หลินเสี่ยวเฟยยืนตัวแข็งทื่อ และหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร่างกายของพวกเขาใกล้ชิดกันตั้งแต่แรก เมื่อเธอหันกลับมา ใบหน้าของพวกเขาจึงอยู่ห่างจากกันเพียงไม่กี่นิ้ว
แม้ว่าทั้งสองคนจะสวมเสื้อผ้าปกปิดใบหน้า แต่หลินเสี่ยวเฟยและฉู่เซียวซูก็ไม่สามารถหยุดตกใจกับความใกล้ชิดของพวกเขาได้
ราวกับว่าเวลาถูกหยุดลง ทั้งสองคนยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสองสามวินาที ก่อนที่หลินเสี่ยวเฟยจะก้าวถอยหลัง แต่ชายตรงหน้าได้คว้าแขนของเธอและดึงเธอเข้าหาเขา
หลินเสี่ยวเฟย แปลกใจที่การกระทำอย่างกะทันหันของเขา ทันใดนั้น เธอจึงรีบสบัดแขนของเธอออกจากเขาและพยายามดิ้นรนเพื่อหนี แต่เขากำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างเพื่อหยุดเธอ จากการดิ้นรน
“อย่าขยับ” เขากล่าวข้างหูของเธอต่อ ว่า “ท่านหญิงกำลังจะเหยียบกับดัก”
หลินเสี่ยวเฟยจ้องมองเขาอย่างดุเดือดและกล่าวว่า “ข้ายืนอยู่บนพื้นนั้นก่อนหน้านี้ ก่อนที่ท่านจะจับข้าได้ ตอนนี้มันกลับมีกับดักได้อย่างไร?”
“ท่านหญิงลองเหยียบมันดูสิ” ฉู่เซียวซูปล่อยแขนของเธอ ราวกับว่าเขากำลังรอให้เธอทำสิ่งนั้น เเละเขาไม่ได้พูดอะไรอีกและมองไปที่เธอ
“อย่างไรก็ตาม ข้าสัญญาไม่ได้ว่าท่านหญิงจะสามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้” แววตาที่เย็นวาบในดวงตาของเขา ทำให้หลินเสี่ยวเฟยรู้ว่าเขาไม่ได้โกหก
หลินเสี่ยวเฟยไม่ได้เคลื่อนไหวและจ้องมองเขา ในความคิดของเธอเล็กๆอยากให้เขาโกหกเพื่อที่เธอจะได้ถอยห่างจากชายที่ประคองเธอไว้
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่อไปได้ เมื่อเธอมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ
“ท่านถอยกลับได้หรือไม่” เธอถามเขา
โดยไม่เปลี่ยนน้ำเสียงและท่าทางของเขา ฉู่เซียวซูกล่าวว่า “ข้าทำมิได้ ข้าเกรงว่าจะมีกับดักอยู่ข้างหลังข้าด้วย”
หลินเสี่ยวเฟยกัดฟันจ้องเขม็งและระงับความโกรธลง เธอกลับตัดสินใจย้อนรอยขั้นตอนที่เธอเคยทำก่อนหน้านี้ และพยายามหนีจากเขาให้เร็วที่สุด มิฉะนั้น เธออาจจะทำอะไรบางอย่างกับชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ
เมื่อพวกเขาอยู่ห่างกันไม่กี่ฟุต หลินเสี่ยวเฟยก็หันมามองเขา “ข้ามาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านยังเล่นตลกกับสิ่งของรอบๆ… ข้าเกรงว่าข้าจะต้องออกไป แล้วค่อยกลับมาอีกครั้ง เมื่อท่านได้พร้อมที่จะพูดคุย”
ฉู่เซียวซูเลิกคิ้วและยิ้มที่มุมริมฝีปากของเขา เขาเอาแขนโอบหน้าอกขณะที่พูดว่า “ท่านหญิงไม่ต้องวิตกกังวลไป ข้ามีสิ่งที่ท่านต้องการแล้ว แต่ถ้าท่านไปตอนนี้ ข้าไม่สัญญาว่าท่านจะได้รับมันในครั้งต่อไปที่เราพบกัน”
ด้วยเหตุนี้ หลินเสี่ยวเฟยจึงหยุดความตั้งใจที่จะจากไป
ทั้งสองเดินไปที่แท่นหิน ซึ่งจัดเก้าอี้ไว้สำหรับทั้งสองคนแล้ว บนโต๊ะมีของว่างและชาร้อนเสิร์ฟอยู่
เมื่อนั่งบนเก้าอี้ของเธอแล้ว หลินเสี่ยวเฟยก็ไม่เสียเวลา และกล่าวถามเขาว่า “ท่านไปเอาระเบิดมาจากดยุคได้จริงๆหรือ?” เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อได้ยินเขาพูดว่าเขามีสิ่งที่เธอต้องการ
ผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่ระยะเวลานั้นสั้นเกินไป สำหรับทุกคนที่จะได้รับระเบิดจากใครบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันมาจากดยุคเซียว
สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าผู้จัดการของหงเป่ยโหลวและดยุคมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยไม่สามารถเดาได้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์แบบไหน
และเเอบสนใจอยู่เล็กน้อย
เมื่อมองไปที่ชายสวมหน้ากาก หลินเสี่ยวเฟยรอให้เขาตอบ
“ใช่” เป็นคำตอบง่ายๆจากเขา
หลินเสี่ยวเฟยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่เขาไม่ได้อธิบายรายละเอียด ว่าเขาได้รับระเบิด
จากดยุคได้อย่างไร แต่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องพูดคุยระหว่างพวกเขาหรือกับใคร หลินเสี่ยวเฟยไม่ได้สอบถามเพิ่มเติมและตัดสินใจที่จะเริ่มต้นคุยธุระกิจของเธอ
“ข้าจะรับได้เมื่อใด” เธอถามเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายในความคาดหมายซึ่งฉู่เซียวซูสังเกตเห็น
เมื่อเห็นว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหน ฉู่เซียวซูก็อยากรู้ว่าเธอมีเจตนาอะไรและเธอจะเอาระเบิดไปใช้ที่ไหน เธอดูเหมือนเด็กที่กำลังจะได้รับของขวัญจากพ่อแม่ของเธอ ขณะที่เธอจ้องมองเขาต่อไป
โดยไม่ปล่อยให้เธอรอ ฉู่เซียวซูกล่าวว่า “ท่านจะได้รับมันจากคนของข้า เมื่อท่านออกจากหงเป่ยโหลว”
เธอดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น หลินเสี่ยวเฟยกล่าวขอบคุณ ก่อนเธอจะถามเขาว่า “คราวที่แล้วข้าไม่ได้ถามชื่อของท่าน ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ถาม ท่านก็ควรจะบอก เพราะเมื่อมีโอกาสเราจะได้พบกันอีก”
“เรียกข้าว่าผู้จัดการหลี่ก็ได้”
หลังจากจิบชาของเขาแล้ว เขาก็ถามขึ้นทันทีว่า “ทำไมท่านหญิงถึงไม่กลัวข้าหรือ?”
“ทำไมข้าต้องกลัวท่านด้วย” หลินเสี่ยวเฟย กล่าวตอบและจ้องมองไปที่เขา ด้วยเเววตาที่ไร้เดียงสา
โน้มตัวไปข้างหน้า ฉู่เซี่ยวซูยิ้มเเละกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นว่า “สถานที่นี้ถูกซ่อนอยู่ทั่วโลก ท่านเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานและข้าก็เป็นบุคคลอันตราย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนี้ จะไม่มีใครรู้และไม่มีใครช่วยท่านได้.”
“ท่านยังคิด ว่าท่านไม่ควรกลัวอีกหรือ” เขากล่าวเพิ่ม.
เขาต้องการเห็นปฏิกิริยาที่กระวนกระวายใจของเธอ ฉู่เซียวซูต้องการเตือนเธอถึงอันตรายที่เธออาจเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องนี้ด้วยความเต็มใจและไว้วางใจ
อย่างไรก็ตาม ใครจะไปคิดว่าคำตอบของเธอจะทำให้เขาสำลักและมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา
หลินเสี่ยวเฟยพูดอย่างไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเขา ราวกับว่าเธอไม่ได้พูดถึงบางสิ่ง
ที่หญิงสาวไม่ควรพูด “นอกจากการทำกิจกรรมยามค่ำคืน ระหว่างสามีภรรยาและการฆ่าข้าผู้จัดการหลี่จะทำอะไรได้อีก?”
เธอเอียงศีรษะเเละดวงตาก็เบิกกว้าง “คราวที่แล้ว ผู้จัดการหลี่ไม่รับเงินของข้า บางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ท่านต้องการใช่หรือไม่?”