ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 459 โรคตา เจอคนคุ้นเคยอีกแล้ว / ตอนที่ 460 อวี๋กานกานสังเกตเท่าที่จะเป็นไปได้

ตอนที่ 459 โรคตา เจอคนคุ้นเคยอีกแล้ว

 

 

อวี๋กานกานยิ้มตอบอย่างมีมารยาท “สวัสดีค่ะ”

 

 

เจี่ยนเหยี่ย?

 

 

ทำไมรู้สึกคุ้นชื่อนี้อยู่หน่อยๆ กันนะ

 

 

เจี่ยนเหยี่ยนำทั้งสองคนขึ้นมาชั้นบน มาถึงในห้องของเจี่ยนเวยเวย ห้องของเด็กสาวใช้สีชมพูแห่งความฝันโรแมนติกเป็นหลัก กำแพงสีชมพู ผ้าม่านสีชมพู โซฟาสีชมพู โต๊ะน้ำชาสีขาวกับตู้ตกแต่ง ดูไปแล้วสวยงามน่ารัก

 

 

ได้ยินเสียงเปิดประตู ทุกคนก็หันมองทันที

 

 

ปู่เจี่ยนยิ้มออกมาพลางลุกขึ้นจากโซฟา “เสี่ยวฉี่กับเสี่ยวอวี๋มาแล้วเหรอ”

 

 

เจียงฉี่รีบจูงมืออวี๋กานกานเข้าไป ส่งรอยยิ้มให้ปู่เจี่ยนพลางเอ่ย “สวัสดีค่ะปู่เจี่ยน”

 

 

เจี่ยนเวยเวยนั่งบนเก้าอี้รถเข็น ที่นั่งข้างเธอเป็นชายวัยกลางคนท่านหนึ่ง

 

 

ตอนที่อวี๋กานกานสบตากับเขา ทุกคนต่างอึ้งไปเล็กน้อย กลับเป็นคนแสนคุ้นเคยเสียได้ หมอเทวดาผู้มีชื่อเสียง หมอโจวหย่วนเฉวียน แต่ว่าช่วงนี้โจวหย่วนเฉวียนกำลังอัดรายการดูแลสุขภาพอะไรอย่างหนึ่งที่เมืองหลวงอยู่ ด้วยชื่อเสียงของเขา คนตระกูลเจี่ยนเชิญเขามาก็เป็นเรื่องปกติ

 

 

โจวหย่วนเฉวียนเชิดคางขึ้นสูง สีหน้าท่าทางดูถูกอวี๋กานกาน

 

 

อวี๋กานกานก็ไม่ได้ใส่ใจ กลับส่งยิ้มจางๆ

 

 

เจี่ยนเวยเวยขมวดคิ้วด้วยความกังวล ดวงตาเจ็บอีกทั้งพร่ามัวอยู่บ้าง เธอเห็นเพื่อนสนิทของตนเองอยู่เลือนราง

 

 

เธอรีบยื่นมือออกไป “เสี่ยวฉี่”

 

 

เจียงฉี่รีบนั่งลงข้างเจี่ยนเวยเวย “เวยเวย เธอสบายดีไหม”

 

 

เจี่ยนเวยเวยคว่ำปากพลางเอ่ย “ฉันไม่สบาย อาจจะตาบอดแล้ว หลังจากนี้ก็จะมองไม่เห็นเธอแล้ว”

 

 

เจียงฉี่ปลอบใจเธอ “ไม่หรอกๆ วิชาแพทย์ของพี่สะใภ้ฉันยอดเยี่ยมมากเชียว เขาจะต้องรักษาเธอให้หายแน่”

 

 

“พี่สะใภ้?”

 

 

เจี่ยนเวยเวยมองไปทางอวี๋กานกาน อวี๋กานกานส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ “สวัสดีค่ะ”

 

 

“สวัสดีค่ะ พี่สะใภ้” เจี่ยนเวยเวยเรียกตามเจียงฉี่

 

 

โจวหย่วนเฉวียนมองอวี๋กานกานอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ย้ายตำแหน่งของตนเองให้อวี๋กานกาน

 

 

อวี๋กานกานนั่งลง เอื้อมมือไปจับชีพจรให้เจี่ยนเวยเวย ตอนที่จับชีพจรก็สังเกตสีหน้าของเจี่ยนเวยเวย รอบๆ ห้อง อีกทั้งถามสภาพอาหารการกินอยู่ในช่วงนี้ของเธอ

 

 

สุดท้ายเธอก็ส่งยิ้มและเอ่ยกับเจี่ยนเวยเวย “ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง ตาของเธอไม่นานก็ดีขึ้น”

 

 

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนต่างอึ้งไปครู่หนึ่ง

 

 

แม้แต่เจี่ยนเหยี่ยนที่กล้าแกร่งเย็นชา สีหน้าก็มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมานิดหน่อย

