ตอนที่ 461 แย่งแฟนสาวของฟังจือหัน
โจวหย่วนเฉวียนขมวดคิ้ว ตะคอกออกมา “นี่เธอกำลังไร้สาระอยู่”
ปู่เจี่ยนก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ “ผู่กงเองสองตำลึงก็ได้แล้วจริงๆ เหรอ”
อวี๋กานกานพูดพร้อมรอยยิ้ม “ได้ผลหรือไม่ได้ผล ลองดูก็รู้แล้วค่ะ”
โจวหย่วนเฉวียนยิ้มเยาะ “คุณหนูเจี่ยนไม่ใช่เครื่องทดลอง เธอต้องรู้ว่าสภาพร่างกายของคุณหนูเจี่ยนขาดความเย็น ผู่กงเองมีคุณสมบัติเย็นเล็กน้อยอีก ระหว่างที่ป่วยดื่มน้ำผู่กงเอง จะต้องเพิ่มโรคที่เกิดจากความเย็นให้กับร่างกายหนักขึ้นแน่ จะลองกินไปเรื่อยได้ที่ไหนกัน”
ผู้ช่วยของโจวหย่วนเฉวียนก็มองไปที่ปู่เจี่ยนและกล่าว “คุณหนูเจี่ยนไม่ใช่คนทั่วไป กินยารักษาโรคนี้ไม่ใช่ทำไปเรื่อย และจะต้องเชื่อฟังหมอชื่อดังกับภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญถึงจะเหมาะสม!”
อวี๋กานกานโมโหขึ้นมานิดหน่อยแล้ว มองไปที่โจวหย่วนเฉวียนและพูดอย่างเย็นชา “คุณต้องรู้จักคำพูดที่ว่า หมอเถื่อนทำคนเข้าใจผิด เป็นภัยต่อตนเอง ถ้าจับชีพจรอาการป่วยไม่ชัดก็เชิญคุณเงียบไป แต่อย่าเขียนใบสั่งยาเรื่อยเปื่อย!”
“คำพูดนี้ควรเป็นฉันพูดกับเธอ!” โจวหย่วนเฉวียนหน้าบึ้งตึง “ถ้าเป็นตามที่เธอพูดทั้งหมดจริง นับแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะเปลี่ยนเรียกเธอว่าอาจารย์”
อวี๋กานกานส่งยิ้มจางๆ “ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่อยากรับลูกศิษย์คนหนึ่งที่แก่ขนาดนี้เท่าไหร่”
ตอนนี้เจียงฉี่ขำพรืด ทุกอย่างคือรังเกียจกับดูถูก “ถ้าผู่กงเองสองตำลึงสามารถรักษาโรคตาของเวยเวยให้หายได้ คุณจะถ่ายทอดกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่ทั้งเล่มใช่ไหม”
โจวหย่วนเฉวียนโกรธจนแทบจะกระอักเลือด โดนยั่วยุก็ตอบทันที “ได้!”
เจียงฉี่เชื่ออวี๋กานกานร้อยเปอร์เซ็น “ตกลง อีกเดี๋ยวเราก็จะได้เห็นคุณกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่”
อวี๋กานกาน “…”
คนตระกูลเจี่ยน “…”
ปู่เจี่ยนให้คนหยิบผู่กงเองสองตำลึงไปต้มในน้ำ ไม่นานก็ต้มเสร็จและให้เจี่ยนเวยเวยดื่มลงไป
อวี๋กานกานรอให้น้ำแกงเย็นลงบ้าง จึงส่งให้ตรงหน้าเจี่ยนเวยเวยพลางเอ่ย “ดื่มตอนร้อนเถอะค่ะ ดื่มไปผลชัดเจนมาก นอนพักสักตื่นหนึ่งมาก็จะดีขึ้นมาก”
เจี่ยนเวยเวยพยักหน้าด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
แต่โจวหย่วนเฉวียนที่อยู่อีกด้านกลับกักไว้ไม่อยู่พ่นลมหายใจออกมา เขาค่อนข้างเชื่อมั่นในวิชาการแพทย์ของตนเอง จับชีพจรของเจี่ยนเวยเวยดูแล้ว ชัดเจนว่าเป็นเพราะร่างกายเย็น หากเพิ่มความร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์
เจี่ยนเวยเวยดื่มยา และเชื่อฟังอวี๋กานกานเอนตัวลงนอน
ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็นั่งอยู่ในห้องรับแขก รอให้เจี่ยนเวยเวยตื่นขึ้นมาแล้ว ดวงตาดีขึ้น หลังจากนั้นก็ลองดูว่าจะกินตำรายาเปิ๋นเฉ่ากังมู่ทันทีหรือไม่
ปู่เจี่ยนกับอวี๋กานกานพูดคุยกันครู่หนึ่ง ยิ่งมองก็ยิ่งชอบสาวน้อยตรงหน้า
