นายน้อยซู การตัดสินใจของข้าทั้งหมด ได้กล่าวออกมาจากใจ จะตกลงหรือไม่อย่างไร ความจริงเเล้วมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย การหมั้นหมายของเราถูกกำหนด ตั้งเเต่ตอน
ที่เราอยู่ในครรภ์มารดาของเราทั้งคู่ หากเราทั้งคู่จะยกเลิกการหมั่น มันก็คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป” หลินเสี่ยวเฟยกล่าว ขณะที่เธอมองเขาจากด้านข้าง
ตระกูลซู เป็นผู้ที่เรียกร้องให้ยกเลิกการหมั้นตั้งแต่แรก และในตอนนี้เขากลับต้องการถามเธอให้เเน่ใจอีกครั้งว่า ที่เจ้ากล่าวมาทั้งหมด มันออกมาใจของเจ้าจริงหรือไม่?
การตัดสินใจยกเลิกการหมั้นจะเปลี่ยนไปไหม ถ้าเธอตอบว่าใช่ หลินเสี่ยวเฟยคิดว่ามันคงไม่เป็นเช่นนั้น
ตระกูลซู กล้าที่จะทำลายข้อตกลงในการหมั้นที่จัดตั้งขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และพวกเขาไม่เคยแม้แต่จะแสดงการกระทำที่เอื้ออำนวยต่อเธอ ผู้ที่จะเข้าไปเป็นสะใภ้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาไม่ได้มาในช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นนี้ หลินเสี่ยวเฟยก็คงจะต้องหาเหตุผลและหาเวลาที่เหมาะสมในการยกเลิกการหมั้น ดังนั้น ณ ตอนนี้ เมื่อพวกเขาขอให้ยุติการหมั้น หลินเสี่ยวเฟยจึงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะเธอจะได้ลดภาระอีกหนึ่งอย่างลงจากบ่าของเธอ
และถึงแม้ว่าเธอจะเกิดใหม่ ภายในร่างของหลินเสี่ยวเฟย เธอก็ยังไม่ต้องการที่จะหมั้นกับชายที่กระหายอำนาจ เเละเพิกเฉยต่อทุกสิ่งจนยอมทิ้งทุกอย่างเพื่ออำนาจของตนเอง
เธอไม่ต้องการมีชีวิตและกลับไปสัมผัสกับนรกอย่างที่เคยผ่านมา
“ถ้าเช่นนั้น ตามสัญญา ตระกูลซูจะไม่ยอมปล่อยให้คุณหนูสี่เเห่งตะกูลหลินเสียเปรียบ ดังนั้น เราได้จัดหารายชื่อบุตรชายผู้สูงศักดิ์ ที่เข้าข่ายเป็นตัวเลือกไว้ให้แล้ว” ซูหวางจีหยิบกระดาษ ที่มีรายชื่อของบุตรชายผู้สูงศักดิ์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา
“ขอให้ท่านแม่ทัพหลินดูและทำการเลือก”
ดวงตาของหลินเซียวเหมิง เหลือบมองด้วยความเย็นชา
ช่างไร้ยางอายอะไรขนาดนี้!
รายชื่อของพวกเขาถูกคัดเลือกมาอย่างดีเเล้ว
พวกเขามาเพื่อยุติการหมั้น แต่เหมือนจะเตรียมพร้อมกันไว้เเล้ว ถึงกับนำรายชื่อบุตรชายผู้สูงศักดิ์ให้มาเธอเลือก เเละดูเหมือนความตั้งใจของพวกเขาในครั้งนี้ ต้องการที่จะบิดเบือนความเป็นจริงอะไรบางอย่างหรือเปล่า
ใบหน้าของหลินเซียวเหมิง เหมือนกำลังจะเเสดงให้เห็นว่าเขานั้นรู้สึกไม่พอใจ ที่เห็นซูหวางจีหยิบกระดาษรายชื่อออกมา โดยได้ระบุรายชื่อของบุตรชายผู้สูงศักดิ์ ที่มีสิทธิ์เข้าเป็นตัวเลือกของเฟยเอ๋อ หลานของเขา
“อย่ากังวล บุตรชายผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ ค่อนข้างที่จะโดดเด่นและมีบุคลิกที่ดี พวกเขายังเต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน” ซูหวางจีกล่าวว่า สามารถรับรองเรื่องนี้ได้ หลังจากที่ได้เห็นความเศร้าโศก บนใบหน้าของพวกเขา
หลินเซียวเหมิง ยังลังเลที่จะรับข้อเสนอนี้ เเละเขาคิดว่าหากเขารับข้อเสนอนี้ มันก็ดูเหมือนกับว่าพวกเขาตบหน้าตัวเอง ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าว เเละอาจจะคิดว่าหลินเสี่ยวเฟยไม่สามารถที่จะมองหาคู่ครองที่เหมาะสมที่จะแต่งงานกับเธอได้ และคิดว่าตระกูลหลินก็ไม่สามารถช่วยเธอได้
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังปฏิเสธไม่ได้
หากรายชื่อนั้น เป็นบุตรชายผู้สูงศักดิ์จริงๆ การแต่งงานของหลินเสี่ยวเฟยก็จะดูไม่กดดันเกินไป แม้ว่าจะดูด้อยกว่าเมื่อเทียบกับตระกูลซูก็ตาม แต่รายชื่อเหล่านี้ ก็ไม่เลวใช่หรือไม่?
หลินเซียวเหมิงตัดสินใจที่จะเสี่ยง และหยิบกระดาษจากมือของซูหวางจู เมื่อเขาได้รับมัน เขาก็ค่อยๆเปิดดูรายชื่อ ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึกเเละมืดมน แต่เมื่อเขาเริ่มอ่านรายชื่อในใจของเขา หลินเซี่ยวเหมิง ก็ไม่สามารถทำได้
“นี่หมายความว่าอย่างไร” หลินเซียวเหมิง กล่าวออกมาด้วยความโกรธ
ซูหวางจี รู้สึกว่าต้นคอของเขาเริ่มเย็นชาและกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “แม่ทัพหลินหมายความว่าอย่างไร บุตรชายผู้สูงศักดิ์ในรายชื่อเหล่านี้ ค่อนข้างที่จะโดดเด่นและมีทักษะหลายด้าน แม่ทัพหลินคิดว่าพวกเขา ไม่ดีพออย่างนั้นหรือ?”
บุตรผู้สูงศักดิ์ที่มีสิทธิ์อะไรเช่นนี้! หลินเซียวเหมิง เกือบจะฉีกกระดาษในมือของเขา ‘บุตรชายผู้สูงศักดิ์’ ที่ตระกูลซูเลือกในหมู่คนอื่นๆนั้น โดดเด่นก็จริง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลินเซียวเหมิงเต็มไปด้วยความโกรธและความอับอาย
เมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของหลินเซี่ยวเหมิง หลินเสี่ยวเฟยก็อยากรู้อยากเห็นและเดินไปอ่านด้านข้างของเขาด้วย
เมื่อดวงตาของเธอ เห็นรายชื่อที่อยู่ในกระดาษเป็นครั้งแรก
รายชื่อที่อยู่ในมือของหลินเซียวเหมิง ก็ดูไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม้แต่หลินเสี่ยวเฟยก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าขบขัน เพราะก็มีชายที่น่าพึงใจอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนอื่นๆและหลินเซียวเหมิง รายชื่อดังกล่าวที่มี ถือเป็นการดูถูก เนื่องจากบุตรชายในรายชื่อเป็นข้าราชการระดับสามทั้งหมด
เขาสามารถยอมรับได้ หากพวกเขาเป็นบุตรชายของตระกูลที่มีเกียรติระดับสอง แต่คนที่ระดับสามนั้นดูไม่คู่ควรกับหลินเสี่ยวเฟย เเต่ถ้าหากพวกเขาระดับที่หนึ่งหรือสองเเละเป็นบุตรชายตระกูลที่มีเกียรติ หลินเซียวเหมิงคงจะอนุญาตให้หลินเสี่ยวแต่งงานกับบุตรชายผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ได้ เเต่หากมีระดับสามขึ้นไป นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องคิด
เขาไม่ใช่คนโง่ ที่เขาจะไม่รู้ว่าบุตรชายชั้นสูงระดับหนึ่งและระดับสองเกือบทั้งหมด ไม่ต้องการให้หลินเสี่ยวเฟยเป็นเจ้าสาวของพวกเขา และถ้าหากหลินเซียวเหมิงจะมองหาบุตรชายที่คู่ควรกับหลินเสี่ยวเฟย ก็จะต้องมีสถานะเท่ากับหลินเสี่ยวเฟยเท่านั้น
นั่นคือเหตุผลที่เขาจะต้องคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และดูว่าระดับมีสาม มีคุณสมบัติคล้ายกับระดับที่หนึ่งหรือระดับที่สองหรือไม่ ดังนั้น เขาก็จะไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลมากนัก
เมื่อเธอเห็นใบหน้าของหลินเซียวเหมิง ที่กำลังพิจารณารายชื่อให้กับหลินเสี่ยวเฟย และขมวดคิ้ว เขากำลังคิดที่จะปล่อยให้หลานสาวของเขา แต่งงานกับตระกูลที่มีระดับสามจริงหรือ?
หลังจากได้ยินเสียงถอนหายใจ หลินเสี่ยวเฟยก็กล่าวขึ้นทันที “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของตระกูลซู แต่ตระกูลหลินไม่ยอมรับในข้อเสนอนี้”
หลินเซียวเหมิงมองไปยังหลานของเขา
เขาคงคิดว่าหลินเสี่ยวเฟย คงรู้สึกไม่พอใจกับรายชื่อเหล่านี้และมองดูเธออย่างเป็นกังวล แต่ใบหน้าของหลินเสี่ยวเฟยนั้น ดูไร้ความรู้สึก
ฮูหยินซูที่อยู่ด้านข้าง รู้สึกไม่พอใจกับการปฏิเสธของเสี่ยวเฟยอย่างมากและกล่าวได้ว่า “คุณหนูสี่ ไม่จำเป็นต้องอับอายเพียงแค่ยอมรับรายชื่อของคู่สมรสที่มีศักยภาพเหล่านี้ พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีความโดดเด่นและเป็นบุตรชายของตระกูลดี ”
“อย่างที่ข้ากล่าวไป ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือ ข้าเป็นหญิงสาวจากตระกูลหลินอันทรงเกียรติ แล้วทำไมข้าต้องแต่งงานกับใครซักคน ในเมื่อข้ามีตละกูลหลินที่คอยอยู่เคียงข้างข้าเสมอ?”
ใช่เเล้ว ข้ามีตระกูลหลินอยู่เคียงข้าง ทำไมข้าถึงต้องแต่งงานด้วย?
ซูหวางจี ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้และมองไปยังหลินเสี่ยวเฟย แต่หลินเสี่ยวเฟยกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
“คุณหนูสี่ เจ้าจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตหรือ?” ฮูหยินซูกล่าวถาม
“เป็นไปไม่ได้!” หลินเซียวเหมิงตะโกนว่า “เฟยเอ๋อ หญิงสาวจะต้องแต่งงานและสร้างครอบครัว ไม่ต้องกังวลไปตาจะตามหาบุตรชายที่เหมาะสมกับเจ้าเอง”
หลินเสี่ยวเฟยหัวเราะ และกล่าวว่า “แน่นอน ข้าจะแต่งงาน แต่ท่านตาไม่จำเป็นที่จะต้องมองหาใคร เพราะข้ามีคนในใจข้าอยู่แล้ว”