กำเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์ – เล่มที่ 4 บทที่ 15 บานสะพรั่ง

กําเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์ เล่มที่ 4 บทที่ 15 บานสะพรั่ง

 

เล่มที่ 4 บทที่ 15 บานสะพรั่ง

 

บัง ปัง ปัง

 

การต่อสู้ยิ่งมายิงดุเดือด หว่านถูใช้ออกด้วยพลังเต็มที่แม้จะไม่อาจไปถึงระดับจักรพรรดิ แต่หากเปรียบเทียบก็ไม่ห่างกันเลยแม้แต่น้อย ด้วยพลังทําลายมหาศาล หยางอี้ถูกกดดันเป็นอย่างมาก ทุกหมัดของหว่านถูเต็มไปด้วยพลังปราณอันเข้มข้นของธาตุดิน จิตสังหารพวยพุ่งออกมาทุกหมัด ราวกับว่าแต่ละหมัดคือหมัดสุดท้ายที่หยางจะได้พบ

 

“ไฮ้! เจ้ามีพลังหมัดรุนแรงเกินไป ถึงหมื่นสวรรค์จะไม่ได้รับความเสียหายแต่กลับเป็นตัวข้าเองที่ต้องรับแรงสะท้อนตกค้าง”

 

รับหมัดของหว่านถูมานับร้อยหยางอี้เริ่มเกิดอาการชาขึ้นที่แขน สองมือของหยางอี้ยิ่งสั่นไหวจิตใจมุ่งมั่นเต็มที่ การรอคอยเท่านั้นที่จะทําให้สําเร็จ หว่านถู เมื่อเห็นว่าตนได้เปรียบในใจก็ยิ้มเยาะระดมหมัดออกไปอีกหลายชุด

 

“อย่างไร? ฮ่าๆ ไอ้หนูเจ้าไม่ปากดีแล้ว!”

 

“ฮึ่ม! เจ้ากําลังคิดอะไรอยู่? อย่าลืมว่าข้าเป็นเพียงศิษย์สายนอกส่วนเจ้าเป็นหนึ่งในห้าตํานานยี่สี่”

 

แม้เดิมที่ตั้งใจจะเยาะเย้ยอีกฝ่ายแต่กลับกลายเป็นตัวเขาเองที่ต้องรู้สึกอับอาย เรื่องจริงที่ว่าการจัดการกับเด็กคนหนึ่ง ตัวเขาที่เป็นหนึ่งในห้าตํานานกลับต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ หากรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น!

 

“สารเลวไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตาย!”

 

การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้ง หยางอี้ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที การปะทะภาคพื้นดินมีขีดจํากัดในการตั้งรับมากเกินไป ต่อให้ความเร็วของหยางอี้มากกว่าหว่านถู แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขอบเขตที่ย่างก้าวมายาสวรรค์สามารถรับได้ในตอนนี้นั้นไม่เกินระดับสวรรค์ขั้นสูงหยางอี้จึงจะสามารถควบคุมการต่อสู้ได้เต็มสิบส่วน ไม่ต้องกล่าวว่าครึ่งก้าวจักรพรรดิยังเหนือล้ําเกินไปที่เขาจะสามารถทิ้งห่างในเรื่องความเร็วได้นอก จากจะไปถึงระดับปฐพีขั้นสูงเสียก่อน

 

ป้อมปฐพี ร้อยตะวันและปราการอัคคีกลายเป็นตก ตะลึงทันทีเมื่อเห็นหยางอี้สามารถย่างก้าวบนท้องนภาได้ เพราะการจะทําเช่นนี้ได้ต้องไปถึงระดับสวรรค์เท่านั้น

 

“หรือว่าสารเลวนี้ไปถึงระดับสวรรค์แล้ว? ไม่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอายุเพียงสิบหกสิบเจ็ดปีมันไม่สมควรไปถึง”

 

หว่านถูจ้องมองไปยังหยางอื้อย่างครุ่นคิด การโจมตีของเขาชะงักครู่หนึ่งทําให้หยางอี้ทิ้งระยะออกไปอยู่นอกขอบเขตการโจมตีของหว่านถู

 

“การที่มันรับมือกับข้าได้เป็นเพราะศาสตราวุธระดับจักรพรรดิ เช่นนั้นแล้ว….การที่มันสามารถเหยียบย่างบนนภา เฉกเช่นชนชั้นสวรรค์ได้ก็สมควรเป็นเพราะทักษะระดับสูง!”

 

ดวงตาของหว่านถูเปล่งประกายทันที เขาไม่คาดคิดว่าเด็กสารเลวนี่จะเป็นแพะตัวอ้วนขนาดนี้ เพียงแค่อาวุธนั่นก็ล้ําค่ามากพอแล้วหากได้ทักษะอันยอดเยี่ยมเช่นนั้นมาอีกไม่ต้องกล่าวเลยว่าป้อมปฐพี่จะทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งอย่างง่ายดาย

 

“เด็กน้อยหากเจ้ายอมมอบอาวุธและทักษะของเจ้าออกมา บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า เจ้าคิดอย่างไร?”

 

หยางอี้มองไปยังหว่านถูที่เต็มไปด้วยความโลภด้วยสายตารังเกียจ สารเลว นี่คิดจริงๆหรือว่าเขาจะโง่

 

“อย่ามัวเพ้อฝัน เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอจะได้รับพวกมัน!”

 

เป็นหยางอี้ที่เริ่มการโจมตีก่อน หว่านถูเองก็หมดความอดทนเริ่มพุ่งเข้าหาหยางอี้ทันที การต่อสู้บนอากาศหยางอี้ ค่อนข้างได้เปรียบด้วยความเร็วและทิศทางที่เคลื่อนตัวได้อย่างอิสระจึงทําให้หยางอี้กลับมาสูสีกับหว่านถูอีกครั้ง ทางด้านบน เหนือน่านฟ้าขึ้นไปหลายกิโลเมตรบรรพชนและหว่านป้อเพียงต่อสู้กันเพื่อคุมเชิงเท่านั้น ทั้งสองต่างมั่นใจในคนฝ่ายตัวเองจึงทําให้การต่อสู้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้

 

“ท่านบรรพชนดูเหมือนสํานักวิหารสวรรค์จะได้รับอัจฉริยะชั้นยอดมาสินะ แต่ช่างน่าเสียดาย ที่มันต้องตกตายในวันนี้”

 

หว่านป้อกล่าวออกมาพร้อมกับส่ายหัว ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เกิดการปะทะรุนแรงแต่เขาก็เตรียมพร้อมเต็มที่ในการสกัดกั้นบรรพชนมิให้เข้าช่วยเหลือหยางอี้เมื่อหว่านได้รับชัยชนะ มิเช่นนั้นสินสงครามจะถูกแย่งกลับคืนไป

 

“ฮ่าๆ หว่านป้อ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เจ้าหนูนั่นจะไม่ตายอย่างแน่นอน เฮ้อ โลกนี้ยังมีหลายสิ่งที่เจ้าไม่ควรแตะต้อง”

 

ปัง! ตูม! บัง! ตูม!

 

หว่านถูรัวหมัดเข้าหาหยางอื้อย่างไม่หยุดยั้งด้วยดาบใหญ่ การตอบรับบ้างหลบหลีกบ้างทําให้หยางอี้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที เวลายิงมายิ่งผ่านไป หว่านถูเข้าใจในที่สุด เมื่อทักษะรับเริ่มจะหมดประสิทธิภาพ ด้วยข้อจํากัดระดับสูง หลังจากใช้ทักษะลับแล้วต้องกินเวลาอีกหนึ่งเค่อเพื่อที่จะสามารถใช้ได้อีกครั้ง

 

หยางอี้เองก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีและสิ่งที่เขาเล็งไว้ตลอดเวลาก็คือตอนนั้น ตอนที่การเพิ่มพลังปราณของหว่านถูเกิดการชะงัก นั้นจะเป็นโอกาสให้เขาสามารถตีฝ่าความแข็งแกร่งของหว่านถูเข้าไปได้

 

หลบซ้ายหลบขวา ไม่ว่าหมัดจะมาจากทิศทางไหนหยางอี้ก็จะหลบออกไปด้วยการใช้พลังให้น้อยที่สุดหากไม่สามารถหลบได้ก็เป็นดาบใหญ่ในมือที่เข้ามารับแทน การอดทนรอคอยไม่เคยโกหก ไม่นานหว่านถูก็มาถึงขีดจํากัดในการเพิ่มพลังปราณ หยางอี้เองก็เหลือพลังปราณไม่มากแล้วเช่นกัน การต่อสู้กับครึ่งก้าวจักรพรรดินั้นต้องแบกรับภาระมิใช่น้อย

 

ไม่ใช่เพราะความประมาทของหว่านถูหรือการดูแคลนหยางแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเด็กหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ดผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป!

 

เพียงชั่วพริบตาที่ทักษะของหว่านถูถูกยกเลิก ราวกลับกาลเวลาไหลช้าลง สายตาของหยางอี้หรี่เล็กลง พลังปราณในร่างทั้งหมดพวยพุ่งขึ้นมาเต็มขีดจํากัด หมัดขวาใช้ออกด้วยหัตถ์คว้าจันทร์อันทรงพลังแรงขาทั้งหมด ดีดออกด้วยย่างก้าวมายาสวรรค์เต็มสูบ ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน หว่านถูมิคิดว่าเด็กหนุ่มเบื้องหน้าจะออมพลังไว้หลอกให้เขาคิดว่าได้เปรียบมาตลอดเวลา

 

เพียงเสี้ยววิที่พลังปราณลดลงจากการยกเลิกทักษะ การตอบสนองของหว่านถูไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใดแต่ด้วยความเร็วของหยางอี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันทําให้เขาไม่สามารถตอบสนองได้ หมัดขวาที่ส่องแสงสีนวลซัดเข้าเต็มใบหน้าของหว่านถูทันที แม้จะมีพลังทําลายสูง แต่ก็ไม่เพียงพอจะสะบั้นหัวของหว่านถูได้ ด้วยความแข็งแกร่งของปราณคุ้มกาย ทําให้หว่านถูรู้สึกเพียงมึนงงเท่านั้น หลังจากลอยออกไปสิบเมตรเมื่อหว่านถูรู้สึกตัวด้านบนของเขาก็ปรากฏดาบใหญ่ส่องแสงสีฟ้าแดงพุ่งเข้ามาแล้ว

 

ด้วยปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมหว่านถูยกแขนสองข้างขึ้นมาตั้งการ์ดป้องกัน ด้วยลักษณะที่ลอยออกมาจากการปะทะแรก ทําให้ร่างของเขาอยู่ในแนวราบเหนือพื้น ดาบใหญ่ของหยางอี้ฟันลงมาที่แขนสองข้างของมันทันที

 

ตุม !!

 

ร่างของหว่านถูพุ่งราวกับกระสุนปืนใหญ่กระแทก เข้ากลับพื้นอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นหลุมกว้างสิบสิบเมตร เสียงนี้เรียกความสนใจของทุกคนทันที หว่านถูรู้สึกมึนงง เขากระอักเลือดออกมาคําโตพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปด้านบน ภาพที่เห็นทําให้เขาถึงกับสั่นกลัว

 

“แย่แล้ว ยี่จางสั่งให้ทุกคนเพิ่มพลังเต็มที่ในการกางม่านพลัง! เจ้าหนูนั้นกําลังจะผสานจิตวิญญาณ เล่นแรงเกินไปแล้ว

 

บรรพชนมีใบหน้าที่ซีดขาวทันทีก่อนจะรีบพุ่งเข้าไป หาหว่านป้อและระเบิดพลังซัดมันกระเด็นออกไปให้พ้นทาง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสู้แล้ว สิ่งที่ต้องทําคือการช่วยพวกยีจางกางม่านพลัง มิเช่นนั้นเมืองหลวงบริเวณนี้ไม่เหลือซากแน่ ครั้งล่าสุดที่หยางอี้ผสานจิตวิญญาณเพียงฟันดาบเดียวภูเขานั้นหายไปถึงครึ่งลูก! ไม่ต้องกล่าวว่าครั้งนี้เป็นหอกอาวุธที่มีพลังทําลายรุนแรงที่สุด

 

หยางอี้จ้องมองไปยังหว่านถูด้วยสายตาเย็นชา กลิ่นอายระดับจักรพรรดิพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง บัดนี้ดาบใหญ่ได้หายไปแล้วเหลือลูกบาศก์นับหมื่นลอยวนอยู่รอบกาย ภาพนี้ไม่ต่างกับเทพเจ้าแห่งสงครามที่เกิดมาเพื่อทําลายล้าง

 

“หมื่นสวรรค์รูปแบบหอกผสานจิตวิญญาณ!”

 

วิ่ง วิ่ง วิ่ง

 

ลูกบาศก์นับหมื่นเคลื่อนที่เข้ามารวมตัวกันด้านข้างหยาง ก่อนจะกลายเป็นหอกเล่มใหญ่ที่งดงาม ด้ามจับเป็นสีแดงเพลิงปลายหอกเป็นใบสีฟ้าราวกับน้ําแข็งอันเย็นเยือก ร่างมายาของราชันย์แดงน้ําเงินพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกู่ร้องคํารามแสดงอํานาจต่อโลกหล้า บินวนอยู่ข้างกายหยางอี้

 

ชายหนุ่มคว้าหอกไว้ในมือก่อนจะควงด้วยท่วงท่าสง่างามสองมือจับหอกชี้ลงด้านล่าง เป้าหมายคือชายร่างยักษ์ที่กําลังนอนอยู่ในหลุมด้วยสีหน้าหวาดกลัว ทั้งแรงปะทะและความเร็วในการทิ้งตัวเสียงร้องคํารามของอสรพิษทั้งสองรวมเข้ากับหอกในมือหยางอี้กลายเป็นอุกกาบาตที่ซีกหนึ่งเต็มไปด้วยเปลวเยือกแข็งสีฟ้าและอีกซีกหนึ่ง เต็มไปด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรงสีแดง

 

“บุปผาที่สอง รูปแบบผสานจิตวิญญาณ “บานสะพรั่ง !?”

กำเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์

กำเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์

Status: Ongoing
อ่านนิยาย กำเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์หยางอี้เด็กหนุ่มอัจฉริยะที่พลิกผันจมลงสู่จุดต่ำสุดของชีวิตเพราะบังเอิญไปเจอกับหินลึกลับอันหนึ่ง แต่ในเวลาต่อมาด้วยความเพียรพยายามไม่ย่อท้อก็ทำให้เขาได้พบกับความลับของหินลึกลับก้อนนั้นและความลับนี้เองที่จะทำให้เขาก้าวขึ้นไปยืนอยู่เหนือยุทธภพ! ขันพลังต่างๆ *ระดับผู้ฝึกยุทธ์ -ก่อกำเนิด (1-10) แบ่งเป็น 4 -ขั้น 1-3 ขั้นต้น ,4-6 ขั้นกลาง ,7-9 ขั้นปลาย ,10 ขั้นสูงสุด-ครึ่งก้าวเบิกนภา -เบิกนภา (1-10) แบ่งเป็น 4 -ขั้น 1-3 ขั้นต้น ,4-6 ขั้นกลาง ,7-9 ขั้นปลาย ,10 ขั้นสูงสุด-ครึ่งก้าวปฐพี -ปฐพีต้นกำเนิด (1-7) ??? -นภาศักดิ์สิทธิ์ (1-5) ??? -เนมิต (1-3) แบ่งเป็น 3 ขั้น -ขั้น 1 ราชา ,ขั้น 2 ราชัน ,ขั้น 3 จักรพรรดิ ดับสูร (ไร้ระดับ) ??? *มรรคาแบ่งเป็น 7 ระดับ -ความลี้ลับระดับต่ำ (1-10) -ความลี้ลับระดับกลาง (1-10) -ความลี้ลับระดับสูง (1-10) -มรรคาเล็ก (ตื้นเขิน พื้นฐาน บางส่วน ส่วนใหญ่ สมบูรณ์) -มรรคากลาง (ตื้นเขิน พื้นฐาน บางส่วน ส่วนใหญ่ สมบูรณ์) -มรรคาใหญ่ (ตื้นเขิน พื้นฐาน บางส่วน ส่วนใหญ่ สมบูรณ์) -บรรลุสรรพสิ่ง *วิชาต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท -วิชาปราณ –นิล ทอง ปฐพี นภา ราชา ราชัน จักรพรรดิ (แต่ละขั้นมีสามระดับ ต่ำ กลาง สูง) -วิชายุทธ์ –นิล ทอง ปฐพี นภา ราชา ราชัน จักรพรรดิ (แต่ละขั้นมีสามระดับ ต่ำ กลาง สูง) -วิชาจิต –นิล ทอง ปฐพี นภา ราชา ราชัน จักรพรรดิ (แต่ละขั้นมีสามระดับ ต่ำ กลาง สูง) *ระดับวัตถุ/ทรัพยากร/อาวุท –นิล ทอง ปฐพี นภา ราชา ราชัน จักรพรรดิ (แต่ละขั้นมีสามระดับ ต่ำ กลาง สูง) *ระดับ สำนัก/ตระกูล/ประเทศ/ -แบ่งเป็นระดับ 1-10 (ระดับหนึ่งแข็งแกร่งที่สุด จำแนกระดับตามผู้ปกครอง) หากมีเพิ่มเติมจะมาอัพเดทให้ภายหลังตามเนื้อเรื่อง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset