ตอนที่ 373 นอนด้วยกันแล้วไม่อยากรับผิดชอบ
ความฝันในฤดูใบไม้ผลิคืนหนึ่ง
อวี๋กานกานกึ่งหลับกึ่งตื่นรู้สึกเขินอายเป็นที่สุด
เธอยั่วยวนฟังจือหันในความฝัน
ร่างกายของเขาร้อนรุ่ม มือของเขาร้อนลวก ริมฝีปากของเขาร้อนมากและจูบของเขาช่างเร่าร้อน
อุณหภูมิร่างกายของเธอสูงขึ้นเรื่อยๆ และสมองก็ยิ่งขาวโพลน
พระเจ้า!
เธอทำเรื่องน่าอายแบบนี้ในฝันได้อย่างไร
แล้วความรู้สึกราวกับว่าเป็นเรื่องจริงขนาดนั้น
อวี๋กานกานลืมตาขึ้นด้วยความมึนงง แสงแดดนอกหน้าต่างแยงตาทำให้ปรับแสงไม่ได้ ความรู้สึกบริเวณแขนมีทั้งนิ่มๆ และแข็งๆ
เธอรู้สึกง่วงเล็กน้อยแล้วหลับไปอีกครั้งด้วยความมึนงง
หลับไปได้สักครู่ จู่ๆ เธอก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติคล้ายว่ากำลังกอดใครอยู่
อวี๋กานกานค่อยๆ ลืมตาจึงมองเห็นใบหน้างดงามหล่อเหลา ชายหนุ่มตื่นแล้วนัยน์ตาหวามไหวด้วยแรงปรารถนา
เธออึ้งไปชั่วขณะ
กระพริบตาปริบๆ ให้แน่ใจสักหน่อย อยากลุกขึ้นนั่งทันทีแต่ผลคือเมื่อกำลังจะขยับตัว ชายหนุ่มข้างๆ กลับคร่อมทับเธอเอาไว้มองเธอจากเบื้องบน
อวี๋กานกานเบิกตาโพลง
หรือว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดจะไม่ใช่ความฝัน
หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจะเป็นเรื่องจริง
เธอออกแรงกลืนน้ำลาย
เธอว่าความรู้สึกแปลกๆ ที่แขนเมื่อกี้ ยังไงเธอเป็นคนที่เคยเรียนหมอมายังคงเข้าใจปฏิกิริยาทางสรีระของชายและหญิง
อย่างไรก็ตามในฐานะหมอ เธอยังสามารถยืนยันได้ทันทีว่าทั้งสองคนฟัดกันไปมาอยู่นานเมื่อคืนนี้ สิ่งที่ควรทำก็ทำไปหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำกันถึงขั้นลึกซึ้ง
ผู้ชายในตอนเช้าน่ากลัวที่สุด แค่มีอารมณ์นิดเดียวก็ตื่นแล้ว
เมื่อคืนไม่ได้ไปต่อจนเสร็จ เช้านี้อยากต่อไหม
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
อวี๋กานกานพูดขึ้นมาก่อน “ฟังจือหัน สรุปว่าคุณทำอะไรไป”
“คุณว่าไงล่ะ”
ชายหนุ่มที่พึ่งตื่นกระซิบเสียงแหบเซ็กซี่ทำให้อ่อนระทวยไปทั้งร่าง
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหน้าทำเธอร่างกายสั่นพร่าเหมือนน้ำกำลังละลายในฤดูใบไม้ผลิ อดไม่ได้อยากนอนขดตัว
อวี๋กานกานยุบยิบในใจ พูดอย่างเขินอาย “คุณก็เกินไปจริงๆ ฉวยโอกาสฉันตอนเมาได้ยังไง”
เธออยากผลักชายหนุ่มที่นอนทับข้างบน ผลคือชายหนุ่มกดร่างเธอหนักกว่าเดิมอีก “ทำไม นอนด้วยกันแล้วไม่อยากรับผิดชอบเหรอ”
อวี๋กานกานอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนตะกุกตะกักถาม “นอนด้วยกันแล้วไม่อยากรับผิดชอบอะไรล่ะ เห็นชัดๆ ว่าฉันเมา แต่เป็นคุณที่…”
“เป็นคุณที่นอนกอดผมทั้งคืน…” ฟังจือหันยืนยันเสียงทุ้มต่ำ “เมาแล้วคุณจำไม่ได้ งั้นตอนคุณตื่นมาคุณทำอะไรคุณน่าจะรู้ดี คงไม่ต้องให้ผมพูดอะไรหรอกมั้ง”
อวี๋กานกานหน้าแดงลามไปถึงหู “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่ได้มีอะไรกับคุณจริงๆ สักหน่อย หรือต่อให้มีอะไรกันจริงคนที่เสียหายควรจะเป็นฉันต่างหากล่ะ”
สีหน้าฟังจือหันเหมือนทำอะไรไม่ถูกจึงลุกขึ้น “ช่างเถอะ ผมชินแล้ว”
ทำไมพูดเสียจนเธอกลายเป็นผู้หญิงที่ฟันแล้วทิ้งไปได้
อวี๋กานกานโมโหจัดดวงตาเบิกกว้าง
เธอลุกขึ้นจากเตียง โมโหจนพูดไม่ออก “เมื่อก่อนเพราะคุณสืบคดีของพ่อคุณ คุณถึงบอกว่าเป็นสามีฉัน ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้จักคุณเลยด้วยซ้ำ”
ตอนที่ 374 คุณฉลาดเกินไป ฉันกลัว
แววตาของฟังจือหันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ดังนั้นที่คุณอยากย้ายออกไป เพราะไม่อยากเจอผมอีกใช่ไหม”
ในใจเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่มีใครเข้าใจ อวี๋กานกานพูดออกมาอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ “ฉันจัดการกับความสัมพันธ์ไม่เก่ง ฉันไม่เข้าใจการอ้อมค้อมไปมาระหว่างคน ฉันทุ่มเวลาและกายใจทั้งหมดไปที่การเรียนหมอกับคุณปู่ ก็เหมือนคนฉลาดอย่างคุณ ฉันอาจจะใช้สมองทั้งหมดแต่ไม่สามารถเดาความคิดในใจคุณได้ ทั้งแผนการของคุณและเป้าหมายสุดท้ายของคุณ ดังนั้นฉันจะบอกคุณให้ชัดเจน ฉันไม่รู้ว่าอาจารย์ของฉันอยู่ที่ไหน คุณไม่ต้องเสียสละความสุขของตัวเองอีกเพื่อมาอยู่เคียงข้างฉัน”
ร่างสูงโปร่งลุกยืนขึ้นจากเตียงเช่นกัน
แม้ว่าในบ้านจะมีเครื่องทำความร้อน แต่อาจแข็งตัวได้หากสวมใส่เสื้อผ้าบางเกินไปในฤดูหนาว
ฟังจือหันหยิบเสื้อขนเป็ดของอวี๋กานกานข้างๆ ขึ้นมาและสวมมันให้กับเธอโดยไม่คำนึงว่าเธอต้องการหรือไม่ก็ตาม “คุณไม่ต้องเดาความคิดในใจผม ทั้งแผนการและเป้าหมายสุดท้ายของผม เพราะผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณ”
อวี๋กานกาน “…”
ฟังจือหันยังคงพูดต่อ “ผมสงสัยว่าอาจารย์ของคุณฆ่าพ่อผม แต่คุณเคยไปบ้านตระกูลเจียงคุณควรรู้ว่าผมไม่นับว่าเติบโตในตระกุลเจียง ผมจะเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อสืบหาความจริงทำไม ครั้งแรกที่ผมเคียงข้างคุณผมก็แค่อยากจะปกป้องคุณ คุณคือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ปล่อยคุณไป”
อวี๋กานกานกระตุกมุมปากประชดเล็กน้อย “ฉันคือเหตุผลที่ทำให้คุณไม่ปล่อยฉัน ฉันให้คุณตามสืบอาจารย์ของฉันหรือเปล่า ดังนั้นคุณสามารถอยู่เคียงข้างฉันอย่างกล้าหาญ อ้างเหตุผลช่วยฉันตามสืบอาจารย์ของฉันอยู่ที่ไหน ความจริงคุณตามแก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อคุณต่างหากล่ะ”
สายตาของฟังจือหันเย็นเฉียบ “ตามแก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อกับจะอยู่หรือไม่อยู่ข้างคุณแล้วมันขัดแย้งกันไหม”
อวี๋กานกานหัวเราะขมขื่น “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง คุณฉลาดขนาดนั้นแค่ใช้สมองนิดหน่อยคุณก็วางแผนคนอื่นได้แค่เดาเรื่อยเปื่อยคุณก็บอกแผนการคนอื่นชัดเจน ถ้าคุณอยากทำยังไงกับฉันจริงๆ ฉังคงต้องใช้สิบสมองคิดจนตายถึงจะเข้าใจ”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้ คุณคบกับผมแล้ว” จู่ๆ ฟังจือหันก็พูดพาล
“ฉันไปคบกับคุณตอนไหน” อวี๋กานกานตกใจ เธอจำได้ว่าไม่ได้สารภาพรัก ตอนเขาสารภาพรักเธอก็ไม่ได้ตอบกลับไป พวกเขาจะคบกันได้อย่างไร
ฟังจือหันถามกลับไป “คุณคิดว่าตอนนี้พวกเราต่างอะไรกับคู่รักสามีภรรยาล่ะ”
มีอะไรแตกต่างล่ะ ไม่มีอะไรแตกต่างเลย
ต่อให้เธอหวั่นไหวกว่านี้หรือรู้สึกว่าทั้งหมดก็เป็นเรื่องหลอกลวงแต่กลับรู้ดีว่าความสัมพันธ์พวกเขามันคลุมเครือ
ฟังจือหันไม่ชัดเจนกับเธอ
เธอก็ไม่อยากคลุมเครือกับหางจือหัน
อวี๋กานกานร้องไห้ไม่มีน้ำตา รู้สึกว่าตัวเองรนหาที่ตายจริงๆ
ถึงแม้จะไม่แตกต่างกับสามีภรรยาหรือคู่รัก แต่จะบอกปัดว่าอยู่ด้วยกันแล้วไมได้
ราวกับมีก้อนสะอึกจุกอยู่ในลำคอ อวี๋กานกานพูดขึ้นด้วยความโกรธ “คนอย่างคุณไม่พูดมากแต่พูดทีฟาดฟันทุกประโยค ฉันเถียงคุณไม่ชนะหรอกค่ะ น่าเสียดายที่คุณไม่ได้เป็นนักเจรจา”
“กับคนอื่นผมไม่พูดมากขนาดนี้”
“แล้วทำไมกับฉันคุณถึงพูดมากขนาดนี้”
ฟังจือหันตีหน้าขรึม จู่ๆ ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทว่าจริงจัง “เพราะชอบคุณไงล่ะ”
อวี๋กานกานมองเขาอึ้งๆ
คำห้าพยางค์แผดเผาหัวใจ อวี๋กานกานกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนจะถามออกไปอย่างซื่อๆ “เพราะอะไรถึงชอบฉัน”
ฟังจือหันยิ้มและตอบเธอ “งั้นเพราะอะไรคุณถึงชอบผมล่ะ”