“คุณหนู… ท่านรู้หรือไม่ว่ากำลังพูดถึงอะไร!?” ฉู่เซียวซูกระแอมด้วยความอับอาย
แม้ว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่กิจกรรมที่ทำโดยสามีและภรรยาภายในห้องนอนของพวกเขายามค่ำคืนเป็นสิ่งที่เขาสามารถจินตนาการได้ แต่ไม่เคยลองทำ
ถึงกระนั้น หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาช่างดูไร้ยางอาย เธอสามารถพูดมันออกมาจากปากของเธอราวกับว่าเธอกำลังพูดถึงสภาพอากาศ รอยยิ้มที่เธอเพิ่งแสดงบนใบหน้าของเธอนั้นงดงามและเย้าญวนใจอย่างมา
อย่างไรก็ตาม หญิงสาวที่ไม่เคยออกจากคฤหาสน์มาเป็นเวลาสามปี จะรู้เรื่องระหว่างสามีภรรยาได้อย่างไร?
หรือตระกูลหลินได้สอนบุตรหลาน เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวสำหรับในอนาคต? ฉู่เซียวซูรู้สึกยกย่องตระกูลหลิน ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆอย่างไรก็ตาม การคาดเดานั้นเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าฉู่เซียวซูจะพยายามไม่คิดไปเอง
ตระกูลหลินคือใคร? พวกเขาเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรเซิง และผู้คนต่างยกย่องแม่ทัพหลินผู้ยิ่งใหญ่ เเต่ใครไปรู้ว่าเขาจะสอนเรื่องที่ไร้ยางอายให้เเก่บุตรหลาน เกี่ยวกับกิจกรรมในยามราตรีหรือสิ่งใดที่อาจทำให้จิตใจของพวกเขาเสื่อมเสียตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่อคิดเช่นนี้ ฉู่เซียวซูได้สรุปความคิดของเขาและมองไปที่หลินเสี่ยวเฟย ราวกับว่าเธอถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง
หลินเสี่ยวเฟยกลับเมิน ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและกล่าวว่า
“ทำไมผู้จัดการหลี่ถึงรู้สึกเขินอาย แน่นอนว่าข้ารู้ว่าคู่สามีภรรยามักจะทำอะไรเมื่ออยู่กันสองคนภายในห้องนอนของพวกเขา หรือผู้จัดการหลี่ไม่รู้ ข้าจะได้เล่าให้ฟัง”
ฉู่เซียวซู กำหมัดของเขาและจ้องไปที่เธอ เขาหวังว่าจะสามารถบีบคอเล็กๆของเธอ
เพราะเธอไม่ยอมละทิ้งเรื่องนี้เสียที และตอบเขาราวกับว่าเธอคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ดี
แต่หลินเสี่ยวเฟย จะไม่รู้กิจกรรมยามค่ำคืนระหว่างคู่สามีภรรยาที่แต่งงานแล้วได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่เคยเเต่งงานกับใครซักคน?
หลินเสี่ยวเฟยปฏิเสธที่สนใจเรื่องเหล่านั้น เธอเสนอตัวให้กับสัตว์ร้ายอย่างเปิดเผย หลินเสี่ยวเฟยมุ่งความสนใจของเธอไปที่ชายที่นั่งตรงข้าม
เขาสวมเสื้อคลุมที่มีราคาแพงและสวยงามมาก และจากรูปลักษณ์ของมัน เป็นสิ่งที่ไม่มีขายอยู่ตามตลาด ลวดลายสีเงินบนเสื้อคลุมของเขาทำให้เขาดูเหมือนสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเทพเจ้าหรือนักปราชญ์ ที่ดูโดดเด่นและเหนือกว่าใครทุกคน
“ท่านหญิง… อย่าเข้าใจผิด สำหรับเราทั้งสอง ข้าคิดว่าเราทั้งคู่มีความรู้ในเรื่องระหว่างคู่สามีภรรยา” ฉู่เซียวซู พูดด้วยแววตาว่า “หญิงสาวอย่างท่านคงเคยได้ยินคำว่า ‘กิจกรรมยามค่ำคืน’ จากที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของมัน ท่านอาจคิดว่าพวกเขากำลังเล่นเกมกระดานในห้องนอนของพวกเขา แต่นั่นคือสิ่งที่ท่านคิดผิด”
อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยเพียงเเค่ยิ้มให้เขาเท่านั้น คิ้วของเธอเลิกขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอรู้สึกขบขันกับสิ่งที่เขาพูด
มีความรู้มากขึ้น? หลินเสี่ยวเฟยสามารถรับรองเขาได้ ว่าเธอรู้เกี่ยวกับกิจกรรมยามค่ำคืนว่ามันหมายถึงอะไร อย่างไรก็ตาม เธอไม่แน่ใจว่าใครมีความรู้มากกว่ากัน ระหว่าง ชายผู้ที่มีอิสระในการพูดคุยและรับรู้ถึงความรู้สึกที่ซ่อนเร้นจากหญิงมากกว่า และแน่นอนว่าชายผู้นี้ต้องรู้อะไรมากกว่าเธอ
ดังนั้นเธอจึงไม่คัดค้านความคิดเห็นของเขา
ฉู่เซียวซูรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น ที่เขาพยายามอธิบายเรื่องนี้กับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา
เขาต้องการหยอกล้อเธอด้วยความสนใจและความสนุกสนาน แต่ตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกเล่นแทน
แม้ว่าใบหน้าของเธอจะมีรอยยิ้ม แต่ฉู่เซียวซูก็สามารถมองผ่านดวงตาของเธอและไม่เห็นความอบอุ่นหรือคำใบ้ของความสุขหรือการเย้ายวนใจ เเต่กลับรู้สึกว่าเธอจงใจพยายามทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจและกังวลใจ
เธอสามารถทำสิ่งนั้นกับเขาได้ ทันใดนั้น ฉู่เซียวซูก็ลุกขึ้นยืน เเละเดินเข้าไปใกล้ๆเธอ
เขามองเข้าไปในสายตาของเธอ หลินเสี่ยวเฟยสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไร ทันใดนั้น เธอก็อึ้งจากการกระทำกะทันหันของเขา
ปลายนิ้วของเขาแตะคางที่ของเธอ เขายกหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ดวงตาของพวกเขาสัมผัสกันได้ ความอบอุ่นจากนิ้วของเขาทำให้ผิวหนังและกระดูกของเธอสั่น และบรรยากาศที่คลุมเครือก็กลับมา
เขาเอียงศีรษะของเธอไปทางขวาเล็กน้อย ดวงตาของเขาไม่ละสายตาไปจากเธอ
หลินเสี่ยวเฟยรู้สึกแปลกๆ และสงสัยว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น แต่เธอไม่ได้พยายามผลักเขาออกหรือพยายามหลีกเลี่ยงเขา
ทันใดนั้น ชายตรงหน้าเธอก็พูดว่า “ในเมื่อเรากำลังเข้าสู่หัวข้อนี้ ทำไมไม่ให้ข้าสอนท่านเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำระหว่างคู่สามีภรรยาล่ะ? จะไม่มีใครมารบกวนเราเลย ที่นี่คือที่ที่เหมาะ ที่จะทำเช่นนั้น.”
“ท่าน…” หลินเสี่ยวเฟยดุเขาอย่างอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว เธอไม่คิดว่าเขาจะจริงจังกับคำพูดของเธอ
แม้ว่าจะเป็นความผิดของเธอที่เสนอเรื่องไร้สาระแบบนี้ แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะจริงจังเช่นนี้
เขาไม่มีศีลธรรมหรือว่าเขาจะกระทำต่อหญิงสาว ก็ต่อเมื่อพวกเขาขอให้เขาทำ?
หลินเสี่ยวเฟยรู้สึกรังเกียจเขา และมุมมองของเธอเกี่ยวกับเขาในฐานะผู้จัดการของหงเป่ยโหลว
จู่ๆก็เปลี่ยนไป
ก่อนที่จะมาที่นี่ เธอสงสัยว่าฉู่เซียวซูและผู้จัดการหลี่เป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ชายผู้นี้ไร้ยางอายและกล้าที่จะทำเช่นนี้ต่อหน้าเธอ ความสงสัยของเธอก็ถูกลบไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่มีทางที่ชายที่ผิดศีลธรรมเช่นนี้ จะมีตำแหน่งเป็นเทพแห่งสงครามดยุคเซียวไปได้
หากนี่เป็นเพียงแค่การแสดง หลินเสี่ยวเฟยคิดว่าความสามารถของเขาในการแสดง จะเหนือธรรมดา ราวกับว่าสิ่งที่เขาทำมันเรื่องปกติสำหรับเขา
แต่ถ้าเขาแสดงจริงๆ …
ร่างกายของหลินเสี่ยวเฟยสั่น และมองเขาราวกับว่าเขาเป็นแมลงที่น่ารังเกียจ