เขาปรายตามองเจี่ยนเหยี่ยรูปร่างสูงโปร่งสง่างามซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง “แกดูซิ แกกับเสี่ยวหันปีเดียวกันนี่ เสี่ยวหันเขาก็หาแฟนได้แล้ว แกดูซิแกยังเป็นพวกคนโสดอยู่เลย”
เจี่ยงฉี่ยิ้มพร้อมกับเอ่ย “ปู่เจี่ยนคะ พี่เจี่ยนยังอายุน้อยอยู่”
ปู่เจี่ยนเย้ยหยัน “เด็กเหรอ เขาเด็กที่ไหน อายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดแล้ว อีกสองสามปีก็จะสามสิบแล้ว แฟนสักคนยังไม่มี เพื่อนร่วมชั้น เพื่อนสนิทเขาต่างก็มีลูก เป็นพ่อไปหมดแล้ว”
อวี๋กานกานฟังไปฟังมาพลันนึกขึ้นได้ว่าเพราะอะไรถึงได้รู้สึกว่าเจี่ยนเหยี่ยชื่อนี้ช่างคุ้นหู
นี่มันรักแรกพบของซ่งฉาไป๋นี่ นี่มันหนึ่งในจตุรเทพแห่งเมืองหลวงไหมนะ
“แกกับเสี่ยวหานทั้งสองคนต่างก็ชอบแข่งกันตั้งแต่เด็ก เรื่องหาแฟนนี่แกก็แข่งด้วยเหรอ ไม่ต้องเก่งเกินหรอก ประมาณเสี่ยวอวี๋แบบนี้ก็ได้แล้ว แน่นอนว่าถ้าแกจะมาหาเสี่ยวอวี๋ก็ได้ อีกอย่างเธอก็เป็นแค่แฟนสาวของเสี่ยวหัน ไม่ใช่ภรรยาซะหน่อย แกก็ยังไม่มีคนรักนี่ ยังไงแกก็ชอบแข่งกับเสี่ยวหัน ไม่งั้นก็แย่งแฟนมาโดยตรง แย่งแฟนสาวมาให้ได้เลย”
อวี๋กานกานซึ่งกำลังดื่มน้ำอยู่ลำลักน้ำออกมาอย่างไม่คาดคิด “พรืด!!”
ตอนที่ 462 อย่ามีแฟนหนุ่มที่ฉลาดเกินไป
เจี่ยนเหยี่ยมีสีหน้าจนปัญญา
ประมาณว่าทำตัวไม่ค่อยถูก เขาจึงลุกขึ้นขอตัวไปในทันที
ปู่เจี่ยนยังไม่ค่อยพอใจ “ทุกครั้งก็เป็นแบบนี้ พอพูดถึงแก แกก็ไป”
เจียงฉี่ซึ่งเป็นน้องที่รักพี่ชาย ปั้นหน้าเคร่งขรึม มองไปที่ปู่เจี่ยนด้วยแววตาลมฝนแห่งความคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยม พลางกล่าวโทษอย่างไม่พอใจ “ปู่เจี่ยนคะ คุณนี่ไม่อายเท่าไหร่เลยนะคะ คุณเดินหมากแพ้ปู่ของฉัน ทำไมถึงเอาความโกรธไปลงที่ตัวพี่ชายล่ะคะ”
ปู่เจี่ยนจ้องหน้าเธอ “ฉันไปแพ้ปู่เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าปู่เธอใช้ลูกไม้ หรือเธอไม่รู้ว่าตอนที่สมัยปู่เธอยังหนุ่มมีฉายาว่าราชาไร้ยางอายน่ะ”
เจียงฉี่เบ้ปากแล้วเอ่ยพึมพำ “ปู่ฉันไม่ใช่ราชาไร้ยางอายเสียหน่อย”
ปู่เจี่ยนไม่ได้สนใจเจียงฉี่ พูดกับอวี๋กานกานขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันจะบอกเธอให้นะ ผู้ชายเนี่ยไม่ฉลาดไม่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรฉลาดเกินไป ฟังจือหันเด็กคนนี้ฉลาดเกินไปสักหน่อย ต่อไปเธอต้องถูกเขาขายแล้ว ไม่รู้ก็ถือว่าช่างมัน คาดว่าอาจจะช่วยเขานับเงินด้วยหน้ามึนงงด้วย”
เจียงฉี่พูดอย่างอ่อนแรง “ปู่เจี่ยนคะ คุณกำลังบอกว่าพี่เจี่ยนฉลาดไม่เท่าพี่ชายฉันเหรอคะ”
ปู่เจี่ยนถลึงตาใส่เจียงฉี่แวบหนึ่ง “ยายเด็กขี้เหร่นี่ เธอเข้าใจไหม จุดสำคัญไม่อยู่ที่ฉลาด จุดสำคัญอยู่ที่พี่ชายเธอไม่ใช่ผู้ชายที่ดี”
“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง” เจียงฉี่พลันยิ้มออกมาและย้อนถาม “ปู่เจี่ยนคะ คุณอย่าพูดให้แย่งแฟนอีกจริงๆ นะคะ คุณพูดแบบนี้ต่อไปพี่เจี่ยนกับพี่ชายเจอหน้ากันก็จะทำตัวไม่ถูกนะ”
“พวกเขาสองคนเจอหน้ากันเมื่อไหร่ไม่เก้อเขินบ้างล่ะ”
“เหมือนว่าจะใช่นะ?”
“ก็น่าจะอย่างนั่นแหละ”
อวี๋กานกานเอาแต่ยิ้มบางๆ ไม่พูดจา
เจ้าหน้าที่ทหารที่ซ่งฉาไป๋ตกหลุมรัก หล่อมาก เท่มาก แต่เป็น G ไม่งั้นก็ค่อนข้างเหมาะสมกับเสี่ยวไป๋ทีเดียว
ปู่เจี่ยนกับปู่เจียงทั้งสองท่านเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจที่มีอำนาจมาก แต่ก็เป็นแค่คุณปู่ธรรมดาสองคน
โจวหย่วนเฉวียนมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชา อวี๋กานกานคนนี้ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง แต่ก่อนอยู่เมืองไป๋หยาง มีคุณผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองไป๋หยางช่วยเหลือ
ตอนนี้อยู่ที่เมืองหลวง ไม่เพียงเจอกับทายาทตระกูลเจียงและคบเป็นแฟน ในตอนนี้ก็มาที่ตระกูลเจี่ยนอีก ช่างจัดการตัวเองเสียจริง
แต่ทุกอย่างที่ว่าเกี่ยวกับเธอแพทย์แผนจีนธรรมดาคนหนึ่งนี้
เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนเด็ดขาด
เธอสั่งยาผู่กงเองสองตำลึงนั่น ก็ไม่เหมาะกับเจี่ยนเวยเวยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ตอนที่ยิ่งรักษายิ่งแย่ เขาจะลองดูว่าคนตระกูลเจี่ยนนี้ยังจะปฏิบัติต่อเธอสุภาพเช่นนี้หรือไม่
ครั้งก่อนที่หลินจยาอวี่ป่วย เดิมทีก็ไม่ใช่โรคแปลกหรือป่วยหนัก แต่เป็นเพราะคนตระกูลหลินจงใจตบตา ทุกคนจึงเข้าใจผิด ทำให้อวี๋กานกานหาจุดนั้นเจอ
และอวี๋กานกานจึงรู้ว่าเป็นเพราะซูจือจิ่ง คุณผู้หญิงตระกูลอวี๋บอกเธอล่วงหน้า หลินจยาอวี่ป่วยเป็นเรื่องจริง ไม่งั้นความสามารถระดับอวี๋กานกานจะรู้ว่าหลินจยาอวี่ป่วยเป็นอะไรได้อย่างไรกัน
เวลาผ่านไปจากวินาทีเป็นนาที
เจี่ยนเวยเวยก็ยังไม่ตื่นเลย โจวหย่วนเฉวียนกับผู้ช่วยของเขาต่างก็พูดคุยกับปู่เจี่ยนว่าคนสองประเภทที่ไม่อาจให้ดื่มผู่กงเอง หนึ่งคือคนที่มีอาการแพ้
สองคือคนที่ร่างกายพร่องเย็น หากใช้ผู่กงเองอีกอาจส่งผลเสียรุนแรงต่อร่างกายได้
ผู่กงเองยังอาจกลายเป็นยาพิษถึงชีวิต พูดเสียจนปู่เจี่ยนเริ่มไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่แล้ว
ที่จริงเจี่ยนเวยเวยนอนไม่หลับมาตลอด
ในใจหวั่นเกรง หลายวันนี้เธอเป็นเช่นนี้ตลอด
เธออายุยังไม่ถึงยี่สิบ ถ้านับแต่นี้มองไม่เห็นโลกอันพลุกพล่านใบนี้ ไม่รู้ดอกไม้ทำไมปลูกเป็นสีอะไร ไม่รู้ผืนหญ้าเป็นสีเขียวใช่ไหม ไม่สู้ตายไปเสียดีกว่า
แม้บอกว่าหลังจากที่ดื่มแล้ว ไม่นานดวงตาก็จะดีขึ้น เธอเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ยาไม่ใช่ยาวิเศษนี่ ต่อให้รักษาได้ผลก็ต้องใช้เวลา