นัยน์ตาของทุกคนปรากฏความตกใจ
เหอหว่านซินหยิบกระดาษทิชชูพุ่งเข้าไปด้านหน้าทันที เธอเช็ดคราบไวน์บนหน้าหยางเทียนโย่วพร้อมทั้งคร่ำครวญอย่างเป็นกังวล “เทียนโย่ว คุณเป็นยังไงบ้าง”
เธอจ้องฟังจือหันเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกทำเกินไปแล้วนะ แกทำร้ายร่างกายคนอื่นได้ยังไง” อาจเป็นเพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงและฟังจือหันไม่น่าจะทำร้ายผู้หญิง เธอกำหมัดพุ่งมาทางฟังจือหัน
อวี๋กานกานเดินมาด้านหน้าฟังจือหันทันที หยิบขวดไวน์บนโต๊ะชี้ไปที่เหอหว่านซิน “เหอหว่านซิน!”
เหอหว่านซินตกใจหยุดฝีเท้าในทันที “อวี๋กานกาน แกกล้าเหรอ!”
อวี๋กานกานกลั้วหัวเราะ “เธอกับหยางเทียนโย่วนี่มันชายโฉดหญิงชั่วชัดๆ คู่สวรรค์สร้างโดยแท้ ถ้าพวกเธอไม่ได้คบกันคงเป็นเรื่องที่โคตรน่าเสียดายในรอบศตวรรษ แต่ดูจากท่าทางรักใคร่กลมเกลียวของพวกเธอทั้งคู่แล้ว ฉันว่าน่าจะคบกันแล้ว ขออวยพรให้พวกเธอรักกันตราบชั่วนิรันดร อย่าได้มีวันต้องแยกจากกัน จะได้ไม่ไปเป็นภัยต่อผู้อื่น”
พูดยังไม่จบดี ประตูห้องวีไอพีถูกเปิดออกอีกครั้ง
ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน ตะเบงเสียงถามอวี๋กานกานดังลั่น “น้องกานกาน เธอว่าอะไรนะ เธอบอกว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน? พวกเขาจะเป็นคู่รักกันได้ไง”
ผู้ชายคนนี้โครงหน้าได้สัดส่วน ทั้งดำทั้งสูงใหญ่และบึกบึน สวมชุดหนังกับกางเกงยีน นี่มันไม่ใช่…แฟนตัวจริงของเหอหว่านซินเถียนรุ่ยซานหรอกเหรอ
ทำไมเขาถึงมาที่นี่ด้วย?
–
เถียนรุ่ยซานเคยเจอหยางเทียนโย่ว นั้นคือเมื่อวันก่อน หลังจากที่หยางเทียนโย่วถูกปล่อยตัวจากสถานีตำรวจ เหอหว่านซินเป็นกังวลเมื่อวานจึงนัดออกกัน บังเอิญตอนที่หยางเทียนโย่วจับมือเธออยู่ถูกเถียนรุ่ยซานเห็นเข้า
ในตอนนั้นอยู่ในที่สาธารณะ เพื่อคลี่คลายเรื่องนี้ให้จบๆ ไป เหอหว่านซินทำได้เพียงปลอบเถียนรุ่ยซานไปก่อนว่าหยางเทียนโย่วเป็นแค่คนคนหนึ่งที่ตามตอแยจีบเธอ
เถียนรุ่ยซานเชื่อเธอ ไม่เคลือบแคลงใจใดๆ แม้แต่น้อย
ครั้งนี้เถียนรุ่ยซานเข้ามาปุ๊บก็จ้องเขม็งไปที่หยางเทียนโย่วทันที เปลวเพลิงแห่งความโกรธปะทุขึ้น ราวกับลูกไฟระเบิดกระเด็นกระดอน “แก แกมาตามตอแยอาซินของฉันอีกแล้ว”
น้ำเสียงเด็ดขาดของเถียนรุ่ยซานดังลั่น ออร่าโหดเ**้ยมอำมหิต เขาพุ่งตรงไปหาหยางเทียนโย่ว ต่อกรกับเถียนรุ่ยซานที่กำยำล่ำสัน หยางเทียนโย่วก็เหมือนกับกุ้งขาอ่อน[1] ตกใจกลัวก้าวถอยหลังทันที แต่เขาก็ยังถูกเถียนรุ่ยซานคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้อยู่ดี เถียนรุ่ยซานทุบตู้ที่อยู่ด้านหลังหยางเทียนโย่วอย่างแรง หยางเทียนโย่วกรีดร้องอย่างน่าเวทนาพร้อมกับเสียงขวดไวน์หล่นพื้นแตก
เนื่องจากแรงฉุดกระชากของพวกเขา ทำให้ขวดไวน์อู่ตังหวางที่ฟังจือหันสั่งหล่นพื้นแตกกระจาย
เหอหว่านซินตกใจจนหน้าซีดเผือด กรีดร้องเสียงดัง “รุ่ยซาน คุณทำอะไรของคุณ”
ลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่เองก็ค่อนข้างลนลานเช่นกัน “รุ่ยซาน อย่าเพิ่งบุ่มบ่าม มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา”
“อาซิน คุณไม่ต้องกลัวนะ ครั้งก่อนผมบอกคุณแล้วถ้ามันยังกล้าตามตอแยคุณอีก ผมจะตีมันให้พิการ” สามสี่คำหลังประโยค เถียนรุ่ยซานพูดโดยแค่นเสียงลอดไรฟัน สายตาโกรธเกรี้ยวจ้องหยางเทียนโย่ว จากนั้นต่อยเข้าไปที่หน้าหยางเทียนโย่วแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
เหอหว่านซินเห็นภาพนี้ใจแทบขาด ตวาดใส่เถียนรุ่ยซาน “เถียนรุ่ยซาน คุณทำเกินไปแล้ว คุณทำร้ายคนส่งเดชแบบนี้ได้ยังไง”
เหอหว่านซินรีบก้าวไปด้านหน้า เนื่องจากเป็นห่วงหยางเทียนโย่วมากเกินไป หลังจากที่ดึงเถียนรุ่ยซานออกยังผลักเขาอย่างแรงอีกหนึ่งที
เถียนรุ่ยซานชนเข้ากับโต๊ะ มองเหอหว่านซินด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “คุณช่วยมัน นึกไม่ถึงว่าคุณจะช่วยมัน? เมื่อวานคุณบอกกับผมว่ายังไง คุณบอกว่าคุณไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับมัน มันแค่ตามตอแยคุณ คุณไม่ชอบมัน”
ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสของหยางเทียนโย่ว เกิดรอยกำปั้นเพิ่มมาหนึ่งรอยทันที คราบเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก
——
[1] กุ้งขาอ่อน เปรียบเปรยถึงคนที่ขี้ขลาดตาขาว