ระเบิด ไม่ได้ถูกซื้อขายกันในที่สาธารณะและมันยังเป็นสิ่งของที่หายากอีกด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพ่อค้าบางคนที่มาจากตะวันตก จะไม่ขายดินปืนให้กับสี่อาณาจักรด้วยเงินจำนวนมหาศาล
หลินเสี่ยวเฟยได้ยินมาวว่าได้ยินมาในอดีตว่าชาวต่างชาติที่มาจากยุโรปจอดเรือเทียบท่าในดินตะวันออกเพื่อค้าขายและขายสินค้าของพวกเขาเช่น ทอง กระจก เครื่องประดับ ขนสัตว์ เหล็ก และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย พวกเขาบรรทุกวัสดุจำนวนมากในเรือของพวกเขา และพยายามขายมันในราคาดีหรือซื้อของเก่าหรืออัญมณีหายากที่หาได้เฉพาะในภาคตะวันออกเท่านั้นกลับไปอีกด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น เป็นเวลาหลายสิบปี ที่ชาวตะวันตกได้มาเยือน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับราชวงศ์ตะวันออก และอยากจะทำให้จักรวรรดิโจว กลายเป็นพันธมิตรของพวกเขา
พวกเขาต้องการเข้าถึงอีก 3 อาณาจักร แต่น่าเสียดายที่ทั้งสามจักรวรรดิปฏิเสธ และติดต่อกับคนตะวันตกในการค้าขายเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไปมีการค้าขายมากยิ่งขึ้น และความต้องการของสี่อาณาจักรตะวันออก ก็สูงขึ้นเช่นกัน
ไม่เพียงเเต่สิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น ชาวตะวันตกนำสิ่งของบางอย่างที่สี่อาณาจักรต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้าม
นั่นคือ ยุทโธปกรณ์ในด้านการทำสงครามเพื่อใช้ในการต่อสู้กับอาณาจักรอื่น
ยุทโธปกรณ์ ด้านสงคราม ไม่ว่าจะเป็น ปืน เหล็ก และระเบิด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หายากมาก และผู้ปกครองหลายคนแสวงหา เพื่อให้พวกเขาได้รับอำนาจเหนือผู้ปกครองคนอื่นๆ
เเต่น่าเสียดาย ที่เมื่อชาวต่างชาติที่กำลังจะส่งมอบอุปกรณ์ ที่มีความต้องการสูงเหล่านั้น พวกเขากลับถูกดักปล้นโดยโจรสลัด ที่เเอบซุ่มอยู่ในทะเล และล่มเรือของพวกเขา พร้อมกับผู้คนและอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในนั้น
ด้วยความเกรงกลัวต่ออำนาจของโจรสลัด ที่เชี่ยวชาญในเส้นทางของทะเล ชาวตะวันตกจึงไม่ได้ดำเนินการตามจุดประสงค์ ในการค้าขายและความสัมพันธ์อันดีกับชาวตะวันออกอีกต่อไป
ปัจจุบัน มีพ่อค้ารายย่อยเพียงไม่กี่คนจากตะวันตก ที่ไม่ค่อยได้มาค้าขาย และพ่อค้ารายย่อยเหล่านี้ นำเฉพาะเรือลำเล็กๆที่บรรทุกได้อย่างจำกัด และสามารถซ่อนตัวจากสายตาของราชสำนักตะวันตกได้มาเท่านั้น
เพราะเหตุใด หลินเสี่ยวเฟยจึงตัดสินใจถามผู้จัดการหงเป่ยโหลวอย่างกระทันหัน ว่าเธอสามารถซื้อระเบิดได้หรือไม่ซึ่งมันเป็นเป็นสิ่งหนึ่งที่หายากที่สุด และยังเป็นที่ต้องการมากของหลายๆคน
เมื่อตอนที่หลินเสี่ยวเฟยมาถึงบนชั้นสาม เธอสังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างรวดเร็วและประหลาดใจที่เห็นว่าเครื่องเรือนทั้งหมดในห้องและทางเดิน มันอาจดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษและจะพบได้ในทุก ๆ ชั้นเหมือนสิ่งของปกติ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้แม้แต่ที่พำนักของตระกูลขุนนางยังเป็นสิ่งที่หาได้ยาก
เครื่องเรือนแต่ละชิ้นมีความเหมือนกันกับเครื่องเรือนที่ทำมาจากตะวันออก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหลินเสี่ยวเฟยมีโอกาสได้รับสิ่งของที่มาจากตะวันตกอยู่บ้าง เธอจึงรู้ถึงลักษณะเฉพาะและความแตกต่างของสิ่งของตกแต่งที่มาจากสองสถานที่ที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ถ้วยที่เธอเพิ่งจิบชานั้น ดูแตกต่างไปจากถ้วยที่พบได้ทั่วไป ในสี่อาณาจักรอย่างสิ้นเชิง
ถ้วยเป็นกระเบื้องสีขาวและมีหูสำหรับจับด้านข้าง รสชาติของชาก็แตกต่างและแปลกใหม่สำหรับต่อมรับรสของหลินเสี่ยวเฟย อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ได้เกินจากการคาดเดาของเธอ
