เมื่อกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน หลินเสี่ยวเฟย ก็ถูกไป่ลู่เเละซูถัง สาวใช้ทั้งสองของเธอ รีบนำตัวเข้าไปในลานด้านใน และถูกตั้งคำถามจากสาวใช้มากมาย
“คุณหนู! ท่านไปไหนมา” ไป่ลู่สูดกลิ่นและจับมือคุณหนู ขณะที่เธอตรวจดูอาการบาดเจ็บหรือสิ่งสกปรกตามร่างกายของหลินเสี่ยวเฟย ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ได้โปรด ต่อไปคุณหนูอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ หากคุณหนูออกไปเพียงลำพัง จะไม่มีผู้ใดรับรู้เลยว่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับคุณหนู” ซูถังกล่าวอย่างกังวล เนื่องจากเธออายุมากที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งสามคน ซูถังจึงเป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดของหลินเสี่ยวเฟย ถัดจากเธอคือไป่ลู่ ซึ่งเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดจากพวกเขาทั้งหมด
เมื่อสังเกตเห็นเสื้อผ้าที่เปียกของหลินเสี่ยวเฟย ซูถังจึงรีบไปหาเสื้อผ้าตัวใหม่ มาให้คุณหนูของเธอสวมใส่ ขณะที่ไป่ลู่ก็ออกไปต้มน้ำเพื่อให้เธออาบ
หลินเสี่ยวเฟยนั่งรอบนเก้าอี้ในห้องของเธอ ในขณะที่สาวใช้ของเธอ ยุ่งอยู่กับการดูแลคุณหนูของพวกเขา เธอไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้เมื่อเห็นสาวใช้วิ่งไปมาราวกับผึ้ง
เมื่ออาบน้ำเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หลินเสี่ยวเฟยก็ไปหยิบหนังสือมาอ่าน จนทำให้สาวใช้ของเธอรู้ประหลาดใจ เเละยืนงงอยู่ตรงมุมห้อง
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง เมื่อเห็นคุณหนูของพวกเขา พลิกหน้ากระดาษและให้ความสนใจกับหนังสือ ราวกับว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นน่าสนใจมาก ในขณะที่สาวใช้ทั้งสองยืนตกใจอยู่นั้น
คุณหนูของพวกเขากลับไม่ได้สนใจอะไรเลย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขารับใช้คุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน, ไป่ลู่และซูถังซึ่งอยู่ข้างๆคอยรับใช้หลินเสี่ยวเฟยมาโดยตลอด พวกเธอไม่เคยเห็นคุณหนูของเธอแตะต้องหนังสือเลยสักครั้งนับประสาอะไรกับการหที่จะอ่านมัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!
ไป่ลู่กัดริมฝีปากล่างของเธอ และมองไปที่ซูถังด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงและประหลาดใจ
อย่างไรก็ตาม ซูถังก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับไป่ลู่ และปากของเธอก็เปิดเล็กน้อยแสดงถึงความตกใจอย่างแรง
ไม่มีใครรู้ดีกว่าสาวใช้ทั้งสองคนนี้ ว่าหลินเสี่ยวเฟยเกลียดหนังสือยังกับอะไรสิ้นดี
ย้อนกลับไป เมื่อเธอเข้าเรียนในสถานศึกษาสำหรับหญิงสาวเพียงแห่งเดียวในเมืองหลวง
เสี่ยวเฟยทนไม่ได้แม้แต่วันเดียว ก่อนที่เธอจะกระทืบเท้าและรีบเดินจากไป
ข่าวลือที่ว่า เธอทำลายอุปกรณ์การเขียนในชั้นเรียน ในไม่ช้าข่าวก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงในวันรุ่งขึ้น แต่หลินเสี่ยวเฟยไม่ได้มีความเขินอายเเต่อย่างใด และไม่ได้ปฏิเสธกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่เธอออกไปเดินเล่นในเมืองราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ คุณหนูของพวกเขากำลังอ่านหนังสือราวกับว่าการกระทำเหล่านี้ เป็นสิ่งทำเป็นประจำและถูกจารึกไว้ในกระดูกของเธอ
