ตอนที่ 331 ไม่เรียกป้าก็เรียกย่า
เอาความคิดที่คับแคบของตนไปใช้กับคนที่ใจคอกว้างขวาง เป็นเสียงกระซิบดังขึ้นมาในใจของอวี๋กานกาน
ได้เจอกันหลายครั้ง ไม่รู้ว่าท่าทางของอวี๋กานกานที่มีต่อเจียงไป๋อันนั้นแย่แค่ไหน คิดว่าเอาเขามาเทียบกับสามวีรบุรุษแห่งปักกิ่งที่ฉาวโฉ่แล้วแย่ไปไกลลิบลับ
แม้บางครั้งเยี่ยซีจะสารเลวไปบ้าง ยโสโอหังและไร้เหตุผล
จะต้องอัดหรือด่าคนที่ไม่ชอบให้ได้ พอเห็นสาวที่ชอบก็ไม่สนว่าเธอจะยอมให้เข้าหาหรือไม่
แต่ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยซี หรือเฉินมั่ว เสินตงชิงก็ดูออกว่าเป็นเด็กสามคนที่กตัญญูกันหมด
อีกทั้งพวกเขาอายุน้อย การที่พวกเขาเสเพลมากยิ่งขึ้นเป็นการแสดงออกว่ายังไม่โตอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งเพื่อปลดปล่อยโอ้อวดตนเอง
นั่นมันเหมือนกับเจียงไป๋อันราวกับเป็น VIP แห่งวายร้าย นักสู้ในหมู่คนเลว
ตอนที่ปู่เจียงล้มป่วยไม่ได้เจอเขาเลย ไม่มาดูแลและก็ไม่มาเป็นห่วงเป็นใย
หมอมาตรวจอาการของชายแก่เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่ถามเลยสักคำ
ใส่ใจแต่เพียงปัญหาเรื่องผู้สืบทอดตระกูลเจียงเท่านั้น
รอจนสุขภาพชายแก่ดีขึ้นบ้างก็ถือใบแผนงานมาให้เขาเซ็นชื่อ ตามที่ฟังจือหันว่าแผนการนั้นยังมาหลอกเอาเงินตระกูลเจียง ไม่ได้กังวลเลยว่าจะโดนปู่เจียงโมโหแทบตายหรือไม่สักนิดเดียว
อวี๋กานกานไม่อยากสนใจเจียงไป๋อัน ทำเหมือนเขาเป็นอากาศ
เจียงไป๋อันเอ่ยอย่างเย็นชาขึ้นมา “ฟังจือหันให้เงินเธอมาเท่าไหร่ ฉันจะให้เพิ่มสองเท่าเลยเป็นไง”
ขยะจำพวกนี้อยากจะเหยียบหัวฟังจือหัน มิน่าฟังจือหันถึงไม่อยากจะพูดกับเขามากนัก แม้แต่อากาศในที่ที่มีเขาอยู่ก็กลายเป็นขุ่นมัวไปหมดจริงด้วย
อวี๋กานกานยกยิ้มมุมปากเหมือนกำลังยิ้มอยู่ แต่ความจริงแววตาเยือกเย็น เธอพูดอย่างเชื่องช้า “วันนี้ จู่ๆ ปู่เจียงก็พูดเรื่องหนึ่งกับฉันขึ้นมา”
เจียงไป๋อันนัยน์ตาขุ่นเล็กน้อย นิ่งเงียบ
อวี๋กานกานจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “ปู่เจียงบอกว่าฉันถือว่าถอดแบบเขามา จะนับฉันเป็นลูกสาว ฉันตอบตกลงไปแล้ว ก็หมายความว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันเป็นป้าของนาย หลานชายที่ดี นายพูดจาแบบนี้กับป้าของนายเหมาะสมแล้วเหรอ”
นับเป็นลูกสาว
ตาแก่นั่นหมายความว่าอะไร
เจียงไป๋อันไม่อยากเชื่อ แสยะยิ้ม “นับเธอเป็นลูกสาว ฟังจือหันใช้เงินเชิญเธอมา ไม่ใช่ว่าอยากจะประจบปู่หรอกแต่เพราะอยากจะให้เธอแต่งกับคุณปู่ของพวกเราต่างหาก…”