เนื่องจากผู้ที่ผลิตชาในอาณาจักรเซิง ต้องผลิตชาชุดใหม่ ที่ไม่ได้ถูกปล่อยออกมาขายในพื้นที่สาธารณะ
”ระเบิด… เจ้าต้องการระเบิดจริงหรือ?” ฉู่เซียวซู ต้องพูดซ้ำในคำพูดของเธอ เพราะเขาคิดว่า
เขาอาจจะได้ยินสิ่งต่างๆผิดไป และเมื่อเขาเห็นเธอพยักหน้า เขาก็เอนหลังราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“คือ..มันเป็นไปไม่ได้หรือที่จะจัดหาระเบิดอย่างน้อยหนึ่งลูก?” หลินเสี่ยวเฟยกล่าวถาม เธอรู้สึกประหม่าเเละกังวลเล็กน้อย เเละรอให้เขาตอบ
“ทำไมเจ้าถึงคิดว่า หงเป่ยโหลวของข้ามีระเบิดอยู่ในมือ?” ฉู่เซียวซูกล่าวถาม แทนที่จะตอบเธอ
“ข้าไม่ได้…” เธอโกหกในทางเทคนิค เเละเธอไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะพิสูจน์การคาดเดาของเธอเกี่ยวกับหงเป่ยโหลว อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังต้องการ เเละเชื่อว่าพวกเขาจะมีความสามารถในหาระเบิด
“ข้าแค่อยากรู้ เพราะโรงเตี๊ยมเเห่งนี้เต็มไปด้วยนักฆ่า” หลินเสี่ยวเฟยกล่าว
ฉู่เซียวซูถอนหายใจและส่ายหัว “หงเป่ยโหลวของข้า ไม่ได้ขายของที่อันตรายขนาดนั้น”
ถูกต้อง หากหงเป่ยโหลว รวมดินปืนและระเบิดไว้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ต้องการอย่างมากในหมู่คนและคงจะเป็นสร้างกำไรมากมายแก่พวกเขา เเต่เขาไม่อย่างให้มีปัญหามาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน และทำลายแผนการของเขาเพียงเพราะเขาต้องการเงิน .
เงินไม่ใช่สิ่งที่เขาขาด ในทางตรงกันข้าม ฉู่เซียวซูมีเงินมากกว่าอาณาจักรเซิงทั้งหมดรวมกันเสียอีก ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธเงินของหลินเสี่ยวเฟย ธุรกิจที่แท้จริงของหงเป่ยโหลวคือแหล่งรวมนักฆ่าที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันที่แตกต่างกัน เเต่พวกเขาก็ไม่เคยรับเงิน สำหรับการบริการนี้
หลินเสี่ยวเฟย หลับตาลงเมื่อได้ฟังคำพูดของเขา เธอผิดหวังที่ไม่สามารถได้สิ่งที่ต้องการ ตามที่เธอคาดหวังไว้
เธอสันนิษฐานว่าหงเป่ยโหลว อาจมีระเบิดที่เธอสามารถซื้อสำหรับแผนการในอนาคตของเธอได้ แต่น่าเสียดาย ที่ดูเหมือนว่าเธอต้องเปลี่ยนเเผนการและลืมเรื่องราวของวันนี้ไป
เธอคิดว่า มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ระเบิดจะตกอยู่ในมือของเธอ เธอเข้าใจเรื่องนี้ดีและไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมา
ทั้งสองคนเงียบไป เพราะมีความคิดมากมายอยู่ในหัวของคนทั้งสอง
และเมื่อหลินเสี่ยวเฟยคิดได้ดังนั้น เธอจึงกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนั้น ข้าขอให้ท่านคิดว่าการสนทนานี้ไม่เคยเกิดขึ้น” เธอยืนขึ้นและพร้อมที่จะจากไป “ข้าหวังว่าเส้นทางของเรา คงจะไม่บรรจบกันในอนาคต”
หมายความของเธอคือ เธอจะไม่มาหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับหงเป่ยโหลวอีกต่อไป และหวังว่าผู้จัดการของ หงเป่ยโหลว จะไม่พยายามสืบและค้นหาตัวตนของเธอ หรือสั่งให้คนของเขาติดตามเธออีก
ฉู่เซียวซู เข้าใจความหมายของเธอและพยักหน้า
หลินเสี่ยวเฟยหยิบธนบัตรที่วางไว้บนโต๊ะ ทันใดนั้น ก็มีมือที่ หยาบกระด้างและอบอุ่น จับไปที่ข้อมือเธอไว้อย่างแน่น
เมื่อทั้งสองสบตากัน หลินเสี่ยวเฟย พยายามดึงมือของเธอออกจากมือของเขา เธอขมวดคิ้วและกำลังจะตำหนิเขา แต่หยุด เมื่อได้ยินเขาพูดขึ้นอีกครั้ง
ฉู่เซียวซู ไม่ยอมปล่อย และกล่าวว่า: “แต่ข้ารู้จักใครบางคนที่สามารถช่วยเจ้าได้”
หลินเสี่ยวเฟย ดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น หยุดดึงมือออกจากเขาและถามว่า “ใคร?”
เธอรอคำตอบจากเขา ด้วยความคาดหวังและไม่ละสายตาไปจากเขา
เธอดีใจ ที่ถึงแม้หงเป่ยโหลว จะหาในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะช่วยเธอหาทางจัดการเรื่องนี้
หลินเสี่ยวเฟย จ้องไปที่ ใช่ผู้สวม หน้ากากปีศาจที่อยู่ข้างหน้าเธอ และลืมเรื่องมือเขาที่กำลังกุมข้อมือของเธออยู่ ทันใดนั้นเขาก็กล่าวว่า: “ดยุคเซียว”