หลินเสี่ยวเฟยที่กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น เธอก็ครุ่นคิดอยู่ลึกๆถึงเรื่องราวในอดีต การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่เธอเคยทำ ในที่ประทับขององค์ชายสี่ เนื่องจากเธอเป็นนางสนมเเละไม่มีสิ่งใดต้องทำมากสำหรับเธอ นอกจากการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์และอุบายกับหญิงสาวคนอื่นๆของหยูเฟิงซูการอ่านหนังสือจึงกลายกิจวัตรประจำวันของเธอ ในการผ่านเวลาไปเเต่ละวัน
แผนการของเธอในการก่อวินาศกรรมต่อถ้ำของหยูเฟิงซู มีความเสี่ยงสูง
เนื่องจาก หลินเสี่ยวเฟยรู้ดีว่าหยูเฟิงซู จะใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อปกป้องพื้นที่รอบๆถ้ำ และการที่เธอจะเข้าไปวางระเบิดภายในนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้
และเป็นไปได้สูงว่าแผนของเธอจะล้มเหลวเมื่อพบกับฉู่เซียวซู เเละใครจะรู้ ว่าเขาอาจจะเป็นศัตรู หรือไม่ก็เป็นพรรคพวกเดียวกันกับหยูเฟิงซู หรือใครก็ตามในราชวงศ์ และหากคำพูดของเธอผ่านหูของเขา ฉู่เซียวซูก็อาจจะพูดเรื่องนี้ให้กับพวกเขาฟัง
นั่นคือสิ่งที่หลินเสี่ยวเฟยจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น มิเช่นนั้น แผนการของเธอที่ตั้งใจไว้จะถูกทำลายอย่างแน่นอน เนื่องจากการเพิ่มศัตรูที่น่าเกรงขามไว้ในรายชื่อของเธอ อาจจะทำให้เธอลำบากมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าฉู่เซียวซูจะกลายเป็นศัตรูของเธอ
อะไรคือความแตกต่าง จากการมีศัตรูเพียงหนึ่งเดียวหรือมากกว่านั้น?
หลินเสี่ยวเฟย กำลังจะพลิกหนังสือหน้าอื่น เเต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น และเห็นความตกใจที่อยู่บนใบหน้าของสาวใช้ ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิด ว่ามันจะเกิดขึ้น
“พวกเจ้าเป็นอะไร?” หลินเสี่ยวเฟยกล่าว ขณะที่เธอขมวดคิ้วและทำออกมา
ซูถังส่ายหัว และกล่าวว่า “เปล่าเจ้าค่ะคุณหนู อ่านหนังสือต่อเถอะเจ้าค่ะ” เธอดึงแขนเสื้อไป่ลู่ เเละกล่าวว่า “ข้าลืมไปเอาเสื้อผ้าของคุณหนู ที่เราเอาไปตากไว้ พวกเราจะไปเอาให้คุณหนูเดี๋ยวนี้”
ไป่ลู่จ้องมองที่ซูถังด้วยท่าทางงุนงง เธอไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และเสื้อผ้าที่พวกเขาได้ซักทำความสะอาดและแขวนไว้ข้างนอกก็ถูกนำเข้าไปข้างในแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่ฝนจะเริ่มตกหนัก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ซูถังดึงเธอออกไปข้างนอก แล้วปิดประตูห้องนอนของคุณหนูทันที
หลินเสี่ยวเฟยถอนหายใจ และวางคางไว้บนหลังฝ่ามือ ขณะที่เธอตระหนักว่า เหตุใดสาวใช้ของเธอ จึงกระสับกระส่ายและรีบออกจากห้องไป พวกเขาคงไม่อยากรบกวนเธอ
เธอลืมไปว่าเจ้าของคนก่อน เป็นหญิงสาวที่โง่เขลา ที่ขึ้นชื่อในเรื่องขี้เกียจและหยาบคาย เธอจึงไม่แปลกใจเลย ที่ซูถังและไป่ลู่จะตกใจมากและอาจกลัว จนทำให้พวกเขาหลีกตัวออกห่างจากเธอ
ไม่ว่าในกรณีใด หลินเสี่ยวเฟย ขี้เกียจเกินกว่าจะสร้างความประทับใจให้ใคร หรืออธิบายว่าทำไมเธอถึงมีความปรารถนาที่จะอ่านอย่างกะทันหัน เธอไม่อยากเสียเวลากับการเป็นหลินเสี่ยวเฟยตัวจริง เธอจึงตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง และไม่จำเป็นต้องเสแสร้งใดๆ เพราะมันจะไร้ประโยชน์กับตัวเธอ
ในช่วงชีวิตนี้ เธอจะทุ่มเทเพื่อจัดการกับหยูเฟิงซูให้ทนทุกข์ทรมานนับพันเท่าจากที่เธอเคยได้รับ
และจัดการกับทุกสิ่ง ที่ทำให้มันตกลงไปยังจุดต่ำสุด เหมือนกับที่มันเอาทุกอย่างจากเธอ
และทรมานเธอมาเป็นเวลานาน เพื่อความบันเทิงของตัวมันเอง
ถ้ำเป็นสิ่งแรกที่เธอจะนำมันไปจากมัน แต่เธอจะทำให้มันสูญเสียมากกว่านี้
หลินเสี่ยวเฟยเพียงหวังว่า มันคงจะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น