อวี๋กานกานไม่ได้โกรธเคืองแต่ส่งรอยยิ้มประชดประชัน “ที่แท้นายก็ไม่อยากเรียกฉันว่าป้า นายอยากจะเรียกฉันว่าย่าสินะ เด็กดี”
เจียงป๋ออันถูกยั่วโมโหบ้าง สีหน้าแปรเปลี่ยนในทันที
เขาพลันลุกขึ้นยืน จ้องเขม็งพร้อมกับพูดขู่อวี๋กานกาน “แม่เธอสิ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ”
อวี๋กานกานไม่ได้หวาดกลัวอีกทั้งยืนขึ้นประจันหน้ากับเขาแล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “นายคิดมากไปแล้ว ฉันมีชีวิตอยู่อย่างอิสระและอยากจะอยู่ไปอีกห้าร้อยปีเลยจริงๆ ถ้านายอยากจะตาย รบกวนนายไปตายให้ไกลหน่อย อย่ามาปลุกคุณปู่ตอนนอนหลับ”
คำพูดเหล่านี้เหมือนกับไปกระตุ้นความโกรธของเจียงไป๋อันโดยสิ้นเชิง
เพียงครู่เดียวสายตาคมกริบที่เขามองอวี๋กานกานฉายแววเ**้ยมโหด
อวี๋กานกานระแวดระวังมาก เอามือสอดเข้าไปลูบกล่องเข็มเล็กที่พกติดตัวใส่ในกระเป๋า หากเจียงไป๋อันลงมือเธอก็จะสู้กลับอย่างแน่นอน
เธอเตรียมถือกล่องยาออกไป
ลุกขึ้นยืนยังไม่ทันได้ก้าวไปไกลก็ต้องหยุดเท้าลง
เจียงไป๋อันสาวเท้ามาอยู่ตรงหน้าแล้วดึงแขนเธอเอาไว้ “เธออย่านึกว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกับฟังจือหันกำลังทำอะไรอยู่นะ”
อวี๋กานกานเลิกคิ้วเล็กน้อย หยิบเข็มมาแทงเจียงไป๋อันในทันที
เจียงไป๋อันเจ็บก็รีบปล่อยมือทันที อ้าปากค้างพลางกุมจุดที่โดนเข็มตำ หลังจากนั้นก็จ้องอวี๋กานกานตาเขม็ง “เมื่อกี้เธอทำอะไร”
ตอนที่ 332 ยุให้แตกคอแล้วถึงนึกขึ้นได้
อวี๋กานกานจับด้ามเข็มซ่อนไว้ในแขนเสื้อเพื่อไม่ให้เขารู้
เจียงฉี่ถือของขวัญพลางสับเท้าลงมาชั้นล่าง ปากก็ฮัมเป็นทำนองเพลง
เมื่อเห็นเจียงไป๋อันจ้องอวี๋กานกานอย่างอำมหิต เธอก็ตกใจพร้อมกับวิ่งหน้าซีดมาทันที
เจียงฉี่ยืนขวางตรงหน้าอวี๋กานกานพร้อมกับมองไปที่เจียงไป๋อันอย่างขุ่นเคือง “พี่ใหญ่ พี่ทำอะไร”
น้องสาวตัวน้อยที่พูดจาอ่อนหวานนุ่มกับตนเองมาโดยตลอดกลับมองหน้าเขาด้วยความโมโหเพราะคนนอกคนหนึ่ง เจียงไป๋อันข่มความโกรธในใจไม่ไหวแล้ว
สีหน้าไร้อารมณ์ของเขา น้ำเสียงแข็งกร้าวเอ่ยเย้ยหยัน “เธอลืมไปแล้วใช่ไหมว่าเธออยู่ฝั่งไหน”
เจียงฉี่สีหน้าลังเลปนไม่สบายใจ
เธอขบริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจ “พี่ใหญ่ พี่อย่าเป็นแบบนี้ หมออวี๋เป็นแขก เรื่องอาการป่วยของคุณปู่ก็ต้องขอบคุณเขา”
เจียงไป๋อันยิ้มเยาะเอ่ยค้าน “ขอบคุณเขา เขาเป็นคนของฟังจือหัน เธออย่ามาบอกฉันเลยว่าเธอไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟังจือหัน”
เจียงฉี่หลุบตาลง “เขาเป็นแฟนของพี่ฟังจือหันนั่นไม่ดีขึ้นไปอีกเหรอ”
ด้วยคำพูดนี้ทำให้เจียงไป๋อันดูผิดหวังในตัวเธอ เขายกมือชี้ไปที่เจียงฉี่พร้อมกับข่มความโกรธ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่า “เธอนี่มันไร้สมองจริงๆ ลืมไปแล้วใช่ไหมว่าตอนนั้นฟังจือหันพูดกับเธอ แม่ของเธอว่ายังไง”
เจียงฉี่เอ่ยเสียงเบา “พี่เขาไม่ได้ทำอะไรให้ฉันกับแม่ ตอนนั้นเป็นฉันกับแม่ที่ทำผิดต่อพี่เขา แม่ของเขา ฉันโตขึ้นแล้ว เรื่องบางเรื่องฉันเข้าใจทั้งหมด ตอนนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่…”
สายตามุ่งร้ายของเจียงไป๋อันจ้องมาที่เธอพร้อมกับพูดแทรกขึ้นมา “งั้นเธอจำได้อีกไหมว่าตอนนั้นใครที่เป็นคนดูแลเธอกัน”
เจียงฉี่พูดด้วยความซาบซึ้งใจ “พี่ใหญ่กับลุงสองดีกับฉันมาก หลายปีมานี้ที่พี่เขาไม่อยู่บ้าน ตอนที่คุณปู่ คุณพ่อต่างยุ่งกันหมดก็เป็นพวกพี่ที่ดูแลฉัน ฉันขอบคุณพวกพี่มากจริงๆ แต่ว่าพี่ใหญ่คะ พี่เขาเป็นพี่ชายของฉัน คุณพ่อบอกว่า…”
ไม่รอให้เธอพูดจบ เจียงไป๋อันก็โมโหกระชากแขนเจียงฉี่ “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เธอก็เป็นคนเนรคุณด้วย ดีเสียจริงที่พวกเราดีกับเธอขนาดนั้น แต่ผลตอนนี้เธอเห็นฟังจือหันมีอำนาจก็เปลี่ยนข้างไปในทันที”
“พี่ใหญ่ พี่ปล่อยมือก่อน” ข้อมือเจียงฉี่ถูกดึงจนเจ็บ
“เธอคิดว่าฟังจือหันจะดีกับเธองั้นเหรอ เธออย่าลืมล่ะตอนนั้นแม่ของเธอแทรกเข้ามา ยั่วยวนพ่อของเธอจนทำให้แม่ฟังจือหันต้องตาย เขาเกลียดพวกเธออยู่แล้ว จะมานับเธอเป็นน้องสาวได้ยังไง…”
เจียงฉี่รู้สึกเหมือนข้อมือตนเองแทบจะหัก เจ็บซะจนน้ำตาไหลออกมา
อวี๋กานกานขมวดคิ้วพลางถือเข็มไปทิ่มที่มือของเจียงไป๋อันอีกครั้ง
เจียงไป๋อันเจ็บ หลุดเสียง “ซี๊ด” แล้วปล่อยมืออีกครั้ง
ความสนใจของเขาอยู่ที่ตัวเจียงฉี่จึงไม่เห็นว่าอวี๋กานกานทำอะไร
มองดูที่มือของตนเองด้วยความมึนงงและมองไปที่อวี๋กานกานอย่างหวาดหวั่น ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรกันแน่
เกิดความกลัวฉายวาบขึ้นมาในใจเจียงไป๋อัน เขาเสียเปรียบแล้ว เดือดดาล หายใจฟึดฟัด ยื่นมือไปผลักเจียงฉี่ซึ่งอยู่ตรงหน้าอย่างแรงในทันที
เจียงฉี่ถูกเขาผลักจนล้มเซไปด้านหลัง หัวจะพุ่งไปโขกตรงมุมโต๊ะชา
อวี๋กานกานมือเร็วตาไว โอบให้เจียงฉี่ล้มมาทางตัวเอง
เจียงฉี่รอดตายอย่างหวุดหวิด แต่ว่าแผ่นหลังของอวี๋กานกานชนเข้ากับม้านั่งไม้จันทร์แดงอย่างเต็มเปา
แรงกระแทกในครั้งนี้ไม่เบาเลย บวกกับเจียงฉี่ซึ่งอยู่ด้านหน้าล้มมาที่ตัวของเธอ อวี๋กานกานเจ็บจนต้องสูดปาก
ฉากนี้มันช่างคุ้นตาเหลือเกิน
ทันใดนั้นอวี๋กานกานก็นึกขึ้นได้แล้วว่าเธอเคยเจอเจียงไป๋อันที่ไหน