หลินเสี่ยวเฟย เดินออกจากลานตะวันตก ด้วยรอยยิ้มอันนุ่มนวลบนใบหน้าของเธอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเดินเดินออกมาได้ระยะหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
ดวงตาของเธอฉายแววเย็นชา ในขณะที่เธอหันศีรษะ มองกลับไปยังทิศทางของลานด้านตะวันตก
ใช่เเล้ว ครั้งต่อไปหากพวกเขาวางแผนทำอะไรอีกครั้ง หลินเสี่ยวเฟยจะลืมความจริงที่ว่าจะใช้ตระกูลหลินเป็นเบี้ย เพื่อโยนเมืองหลวงของอาณาจักรเซิงให้ตกอยู่ในความโกลาหลและให้หลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังเท่านั้น เธอจะโยนพวกเขาลงขุมนรกไปพร้อมกับเหล่าศัตรูของเธอ
ไม่สำคัญหรอก ว่าเธอจะต้องเสียเบี้ยไปหนึ่งหรือสองก็ตาม หากคนพวกนี้พิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์สำหรับเธอ เธอก็จะโยนทิ้งอย่างไรความปราณี
“คุณหนู!” ไป่ลู่รีบวิ่งมาหาเธอ เเละรีบจับชายกระโปรงของเธออย่างระมัดระวังไม่ให้สัมผัสกับพื้นน้ำแข็ง
คุณหนูของเธอหายตัวไปจากห้อง เมื่อไป๋ลู่และซูถังมาถึงลานบ้านที่หลินเสี่ยวเฟยอาศัยอยู่ พวกเธอก็เข้ามาจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ ตามปกติตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น อย่างไรก็ตามบ่าวทั้งสองกลับพบว่าคุณหนูของเธอไม่ได้อยู่ในห้อง
พวกเธอจึงรีบตามหาหลินเสี่ยวเฟยไปทั่ว และในที่สุดพวกเธอก็เจอหลินเสี่ยวเฟยที่กำลังเดินไปใกล้สระน้ำระหว่างลานด้านทิศตะวันตกและตะวันออก
“พวกเจ้ามีอะไร?” หลินเสี่ยวเฟยถามอย่างใจเย็น สายตาที่เย็นชาของเธอหายไปทันที ขณะที่ไป่ลู่มาถึงและเรียกชื่อเธอ
“คุณหนู! ไปไหนมาหรือเจ้าคะ? พวกเรากำลังมองหาท่านอยู่” ไป่ลู่หอบและก้มตัวเพื่อหายใจ
หลินเสี่ยวเฟยหยุด ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไป ปล่อยให้ไป่ลู่ที่กำลังเหนื่อยและเดินขึ้นบันไดตามเธอมา “กลับกันเถอะ ธุระของข้าที่นี่เสร็จแล้ว”
“ธุระ? ตอนนี้คุณหนูกำลังทำธุระอยู่หรือ แต่ทำอะไร ที่ไหนหรือเจ้าคะ” ไป่ลู่เกาศีรษะของเธอหลังจากเห็นว่า คุณหนูของเธอดูแปลกๆไป ก่อนที่เธอจะตามหลังของคุณหนู ที่เดินนำหน้าของเธอไป
เมื่อพวกเขากลับไปที่ลานบ้านของหลินเสี่ยวเฟย เธอให้ไป่ลู่และซูถังต้มน้ำให้เธอใช้อาบ
ฤดูหนาวนี้ใกล้จะหมดลงแล้ว แต่อากาศหนาวก็ยังกวนใจทุกคนอยู่
ต่างจากคนจนและสามัญชนจะได้รับความอบอุ่นจากกองไฟกองเล็กๆเท่านั้น เพื่อเอาตัวรอดจากความหนาวเย็น พวกเขาไม่มีเสื้อผ้าที่หนาพอ และไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อเสื้อโค้ทขนสัตว์เพื่อกันลมหนาวได้
หลินเสี่ยวเฟย จำได้ดีว่าเธอเคยเป็นคนที่น่าสงสารมากกว่าคนจนและสามัญชนเหล่านั้นเสียอีก ภายในคุกใต้ดินเเละแขนขาที่ขาดหายไป เนื้อของเธอเน่าเปื่อย และสวมเสื้อผ้าบางๆเเละสกปรก ที่เธอสวมใส่มานานกว่าหนึ่งเดือน มันแทบจะไม่สามารถปกป้องเธอจากความหนาวเย็นได้เลย
ทุกคืน ช่วงเวลาที่หนาวที่สุดหลินเสี่ยวเฟยจะคิดเสมอว่า เธอคงจะตายจากการหนาวเหน็บ แต่มันก็ไม่เป็นอย่างที่เธอคิด
เธอรอดจากความหนาวเย็น แต่ก็ไม่รอดจากการทรมานอันไม่รู้จบที่เธอต้องเผชิญ
เธอลืมตาขึ้น และปล่อยให้ภาพในอดีตอันเลวร้ายหายไปจากความคิดของเธอ หลินเสี่ยวเฟยกำหมัดแน่น
เธอสาบานกับตัวเองว่า เธอจะไม่กับไปอยู่ในจุดที่ต้องทนทรมานเช่นนั้นอีกในช่วงชีวิตนี้ อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆ จะอยู่รอดเป็นเวลาหลายเดือน เหมือนเธอในตอนนั้นหรือไม่
หากเธอทรมานพวกเขาแบบเดียวกับที่เธอถูกกระทำ
“คุณหนู… น้ำร้อนแล้วเจ้าค่ะ”
…
หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว หลินเสี่ยวเฟยก็ก้าวออกจากประตูคฤหาสน์ตระกูลหลิน โดยใช้ผ้าคลุมหน้าครึ่งล่างของเธอไว้
เธอให้สาวใช้ของเธอ คอยเธอที่ลานบ้านและไม่ได้พาพวกเขาไปด้วย การมีผู้ติดตามจะประกาศให้ผู้คนรู้ว่าเธอเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์จากตระกูลหลิน มันจะเป็นการขัดขวางแผนการของเธอ
ดังนั้น เธอจึงให้พวกเขารอ จนกว่าเธอจะกลับ
หลินเสี่ยวเฟย เดินไปที่ตลาด ที่พ่อค้าเเม่ขายพยายามตะโกนเสียงดังเพื่อดึงดูดผู้คนเเละลูกค้าที่เดินผ่านไปมาให้ซื้อสินค้าของพวกเขา
เธอหยุดที่หน้าโรงเตี๊ยม ที่มีลูกค้าไม่มากนักและมองไปรอบๆ ก่อนที่จะก้าวเข้าไปข้างใน
กลิ่นอาหารอันหอมหวนฟุ้งไปที่จมูกของเธอทันที โรงเตี๊ยมที่เธออยู่ในตอนนี้นั้น ดูใหญ่โตแต่ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางมากนัก
ตรงกันข้ามกับการตกแต่งภายในโรงเตี๊ยมเเห่งนี้มีสีที่ฉูดฉาด ลูกค้าที่มาทานอาหารและเข้าพักต่างก็สวมเสื้อผ้าและรองเท้าเหมือนคนทั่วไป ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ ไม่มีคนใหญ่โตจากตระกูลใด ที่ต้องการเข้าใกล้ เพราะพวกเขากลัวว่าจะมีข่าวลือแพร่สะพัด เกี่ยวกับพวกเขาและติดโรคจากคนยากจน
อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยรู้ว่า หากขุนนางเหล่านี้ ค้นพบสิ่งที่โรงเตี๊ยมนี้ซ่อนไว้
พวกเขาจะเสียใจ
เมื่อนั่งที่โต๊ะบนชั้นสองแล้ว เสี่ยวเอ้อที่เห็นเธอ ก็รีบวิ่งเข้ามาต้อนรับเธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส “ท่านหญิง จะสั่งอะไรดีครับ?”
หลินเสี่ยวเฟยชำเลืองมองเขา แล้วกล่าวว่า “เอาอะไรก็ได้”
เสี่ยวเอ้อพยักหน้าและกำลังจะไปทำตามที่เธอสั่ง เเต่เขาถูกหลินเสี่ยวเหยหยุดไว้
“ผู้รับผิดชอบสถานที่นี้ อยู่ที่ใด” เสี่ยวเอ้อเลิกคิ้วถึงเส้นผม เมื่อหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาถามเช่นนี้ออกมา
เขามองเธอ และพอใจกับสิ่งที่เขาเห็น การปรากฏตัวในที่แห่งนี้ของหญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าเขานั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก
เขาสามารถเดาได้ว่า เธอเป็นหญิงสาวที่เกิดมาจากตระกูลสูงศักดิ์ แม้เธอจะสวมผ้าคลุมหน้าไว้
ดังนั้น เสี่ยวเอ้อ จึงไม่สามารถมองเห็นลักษณะหน้าตาของเธอได้
“ผู้จัดการอยู่ชั้นบน ท่านหญิงอยากจะพบเจอเขาหรือ” เสี่ยวเอ้อตอบเพราะไม่ใช่เรื่องใหม่ สำหรับทุกคนที่ทำงานในโรงเตี๊ยมแห่ง ที่จะถูกถามเกี่ยวกับผู้จัดการของพวกเขา
หลินเสี่ยเฟย ไม่ได้ตอบคำถามของเขาและยืนขึ้นก่อนที่เธอกล่าวว่า “พาข้าไปที่นั่น”