 

 

ปู่เจี่ยนไม่อยากจะเชื่อ “เสี่ยวอวี๋ ความหมายของเธอคือเวยเวยไม่เป็นไร”

 

 

“อืม”

 

 

“หมอโจวหมอเทวดาจากเมืองไป๋หยางของพวกเธอ วิชาแพทย์ล้ำเลิศ เมื่อสักครู่ก็ให้เขาจับชีพจรให้เวยเวยแล้ว เขาบอกว่าสภาพค่อนข้างหนัก อาจเกิดปัญหาจากตับไต”

 

 

พอปู่เจี่ยนพูดจบ โจวหย่วยเฉวียนก็พูดขึ้น “ไตเป็นพื้นฐานของอวัยวะภายใน สารจิงของไตหล่อเลี้ยงอวัยวะภายในรวมทั้งแขนขาอวัยวะหลัก นี่น่าจะเพราะตับไตไม่ดีและส่งผลให้บำรุงดวงตาได้ไม่พอ และทำให้เกิดภาพเลือนรางชั่วคราว”

 

 

อวี๋กานกานเหมือนกับว่าเพิ่งจะเห็นเขา เรียกด้วยความมึนงง “นี่ไม่ใช่หมอโจวหมอเทวดาหรอกเหรอ บังเอิญจริงเชียว เราเจอคนไข้คนเดียวกันอีกแล้ว”

 

 

ปู่เจี่ยนเอ่ยถาม “แต่ก่อนพวกเธอเคยออกตรวจด้วยกันเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า “ตอนนั้นหลินจยาอวี่ป่วย พวกเราเคยไปด้วยกันค่ะ”

 

 

เจียงฉี่ซึ่งอยู่ด้านข้างแนะนำให้ปู่เจี่ยน “ก็พี่หลินภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกับพี่ลู่ไปนั่นค่ะ ตอนนั้นเธอป่วย เป็นพี่สะใภ้ฉันที่รักษาให้หาย”

 

 

นี่กำลังพูดอ้อมๆ ว่าวิชาการแพทย์ของอวี๋กานกานดีกว่าโจวหย่วนเฉวียน

 

 

โจวหย่วนเฉวียนใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายในพริบตา พูดเกร็งคอ “นั่นเพราะหลินจยาอวี่จงใจปกปิดอาการป่วย ไม่ใช่หมอคนอื่นที่รักษาไม่ดี”

 

 

อวี๋กานกานส่งเสียงอ๋อเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปอีก และไม่มองเขาอีก

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 460 อวี๋กานกานสังเกตเท่าที่จะเป็นไปได้

 

 

โจวหย่วนเฉวียนเดิมอยากจะเถียงเธอไปสักประโยค ใช้โอกาสนี้พิสูจน์ว่าการป่วยของหลินจยาอวี่ไม่ใช่เขาที่รักษาไม่ดี แต่แค่อวี๋กานกานหาช่องโหว่ได้

 

 

แต่อวี๋กานกานกลับปั้นหน้าท่าทางไม่อยากจะพูดคุยกับเขาเต็มที่ ทำให้โจวหย่วนเฉวียนกำหมัดแน่น ทุกทิศทางต่างเป็นผ้าฝ้ายแต่รู้สึกไร้ที่ไร้เรี่ยวแรง

 

 

เขาพ่นลมหายใจออก “อย่าคิดว่าตัวเองเรียนหมอมาหลายปี รักษาคนให้หายหลายคนก็จะไร้คู่ต่อสู้นะ”

 

 

อวี๋กานกานยังคงยิ้มจางๆ “แพทย์แผนจีนรักษาโรคไม่เหมือนกับแพทย์แผนปัจจุบัน ที่มีวิธีการรักษาเป็นมาตรฐานอย่างหนึ่ง ก็เหมือนกับการเป็นหวัด คนที่ไม่เข้าใจวิชาการแพทย์ต่างก็รู้ว่าต้องซื้อยาชนิดไหน แต่แพทย์แผนจีนไม่เหมือนกัน ต่อให้รู้ว่ายาอะไรสามารถรักษาอาการเป็นหวัด แต่พวกเขาก็ไม่มีทางใช้ไปเรื่อย เพราะแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับเบญจธาตุและหยินหยางในร่างกาย ต่างคน ต่างรูปร่างก็ใช้ยาไม่เหมือนกัน ดังนั้นแพทย์แผนจีนจึงไม่มีใบสั่งยาที่กำหนดไว้ อาการป่วยชนิดหนึ่งสามารถใช้ใบสั่งยาได้หลายวิธี ทำไมมาถึงที่นี่หมอโจวหมอเทวดาถึงว่าฉันอวดดีล่ะคะ”

 

 

โจวหย่วนเฉวียนถูกทำให้โมโหจนพูดไม่ออก

 

 

“ผู้ป่วยหลังประสบอุบัติเหตุ สายตาพร่ามัว ทุกคนต่างก็นึกว่าเกิดปัญหาที่ส่วนสมองไปโดยสัญชาตญาณ หรือการประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายบางส่วนได้รับความเสียหายและอื่นๆ อาการผิดปกติของตาส่วนมากมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับตับไตจริง ตับตรงสู่ดวงตา ตับไตลำเลียงเลือดกับของเหลวในร่างกายไปหล่อเลี้ยงดวงตา จึงพูดได้ว่าตับไตเป็นแหล่งกำเนิดของสายตาดี แต่คุณจับชีพจรเธอไปแล้วคุณก็น่าจะรู้ ตับไตของผู้ป่วยก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”

 

 

“จับชีพจรไม่ได้แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นเสมอไป”

 

 

“คุณจับได้ไม่แม่นยำ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นก็ไม่แม่นด้วย”

 

 

คำพูดนี้ทำโจวหย่วนเฉวียนสะอึกไปอย่างแรง

 

 

ในที่นี้คนที่ดีใจที่สุดคงไม่พ้นเจี่ยนเวยเวย เธอถามอย่างดีใจ “พี่สะใภ้คะ คุณคิดว่าฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอคะ ตาของฉันอีกไม่นานก็จะดีขึ้นเหมือนเดิมใช่ไหม”

 

 

อวี๋กานกานถามเธอ “ตอนกลางวันเธอตัวเย็นใช่ไหม แต่ว่าพอถึงกลางคืนร่างกายก็ร้อนแห้ง และมักจะเตะผ้าห่มด้วย”

 

 

เจี่ยนเวยเวยพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

 

 

“ที่เธอเป็นคืออาการร้อนใน ความร้อนภายในอยู่ด้านนอกไม่อยู่ด้านใน แต่เพราะว่าร่างกายของเธอมีคุณสมบัติเย็น ตอนกลางวันร่างกายหนาวเย็น ดังนั้นหมอจับชีพจรไม่ได้ ขอเพียงลดความร้อนก็จะไม่เป็นไรแล้ว…”

 

 

ไม่รอให้อวี๋กานกานได้พูดจบ โจวหย่วนเฉวียนก็พูดขึ้นมา “สภาพชีพจรของผู้ป่วยก็ไม่ได้มีสัญญาณอาการร้อนใน”

 

 

อวี๋กานกานไม่ได้สนใจเขา พูดกับคนในตระกูลเจี่ยนอีกครั้ง “แผ่นความร้อนในห้องนี้อยู่ตรงเตียงพอดี นอนลงก็ไม่พอดีกับตำแหน่งของฝ่าเท้า เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เธอน่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน เธอต้องรู้ว่าปกติพวกเราอยู่ในห้องที่มีเครื่องทำความร้อนนาน ก็จะไม่ค่อยสบายดวงตา”

 

 

อาการร้อนในชนิดนี้ ให้แพทย์แผนปัจจุบันตรวจก็หาปัญหาไม่เจอจริง ให้แพทย์แผนจีนเก่าแก่จับชีพจรแม่นก็อาจมองข้ามไปเพราะสภาพร่างกายของผู้ป่วย

 

 

ถ้าไม่จับชีพจรให้ละเอียด และรวมกับร่างกายของอีกฝ่ายก็คงไม่พบความแปลกที่ชัดเจนขนาดนี้จริง

 

 

อวี๋กานกานหยิบยาหยอดตาที่เจี่ยนเวยเวยวางไว้บนหัวเตียงขึ้นมา

 

 

“และยาที่นำเข้านี่ เป็นยาหยอดตาประเภทเย็นสดชื่น อีกทั้งไม่เหมาะกับอาการป่วยของดวงตา ตอนหยอดไปก็ดีขึ้นครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นอาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสายตาของเธอยิ่งพร่ามัวขึ้นเรื่อยๆ อย่าใช้ยาหยอดตาไปเรื่อย อย่าคิดว่าคนอื่นแนะนำว่าดีเธอก็ใช้ เหมาะกับคนอื่นแต่ใช่ว่าจะเหมาะกับเธอ”

 

 

ปู่เจี่ยนเอ่ยถาม “งั้นต้องรักษายังไง”

 

 

อวี๋กานกานเปิดกล่องยาของตนเอง หยิบยาสมุนไพรอย่างหนึ่งออกมาจากข้างในและบอกกับพวกเขา “ในกล่องยาฉันมียาชนิดนี้พอดี ดื่มผู่กงเอง[1]สองตำลึงต้มกับน้ำหนึ่งลิตรลงไป สบายใจได้ ไม่นานก็จะดีขึ้น”

 

 

 

 

——

 

 

[1] สมุนไพรจีน ช่วยขับร้อน ขับพิษ ขับปัสสาวะ และบำรุงปอด

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset