ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 289 คนคนนี้หน้าคุ้นมาก / ตอนที่ 290 ยัยหนูนี่ วิชาแพทย์ไม่เลว

ตอนที่ 289 คนคนนี้หน้าคุ้นมาก  

 

 

โจ๊กข้าวฟ่างอวี๋กานกานเป็นคนบอกไว้เมื่อคืน ถ้าหากผู้เฒ่าดื่มน้ำข้าวได้ ต่อไปก็ให้กินโจ๊กข้าวฟ่าง โจ๊กข้าวฟ่างมีสรรพคุณบำรุงกระเพาะ  

 

 

เจียงฉี่ตื่นแต่เช้าตรู่ พอทราบว่าเมื่อคืนคุณปู่ดิ้มน้ำข้าวได้แล้ว เธอก็รีบสั่งให้คนต้มโจ๊กข้าวฟ่างหนึ่งหม้อ  

 

 

หลังจากที่อวี๋กานกานทานข้าวเช้าเสร็จแล้ว เจียงฉี่ถือถ้วยอาหารลงมา ฝีเท้าค่อนข้างไว ทันทีที่เห็นอวี๋กานกาน เธอก็คลี่ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหา เธอทักทายฟังจือหันอ้อมๆ แอ้มๆ ก่อน จากนั้นยืนถ้วยเปล่าให้อวี๋กานกานดู “โจ๊กข้าวฟ่างหนึ่งถ้วย คุณปู่กินหมดแล้วค่ะ”  

 

 

ดวงตาของเจียงฉี่ไม่สามารถควบคุมความปลื้มปิติได้ ใบหน้างดงามสดใสราวกับร้อยบุปผาผลิบานในวสันตฤดู ชวนให้ผู้คนที่มองเห็นรู้สึกเบาสบายใจ อวี๋กานกานระบายยิ้มบาง “ชี่กระเพราของผู้เฒ่าฟื้นกลับมาแล้ว จากนี้ก็จะไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนอีก ตอนนี้สามารถให้ทานยาต้มที่ผู้อาวุโสหวงจ่ายไว้ได้แล้ว”     

 

 

เจียงฉี่พนักหน้าหงึกหงัก   

 

 

ในเมื่อผู้เฒ่าเจียงดีขึ้นมากแล้ว อวี๋กานกานจึงตั้งใจจะกลับ  

 

 

เจียงฉี่ไม่อยากให้อวี๋กานกานไป จับมือของอวี๋กานกานอย่างทำใจไม่ได้ “อย่าเพิ่งรีบกลับสิคะ อีกเดี๋ยวผู้อาวุโสหวงจะมา ซ้อรอตรวจพร้อมผู้อาวุโสแล้วค่อยกลับได้ไหมคะ”  

 

 

น้ำเสียงนุ่มนิ่มของหญิงสาว สีหน้าอ่อนโยนราวกับสายน้ำ อวี๋กานกานปฏิเสธไม่ลง ไหนๆ ก็อยู่ถึงขนาดนี้แล้ว อีกสักชั่วโมงคงไม่เป็นไร เธอจึงตอบตกลงไป  

 

 

ประตูใหญ่ของตระกูลเจียงถูกเปิดออก อวี๋กานกานนึกว่าผู้อาวุโสหวงมาถึงแล้ว ทว่ากลับเห็นผู้ชายวัยหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา  

 

 

เมื่อเห็นชายคนนั้น เจียงฉี่ยิ้มแล้วเรียก “พี่ใหญ่ มาแล้วเหรอคะ”  

 

 

เจียงไป่อันยิ้มให้เจียงฉี่ จนกระทั้งหันไปเห็นฟังจือหันที่อยู่ข้างๆ สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”  

 

 

ฟังจือหันสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนอย่างเคย เหลือบมองชายคนนั้นด้วยสายตาหยิ่งยโส เย็นเยือก  

 

 

สายตานี้สำหรับเจียงไป่อันคือการวางมาดสูงส่ง ทั้งยังเจือความดูถูกเหยียดหยาม  

 

 

เขาต่างหากที่เป็นพี่ใหญ่ ฟังจือหันมีสิทธิอะไรถึงได้เป็นผู้สืบทอด  

 

 

แววตาของฟังไป่อันเย็นเยือกประหนึ่งน้ำค้างแข็ง “เหอะ ตอนนั้นที่ออกไปไม่ใช่พูดไว้ว่าจะไม่กลับมาอีกเหรอ” สายตาเลื่อนมามองอวี๋กานกาน พลันนึกถึงความปรารถนาของปู่ที่อยากอุ้มหลาน ฟังจือหันจงใจมาเอาอกเอาใจปู่แน่ “ไม่ใช่แค่กลับมาคนเดียวนะ ยังพาแฟนกลับมาด้วย” พูดจากระแนะกระแหน พร้อมกับกลั้วหัวเราะ  

 

 

เจียงฉี่เริ่มไม่สบอารมณ์ พูดกับเจียงไป่อัน “หนูเป็นคนตามพี่กลับมาเองค่ะ”  

 

 

เจียงไป่อันพูดถากถาง “มันนับว่าเป็นพี่เธอได้เหรอ คิดว่ามันเห็นเธอเป็นน้องสาวไหม”  

 

 

เจียงฉี่รีบส่ายหน้า “ไม่ใช่แบบนั้น พี่เขา…”  

 

 

ฟังจือหันสีหน้าไร้อารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เจตนาจะตอบกลับเจียงไป่อันแม้แต่คำเดียว เขาลุกพรวดหมุนตัวเดินขึ้นชั้นบน  

 

 

เจียงไป่อันพลันโมโหเดือดดาล ตะโกนให้หลังฟังจือหัน “เก่งจริงก็อย่ากลับมาอีก!”  

 

 

อวี๋กานกานคิ้วขมวด มองเจียงไป่อันด้วยสายตาเย็นชา   

 

 

เขาสัมผัสได้ถึงแววตาของอวี๋กานกาน แค่นเสียงหัวเราะ “มองอะไร เธอคงไม่คิดหรอกนะว่าถูกพามาที่ตระกูลเจียงแล้วเขาจะแต่งงานด้วย”  

 

 

สีหน้าของอวี๋กานกานเย็นชาขึ้นหลายส่วน ผู้ชายคนนี้รู้สึกหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ว่านึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน เคยเป็นคนไข้ของเธอเหรอ รู้สึกเหมือนไม่ใช่ แล้วเคยเจอที่ไหนกันนะ  

 

 

เจียงฉี่รีบอธิบาย “พี่ใหญ่ คุณหมออวี๋มารักษาคุณปู่ โชคดีที่ได้คุณหมออวี๋ คุณปู่ถึงไม่เป็นอะไร”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 290 ยัยหนูนี่ วิชาแพทย์ไม่เลว  

 

 

เจียงไป่อันเหมือนได้ฟังเรื่องพันหนึ่งราตรี[1] หัวเราะเยาะ “ว่าอะไรนะ หมอ? ยัยนี่เนี่ยนะ แถมยังรักษาให้ปู่อีก ฉันขอพูดหน่อยนะเสี่ยวฉี่ นี่เป็นความตั้งใจของเธอหรือฟังจือหัน”  

 

 

ต้องเป็นแผนการร้ายแน่!  

 

 

ในตอนที่เจียงฉี่กำลังจะอธิบาย ฟังจือหันที่เพิ่งเดินขึ้นชั้นบนไปได้ไม่นาน เดินลงมาอย่างรวดเร็ว ในมือถือกระเป๋าสัมภาระของอวี๋กานกาน เห็นได้ชัดว่ากำลังจะกลับ  

 

 

เจียงฉี่รีบเดินปรี่เข้าไป น้ำตาคลอเบ้า “พี่คะ…”  อย่าเพิ่งไป    

 

 

ฟังจือหันชำเลืองมองเจียงฉี่ด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร เดินอ้อมเธอมาพูดกับอวี๋กานกาน “กลับเถอะ”  

 

 

อวี๋กานกาน “…”  

 

 

เมื่อครู่เธอรับปากเจียงฉี่แล้วว่าจะรอตรวจพร้อมผู้อาวุโสหวงแล้วค่อยกลับ แต่ว่าถ้าฟังจือหันอยากจะกลับตอนนี้ เธอก็เห็นด้วยเต็มที่ แม้ว่าเจียงฉี่จะมองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน เธอก็ทำได้เพียงยิ้มขอโทษแล้วกลับไปพร้อมกับฟังจือหัน  

 

 

นึกไม่ถึงว่าจะเจอกับผู้อาวุโสหวงที่หน้าประตู ผู้อาวุโสหวงเห็นอวี๋กานกานประโยคแรกที่ถามคือ “ผู้เฒ่าเจียงเป็นไงบ้าง”  

 

 

อวี๋กานกานยิ้มแล้วกล่าว “ผู้เฒ่าสามารถทานอาหารได้แล้วค่ะ”  

 

 

ผู้อาวุโสหวงตกตะลึง “ไปๆ ตามฉันขึ้นไปตรวจ”  

 

 

พูดจบ ไม่เปิดโอกาสให้อวี๋กานกานได้ปฏิเสธ ก้าวเท้าเดินนำขึ้นไปชั้นบน อวี๋กานกานเหลือบไปมองฟังจือหัน ฟังจือหันยืนนิ่งอยู่สองวินาที ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ เชิงอนุญาตให้อวี๋กานกานตามขึ้นไปได้  

 

 

ภายในห้องพักผู้ป่วยของผู้เฒ่าเจียง อวี๋กานกานชำเลืองมองสีหน้าของผู้เฒ่า ดูดีขึ้นมากแล้วจริงๆ  

 

 

ผู้อาวุโสหวงประหลาดใจไม่หยุด รีบแตะข้อมือของผู้เฒ่าเจียงเพื่อตรวจชีพจร เพียงครู่เดียวก็กล่าวออกมาเสียงดังลั่น “ชี่กระเพาะฟื้นฟูแล้ว เจิ้งชี่[2]ก่อกำเนิด ยินดีด้วยผู้เฒ่าเจียง”   

 

 

แววตาของผู้เฒ่าเจียงฉายประกายรอยยิ้ม “ต้องขอบคุณ…” ผู้เฒ่าชะงักเล็กน้อย กระแอมเบาๆ สองที “ยัยหนูนี่ วิชาแพทย์ไม่เลว”  

 

 

ท่าทางหยิ่งผยอง ทำให้คนในห้องพากันส่งเสียงหัวเราะ  

 

 

อวี๋กานกานประสานมือทำความเคารพผู้อาวุโสหวง “ผู้อาวุโสหวงจับชีพจรแม่นยำ หนูถึงได้มีโอกาสเรียนรู้ไปด้วย พูดตามตรงในใจหนูยังมีความรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ ต้องขอบคุณผู้อาวุโสหวงที่ให้กำลังใจ”  

 

 

ผู้อาวุโสหวงหัวเราะพลางลูบเครา กล่าว “น้ำผักป่าผู้เฒ่าเขียงดื่มได้แต่แรกเลยหรือ”  

 

 

เจียงฉี่ส่ายหน้าตอบ “ไม่ค่ะ ครั้งแรกคุณปู่อาเจียนออกมา ต่อมาได้คุณหมออวี๋ฝังเข็มให้ หลังจากฝังเข็มคุณปู่ถึงดื่มได้ค่ะ”  

 

 

ผู้อาวุโสพยักหน้า ถ้าเป็นเขา เขาก็จะเลือกใช้วิธีนี้เช่นกัน เพียงแต่ว่าเข็มเงินขจัดออก เข็มทองเสริมสร้าง อาการของผู้เฒ่าเจียง ไม่ควรใช้เข็มเงิน  

 

 

ประหนึ่งคาดเดาได้ว่าผู้อาวุโสหวงกำลังจะถามอะไร อวี๋กานกานยิ้มแล้วกล่าว “ร่างกายของผู้เฒ่าเจียง ใช้เข็มทองจะเหมาะสมกว่าค่ะ”  

 

 

ผู้อาวุโสหวงแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง แววตาแฝงไว้ด้วยความชื่นชม “อายุยังน้อย นึกไม่ถึงว่าจะใช้เข็มทองเป็น ใครสอนเหรอ”  

 

 

อวี๋กานกานตอบ “วิชาแพทย์ของหนูศึกษาเล่าเรียนมาจากคุณปู่ค่ะ เทคนิคการใช้เข็มทองของคุณปู่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ หนูเรียนมาแค่ผิวเผินเท่านั้น”  

 

 

ผู้อาวุโสหวงถามต่อ “ขอทราบนามของปู่หนูได้ไหม”  

 

 

ลูกศิษย์ฝีมือไม่เลว ผู้เป็นอาจารย์ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง แต่ในหมู่คนเขารู้จัก แพทย์แผนจีนแนวหน้าระดับประเทศไม่มีใครใช้แซ่อวี๋เลย ที่แท้ก็เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน  

 

 

“ชื่อเต็มของปู่หนูคือเหอเฉิงโส่วค่ะ”  

 

 

ทันทีที่ชื่อนี้ถูกกล่าวออกมา ดวงตาของผู้อาวุโสหวงเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง ถามด้วยความตื่นเต้น “ปู่ของหนูคือผู้อาวุโสเหอ?”  

 

 

แม้ว่าเขากับผู้อาวุโสเหอจะอายุห่างกันไม่มาก แต่ด้านวิชาแพทย์กลับห่างชั้นกันมาก  

 

 

อวี๋กานกานแปลกใจเล็กน้อย ถามอย่างงุนงง “ผู้อาวุโสหวงรู้จักปู่ของหนูเหรอคะ”  

 

 

 

 

 

——  

 

 

[1] พันหนึ่งราตรี  เป็นชื่อนิยายแฟนตาซีชื่อดัง อุปมาว่า เพ้อเจ้อ เป็นไปไม่ได้ ไร้สาระ

 

 

[2] เจิ้งชี่  คือ ภูมิต้านทานของร่างกายตามหลักแพทย์แผนจีน 

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset