กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 26 จะไม่เป็นผ่อนปน

หลินเสี่ยวเฟย หยุดไปชั่วขณะ เเละหันไปมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเธอ

 

“พวกท่านเป็นอะไรไป” เธอถามและเลิกคิ้วให้พวกเขา “พวกท่านไม่ต้องวิตกกังวลกับสิ่งนี้”

 

หลินเสี่ยวเฟย จ้องมองไปที่พวกเขา คำพูดของเธอ ดูเหมือนกำลังจะบอกเป็นนัยๆ ถึงความหมายของอะไรบางอย่าง

 

ทั้งสามคนที่อยู่ข้างหน้าเธอสะดุ้งในทันที เมื่อรู้ว่าการกระทำของพวกเขานั้นน่าสงสัยจนอาจจะมีคนมองออก

 

หวู่จิงหยาน กัดริมฝีปากของเธอและกล่าวว่า “คุณหนูสี่ สิ่งที่ท่านกำลังจะสัมผัสนั่น มันคือศพ”

 

หลินเสี่ยวเฟยยิ้มให้เธอ “ป้าหนึ่งพูดอะไร แน่นอนว่าข้าเห็นแล้วว่าสิ่งที่ข้ากำลังจะสัมผัสนั้นเป็นศพ”

 

“แล้วทำไมคุณหนูสี่ถึงทำเช่นนี้? มันจะไม่เป็นการดี หากหญิงสาวสัมผัสกับศพ”

ซงหยานยี่สนับสนุนหวู่จิงหยาน

 

หลังจากพูดเช่นนั้น หวู่จิงหยานจึงมองไปที่ซงหยานยี่ ด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเธอรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ พวกเธอยังรอโอกาสที่จะทำให้หลินเสี่ยวเฟยขายหน้า

 

แม้ว่าแผนของพวกเขาจะถูกพบโดยหลินเซียวเหมิง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะหยุดปล่อยข่าวลือให้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง เพราะเรื่องนี้จะส่งผลให้ชื่อของหลินเสี่ยวเฟยดูเสื่อมเสียเข้าไปอีก นี่คือสิ่งที่พวกเธอต้องการ

 

ตอนนี้พวกเธอรู้ว่า แผนที่วางไว้ไม่สำเร็จพวกเธอไม่สามารถที่จะทำร้ายหลินเสี่ยวเฟยได้ แต่ตามบุคลิกของหลินเสี่ยวเฟย เธออาจจะ…

 

ไม่สำคัญหรอก ว่าหลินเสี่ยวเฟยจะแนะนำให้ฆ่าผู้บุกรุก เพราะมันต้องการทำร้ายเธอ ทุกคนยังคงมองเธอด้วยความรังเกียจและยังคงแสดงท่าทีดูถูกต่อเธอเหมือนเดิม เนื่องจากไม่มีหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนใด ที่มีจิตใจโหดเหี้ยมและชั่วร้ายที่ลงโทษคนร้ายด้วยการทำเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลินเสี่ยวเฟยจะพยายามเลือกระหว่าง การให้ทุกคนรู้ความจริงหรือปล่อยให้ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง ชื่อของเธอก็จะถูกใช้ในเรื่องเล่าขานของผู้คน และเธอก็คงไม่กล้าที่จะเผยตัวในที่สาธารณะ

 

หลินเสี่ยวเฟยถอนหายใจ และมองไปยังผู้หญิงทั้งสอง ที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างใจเย็น

 

หวู่จิงหยาน ค่อนข้างโด่งดังในเมืองหลวง เพราะเธอเป็นลูกสาวที่กตัญญูและเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ของหลินเฟิง หลินเฟิงเป็นบุตรชายคนแรกของหลินเซียวเหมิง เขาเป็นนักวิชาการ

ที่มีตำแหน่งที่ดีในราชสำนัก และได้รับความไว้วางใจจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกจำนวนมาก

 

แตกต่างจากน้องชายของเขา หลินซางที่อาศัยเพียงชื่อเสียงของบิดาเท่านั้น

 

หลินเฟิงมีทั้งความสามารถเเละผู้สนับสนุน เเละเมื่อใดก็ตามที่มีการหารือกันในราชสำนัก เขาก็จะแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้กับองค์จักรพรรดิได้เสมอ

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีทาง ที่ชายที่มีความโดดเด่นเช่นหลินเฟิง จะมีภรรยาเพียงคนเดียว ที่จะอาศัยอยู่ในบ้านชั้นในของเขา

 

การมีภรรยา และนางสนมสองสามคน อยู่ในบ้านเดียวกัน  ได้รับการปฏิบัติตามปกติ

มาเป็นเวลากว่าศตวรรษเเล้ว นี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ชายบางคนพึงพอใจ ในตอนแรกผู้ชาย

จะแต่งงานกับภรรยาเเค่หนึ่งคน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะเปลี่ยนไปเมื่อชายบางคนมีภรรยาที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ ดังนั้น การแต่งงานกับภรรยาอีกสองสามคนเพื่อให้มีบุตรเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่ยอมรับและกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมไป

 

ตอนแรงหลินเฟิงก็ไม่ต้องการแต่งงานกับภรรยาหลายคน แต่เพราะหวู่จิงหยานไม่สามารถมีบุตรให้เขาได้ ตรงกันข้าม สนมของเขาได้ให้กำเนิดบุตรชายสองคนแก่เขาแล้ว แต่เนื่องจากความปรารถนาที่ที่ไม่สิ้นสุดของเขา และหญิงสาวที่มีอายุน้อยกว่าและใหม่กว่าที่ชอบล่อลวงชายที่แต่งงานแล้ว หลินเฟิงจึงแต่งงานกับผู้หญิงอีกสองสามคนและพาเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน

 

ในทางกลับกัน ซงหยานยี่เป็นภรรยาคนเดียวของหลินซาง และความสัมพันธ์ของพวกเขาในฐานะสามีและภรรยาก็ไม่เคยเลวร้าย

 

คุณหญิงทั้งสองคน ที่มีสถานการณ์ต่างกัน หลินเสี่ยวเฟยสงสัยว่า พวกเขาสนิทสนมกันได้อย่างไร เเละพวกเขาก็ปฏิบัติต่อกันราวกับพี่น้องในสายเลือด

 

อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยกจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่? พวกเขาต้องการให้เธอขุดหลุมฝังศพตัวเอง และเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งที่พวกเขาโยนให้เธอ คือบอกความจริงต่อโลกหรือปล่อยให้ข่าวลือหลุดออกไป ไม่ว่าทางไหนมันก็จะสร้างปัญหาให้หลินเสี่ยวเฟย

 

เเต่น่าเสียดาย ที่หลินเสี่ยวเฟยไม่เลือกทั้งสองทาง

 

หลินเสี่ยวเฟย ยิ้มเล็กน้อยเเละกล่าวว่า “คุณป้าสองพูดถูก ในเมื่อข้ายังเป็นหญิงสาว ข้าก็ไม่ควรที่แตะต้องมัน”

 

หวู่จิงหยานและซงหยานยี่ ถอนหายใจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถยิ้มได้ หลังจากได้ยินหลินเสี่ยวเฟยพูดประโยคต่อไป

 

“ข้าก็ได้ยินมาว่า คนชราไม่ควรแตะต้องศพ เพราะพลังวิญญาณของคนตายจะส่งผลในทางลบต่อพวกเขา” เธอขมวดคิ้วเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสา เเละเธอกล่าวต่อว่า “เเล้วเราควรทำอย่างไร ในเมื่อหัวหน้าพ่อบ้านหลิวก็เเตะต้องศพไม่ได้ เพราะเขาก็เป็นชายชราเช่นกัน”

 

เเละไม่รอให้พวกเขาได้พูดอะไร หลินเสี่ยวเฟยกล่าวต่อ “แล้วเรื่องนี้ล่ะ… คุณป้าทั้งคู่อายุน้อยกว่าหัวหน้าพ่อบ้านหลิว แต่แก่กว่าข้า”

 

ดวงตาของเธอสว่างไสวเมื่อมองดูพวกเขา ราวกับว่าเธอเพิ่งพบสมบัติอยู่ตรงหน้าเธอ

อย่างไรก็ตาม คำพูดของเธอดูน่ากลัวเกินไป เเละปราศจากการเหตุผล เธอต้องการทำให้คุณหญิงทั้งสองสัมผัสศพ

 

คุณหญิงทั้งสองตกตะลึง และหน้าซีดกับคำพูดของหลินเสี่ยวเฟย พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรต่อได้เนื่องจากพวกเขาตกใจกับคำแนะนำของเธอเป็นอย่างมาก

 

ร้ายกาจ!

 

หญิงสาวผู้นี้ร้ายกาจเกินไป!

 

เธออาจจะแค่อยากบอกนัยๆให้พวกเขาไปขนศพและจัดการมันให้เสร็จเพราะแผนการของพวกเขาล้มเหลว!

 

พวกเขาสาปแช่ง หลินเสี่ยวเฟยในใจ

 

เมื่อเห็นหน้าซีดๆของพวกเขา หลินเสี่ยวเฟยก็หัวเราะออกมา ก่อนจะกล่าวว่า “ทำไมใบของหน้าพวกท่านเป็นนั่น ราวกับว่าพวกท่านถูกบังคับให้กลืนเข็มเข้าไป”

 

เธอมองดูศพที่อยู่ใกล้เธอ และกวาดตามองอย่างเย็นชา ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป

 

หลินเสี่ยวเฟย ก้าวเดินออกห่างจากศพ และเดินไปที่ทางเข้าลานตะวันตกโดยมีแผนจะจัดการเรื่องนี้อีกในภายหลัง

 

และเมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านคุณหญิงทั้งสอง ที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ในที่ของพวกเขา และเธอก็กล่าวออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า “คราวหน้า ข้าจะไม่สุภาพเช่นนี้แน่”

 

คุณหญิงทั้งสองมองดูหลินเสี่ยวเฟยที่เดินออกไปอย่างช้าๆ

และออกไปจากลานตะวันตก ราวกับเป็นลานบ้านของเธอเอง

 

พวกเขาไม่สามารถเดาได้ว่า หลินเสี่ยวเฟย พูดคำเหล่านั้นกับเค่อซ่งที่ตายไปแล้ว

หรือเพื่อเตือนพวกเขาเป็นการส่วนตัว ว่าเธอจะไม่เมตตาเเละเตรียมรับมือผลที่จะตามมาหากมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก

 

คำเหล่านั้นที่เธอพูดมา มันจะทำให้ผู้คนที่อยู่ในลานตะวันตกต้องฝันร้ายไปอีกนาน

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset